“ พี่ เอ่อ พี่เดช ใช่ไหมจ๊ะ คราวก่อนฉันลืมถามชื่อพี่แต่เดาเอาว่าพี่คงจะชื่อพี่เดชแหละ เพราะมาจากอาจารย์เดช ”
ทีนี้เขาหัวเราะร่วน
“ ใช่ พี่ชื่อเดช ”
“ ฉันไม่คิดว่าพี่จะเป็นหมอผี ”
“ ทำไมล่ะ ”
“ ก็.. ก็พี่ยังดูไม่แก่เลย แถมใส่กางเกงยีน ขับมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ ”
“ ไม่มีกฎห้ามนี่ว่า คนเป็นหมอผีจะต้องห้ามสวมกางเกงยีนหรือห้ามขับมอเตอร์ไซค์ หรือว่าต้องจำกัดอายุ อายุยี่สิบเก้าเท่าพี่ก็เป็นได้ อันที่จริงพี่เป็นมาตั้งแต่จบปริญญาตรีตอนยี่สิบสามแล้ว ”
“ เป็นหมอผีจบปริญญาด้วย ! ” บัวเอ่ยอย่างเหลือเชื่อ เสียงทุ้มหัวเราะร่วนอีกครั้ง
“ ก็ไม่มีกฎข้อไหนห้ามอีกนั่นแหละ ”
“ ก็จริงจ้ะ ” เธอยอมรับและยกมือขึ้นไหว้
“ ฉันขอโทษพี่ด้วยนะจ๊ะที่ล่วงเกินพี่ไปตั้งหลายอย่างเลยวันนั้น ”
“ ล่วงเกินอะไรบัว ”
“ ก็ให้พี่ต้องมาจูง ล้มทับพี่ แถมให้พี่ไปส่งบ้าน ”
“ แล้วไงบัว นั่นเป็นสิ่งที่คนปกติเขาทำกัน คนปกติที่ต้องช่วยเหลือมนุษย์โลก พี่ก็เป็นคนปกติอย่างผู้ชายคนอื่น ๆ นั่นแหละ แต่พี่แค่มีหน้าที่ตรงจุดนี้ ที่ต้องทำงานเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรทำนองนี้ ก็เลยมีอีกหัวโขนหนึ่งที่ต้องสวม ” เธอก็ยังคงก้มหน้านิ่ง
“ บัวไม่ต้องคิดมาก พี่ไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรเลย ไหน แล้วมีเรื่องไม่สบายใจอะไรจะให้พี่ช่วย ” เธอเงยหน้าขึ้นสบตาคมกริบนั้น
“ ก็อย่างที่พี่เดือนว่านั่นแหละจ้ะ ”
“ ถ้าไม่รังเกียจและถือเป็นการละลาบละล้วง พี่ขอฟังความเป็นมาเป็นไปทั้งหมดของบัวได้ไหม ว่าทำไมบัวถึงได้มาอยู่กับกำนันเทิ้ม ”
หญิงสาวนั่งนิ่งอยู่อึดใจหนึ่ง จ้องผู้ชายเบื้องหน้าอย่างชั่งใจ แววตาและรอยยิ้มนั้นฉายรังสีแห่งความอบอุ่นมาให้อย่างน่าประหลาด สิ่งนั้นทำให้เธอไว้ใจ วางใจ และเชื่อใจที่จะบอกความจริงทุกสิ่งให้เขาฟัง
แล้วเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตก็พร่างพรูออกมาราวกับพายุฝน
อาจารย์เดชหรือพี่เดชของบัวไม่ขัดแม้สักคำ เขานั่งนิ่งฟังจนกระทั่งจบ ก่อนจะจ้องมองใบหน้าหวานที่มีน้ำตาปริ่มขอบตาอย่างสงสาร
“ บัวก็ไม่รู้จะทำอย่างไร มันไม่มีทางไปแล้วจริง ๆ คนอื่นเวลาที่มีปัญหาเขาก็พากันคิดถึงแม่ อยากให้แม่กอด แต่แม่ของบัวไม่เหมือนใคร แม่ไม่เคยรักบัวเลย คนที่รักบัวที่สุดคือยาย แต่ยายก็ไม่อยู่กอดบัวอีกแล้ว บัวเหลือฟางเส้นสุดท้ายคือพี่กำนัน แต่สุดท้ายแล้วเขาก็จะทิ้งขว้างบัวแล้ว ”
“ พี่เข้าใจบัวนะ แล้วคนที่มาด้วยนี่เป็นอะไรกัน ”
“ อ๋อ พี่เดือนแกไปล้างจานที่วัดทุกวันอยู่แล้วจ้ะ เพราะแกเอาเศษอาหารไปเลี้ยงหมูที่บ้าน ส่วนบัวจะมีโอกาสได้ไปก็แค่วันพระ บัวจะไปช่วยแกล้างจานและปัดกวาดศาลา แกเห็นบัวหน้าตาอมทุกข์ก็เลยถาม บัวเลยได้ระบายให้แกฟังจ้ะ แกก็เลยพาขี่มอเตอร์ไซค์มาที่นี่ ”
“ ถือว่าเป็นกัลยาณมิตรนะ เจอกันที่วัดเพราะงานบุญ แล้วก็ยังเป็นห่วงเป็นใยกันราวกับเป็นญาติสนิทมิตรสหาย ”
