9

1215 Words
ใจจังเลย พี่นวลทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวนด้วย รับไหมคะ” “ไม่ครับ ช่วงนี้ผมปาร์ตี้หนักไปหน่อย พุงชักจะบวม ๆ” ได้ยินว่าพุงบวม นวลอดมองมายังเธอไม่ได้ “ใช่เลยค่ะ คนทางนี้ก็ดูพุงบวม ๆ เหมือนกันนะคะเนี่ย พี่นวลนึกว่าตัวเองคิดไปเอง นี่แหละ ๆ น่าจะออกไปดื่มมาเยอะแบบคุณดา เป็นผู้หญิงน่ะ ก็อย่าเที่ยวออกไปดื่มมากนักสิคะ พี่นวลห่วงมากแค่ไหน รู้ไหมคะ” “รู้แล้วจ้า” อันนาส่งเสียงตอบทั้งที่ยังมีอาหารอยู่เต็มปาก ไม่อยากสบสายตาแฝดที่หน้าตาไม่ได้คล้ายกันเท่าไรแล้ว เพราะอันดาไปตกแต่งใบหน้าตามความชอบของตนเอง ดูแข็งแล้วก็ยาวกว่าหน้าคนทั่วไปเหมือนกับเหลาจากไม้อย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว จมูกก็เล็กลงและโด่งกว่าเดิม ปากเป็นกระจับเซ็กซี่กว่าเธอที่เป็นผู้หญิงอีกด้วย ไม่เสียชื่อเจ้าของโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งที่โกยเงินแค่วันเดียวก็เท่ากับรายได้ทั้งปีของเธอเสียอีก สายตาอันดามองที่เธอนิ่งคล้ายกำลังจับผิดอะไรอยู่ คนมีพิรุธร้องถามอย่างพาล ๆ ไปว่า “มีอะไร” อันดามองตอบ แล้วถามกลับแบบเดียวกันไปว่า “อะไร” “ก็แล้วมองทำไมนักล่ะ มีอะไร” อันดาถอนใจเบา ๆ ก่อนจะอ้อมโต๊ะ ตรงมาหาเธอแล้วก็กอดเอาไว้เสียแน่น “เป็นอะไรไม่รู้ อยู่ ๆ ก็คิดถึง” บ้าชะมัดเลย พอได้ยินคำว่าคิดถึงจากปากของแฝดพี่ก็ให้รู้สึกตื้นตันใจอย่างไรก็ไม่รู้ หรือก๋วยเตี๋ยวลุยสวนของพี่นวลจะเผ็ดจนเกินไป สูดน้ำมูกเบา ๆ ตอบเสียงสั่นเครือกลับไปว่า “อือ คิดถึงเหมือนกัน” อันดาคลายอ้อมกอด ยื่นหน้าลงมอง เอ่ยถามยิ้ม ๆ “ต้องร้องไห้เลยหรือ” “ไม่ได้คิดถึงมากจนร้องหรอกน่า ฉันเผ็ดก๋วยเตี๋ยวนี่ต่างหาก” แฝดพี่เลิกสนใจ หันหลัง เดินไปหยิบน้ำมาเปิดดื่ม แล้วเลือกที่นั่ง หยิบเรื่องนู้นเรื่องนั้นเรื่องนี้ที่พอจะสนทนากับเธอได้มานั่งถกกันหลังจากนั้น อันดาไม่ค่อยได้กลับบ้าน ลูกชายของแม่มีห้องพักที่แพงหูฉี่ที่อยู่ตรงใจกลางมหานคร อีกทั้งยังทำงานหนักมาก ๆ พ่อกับแม่ก็เลยไม่ค่อยจ้ำจี้จ้ำไชกับอันดานักว่าคืนนี้หายไปไหน ไปนอนกับใครมา ต่างกับที่เธอโดนแม่ถามอยู่เป็นประจำ ส่วนอัญญา น้องคนเล็กนั่นยังเรียนอยู่ ยัยตัวจ้อยนั่นยิ่งแล้วใหญ่ พ่อกับแม่แทบไม่แตะเลย ให้เรียน ให้เที่ยว ปล่อยให้โลดแล่นไปตามที่ใจอยาก ได้ข่าวว่าปีนี้เรียนจบแล้วก็จะหางานทำที่โน่นเลย ชาตินี้ไม่รู้ว่าจะได้เจอหน้ากันอีกไหม หลังจากกินก๋วยเตี๋ยวลุยสวนที่นวลทำคนเดียวจนหมดก็ค่อยกลับขึ้นไปบนห้องอีกครั้ง ตาเหลือบไปเห็นถุงใส่ที่ตรวจครรภ์แล้วก็ยิ่งคิดหนักมากยิ่งขึ้นไปอีก หรือเธอจะต้องไปบอกอาร์เธอร์เรื่องนี้ดี ครุ่นคิดอีกเดี๋ยวเดียวก็ได้คำตอบให้ตัวเองในเวลาต่อมา อันนาพาตัวเองเดินลงไปที่รถแล้วขับออกจากบ้าน เห็นขีดน้ำมันใกล้จะหมดก็แวะเติมที่สถานีบริการน้ำมันใกล้บ้าน จอดรถแช่อยู่ในนั้น คิดทบทวนว่าจะเอาแบบนี้จริงหรือ ก่อนขับรถวนไปมาอยู่ที่หน้าโรงพยาบาลที่ซึ่งนายแพทย์อาร์เธอร์ทำงานอยู่ที่นั่นเกือบสามรอบ จนพนักงานโบกรถหน้าโรงพยาบาลเริ่มจำรถของเธอได้แล้ว และกำลังจะรายงานหัวหน้าว่ารถของเธอน่าสงสัย แต่แล้วรอบสุดท้ายเธอตัดสินใจขับเข้าไปด้านในเสียก่อน ทางนั้นจึงลดวิทยุสื่อสารลง อันนาขับรถไปจอดที่ชั้นลานจอดรถภายในโรงพยาบาลแห่งนั้นเรียบร้อยแล้ว ค่อยเดินลงจากรถหาทางเชื่อมเข้าไปในตัวตึกจนเจอ จากนั้นก็เดินเอื่อยเฉื่อยไปยังด้านใน เธอไม่เคยมาหาอีตานี่ถึงที่ทำงานมาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ความทรงจำในวัยเยาว์ผุดเข้ามาในห้วงความคิด ตอนเด็ก ๆ แม่ของเธอพาไปทำกิจกรรมกับที่บ้านของอาร์เธอร์บ่อยมากถึงมากที่สุด วันเกิด วันพ่อ วันแม่ วันเด็ก ปีใหม่ สงกรานต์ เข้าพรรษา ออกพรรษา เช็งเม้ง ตรุษจีน ทุก ๆ เทศกาลก็จะเจอกันบ่อย จนโตแล้วก็ยังได้เจอกันอยู่เรื่อย ๆ เพิ่งจะมาสองสามปีนี้เองที่ไม่ค่อยได้เจอกัน ยิ่งมาปีนี้ด้วยนะ ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา เธอไม่ได้เจอหน้าอาร์เธอร์เลย ได้เจอกันคืนนั้น เมื่อสองเดือนก่อนก็ได้เรื่องทันที อาร์เธอร์เมาแล้วก็ปล้ำเธอแบบไม่ลืมหูลืมตา เธอทั้งดิ้น ทั้งทุบ ทั้งด่า ถีบก็แล้วแต่ยังไม่หลุดออกจากพันธนาการของไอ้หมอบ้านั่นเลย คิดแล้วเครียดจนพานให้อยากจะอาเจียนออกมา เพราะเธอกับอาร์เธอร์ไม่ต่างจากพี่น้องกันเลย พอมาเกิดเรื่องแบบนี้ก็ให้รู้สึกไม่ดีขึ้นมาอีกแล้ว เมื่อเดินมาสอบถามกับทางพนักงานประชาสัมพันธ์ เลยได้รู้ว่าอาร์เธอร์ออกตรวจอยู่ ห้องทำงานของเขาอยู่ที่แผนกไหน บนชั้นที่เท่าไร ก็ค่อยพาตัวเองเดินเข้าลิฟต์ตรงขึ้นไปบนนั้น ไปถึงก็พบว่าแผนกที่ว่ามีผู้ป่วยนั่งรอไม่มาก กวาดสายตามองหาอาร์เธอร์จนรอบแผนกก็ไม่เจอ ก่อนจะขวัญผวา ตกใจเมื่อเห็นร่างกายสูงใหญ่ในชุดสุภาพสวมทับด้วยกาวน์สีขาวตัวยาวยืนนิ่งตรงด้านหลังของเธอนี่เอง “ไม่สบายหรือ” เสียงทุ้มเอ่ยถามเธอก่อน อันนาสูดลมหายใจเข้าช้า ๆ ก็ได้กลิ่นน้ำหอมแบบผู้ชายผสมกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อจาง ๆ จากอาร์เธอร์ลอยเข้ามาเตะจมูกก็ให้รู้สึกดี ไม่คลื่นเ**ยนอีกต่อไป พร้อมกับกระบอกตาที่ร้อนผ่าวขึ้นมาเสียอย่างนั้น เกิดอารมณ์อยากร้องไห้อะไรตอนนี้ เป็นบ้าอะไรเนี่ย “เป็นอะไร” เสียงถามของอีกฝ่ายอาทรผิดจากอาการคึกเหมือนม้าอย่างเช่นคืนนั้นลิบลับ อันนายกมือขึ้นปาดดวงตาแรง ๆ เช็ดหยดน้ำตาออกได้ไม่หมดดีนัก หันหลบเขา ส่งเสียงตวาดกลับไปเบา ๆ ว่า “เลิกพูดเหมือนเรายังเป็นเด็กได้ไหมอาร์ธ” “มานี่ก่อนมา” นายแพทย์อาร์เธอร์จับข้อมือของเธอให้ตรงไปยังห้องว่างที่เป็นห้องพักแพทย์ ดึงเก้าอี้ที่เขานั่งประจำออกมาให้เธอนั่ง แล้วเดินไปหยิบน้ำในแก้วพลาสติกใสแบบดื่มแล้วทิ้ง เจาะหลอดพร้อมดื่มส่งให้ตรงหน้า อันนารับมาแล้วก็หน้ามุ่ยบ่นไปว่า “ห้องนี้เหม็นของกินมากเลย” อาร์เธอร์มองเธอยิ้ม ๆ เอ่ยเย้าขึ้นว่า “ไม่เคยเห็นบ่นเหม็นของกินเลยนะ ท้องหรือไง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD