“พี่สุ จะพา อิฐไปไหน”
“ไปบ้าน เจ้านายเก่าของพี่ แกก็จะพักอยู่ที่นั่นกับพี่ก่อน แล้ว วันหลังพี่จะตัดสิน หางานให้แกทำ อยากจะทำมากไม่ใช่หรืองาน”
“ค่ะ อยากทำ”
อิฐศอรตอบ
“พี่บอกก่อนนะ ว่างานที่แก ทำ มันเป็นงานคนใช้ก็ไม่ผิดนักหรอก”
“ค่ะ อิฐ พอรู้แล้ว งานนั้นคงเกี่ยวกับซักผ้าถูบ้าน ยกข้าวของให้เจ้านาย ตามเจ้าของบ้านไปจ่ายตลาด ใช่ไหมค่ะ”
“เอ้อ นับว่า แกพอจะรู้นี่นารู้มาจากไหนล่ะ”
“ในละครสิคะ ทีวีมีเปิด อิฐก็ดูเอาจากคนใช้ในละคร”
“เออ นับว่าเหมือนกันนั่นแหละ แต่มีแถมอีกอย่างหนึ่งด้วย ที่แกไม่รู้ เด็กๆสาวๆ มีงานดูแลผู้สูงอายุ คือคนป่วยคนแก่ตามบ้าน กับเลี้ยงเด็ก งานแบบนี้มันเป็นงานในศูนย์ไม่ดีหรอก เขาเอาทั้งเงินค่าประกันของแก เอาค่าแรงของแกไปเปล่าๆ เขาช่วยหางานทำให้ก็จริง แต่ก็เหมือนกับโกง มันไม่ยุติธรรม พวกคนใช้ถูกหลอกมาหลายคนแล้ว ระหว่างสองงานนี้ พี่จะให้แกเลือก แกจะเลือกอย่างไหนดียายอิฐ”
พูดยาวเหยียดแล้วหันมาถามน้องสาว
“อิฐ ขอเป็นงานเลี้ยงเด็กดีกว่าค่ะ อยู่กับคนแก่ อิฐไม่ค่อยทน พี่สุ ก็รู้ว่า อิฐดื้อ ตามใจใครไม่ค่อยได้ ขืน
ให้ไปอยู่กับคนแก่มีหวังทะเลาะกัน เพราะเขาว่า คนเหล่านี้ชอบบ่นจู้จี้เอาแต่ใจตัวเองไม่ใช่หรือคะ”
สุภาฟังอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตอบ
“ไอ้ ใช่ น่ะใช่หรอก มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย และข้อเสียเกือบจะทั้งสองเรื่อง ก็คือแกจะต้องรบกับเด็ก ถ้าเด็กมันดื้อ เอาไม่อยู่ เช็ดอึ เช็ดเยี่ยว ที่สำคัญนะยายอิฐ เป็นคนใช้เขา ไม่มีวันหยุดแล้วแต่เขาจะเรียกใช้ทั้งวันทั้งคืน เพราะเราอยู่ในบ้านเขา”
“โห แบบนี้ ก็โหดไปหน่อยสิคะ”
อิฐศอรว่าเถียงเบาๆ
“ ก็ใช่สิยะ ใครอยากให้แก มาอยากได้เงินเขา เมื่อมาเอาเงินเขาแล้ว เขาต้องเรียกใช้แกให้คุ้มสิ ยาย อิฐ พี่บอกแล้ว ให้แกนอนสบายตีพุงเล่นอยู่ที่บ้าน แบบมือขอเงินพ่อแม่ยังจะดีกว่า นี่พี่บอกตรงๆว่า มันทรมาน
ลำบาก แกจะได้เที่ยว เมื่อเขาพาไปเที่ยว”
“ก็ดีนี่คะ อย่างน้อยก็ได้ออกไปเที่ยว”
“ นี่ หมายความว่า”
“ก็อิฐ หมายความไว้ตั้งแต่อย่างแรกแล้ว ที่อิฐมีที่กรุงเทพเพราะอิฐอยากจะมาทำงาน อิฐ ๆไม่คำนึงถึงความสบายแล้ว อิฐได้มาพอแล้ว อิฐอย่างลองลำบากดูบ้าง”
“โธ่ น้องพี่ ที่หล่อนทำอย่างนี้ หมายความว่า ดิ้นไปหาความลำบากเองนะพี่ไม่ได้บอกแกอย่างนั้นนะ แกต้องทน”
“ค่ะ อิฐ รู้แล้ว อิฐเป็นคนไปหาความลำบาสกเอง ฉะนั้นทุกๆอย่างอิฐจะต้องทนได้ เพราะอิฐไม่คิด
อยากจะแบมือขอเงินพ่อกับแม่สักระยะหนึ่งพอกลับไปอยู่บ้าน มีประสบการณ์จะเล่าให้เพื่อนฟังเท่านั้นเองค่ะ ว่าที่กรุงเทพ มันเป็นยังไง มันมีอะไรบ้าง”
“แค่นั้นเองหรือ”
“ค่ะ”
“งั้นเตรียมตัวลงได้แล้ว โชเฟอร์จอดให้ตรงข้างซุ้มเล็บมือนางข้างหน้านั่น”
คุยกันมานาน ในที่สุดก็ถึงแบบโดยไม่รู้ตัว
จนอิฐศอรก็นึกงงเหมือนกัน ตามคำที่พี่สาวพูด
แล้วเธอก็ทำตามที่พี่สาวบอก คือ เตรียมจะลง
โชเฟอร์จอดรถสนิท ทั้งสองสาวจึงลงจากรถ สุภาจ่ายค่ารถให้ จากนั้นรถคันนี้ก็ปร๋อไป
ภายในหมู่บ้านจัดสรรหรูหรา แต่ละหลังใหญ่โตจนเรียกได้ว่าเป็นคฤหาสน์
นี่หรือบ้าน ที่พี่สาวจะพามาอยู่ น่าจะเรียกได้ว่า แถวนี้เป็นดงเศรษฐีได้เลย
สุภาหิ้วกระเป๋าใบเดียว อิฐสะพายกระเป๋าของตัวเอง แล้วเห็นสุภาเดินไปกดออดที่หน้าบ้าน สักครู่ก็มีสาวใช้คนหนึ่งวิ่งหน้าเริดเข้ามาหา
“พวง”
สุภาร้องทักขึ้น พร้อมยกมือโบก
พวงเองพอจะรู้ดี
“อ้าว พี่สุ มาแล้วหรือคะ คุณนายบอกว่าจะมาวันนี้ บอกพวงให้คอยเปิดประตูเหมือนกัน”
“คุณ นาย หยิน ท่านไปไหนล่ะ วันนี้”
สุภาเอ่ยถามถึงเจ้านายสาวที่เคยพักอยู่ด้วย
“ ไปส่ง คุณ ร้อบ เข้าโรงเรียนนานาชาติ แถว รามอินทรา โน่นนะคะ คงจะแวะไปที่ทำงานเลย ที่บ้าน
เหลือแต่คุณย่าสายพิณอยู่”
พวงเอ่ยตอบสาวใช้รุ่นน้าที่เคยทำงานอยู่กันมาก่อน อย่างคุ้นเคยและสนิทสนมนางสาวพวงจึงถามอีกว่า
“นั่นใคร ค่ะ พี่สุ ที่พามาด้วย”
“อ๋อ น้องสาวพี่เองจ๊ะ จะมาทำงานด้วยกัน”
สุภาตอบ
“ทำงาน ทำงานอะไรคะ”
“อ๋อ มาเป็นคนใช้เหมือนกันกับพี่สุค่ะ”
อิฐศอรตอบเอง ไม่อยากให้ฝ่ายนั้นสงสัยมาก
“มาเป็นคนใช้หรือคะ หนักมากนะคะ”
พวงเอ่ยด้วยความรู้สึกเป็นห่วง ไม่รู้ว่าจะไหวหรือไม่ไหว ยิ่งหน้าตาบอบบางแล้วก็สวยด้วย
“หนักก็ไม่เป็นไรคะ ทนได้ก็แล้วกัน”
ตอบอย่างแน่วแน่ มุ่งมั่น
จนพวงชักจะนับถือน้ำใจ
“งั้น ขอแสดงความยินดี กับการเข้ามาเป็นคนใช้ในกรุงเทพนะคะ”
“จ้ะพี่”
อิฐศอรยิ้มให้จนพวงอาสาถือกระเป๋าของหล่อนเข้าไปข้างในแทน
อิฐจึงเดินสำรวจบ้านนี้ด้วยสายตาอย่างสบาย
ใจ
“คุณย่า ยังพักผ่อนอยู่ในห้องค่ะอย่าเพิ่งไปรบกวนเลย ท่านหลับก็ดีแล้วค่ะ ทุกทีน่ะหลับยากไปห้องของเราเถอะค่ะ”
พวงพาไปที่เรือนคนใช้ ซึ่งมีต้นมะม่วงอยู่ตรงหน้า เป็นบ้านชั้นเดียว ต่อเติมเป็นที่พักสำหรับคนใช้ ซึ่งดูดี
มีด้วยกันสามห้อง
นี่หล่อนจะต้องเป็นคนใช้แล้วหรือ หล่อนนั่งถามตัวเองบนพนักเก้าอี้หวานสาน นึกขำจริงๆกับวันแรกของตนเอง
กับการเป็นคนใช้ ก็ลองเป็นดูดีกว่าไม่ใช่เป็นการทำงานวันแรก แต่เป็นการปรนนิบัติเจ้านายในวันแรก บ้านของพี่สาว ส่วนบ้านที่ว่าจะให้หล่อนไป
อยู่ทำงานเป็นคนใช้ตั้งสองเดือนกว่า อยู่อีกแห่ง เห็นบอกว่าเป็นคอนโด
ไม่รู้ล่ะ ไปที่ไหนก็ได้ ช่างมันเหอะ ขอให้แต่มีที่ซุกหัวนอน มีอาหารการกินครบสามมื้อก็แล้วกัน
สาวใช้อย่างหล่อนยินยอมทำงานแบบถวายชีวิตเลย แต่ไม่ยินยอมควักเงินออกเอง
เรื่องอะไรจะต้องโง่ปานนั้นล่ะ สำหรับอิฐศอร หล่อนมาทำงานบ้านเขา ต้องกินอยู่กับเขา
ไม่งั้นจะมาเรียกหล่อนว่าคนใช้น่ะหรือ งานคนใช้มันก็หนักอยู่แล้ว ชื่อมันก็บอก
มีแต่คนอยากจะใช้ๆๆๆๆๆๆๆ เขาถึงได้เรียกตำแหน่งนี้ว่าสาวใช้ไง แต่หล่อนอยากจะเพิ่มคำว่า ยันเตเข้าไปอีก จะได้เข้าคำที่เรียกว่า ใช้กันจนยันเต ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ
คงเป็นงานแบบนี้แน่ ที่หล่อนต้องทำ ก็ต้องทำใจล่ะในเมื่อตัดสินใจมากรุงเทพแล้วนี่นา
ถ้าถอยทัพกลับไปก็คงต้องอายเพื่อนฝูงกันหลายคน เพราะก่อนจะมาก็บอกกับบางคนที่เป็นเพื่อนสนิทไว้แล้วว่า จะมาเสี่ยงดวงที่กรุงเทพ
ห้ามปากโป้งบอกพ่อแม่ อย่างเด็ดขาด ไม่งั้นจะเลิกคบเป็นเพื่อน
ทีนี้อิฐศอรได้รู้จักเขา พบหน้า เขาเป็นนายจ้างหล่อน คนนี้น่ะหรือ ดุชะมัด หน้าตาเข้ม แต่หล่อคมคายดีเหลือหลาย
ความเจริญของเมืองใหญ่ทั้งบีบและข่มให้ร่างของหล่อนเหลือเพียงนิดเดียวเอง เมื่ออิฐศอรเงยหน้าขึ้นมองดู
ตึกสูงระฟ้า กลิ่นไอของความศิวิไลซ์ไม่ได้ทำให้หล่อนฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมตามไปด้วยสักนิด