ตอนที่ห้า วิวาห์ไร้เงารัก 4

1169 Words
“ขอภาพเจ้าบ่าวจูบแก้มด้านซ้ายของเจ้าสาวครับ” เสียงสั่งการทำให้ เจ้าบ่าว ก้มหน้าทำตามคำสั่งแกนๆ “เดี๋ยวครับ นั่นเจ้าบ่าวจูบข้างซ้ายครับไม่ใช่ข้างขวา ผิดข้างครับ หันให้ถูกข้าง ดีครับ คราวนี้มือเจ้าสาวจับอกด้านขวาเจ้าบ่าวครับ เจ้าสาวยิ้มครับ อย่าเกร็ง นั่นล่ะครับ ดีมากครับ” เสียงสั่งการจากช่างมืออาชีพทำให้คนที่กอดผู้หญิงที่เขาอยากผลักให้ล้มไปกองมากกว่ากอดทำให้ธีภพอยากไปต่อยปากไอ้คนถ่ายรูปแล้วกระชากกล้องจากมือมันมาปาใส่กำแพงให้แตกละเอียด แต่น่าเสียดายที่สิ่งเดียวที่เขาพอจะทำได้ตอนนี้คือ ทำตามที่มันสั่ง! ธีภพไม่อาจทำตามใจตัวเองได้เพราะสายตาของญาติผู้มาเป็นสักขีพยานกำลังจดจ้องอยู่เพียบ การถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง รวมทั้งการเข้าพิธีการเรียบง่ายที่บ้านแล้วจดทะเบียนสมรส เป็นสิ่งที่ธนาขอร้องให้ธีภพทำแลกกับการสัญญาที่จะไม่บังคับกะเกณฑ์เขากับมนพัทธ์อีกตลอดชีวิตหลังแต่งงาน เขาจึงต้องฝืนข่มความโมโหที่เดือดพล่านยอมถ่ายรูปกับหญิงสาวที่สวมชุดไทยสีทองอร่ามแต่งหน้าเสียหวานอ่อนช้อยจนกว่าจะได้ภาพทั้งหมดที่ช่างภาพพอใจ “โอเคแล้วครับ อีกห้านาทีได้ฤกษ์ รบกวนเจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินมานั่งที่บริเวณพิธีพร้อมกับญาติๆ ด้วยนะครับ” ลานกว้างใกล้สระน้ำของบ้านธีภพถูกจัดวางด้วยชุดโซฟาหลุยส์และปูพรมผืนใหญ่ ฉากหลังเป็นสวนเขียวขจีของบ้านและซุ้มประดับประดาด้วยดอกไม้สดสีขาวตัดกับสีเขียวของสวน พานของหมั้นและพานสินสอดถูกจัดแต่งอย่างวิจิตร งานเรียบๆ จัดกันเองที่บ้านของคุณธนาดูพิเศษไม่น้อยหน้าใครเพราะจ้างออแกไนซ์และช่างถ่ายภาพระดับมืออาชีพที่รับเพียงงานของเหล่าดาราเซเลบที่เงินถึง นอกนั้นยังเชิญแขกสนิทชิดเชื้อทั้งสองฝ่ายร่วมๆ สี่สิบคน บริเวณบ้านหลังใหญ่ที่เคยโล่งเต็มไปด้วยดอกไม้ ข้าวของ และผู้คน สิ่งนี้ทำให้ธีภพหน้าตึงแต่เช้า และแย่ยิ่งกว่าที่ถูกเรียกมาให้ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งก่อนฤกษ์หมั้นแล้วโดนสั่งให้ทำนั่นนี่ราวเป็นหุ่นยนต์บังคับตั้งแต่หมั้น รดน้ำสังข์และเข้าห้องหอ สายตาของเขาแทบไม่ได้มองคนข้างตัว คิดเสียแต่ว่าให้มันจบๆ ไปเท่านั้น “เดี๋ยวผู้ใหญ่อวยพรเรียบร้อยแล้วให้คู่บ่าวสาวอยู่ในห้องหอด้วยกันให้ข้ามวันก่อน” เสียงธนาสั่งและจัดแจงอย่างกับเป็นแม่งาน ธนาผ่าตัดเรียบร้อยและหายป่วยราวกับได้ยาผีบอกจนพยาบาลบนวอร์ดที่ดูแลยังนับถือในความใจสู้ ท่านยืนสั่งการราวกับไม่ใช่ผู้ชายที่เคยป่วยจนหยุดหายใจคนนั้นสักนิด สิ่งนั้นทำให้ธีภพยังไม่ระเบิดความไม่พอใจออกมา บิดาเขามีความสุขมาก และมีความสุขอยู่คนเดียว มารดาเขาและเขาไม่พอใจ ส่วนเจ้าสาวและแขกในงานทั้งสองฝ่ายมาร่วมงานตามมารยาท ไม่ได้มีใครร่วมยินดีหรือดีใจด้วยเลยสักนิดเดียวเพราะคงเห็นกันชัดว่างานแต่งงานไม่ได้เกิดจากความเต็มใจของคู่บ่าวสาว “น่าเสียดายนะครับคุณธนา ผมนึกว่าช่วงบ่ายจะว่าง อยากให้คู่บ่าวสาวสวมชุดแต่งงานแบบสากลแล้วถ่ายพรีเวดดิ้งต่อ ตอนนี้มีไฟล์ภาพของทั้งคู่แค่แต่งชุดไทยชุดเดียว” เสียงบอกของช่างถ่ายภาพชื่อก้องวงการที่หอบกล้องพร้อมเลนส์อันโต โดยมีคนถือแฟลชและแผ่นสะท้อนแสงคุมเชิงอยู่ เขาอยากจะค้านแต่เจ้าบ่าวนั้นหันมามองอย่างเยือกเย็นจนเขาเก็บปากเงียบ เจ้าบ่าวหน้าตึงตลอดงาน ทำอย่างกับไม่เต็มใจแต่ง จะว่าเจ้าสาวท้องเพื่อจับเขาก็ไม่น่าใช่ เอวสาวเจ้าคอดจนไม่รู้ว่าไส้จะขดอยู่ตรงไหนด้วยซ้ำ แต่ไม่ว่าเจ้าบ่าวจะโกรธด้วยเรื่องใดก็ตามที ช่างภาพวัยกลางคนคิดว่าเขาไม่ควรออกความเห็นอะไรมากไปกว่านี้ “อยากให้เขาถ่ายอยู่เหมือนกันแต่คิดว่าได้ชุดไทยมาอัลบั้มหนึ่งก็ดีใจแล้วล่ะคุณโก้ ไว้หากเขาสองคนอยากถ่ายด้วยกันเมื่อไหร่อีกจะติดต่อคุณโก้เป็นคนแรกเลย” ธนาหันไปบอกช่างภาพ คุณธนาอวยพรบ่าวสาวคนแรก ท่านลูบหัวของคู่บ่าวสาวแล้วจับมือของธีภพและมนพัทธ์มากอบกุมกันเอาไว้ ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงมือเล็กๆที่เกร็งและชื้นเหงื่อของหญิงสาวยามที่มือเขาถูกวางมาทาบทับไว้ “วันนี้เป็นวันที่พ่อมีความสุขที่สุดในชีวิต พ่อขอให้ลูกทั้งสองรักกันจนแก่เฒ่า ต่อไปนี้ลูกทั้งสองจงอดทนและเรียนรู้กัน เพื่อจะได้ครองเรือนคู่กันตราบจนชั่วลูกชั่วหลาน” มนพัทธ์น้ำตารื้นจมูกแดงก่ำขณะที่ธีภพทำหน้านิ่ง เขายกมือไหว้บิดาพร้อมๆ กับหล่อน คุณภารดีมารดาของธีภพที่ไม่พึงใจกับงานนี้ แต่ขัดความต้องการของสามีไม่ได้ขยับมาหาคู่บ่าวสาวพร้อมกับหน้าตึงเรียบ นางกล่าวอวยพรด้วยน้ำเสียงห้วน “ยังไงแม่ก็ขอให้มีความสุข ถ้ามีความทุกข์ก็ขอให้ไม่ต้องทนนานเกินไป ให้แคล้วคลาดจากคนไม่ดี และพบเจอแต่สิ่งดีๆ” ภารดีปรายตาไปมองหญิงสาวที่ก้มหน้างุดอยู่ ที่เอ่ยมานั้นจงใจประชด ก่อนที่ใครจะห้ามปรามให้หยุด นางก็ลูบหัวและจับมือบุตรชายเพียงคนเดียวอย่างให้กำลังใจแล้วถอยให้ มณี หรือ นวล ญาติผู้ใหญ่ของมนพัทธ์มาร่วมอวยชัยให้พรคู่บ่าวสาว ร่างผ่ายผอมของคนที่ไม่ค่อยมีแรงจากการรักษาโรคด้วยรังสีเพื่อคร่ามะเร็งจับมือหลานสาว ทอดมองอย่างเป็นห่วงเป็นใยใช่ว่านางจะไม่เห็นถึงความเย็นชาของเจ้าบ่าว นางและนนทวัชผู้เป็นลูกชายเคยทัดทานมนพัทธ์ให้คิดดีๆ ตอนที่หลานสาวจะแต่งงานแต่มนพัทธ์บอกว่าตัดสินใจแล้วก็สุดจะห้ามปราม กระนั้นความเป็นห่วงก็ยังไม่จบไม่สิ้นแม้เจ้าตัวจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ก็กตัญญูรู้คุณ ได้แต่หวังว่าความดีจะทำให้หล่อนตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ “มน ตบแต่งเข้าเรือนไปแล้วก็ทำหน้าที่เมียที่ดี เชื่อฟังพี่เขานะลูก จำคำสอนป้าไว้นะว่าคนดีทำดีก็ต้องได้ดี ป้าฝากหลานสาวคนนี้ของป้าด้วยนะคะคุณธีร์ป้าเลี้ยงมาไม่เคยตบเคยดีสักแอะเพราะมนเป็นเด็กดีและเชื่อฟังเสมอ ได้แต่หวังว่าคุณธีร์จะเมตตา”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD