“ท่านพี่อยู่ที่ใดตอนนี้” หลี่หลินฮวานั่งหน้ากระจกหลังจากแต่งเติมใบหน้าของตนให้งดงามจนแม้แต่สตรีด้วยกันยังอิจฉา เครื่องหน้าของนางราวกับสวรรค์ปั้นแต่งคิ้วงามดั่งคันศรนัยน์ตาสุกสกาวยิ่งกว่าจันทร์ฉายกำลังมองตนเองผ่านกระจกอย่างพึงพอใจ ริมฝีปากจิ้มลิ้มคลี่ยิ้มอย่างอารมณ์ดี
สตรีเรือนกายได้สัดส่วนเย้ายวนลุกขึ้นยืนหมุนตัวช้า ๆ เพื่อสำรวจความเรียบร้อย วันนี้นางสวมอาภรณ์สีแดงเพื่อขับให้ผิวกายของตนขาวผ่องโดดเด่นหวังยั่วยวนสามีที่ไม่ยอมมาเข้าหอกับนางเสียที
ห้องนอนกว้างตกแต่งอย่างประณีตสมฐานะฮูหยินเอกจวนแม่ทัพ หลี่หลินฮวาเป็นเพียงสตรีชาวบ้านในเมือง นางได้แต่งเข้าจวนก็เพราะท่านแม่ทัพกลับจากทำสงครามแล้วฉลองจนเมามายพลาดท่าให้หลี่หลินฮวาที่ตั้งใจล่อลวงเขา
งานแต่งถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ตามคำร้องขอของหลี่หลินฮวาแม้คนในตระกูลหลายคนจะคัดค้าน โชคดีที่ท่านแม่ทัพไม่ได้อยู่เรือนของตระกูลหลี่ ปัญหาการอยู่ร่วมกันจึงเบาลงมาก นายหญิงตระกูลหลี่ก็ประกาศชัดเจนว่าไม่ยินดีรับหลานสะใภ้เช่นหลี่หลินฮวา
“เรียนฮูหยินตอนนี้ท่านแม่ทัพกำลังทานอาหารอยู่ที่เรือนรับรองแขกกับคุณหนูฟู่หรงอันเจ้าค่ะ” ชิงหลันผู้ที่เป็นสาวใช้กล่าวรายงานเจ้านายของตนอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
ชิงหลันเป็นสาวใช้ที่ได้อยู่ใกล้ชิดฮูหยินท่านแม่ทัพมากที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่โดนโมโห หลี่หลินฮวารักใคร่ท่านแม่ทัพเพียงใดทุกคนย่อมรู้ดี หากทราบว่าคนที่ท่านแม่ทัพนั่งร่วมโต๊ะด้วยคืออดีตคนที่ตระกูลหมายหมั้นจะเอามาเป็นฮูหยิน หลี่หลินฮวาย่อมต้องโกรธ
สาวใช้คุกเข่าตัวสั่นเทาเมื่อดวงตาเรียวงามตวัดมองมาทางตนเอง
“เจ้าว่าอย่างไรนะ! ข้าให้ไปแจ้งท่านพี่แล้วไม่ใช่หรือว่าวันนี้ข้าจะเตรียมอาหารมื้อเย็นให้” หลี่หลินฮวาก้าวเข้าหาสาวใช้ทีละก้าว เสียงหวานติดเหวี่ยงเล็กน้อยด้วยพยายามบังคับตัวเองไม่ให้ตะคอกใส่อีกฝ่าย
“แจ้งแล้วเจ้าค่ะ แต่ว่า…” สาวใช้ก้มหน้างุดไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเจ้านายสาว มือสองข้างกุมกันแน่นเพราะคาดเดาอารมณ์ของนายตนไม่ออก
ตั้งแต่ถูกส่งมารับใช้ฮูหยินเอกนางได้ทำงานสบายขึ้นก็จริงแต่ก็รู้สึกกังวลและหวาดกลัวหลี่หลินฮวาอยู่ไม่น้อย ฮูหยินเอกเป็นเพียงสตรียากไร้แต่วาสนาสูงได้เป็นถึงฮูหยินเอก กิริยามารยาทจึงดุและไม่เรียบร้อยเช่นคุณหนูทั่วไป
หลี่หลินฮวาไม่รอสาวใช้อธิบายสิ่งใดต่อรีบมาหาสามีที่กล้าเมินเฉยต่อความตั้งใจของนาง ชิงหลันรีบวิ่งตามเจ้านายสาวพร้อมกับสั่งให้คนรับยกอาหารตามโดยไว
“หลบไปข้าจะเข้าไปหาท่านพี่!” นางสั่งบ่าวหน้าเรือนรับรองแขกเสียงแข็งกร้าวก่อนจะผลักประตูออกไปด้วยอารมณ์ที่พร้อมจะแหวกอกสามีได้
ปัง!
ประตูถูกเปิดออกสุดแรงตามอารมณ์ของหลี่หลินฮวา นางอุตส่าห์ตั้งใจเตรียมอาหารให้อยู่นานสองนานแต่ ต้องมาเห็นสามีนั่งร่วมโต๊ะกับผู้อื่น สีหน้าระรื่นน่าบิดให้หูขาดนัก
หลี่ต้าหมิงนั่งคีบอาหารเข้าปากข้างกายมีสตรีร่างเล็กชุดสีชมพูคีบอาหารใส่ถ้วยให้ ที่ตรงนั้นมันที่ของนางไม่ใช่หรืออย่างไร!
ทีกับนางลีลากว่าจะยอมกลืนอาหารที่คีบให้ลงท้องแต่กับผู้อื่นไยไวนัก หลี่ต้าหมิงไม่อยากอยู่สงบแล้วกระมังถึงได้กล้าท้าทายนางเช่นนี้
ฟู่หรงอันเป็นบุตรเสนาบดีเป็นคนที่หลี่ต้าหมิงเคยคิดจะแต่งงานด้วย คนในตระกูลหลี่เองก็ยินดีและเห็นพ้องต้องกัน
“เจ้าเสียงดังโวยวายเข้ามามีเรื่องใดหลี่หลินฮวา”
ประมุขของจวนวางตะเกียบลงเมื่อเห็นฮูหยินของตนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่ดี เรือนกายใหญ่นั่งยืดตัวตรงมือทั้งสองวางอยู่บนขาทั้งสองข้าง
“ท่านพี่เหตุใดไม่รออาหารของข้าเจ้าคะ” นางถามขณะส่งสายตาจิกฟู่หรงอันที่นั่งก้มหน้าไม่สบตาฮูหยินเอกของจวนแม่ทัพ
สายตาสตรีหลี่หลินฮวาน่าหวาดกลัวไม่ต่างจากท่านแม่ทัพยามออกศึก คำกล่าวของทหารที่ติดตามหลี่ต้าหมิงกล่าวนั้นไม่เกินจริง
“ตระกูลฟู่นำอาหารมาให้เจ้าค่ะ ขออภัยที่ไม่ได้รอฮูหยิน มาถึงก่อน” ฟู่หรงอันกล่าวด้วยรอยยิ้ม แม้จะกลัวแต่นางก็ยังอยากเป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพ แม้เป็นรองก็ยังดี
“เช่นนั้นก็กินของข้านะเจ้าคะท่านพี่ ชิงหลันยกเข้ามา”
นางส่งสายตาออดอ้อนให้สามีก่อนจะหันไปสั่งสาวใช้ของตน
ชิงหลันรีบทำตามอย่างว่าง่าย อาหารทุกอย่างถูกนำเข้ามาภายในห้องทว่ากลับต้องยืนนิ่งเพราะไม่รู้จะวางอาหารที่ไหนให้พอใจเจ้านายของตนดี บนโต๊ะมีอาหารของตระกูลฟู่วางอยู่เช่นกัน
หลี่หลินฮวาคล้ายจะเข้าใจความคิดชิงหลันจึงหยิบอาหารทุกอย่างออกไปวางขอบโต๊ะ
“ทำสิ่งใดเจ้าคะ” ฟู่หรงอันหลุดถามด้วยเสียงไม่พอใจ คิ้วเรียวงามขมวดเมื่ออาหารของตนเองนั้นถูกดันออกจากด้านหน้า หลี่ต้าหมิงและถูกแทนที่ด้วยอาหารของหลี่หลินฮวา
“โต๊ะเต็มคงต้องยกของเจ้าออกบางส่วน ท่านพี่ชิมของเจ้าแล้วนี่” นางกล่าวขณะเดินมาหาสามีด้วยสีหน้าไม่สะทกสะท้านต่อสายตาไม่พอใจของอีกฝ่าย
มันหน้าที่อะไรของตระกูลฟู่ถึงต้องส่งอาหารมาประเคนสามีนาง…
“อย่าเสียมารยาทหลี่หลินฮวา” หลี่ต้าหมิงปรามฮูหยินเมื่อเห็นว่าบนโต๊ะยังเหลือที่ว่างอยู่มาก เขาดึงหลี่หลินฮวาให้นั่งลงข้างกายก่อนที่นางจะกระทำการเทอาหารตระกูลฟู่ทิ้ง
ตระกูลฟู่มีอำนาจอยู่ไม่น้อยหากมีปัญหากันเพราะเรื่องเล็กน้อยนี้ย่อมไม่ดี
“ท่านพี่ชิมปลาสามรสของข้าสิเจ้าคะ” นางคีบเนื้อปลามาป้อนสามีถึงปากพร้อมกับใช้มือรองไม่ให้เปื้อน ทว่าหางตากลับเย้ยหยันสตรีอีกฝั่งที่สีหน้าเศร้าลง
เหอะ มาทำหน้าเศร้าเฝ้าสามีผู้อื่น มารยานักแม่ดอกบัวขาว!
“ข้าต้องขออภัยที่มารบกวนเจ้าค่ะ” คนที่กลายเป็นส่วนเกินกล่าวขึ้นพร้อมกับช้อนตาขึ้นมองแม่ทัพหนุ่ม
“อย่าได้คิดเช่นนั้น ไมตรีที่ตระกูลฟู่มอบให้ข้าไม่มีทางลืม เจ้านั่งกินด้วยกันก่อนเถิด” หลังจากยอมกินอาหารจากฮูหยินเขาจึงได้มีโอกาสตอบพร้อมกับเชิญอีกฝ่ายให้กินอาหารต่ออย่างลำบากใจ
เขาภาวนาให้หลี่หลินฮวาไม่ก่อเรื่องอยู่ทุกขณะหายใจ
“ท่านพี่ข้าอยากให้ท่านป้อนคืนบ้าง” ยังไม่ทันให้ฟู่หรงอันตอบกลับนางก็เรียกให้สามีหันมาสนใจตนเองแทน หลี่หลินฮวาชี้ไปยังจานผัดผักพร้อมกับกะพริบตาอ้อน
เมื่อสามียังนิ่งนางจึงลุกจากเก้าอี้ย้ายไปนั่งบนตักแทน
“นั่งให้ดีหลี่หลินฮวาอย่าได้ก่อความวุ่นวายนัก”
แม่ทัพหนุ่มตกใจเพราะไม่คิดว่านางจะกล้าถึงเพียงนี้ สตรีหน้าหนากล้าทำเรื่องเช่นนี้ต่อหน้าผู้อื่นเชียวหรือ
“ข้าไม่ลุกหากท่านพี่ไม่ยอมป้อนให้เสร็จ คุณหนูฟู่ไม่ว่าอะไรหรอกจริงหรือไม่เจ้าคะ” นางขู่และหันไปส่งยิ้มให้ฟู่หรงอัน
เจ้าของร่างใหญ่ถอนหายใจแต่มือก็คีบอาหารป้อนสตรีมากความข้างกาย เมื่อสามียอมตามใจนางก็อ้าปากรับอาหารนั้นด้วยสีหน้าอิ่มเอม ชิงหลันและบรรดาสาวใช้ทั้งหลายจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
“นั่งนิ่ง ๆ แล้วรีบ ๆ กินให้อิ่ม” คนดุสั่งและคีบอาหารป้อนฮูหยินไม่ขาดด้วยเกรงว่านางจะกล่าวสิ่งใดให้ระคายหูอีก
ฟู่หรงอันหน้าซีดเผือดรู้สึกอิจฉาจนล้นอกแต่ก็ทำได้เพียงตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ใบหน้างามก้มหน้าดวงตามีน้ำตาคลอจวนจะไหล หลี่ต้าหมิงเห็นแล้วรู้สึกอึดอัดเพราะตนไม่อาจช่วยสิ่งใดสตรีตรงหน้าได้
ฟู่หรงอันคงไม่ชอบใจนักที่เขาแต่งสตรีอื่นเข้ามาในจวนทั้งที่เคยไปทาบทามนางเอาไว้แล้ว แม้ไม่ได้เกิดจากความรักแต่ก็เป็นเรื่องที่ทำให้นางนั้นอับอาย ยิ่งสตรีผู้นั้นเป็นสตรียากไร้เช่น หลี่หลินฮวาก็ยิ่งเจ็บใจ