10

1208 Words
“ห้องนี้เหม็นของกินมากเลย” อาร์เธอร์มองเธอยิ้ม ๆ เอ่ยเย้าขึ้นว่า “ไม่เคยเห็นบ่นเหม็นของกินเลยนะ ท้องหรือไง” อันนาชะงักกึก ค่อย ๆ หันไปมองเขาหน้าเครียด นี่เอาเรื่องจริงมาล้อเธอทำไม “ไม่ตลกเลยอาร์ธ” อาร์เธอร์ยังคงยิ้มแบบเดิม ยื่นมือไปผลักจานใส่หมึกบดเชื่อมที่แม่บ้านนำมาวางไว้ออกไปให้ห่างจากตรงหน้าเธอ เพราะได้ยินบ่นว่าเหม็น แล้วทำท่าจะลุกไปเอาที่ครอบอาหารมาครอบปิดจานนั้นไว้ แต่คนเหม็นอาหารยื่นมือไปปัดมือของเขาออก บอกพร้อมกลืนน้ำลายลงคอ พร้อมถามว่า “นี่ของใคร” อาร์เธอร์ยิ้มอยู่อย่างนั้น รู้สึกดีไม่น้อยที่อันนาจำรายละเอียดของเขาได้ ว่ากินอะไรแล้วแพ้ เขาจ้องเข้าไปในตาก็รู้ไปถึงก้นบึ้งของความคิดแม่ตัวดี มองแบบนี้ ถามแบบนี้คงอยากกินสินะ แล้วถึงได้ส่งเสียงตอบไปว่า “ของอาร์ธ ญาติคนไข้เอามาฝากน่ะ อยากกินก็แกะกินได้เลย” “นายกินหมึกได้แล้วหรือ ไม่แพ้แล้วหรือไง” ถามราวกับใส่ใจแต่แท้ที่จริงเธอน้ำลายสอแล้วก็อยากกินหมึกตากแห้งจานนั้นมาก ๆ ต่างหาก นายแพทย์อาร์เธอร์มองไปเห็นคนถามกลืนน้ำลายเอื๊อก ๆ ลงคอพอดี ก็เลยยื่นมือไปหยิบถุงหมึกบดสามรสแกะออก เปิดปากถุงพร้อมกับวางลงบนจาน เลื่อนมาที่ตรงหน้าเธอ อ้าปากจะชวนให้กิน แต่อันนาส่งเสียงบอกขึ้นว่า “อย่ากินเลย เดี๋ยวผื่นลมพิษขึ้นแบบเมื่อตอนเราไปทะเลคราวนั้นอีก จำได้ใช่ไหม มานี่มา เรากินให้เอง นี่เป็นห่วงหรอกนะ ไม่ใช่คนเห็นแก่กินอะไรทั้งนั้นแหละ บอกเลย” พูดเอาความดีความชอบจบ ยื่นมือจะหยิบกินทันทีด้วยอาการอยากจนน้ำลายไหลออกมารอเต็มปาก แต่แล้วกลับถูกมือใหญ่กว่าปัดไม่ให้หยิบด้วยมือ เขาหันไปเอาส้อมที่ด้านหลังมาส่งให้ อันนารับมาแล้วก็จิ้มหมึกบดสามรสตรงหน้าเข้าปากเคี้ยวกินในทันที รสสัมผัสของหมึกบดผสมผสานกับรสชาติหวาน ๆ เผ็ด ๆ ทำให้รู้สึกดีขึ้นไม่น้อย ว่าแล้วก็ใช้ทักษะม้วนหมึกตัวใหญ่ด้วยส้อมจนกลายเป็นคำเดียว ยกขึ้นปาดน้ำเชื่อมเอาเข้าปากไปอีกคำ อาร์เธอร์มองมาที่เธอ เห็นว่ากินได้ก็ยิ้ม ปล่อยให้กินจนหมดจานแล้วก็ค่อยถาม “ก็กินได้นี่นา คงไม่ได้ป่วยอะไร สรุปว่ามีอะไรถึงแวะมาถึงนี่ได้” อันนานั่งหลังตรง มองข้ามไหล่ว่าเขามีอะไรให้เธอกินอีกบ้าง รู้สึกเก้อกระดากเล็กน้อย เมื่อนึกถึงธุระของตัวเอง จึงทำทีเป็นถามกลับเขาไปว่า “แล้วไม่ต้องไปตรวจคนไข้หรือไง” “เดี๋ยวไป” เสียงตอบเรียบ ๆ แต่สายตาของอีกฝ่ายมองสำรวจเธออยู่อึดใจก็ออกปากถามขึ้นอีกครั้ง “ตกลงว่ามานี่มีธุระอะไร” เธอค่อย ๆ เหลือบมองที่เขาก็ให้รู้สึกว่าใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ชอบกล ลังเลใจว่าจะบอกดีหรือไม่ จนถึงวินาทีนี้แล้วเธอก็ยังตัดสินใจไม่ได้ แรงฮึดบอกให้พูดออกไปจะได้จบ ก็แค่บอกให้เขารู้ ๆ ไปว่าเธอท้อง ส่วนเรื่องจะรับผิดชอบกันอย่างไรต่อจากนั้น ค่อยว่ากันอีกที อ้าปากกำลังจะบอก