“ ใช่จ้ะ พี่เดือนดีกับบัวมาก ”
“ แล้วทีนี้พี่จะถามบัวตรง ๆ นะว่า บัวรักกำนันเทิ้มใช่ไหม พี่หมายความว่า ลองถามความรู้สึกตัวเองดูทีว่า มันคือความรัก อย่างนั้นถูกไหม ” เธอนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะตอบ
“ บัวไม่รู้หรอกว่าความรักแบบหนุ่มสาวมันคืออะไร เกิดมาคนที่บัวรักที่สุดก็คือยาย เพราะยายก็ให้ความรักความอบอุ่นกับบัวมาตลอด บัวไม่เคยมีแฟน ไม่เคยรักผู้ชายคนไหน แต่ก็จับพลัดจับผลูได้เป็นเมียของกำนันเทิ้มอย่างไม่เต็มใจ แต่ยายก็สอนเสมอว่า ผู้หญิงเราหากมีผัวก็ต้องจงรักภักดีกับผัวคนเดียว อย่าได้สำส่อนเหมือนที่แม่เป็น ”
“ บางครั้งนะบัว คำสอนสั่งก็พลิกแพลงได้ตามสถานการณ์ ในกรณีนี้กำนันเทิ้มถือได้ว่าขืนใจบัว แต่สุดท้ายบัวก็ต้องเลยตามเลย แม้ว่าทุกวันนี้บัวเองก็ยังไม่มีความสุขกับการตกเป็นทาสอารมณ์ของกำนันเทิ้ม คำถามคือ บัวยังอยากที่จะให้กำนันกลับมาหาบัวเพื่ออะไร บัวจะมีความสุขอย่างนั้นหรือ ถ้ากำนันเทิ้มระบายความใคร่ลงบนร่างกายแล้วบัวต้องเจ็บปวด อีก บัวจะทำใจได้ไหม หากเขาจะยังมีผู้หญิงคนอื่นไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ ” คราวนี้เธอนิ่ง นิ่งไปนาน นานจนชายหนุ่มต้องเป็นฝ่ายถามอีกครั้ง
“ พี่ไม่ได้ต้องการจะก้าวล่วง เพียงอยากให้บัวไตร่ตรองให้ดี ถามว่าพี่ช่วยได้ไหม พี่ช่วยได้ พี่สามารถช่วยให้บัวกลับไปเป็นที่รักใคร่ของเขา แต่เขาก็ยังเป็นเขาคนเดิม ของแบบนี้ต้องอยู่ที่พื้นฐานสันดานของแต่ละคน พิธีกรรมก็ช่วยอะไรไม่ได้นานนัก หากเขาเกิดจะพึงใจคนอื่นอีก ก่อนหน้าที่บัวจะเข้ามาอยู่ในบ้าน ตอนนั้นเขามีผู้หญิงคนอื่นอยู่หรือเปล่า ” บัวพยักหน้า
“ มีจ้ะ มีคนงานอยู่สามสี่คนที่กำนันพอใจแล้วเอามานอน แต่พอมีบัว กำนันก็ขลุกอยู่กับบัวตลอด ”
“ แล้วบัวจะรู้ได้ยังไงว่าก่อนหน้าที่เขาจะหลงใหลบัว เขาไม่เคยหลงใหลคนอื่นมาก่อน เขาอาจจะขลุกอยู่กับคนอื่น พอเบื่อก็ทิ้ง แล้วหาใหม่ไปเรื่อย ๆ ไม่เคยอิ่มเอมในกามก็เป็นได้ ”
คำพูดของอาจารย์เดชมันตำหัวใจของบัวเหลือเกิน มันเปิดหน้าต่างอีกบานที่สาวใสซื่ออย่างเธอไม่เคยมองเห็นมาก่อน
“ แล้วบัวควรจะทำยังไงดีจ๊ะ บัวมืดแปดด้านไปหมด ”
“ ไตร่ตรองดูว่าบัวต้องการอะไรกันแน่ ”
“ ถ้าบัวไม่อยู่กับกำนันเทิ้ม บัวก็ไม่มีทางออก ความรู้อะไรบัวก็ไม่มี บัวโง่นัก แม่ยังด่าบัวอยู่บ่อย ๆ ”
ชายหนุ่มส่ายศีรษะ
“ ไม่มีใครโง่ มีแต่คนรู้มากรู้น้อยเท่านั้นเอง บัวเก่งเสียอีกที่รู้จักรับจ้างหาเลี้ยงยาย แม่ของบัวต่างหากที่ไม่เคยทำสิ่งเหล่านั้นได้ทั้งที่เป็นลูกแท้ ๆ เป็นแม่แท้ ๆ เอาอย่างนี้ พี่มีทางเลือกให้ บัวทำกับข้าวและทำความสะอาดได้ใช่ไหม ถ้าหากบัวไม่เลือกที่จะกลับไปหากำนันเทิ้มก็ให้มารับจ้างที่นี่ เป็นแม่บ้าน ดีไหม ” เธอเงยหน้าขึ้น แต่แววตาก็ยังไม่มั่นใจอะไรนัก ทีนี่มีแต่ผู้ชายมากหน้าหลายตา เธอจะไว้ใจอะไรใครได้ไหมหนอ