บทที่ 6
ภายในบ่อนการพนันใหญ่แห่งหนึ่ง อภิชัยกำลังหัวเราะอย่างอารมณ์ดีและโห่ร้องเสียงดังด้วยความตื่นเต้น หลังจากการเข้าบ่อนแบบจริงจังครั้งแรกของเขาในครั้งนี้เล่นพนันได้เงินมากมายจนน่าอัศจรรย์ใจ เพราะไม่ว่าจะเลือกเล่นพนันแบบไหนก็ชนะเสียทุกครั้ง
“ทำไมโชคดีแบบนี้วะ” อภิชัยหยิบเงินปึกใหญ่ขึ้นมาจูบด้วยความพึงพอใจ
“เห็นไหมกูบอกแล้วว่าที่นี่เล่นง่าย แถมเจ้าของบ่อนก็ใจดี ถ้าไม่มีเงิน กู้ได้ตลอด”
เพื่อนที่ชักชวนเข้ามาเล่นในบ่อนแห่งนี้เดินเข้ามาตบบ่า และพูดให้อภิชัยฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น
“มึงน่าจะชวนกูมาที่นี่ตั้งนานแล้วนะไอ้ภพ แม่ง ให้กูหลงไปเล่นที่บ่อนไก่กาอยู่ได้”
“เออๆ กูขอโทษ ตอนแรกนึกว่ามึงจะไม่จริงจัง”
“ตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะเล่นจริงจังหรอก แต่พอเห็นว่าได้เงินง่ายๆ แบบนี้ กูจริงจังทันทีเลยว่ะไอ้ภพ”
อภิชัยหัวเราะร่วน ก่อนจะหยิบเงินออกจากกระเป๋าสตางค์และแบ่งให้เพื่อนสามสี่ใบ
“ให้ว่ะ ถือว่าเป็นค่านายหน้าที่พากูมาหาเงินที่นี่”
สมภพรับเงินไป แต่ก็อดที่จะพูดไม่ได้
“ได้ตั้งเป็นล้าน ให้กูแค่สี่พันเนี่ยนะ”
“ค่าพามาแค่นี้ก็เยอะแล้วโว้ย หรือว่าจะไม่เอา”
อภิชัยทำท่าจะดึงเงินกลับ แต่สมภพรีบยัดธนบัตรใส่กระเป๋ากางเกงอย่างหวงแหน
“เอาโว้ย”
“งั้นอย่าบ่น” อภิชัยไหวไหล่ด้วยท่าทางลำพอง “งั้นกูกลับก่อนนะโว้ย เดี๋ยวพรุ่งนี้มารวยใหม่”
“เออ แล้วพรุ่งนี้อย่าลืมมาล่ะ กูจะรอ” สมภพบอก
“ใครจะลืมบ่อเงินบ่อทองวะ กูไปล่ะ”
“ไอ้ขี้เหนียวเอ๊ย”
สมภพมองอภิชัยที่เดินผิวปากออกไปจากบ่อนด้วยสายตาหมั่นไส้ และกำลังจะหมุนตัวกลับไปเล่นใหม่ ก็มีผู้ชายสองคนตัวใหญ่มากมาขวางทางเอาไว้
“พวกพี่มีอะไรเหรอครับ”
“ไอ้คนเมื่อกี้เพื่อนเอ็งเหรอ”
“ครับ” สมภพพยักหน้าตอบรับ “ว่าแต่พวกพี่มีอะไรกับไอ้ชัยมันเหรอครับ”
“เปล่าไม่มีอะไรหรอก แค่อยากจะยินดีกับมันน่ะที่เล่นได้เยอะ”
“อ๋อ ครับ”
สมภพระบายยิ้ม
“ผมขอตัวไปเล่นต่อก่อนนะครับ”
“เออ ไปเถอะ ขอให้โชคดีแบบเพื่อนเอ็งล่ะ”
คนพูดตบไหล่สมภพอย่างให้กำลังใจ และเมื่อสมภพเดินหายไปแล้ว พวกมันก็พูดกันเอง
“วันนี้เราขาดทุนไปเยอะเลยนะพี่แจ็ค”
“เสี่ยบอกว่าให้ปล่อยมันไปก่อน แล้วค่อยเอาคืนทีหลัง”
“เหมือนกับที่เสี่ยทำกับคนอื่นๆ จนพวกมันต้องขายบ้านขายรถหมดตัวกันเป็นแถบๆ ใช่ไหมพี่แจ็ค”
“ก็เออน่ะสิ เล่นพนันไม่มีทางรวยหรอกโว้ย มีแต่เจ้าของบ่อนเท่านั้นแหละที่รวย”
“จริงครับพี่”
พวกมันหัวเราะร่วน ก่อนจะเดินกลับเข้าไปข้างในเพื่อไปรายงานเจ้าของบ่อน
พราวเนตรจำต้องก้าวออกมาจากห้องพักกลางดึก เพราะอภิชัยโทรศัพท์มาหาถี่ระรัว ทั้งๆ ที่หล่อนบอกปฏิเสธแล้วว่าออกมาไม่ได้เพราะนอนแล้ว แต่อภิชัยก็บอกว่าถ้าไม่ออกมาจะปีนเข้าไปหา หญิงสาวกลัวว่าจะเกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้นจึงไม่มีทางเลือก
หล่อนสวมเสื้อคลุมและเดินผ่านลมหนาวยามดึกออกมายังหน้ารั้วบ้าน โดยตอบคำถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่า ญาติมีธุระด่วนมารออยู่ข้างนอก หล่อนเลยต้องออกมาหา
“อย่านานนะ เดี๋ยวคุณคีแรนรู้เข้า พี่แย่เลย”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบอกหล่อนอย่างกังวลใจ
“ค่ะพี่” หล่อนตอบรับ และรีบเดินออกไปหาอภิชัยที่ยืนรออยู่
“พี่ชัย”
อภิชัยที่ยืนผิวปากรออยู่อย่างอารมณ์ดีรีบหันมาเมื่อพราวเนตรเรียกด้านหลัง
“พี่ชัยมีธุระด่วนกับพราวเหรอคะ ถึงให้พราวออกมาหาดึกๆ แบบนี้”
อภิชัยเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าพราวเนตร และคว้ามือของพราวเนตรไปกุมเอาไว้
“พี่คิดถึงพราวน่ะ”
พราวเนตรดึงมือออกและถอยหลังหนีเล็กน้อย สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจนัก
“ถ้าพี่ชัยมีธุระแค่นี้ พราวขอตัวไปนอนก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวสิพราว”
อภิชัยเดินตามไปคว้าแขนเรียวเอาไว้ได้อีกครั้ง พร้อมกับดึงรั้งเข้ามาหา
“ทำไมพราวจะต้องทำตัวเย็นชากับพี่ด้วยล่ะครับ พี่คิดถึงพราวนะถึงได้มาหา”
พราวเนตรถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนใจ หล่อนเองก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกเฉยเมยกับอภิชัยแบบนี้ ตั้งแต่ตกลงตอบรับคบหากันมา หัวใจของหล่อนไม่เคยเต้นแรงกับอภิชัยเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“พราวขอบคุณค่ะ แต่นี่มันดึกแล้วนะคะ พราวต้องนอน พรุ่งนี้ต้องทำงานแต่เช้าค่ะ”
อภิชัยมองพราวเนตรอย่างไม่พอใจนัก ก่อนจะปล่อยมือที่เจ้าของพยายามดึงออกตลอดเวลา และส่งถุงกระดาษใส่เสื้อผ้าที่ตัวเองซื้อมาให้
“พี่ซื้อมาฝากพราวครับ”
พราวเนตรจำต้องรับเอาไว้ทั้งๆ ที่เกรงใจ เพราะรู้ว่าอภิชัยไม่ค่อยมีเงิน เนื่องจากชายหนุ่มเข้าออกงานเป็นว่าเล่น ไม่เคยทำงานที่บริษัทไหนเกินสองเดือนสักครั้งตั้งแต่รู้จักกันมา
“ขอบคุณค่ะ แต่พี่ชัยไม่น่าต้องเสียเงินเพราะพราวเลย”
“อย่าคิดมากสิครับ พี่อยากซื้อให้”
“แต่พราวอยากให้พี่ชัยเก็บเงินเอาไว้บ้างนะคะ เผื่อเอาไว้ในยามฉุกเฉิน”
อภิชัยยิ้มกว้างเพราะเห็นพราวเนตรแสดงทีท่าเป็นห่วงตนเองออกมา
“พี่ดีใจนะที่พราวเป็นห่วงพี่ แต่ช่วงนี้พี่มีเงินใช้น่ะ พอดีพี่เพิ่งถูกหวยมา”
อภิชัยไม่กล้าบอกพราวเนตรว่าตัวเองกลับไปเข้าบ่อนอีกครั้ง จึงโกหก
“พราวขอบคุณมากนะคะที่คิดถึงพราว แต่พราวเกรงใจน่ะค่ะ”
“ถ้าพราวเกรงใจพี่ งั้นก็ถือว่าเงินที่พี่ติดพราวอยู่หมื่นห้าหายกันไปดีไหมครับ”
“คะ?”
“พี่บอกว่าพราวรับเสื้อผ้าที่พี่ซื้อมาให้นี่ไว้ แล้วหนี้ที่พี่ติดพราวหมื่นห้าก็หายกันไป”
“เอ่อ แต่ว่า...”
“มันยุติธรรมดีเหมือนกันเนอะพราว”
อภิชัยพูดเองเออเองทุกอย่าง ในขณะที่พราวเนตรอึ้งกิมกี่พูดไม่ออกเลยทีเดียว
“นี่พราวก็ตื่นแล้ว งั้นออกไปเที่ยวกับพี่เถอะ พี่จะเลี้ยงพราวเอง”
“ไม่ได้หรอกค่ะพี่ชัย พราวต้องกลับไปนอน”