แต่แล้วก็มีเสียงเรียกหวานหยดดังแทรกเข้ามาเสียก่อน “อาร์ธคะ” อันนาเสียสมาธิในทันที หันขวับไปมองยังประตูห้อง แต่นายแพทย์อาร์เธอร์ยังคงจับจ้องสายตาที่เธอนิ่ง ไม่ได้มองไปทางนั้นด้วยซ้ำ จู่ ๆ เรื่องคืนนั้นก็แวบผ่านเข้ามาในหัวของคุณหมอหนุ่มลูกครึ่ง หรือจะเป็นยัยแสบนี่เองที่อยู่กับเขาบนเตียง แต่แล้วก็ต้องชะงักความคิดหันไปยังประตู เมื่อเสียงเรียกดังขึ้นกว่าเดิม “อาร์ธขา” เป็นฌาร์มมี่เองที่เป็นคนดันประตูเข้ามาพร้อมตะกร้าอาหาร หญิงสาวใบหน้าหวานหยดยิ้มส่งให้เธอและอาร์เธอร์ พอเจ้าหล่อนเห็นว่าคุณหมอหนุ่มไม่ได้อยู่ในห้องเพียงลำพังตามที่คนด้านนอกรายงานตนไว้ ก็แสร้งปั้นหน้ายิ้ม เอ่ยปากพูดอย่างคนถูกฝึกมารยาทมาเป็นอย่างดี “อ้าว อุ๊ย อาร์ธคุยธุระอยู่หรือคะ มี่ขอโทษนะ” อาร์เธอร์พยักหน้าเบา ๆ ไม่ตอบไปว่าอะไร ฌาร์มมี่เข้ามาวางข้าวของที่หอบหิ้วมาด้วยลงบนโต๊ะ ก่อนยกมือกระดิกนิ้วทั้งห้าเป็นสัญญาณว่าขอตัวก่อน แล้วผลักประตูออกจากห้องไป หลังจากที่ฌาร์มมี่ออกไปแล้วภายในห้องก็เกิดบรรยากาศแปลก ๆ ขึ้น ความตั้งใจที่จะบอกเขาเรื่องท้องมลายหายไปเสียสิ้น เลยทำทีเป็นมองหาของกินในห้องแทน ปากก็พูดถามออกไปว่า “แฟนนายหรือ” นายแพทย์หนุ่มยังไม่ทันได้ตอบ คนที่ตั้งใจมาบอกเรื่องสำคัญก็จำต้องปิดปากแน่นไม่พูดเรื่องที่ตัวเองมีปัญหา แล้วค่อยลุกออกจากโต๊ะที่ใช้นั่ง บอกเขาออกไปอีกประโยค “แฟนสวยเนอะ สมกันดี” อาร์เธอร์ไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เธอพูด เขาเป็นห่วงคนกินได้ ที่จู่ ๆ หน้าก็ซีดขึ้นมาแบบนั้น ลุกตามแล้วถามแทรก “หน้าซีดขนาดนั้นจะเป็นลมหรือเปล่า นั่งลงก่อนแอน” อันนายกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง แล้วตอบกลับไป “ไม่ได้แต่งหน้าไง มันเลยซีด ๆ หน่อย” “กาแฟไหม” เสียงทุ้มยังถามไม่เลิก “ไม่เอา กินไม่ลง เหม็น ๆ ยังไงก็ไม่รู้” อาร์เธอร์เงียบพร้อมกับความสงสัยพุ่งเข้ามาในหัว “ปกติเห็นดื่มกาแฟตลอดเลยนี่ ทำไมถึงกินไม่ลง เหม็นอะไรหรือ” เธอชักหงุดหงิดมากขึ้น ไอ้หมอบ้านี่ทำไมชอบถามเซ้าซี้จังเลย อันนาเดินไปที่ประตู พร้อมกับเอ่ยลา “ไปนะ” “เดี๋ยวแอน” เสียงเรียกนั้นทำเอาอารมณ์ไม่ปกติของอันนาเหวี่ยงขึ้นไปด้านบนจนสุด กระแทกเสียงตอบคนเรียกไปว่า “หยุดเรียกว่าแอนได้แล้ว เราชื่ออันนา” แต่นายแพทย์อาร์เธอร์กลับดูจะไม่ได้สนใจเท่าไรนัก เขาเรียกหญิงสาวตรงหน้าว่าแอนมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็มีเขาเรียกแค่คนเดียวด้วย เคยมีคนเรียกอันนาว่าแอนตามเขาเหมือนกัน สมัยนั้นอาร์เธอร์ไม่พูดมาก เข้าไปต่อยทีเดียวก็ไม่มีใครกล้าเรียกแบบเขาอีก และเขาจะเรียกแบบนี้ไปตลอดเลย ใครจะทำไม อาร์เธอร์ถามรั้งคนที่จู่ ๆ ก็โผล่มาให้ใจเต้น มาให้เห็นหน้าในวันนี้ “ยังไม่บอกเลยว่าที่มานี่มีธุระอะไร”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD