บทที่ 1 ตอนที่ 1

996 Words
       ความมืด หมอกหนาลอยฟุ้งอยู่รอบๆ ตัว ชายหนุ่มเหยียบย่างเท้าเปล่าลงบนพื้น กวาดตามองด้วยความระแวงแปลกประหลาดในใจ ที่นี่ที่ไหน...แล้วเขามาทำอะไร สายตากวาดมองไปรอบๆ เดินวนอยู่อย่างนั้นจนรู้สึกเหนื่อยก็เหมือนยังวนเวียนไปมาอยู่ที่เดิม ความเงียบวังเวงอ้างว้างก่อให้เกิดความกลัวและรู้สึกได้ว่าไร้ทางออกโดยสิ้นเชิง            เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...ทำไมจู่ๆ ตัวเองถึงได้มาโผล่อยู่ในสถานที่อันแปลกประหลาดเช่นนี้ แล้วจะหาทางออกกลับไปสู่สภาวะปกติได้อย่างไร            "นั่นใคร!..." ในขณะที่กำลังตกอยู่ในความเหนื่อยอ่อนและสับสน ร่างเลือนรางก็ปรากฏขึ้นอยู่ปลายสายตาด้านข้างตัวเขา ชายหนุ่มรีบหันขวับไปมอง ก็ได้เห็นเพียงความเลือนรางไม่จัดเจน            หมอกหนาปกคลุมขาวโพลนไปทั่ว รับรู้ได้แต่เพียงว่าร่างนั้นเป็นผู้หญิง เพราะผมยาว...และใส่ชุดยาวเลยเข่าลงมาเล็กน้อย หล่อนยืนนิ่งหันหน้ามาทางเขา แต่เขาก็ไม่อาจสังเกตเห็นเครื่องหน้าและสีหน้าของเจ้าหล่อนด้วยความขมุกขมัวของบรรยากาศที่ทึบหนา            "เธอเป็นใคร...รู้ไหมว่าที่นี่ที่ไหน..." ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างมีความหวัง พร้อมกับเดินเข้าไปหาหล่อน รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อยที่ไม่ได้เดียวดายอยู่ในความเวิ้งว้างนี้เพียงลำพัง แต่...เดินเท่าไหร่กลับไปไม่ถึงร่างเล็กที่ยืนนิ่งนั้นเสียที ทั้งๆ ที่หล่อนไม่ได้ขยับเขยื้อนใดๆ เลย            "นี่เธอ...เธอเป็นใครกันแน่..." ชายหนุ่มถอนหายใจหอบ เอื้อมมือหวังคว้าตัวหล่อนด้วยความโมโห แต่กลับยื่นมือไปไม่ถึงสักที แต่แล้วจู่ๆ            "เฮ้ย!" ร่างเล็กแน่นิ่งก็กลับปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาเพียงคืบในชั่วพริบตา ชายหนุ่มแทบชักมือกลับไม่ทันด้วยความตกใจ เขากลืนน้ำลายลงคอเฮือก พยายามมองหน้าที่ก้มงุดและค่อยๆ เงยขึ้นมาเผชิญสายตากับเขา            "เธอ..." เขามองหน้าขาวซีดที่ดูเศร้าสุดใจนั้นแล้วครุ่นคิด คลับคล้ายคลับคลาคุ้นชินจนรู้สึกหนักอึ้งไปหมดทั้งร่าง            "พเยีย...เธอใช่ไหม" เสียงทุ้มของเขาสั่นในขณะที่เอ่ยถาม เหยียดยิ้มด้วยความดีใจกึ่งสงสัย สองมือยกขึ้นหวังประคองใบหน้าหวานเศร้าสร้อยของหล่อน            "พเยีย!!!" ร่างเล็กถอยห่างออกไป แล้วหันหลังให้เขา วิ่งหนีหายไปทันที            "พเยีย! เดี๋ยวก่อนจะไปไหน!!! รอพี่ก่อน!" เขาตะโกนตามหลังในขณะที่วิ่งตามร่างของหล่อนไปท่ามกลางความมืดโดยไม่รีรอ หล่อนวิ่งเร็วตัวปลิวแหวกฝ่าหมอกหนาและความมืดแล้วหยุดยืนนิ่งในขณะที่เขากำลังจะเข้าไปใกล้...            เบื้องหน้าไม่ได้เป็นเพียงความเวิ้งว้างไม่มีจุดหมายอีกต่อไปเพราะมันคือหน้าผา...            ร่างเล็กนั้นหยุดยืนอยู่ตรงหน้าริมหน้าผาสูงชัน ที่ทอดสายตามองออกไปก็เป็นทะเลกว้างใหญ่ไพศาล ชายหนุ่มเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีพระจันทร์ลอยเด่นอยู่บนฝากฟ้า สาดแสงนวลตาทำให้เขามองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น สายตาเศร้าหม่นตัดพ้อจ้องเขาคล้ายกำลังเสียใจอย่างสุดแสน...            แต่ไม่มีน้ำตาแม้สักหยด สายลมพัดพลิ้วกระทบชุดที่หล่อนสวมอยู่จนสะบัดไปตามแรงลม ผมยาวเลยบ่าสยาย เสียงสายลมพัดวูบหวิว ความมืดที่ถูกแสงจันทร์ส่องกลืนกลายเป็นโทนสีน้ำเงินสะท้อนกับผืนน้ำทะเล คลื่นด้านล่างสาดกระทบกับโขดหินไม่สร่างซา            "พเยียอย่านะ..." มือใหญ่เงื้อเอื้อมออกไปหวังไขว่คว้า ประหนึ่งอ่านออกความคิดว่าเจ้าหล่อนกำลังคิดทำการใดอยู่            "อย่านะพเยีย!!" ร่างเล็กหันหลังให้กับเขาทันควันเมื่อชายหนุ่มพุ่งตัวเข้าไปใกล้ หล่อนหันหน้ากลับมามองเขาแล้วเหยียดยิ้มไม่มีความหมาย สายตาดุคมแดงก่ำเคลือบแฝงความเจ็บช้ำจนรู้สึกได้ชัดเจน            "พเยีย!!!" ชายหนุ่มตะโกนก้องสุดเสียงในขณะที่ร่างเล็กนั้นกระโดดทิ้งตัวลงไปเบื้องล่าง เขาก้าวไปยืนตรงที่หล่อนยืนอยู่ก่อนหน้า แต่ทว่า...ทุกอย่างสายเกินไปเสียแล้ว            ไม่มีหล่อน...ไม่เหลืออะไรเลย            "พเยีย!"            "คุณปั้น! คุณปั้นเป็นอะไรคะ...คุณปั้น!"            ร่างใหญ่สะดุ้งเพริบลุกนั่งจนผ้าห่มร่นลงมากองอยู่บนตัก เขาหายใจหอบฮัก เหงื่อท่วมตัวเหมือนเพิ่งผ่านการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่เหนื่อยมาอย่างหนักทั้งที่เพิ่งจะสะดุ้งตื่นจากการหลับลึก            "คุณปั้น!"            เสียงหวานแหลมเอ่ยเรียกซ้ำทำให้ชายหนุ่มได้สติมากขึ้น เขามองหล่อนที่นั่งเปลือยอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าตกใจและแปลกใจ            "ออกไปได้แล้ว..." เขาบอกกับหล่อน แล้วรีบสลัดผ้าห่มออก ลุกขึ้นจากเตียงไปคว้าผ้าขนหนูที่วางอยู่บนโซฟาเบดใกล้ๆ มาพันรอบตัวช่วงล่าง            "อะไรกันคะที่รัก...นี่เพิ่งจะหกโมงเช้านะคะ คุณฝันร้ายแล้วมาอารมณ์เสียใส่แนทแบบนี้ไม่ได้นะ" สาวสวยดีดตัวลงมายืนขวางหน้าเขาเอาไว้ทั้งที่ตัวเองยังเปลือยอวดสัดส่วนความสาวทุกสรรพางค์            "ผมบอกให้ออกไปไง...หรือต้องให้ยามหน้าบ้านมาจับโยน..." น้ำเสียงชายหนุ่มเคร่งขรึมจริงจัง เขาไม่ได้พิศวาสในเรือนร่างเย้ายวนตรงหน้าแม้แต่น้อยในตอนนี้ แม้เมื่อคืนที่ผ่านมาจะสนองตอบต่อกันอย่างเร่าร้อนก็ตาม            "อะไรกันเนี่ย...งี่เง่าที่สุด..."            "ผมมีเวลาให้คุณยี่สิบนาทีสำหรับหอบผ้าออกไปจากบ้านนะที่รัก...คุณก็รู้ว่าเราไม่ได้พบกันเพื่อสานต่อไปมากกว่าคืนเดียว" พูดจบร่างใหญ่ก็เดินหน้าเครียดออกไปจากห้อง ปล่อยให้สาวเจ้าออกอาการกระฟัดกระเฟียดไม่พอใจอยู่คนเดียว            หมดเวลา...หมดอารมณ์...ก็หมดความหมาย                                   
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD