ตอนที่10.สภาพอย่างผมนี่นะ

1168 Words
“แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ” “ก็เหลือแค่กลับมาฝึกเดิน ขาไร้แรงเดินมาเกือบครึ่งปี” “แต่เตยก็เห็นคุณเดินได้ตั้งหลายก้าวแหนะ” เธอช่วยตักอาหารใส่จานให้เขา “เห็น? เห็นที่ไหนกัน” ณิชาสะดุ้งรู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรออกไป “ที่ไหน?” เขาถามกลับยิ้มๆ ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร “ที่บ้านเตยค่ะ” “ที่บ้าน? เห็นได้ยังไง” คราวนี้เขาทำหน้างงบ้าง “จากระเบียงบ้านไงคะ บ้านเตยมีสองชั้น ห้องเตยอยู่ชั้นบน เตยชอบนั่งทำงานที่ระเบียงบ้าน ถ้ามองจากระเบียงมาก็เห็นพี่นนท์กำลังหัดเดินอยู่หลังบ้านไงคะ” “เอาเปรียบกันนี่” เขายิ้มออกมา รอยยิ้มของเขาทำให้หญิงสาวหน้าแดงอย่างไม่รู้ตัว “เตยต้องคอยดูว่าไข่ดาวจะไปขุดต้นไม้ที่บ้านพี่นนท์หรือเปล่าต่างหากล่ะ” “ดี ถ้าไม่มีหมานี่ก็คงไม่สนใจกันใช่ไหม” “ไม่เกี่ยวเสียหน่อย” เธอแสร้งก้มหน้าก้มตากินอาหาร แล้วก็นึกขึ้นมาได้ “คนอื่นๆละคะ” “ไปแอบกินส้มตำกันในครัวละมั้ง” ชานนท์โคลงศีรษะไปมา เขารู้ว่าพวกนั้นจัดฉากให้เขากับหญิงสาวนั่งกินข้าวกันตามลำพัง “เอ๋? กินด้วยกันก็ได้นี่” “หมอสั่งห้ามพี่กินของหมักดอง” เขาพูดเรื่องจริง “ปลาร้าก็ด้วยเหรอ” “ก็มันใช่ไหมล่ะ” “ค่ะๆ เตยเข้าใจแล้ว”   ณิชาหัวเราะร่วน หลังรับประทานอาหารเสร็จ เธอช่วยเก็บโต๊ะแล้วออกมานั่งเล่นที่สวนหลังบ้าน เธอชี้ให้เขาดู หากมองไปก็จะเห็นบ้านเธออยู่ไม่ไกล แน่นอนว่ามุมนี้ทำให้เธอมองเห็นเขา “เตยกลับก่อนนะคะ เดี๋ยวพ่อจะไปส่งเตยไปขายของค่ะ” “ขอให้ขายดิบขายดีนะ” “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวหยิบกระเป๋าขึ้นมาคล้องไหล่ “เอาไว้พี่นนท์ไปถนนคนเดินซิ จะได้เจอเตยกับเพื่อนขายของ” “เตยก็รู้ว่าพี่...” “เดี๋ยวพี่นนท์ก็เดินได้แล้ว” เธอยิ้มกว้าง แล้วขอตัวกลับก่อน เมื่อหญิงสาวออกไปแล้ว ปกรณ์ที่แอบดูอยู่ก็โผล่หน้าออกมาพร้อมรอยยิ้มทะเล้น “ยิ้มอะไร”  ชานนท์ถามทั้งที่รู้ “ผมมาอยู่ที่นี่ก็เป็นเดือนแล้วนะครับ ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย” ปกรณ์ทำหน้าเศร้าอย่างน่าสงสาร “แล้วผมไม่ห้ามคุณเหรอ” “ก็คุณนนท์ไม่ได้ไปไหน แล้วผมจะไปได้ยังไงล่ะ” ปกรณ์ช้อนตามองทำตาปริบๆ แต่ชานนท์ส่ายหน้าไปมา “ได้ว่ยินาถนนคนเดินนี่มีของขายเยอะแยะ แถมแม่ค้าน่าตาน่ารัก เอ๊ย! สินค้าน่ารักๆเยอะแยะ เราน่าจะไปเที่ยวสักครั้งสองครั้งนะครับคุณนนท์” “สภาพอย่างผมนี่นะ” “ทำไมละครับ คุณนนท์หล่อกว่าผมอีก รับรองว่าสาวๆ ต้องกรี๊ดคุณนนท์อยู่แล้ว” “มันไม่ใช่เรื่องนั้น” ชานนท์ถอนหายใจเบาๆ “ผมรู้ว่าเรื่องอะไร มันอยู่ที่ใจคุณครับคุณนนท์ ถ้าคุณอยากไป คุณต้องได้ไป” ชานนท์ได้แต่ถอนหายใจเบาๆ แล้วมองพวงกุญแจผ้าในมือ ‘อยากไป ต้องได้ไป’ ถ้าเขาพยายามมากขึ้นอีกนิด ต้องเดินเคียงข้างแม่สาวน้อยแก่นแก้วคนนั้นได้แน่ๆ .................. พ่อขับรถมาส่งลูกสาวที่บ้านเพื่อนสนิท ข้าวหอมรีบออกมารับเพื่อนพร้อมกับยกถุงใบใหญ่ลงจากท้ายรถกระบะ  “พ่อต้องไปสั่งปุ๋ยแล้ว ยังไงพรุ่งนี้โทรหาพ่อนะ พ่อจะมารับ” “จ๊ะพ่อ” ณิชายิ้มกว้าง “ข้าวหอมฝากดูยัยเตยด้วย” “ค่ะคุณลุงไม่ต้องห่วงค่ะ” “ใครจะดูแลใครก็ไม่รู้”   ณิชาหัวเราะคิกคักแล้วพากันเข้าไปในบ้านของข้าวหอม เพราะข้าวหอมเป็นเพื่อนสนิทของณิชา เธอจึงเล่าเรื่องชานนท์ให้เพื่อนรักฟัง “เค้าหล่อไหม พี่นนท์ของเตยอ่ะ” “ก็...ไม่ใช่สเปคเตยหรอก” “ยังไงอ่ะ” ข้าวหอมทำหน้างง “ก็สูงๆ ขาวๆ เหมือนพระเอกซีรีย์เกาหลี เตยชอบคมๆ เข้มๆ เหมือนเพราะเอกหนังไทย”  “เดี๋ยวนี้พระเอกหนังไทยก็ตัวบางๆ ผอมๆแล้วนะยะ ไม่ได้หล่อคมเหมือนสมัยก่อน” ข้าวหอมหัวเราะคิกคัก “สรุปว่าหล่อซิ” “ก็...ไม่รู้”  จู่ๆณิชาก็หน้าแดงขึ้นมา ข้าวหอมจ้องหน้าจับผิด “ตายแล้ว! หน้าแดงเป็นลูกสตอร์เบอรี่เลย” “บ้าซิ! อากาศมันร้อนต่างหาก” “นั่งหน้าพัดลมแบบนี้นี่นะ” ข้าวหอมหัวเราะเพื่อนรัก  “อย่ามาล้อซิ ช่วยกันแพ็คของเร็ว” “ไม่ล้อก็ได้จ้า” สองสาวหัวเราะกันคิกคักแล้วเตรียมของสำหรับไปขาย  เมื่อถึงเวลาทั้งสองก็ไปขายผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ทั้งคู่ทำแบบนี้มารวมปีแล้ว รายได้จากการขายของหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว ณิชาฝากธนาคารเป็นเงินเก็บ ตอนแรกๆเธอแบ่งให้แม่ด้วย แต่แม่รับเฉพาะในส่วนของต้นทุนเพื่อผลิตชิ้นงานใหม่ๆให้ลูกสาวเอาไปขาย พ่อแม่ของข้าวหอมก็เห็นดีเห็นงามที่ลูกสาวรู้จักหารายได้ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ จึงสนับสนุนและช่วยเหลือเต็มที่ ซ้ำยังเอ็นดูณิชาเหมือนลูกสาวอีกคน  จนเกือบได้เวลาเก็บแผงแล้ว ณิชารู้สึกเหมือนมีเงาร่างยืนอยู่เบื้องหน้า เธอหันไปดูแล้วก็ต้องยิ้มกว้าง “พี่โพธิ์” “กรี๊ด!พี่ชาย”  ข้าวหอมส่งเสียงร้องเหมือนเจอดารา แต่คนตัวโตส่ายหน้าไปมา  “ไม่ต้องมาทำเป็นซีรีย์เกาหลี” ร่มโพธิ์บ่นน้องสาวแล้วส่งยิ้มอ่อนโยนให้เพื่อนของน้อง “มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ เตยอยู่กับข้าวหอมตั้งแต่บ่ายยังไม่เห็นพี่โพธิ์เลย” “รถทัวร์มันเสียเลยมาถึงเอาตอนเย็น พ่อกับแม่ก็บอกว่าเราสองคนมาขายของแล้ว” ชายหนุ่มตอบ “มาพี่ช่วยเก็บของ” “ดีเลย มีพี่ชายสุดหล่อแถมใจดีแบบนี้”  “ไม่ต้องมายอกันเลย ถ้าพี่อยู่ พี่ก็มาช่วยอยู่แล้วล่ะ”   พูดแล้วก็ช่วยน้องสาวกับเพื่อนเก็บข้าวของ เพราะบ้านอยู่ใกล้กับสถานที่จัดไม่ไกลมาก ปกติสองสาวจะเอาข้าวของทุกอย่างใส่ลังพลาสติกแล้วใส่รถเข็นช่วยกันลากมา ซึ่งมันสะดวกกว่าใส่รถยนต์มาอีก “งานที่กรุงเทพฯ เป็นไงบ้างคะ ไม่เห็นกลับบ้านมาตั้งหลายเดือน” “ก็ยุ่งๆ ตามประสามนุษย์เงินเดือนนั้นแหละ”   ร่มโพธิ์เห็นณิชามาตั้งแต่น้องสาวเข้าเรียนมัธยม แรกๆก็เห็นว่าเป็นเพื่อนของข้าวหอม แต่พอดูไปดูมาก็รู้สึกว่าณิชาน่ารักไม่น้อย ยิ่งเรียนถึงระดับมหาวิทยาลัย เธอเป็นสาวสวยคนหนึ่งเลยทีเดียว  ยิ่งเขาทำงานอยู่กรุงเทพฯ สังคมที่วุ่นวายและความหลากหลายของผู้คนที่สวมหน้ากากเข้าหากัน  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD