เสียงทุ้มที่เรียกด้วยความอาทรดังมาจากอีกทิศทางของเก้าอี้ ถ้าหูไม่ฝาด นั่นมันเสียงของรุ่นพี่ที่เธอแอบรักอยู่นี่นา พยายามจะลุกขึ้นนั่งอย่างเดิม แต่แล้วก็ทำได้ยากเหลือเกิน พอตั้งสติได้ ไม่แขม่วท้องอีกแล้วก็ค่อยคลายอาการเจ็บลงเรื่อย ๆ อันนาตบท้องตัวเองอย่างคาดโทษ พร้อมกับนึกในใจว่าพรุ่งนี้จะรีดเอาที่ป่อง ๆ นี่ออกให้หมดเลยคอยดู
แล้วดันตัวขึ้นนั่ง ขานรับคนเรียกเสียงหวานเท่าที่คนอย่างอันนาจะหวานได้
“คะพี่ต้นปัณ”
“เป็นไงบ้าง”
คงเห็นเธอนอนฟุบลงไปเลยห่วง ขออ้อนสักหน่อยก็แล้วกัน “อันปวดท้อง”
เสียงหัวเราะดังลั่นพร้อมแรงสั่นน้อย ๆ จากเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่เธอกำลังจะลุกไปเอนหัวซบเขาเสียหน่อย จนต้องเงยหน้ามองไปทางนั้นให้เต็มตา แต่กลับกลายเป็นอมยิ้ม เพื่อนสนิทอีกคนในกลุ่มนั่นเอง
“เดี๋ยวนะอันอัน เพื่อนเองย่ะ อย่าเพิ่งส่งเสียงอ้อนขนาดนั้น ฉันอยากจะสำรอก”
เสียงทุ้มเมื่อครู่ไม่ใช่เสียงของปัณณวัฒน์หรอกหรือ แหงนมองให้ชัดก็ค่อยพบว่าเป็นเพื่อนตัวแสบนี่เอง
“ยิ้มแกงอันอันอีกแล้วนะ”
กุ๊กเก๋ทำเป็นดุอมยิ้ม แต่ก็ขำดังลั่น พร้อมยกมือแตะกับมือของอมยิ้มไปด้วย ที่แกล้งเธอสำเร็จ เลยลุกขึ้นไปดีดหน้าผากเพื่อนคนละทีด้วยความโมโห
เสียงเพื่อนบ้านี่โทนเดียวกับปัณณวัฒน์เลย หลอกเธอได้ทุกที
“พี่ต้นปัณล่ะ”
“รับสายอยู่นู่น” อมยิ้มบอกพร้อมบุ้ยปากบอกว่าเจ้าของวันเกิดอยู่ตรงไหน ก่อนจะก้มลงกระซิบกระซาบข้างหูว่า “แต่ฉันเห็นพี่เขาแอบมองแกอยู่นะเว้ยอันอัน”
อันนาส่งเสียงจิ๊เบา ๆ ในปาก โบกมือให้เพื่อนหยุดแซว
“มา ๆ ถ่ายรูปไปยั่วนังสนกันหน่อยพวกเรา”
อมยิ้มเพื่อนจอมยั่วโมโหรวบคอเธอกับกุ๊กเก๋เข้าไปกอด แล้วเซลฟี่กับภาพบรรยากาศภายในงาน ก่อนกดส่งไปยังเพื่อนอีกคนที่ไม่ได้มาปาร์ตี้ด้วย
“เดี๋ยวสนมันก็โทรมาด่าอีกหรอก”
“มันไม่มีเวลาด่าพวกเราหรอก ป่านนี้คงหัวฟูกับรีสอร์ตในฝันของมันอยู่แหละ” อมยิ้มกดถ่ายรัว ๆ แล้วเลือกภาพที่ตนเองสวยสุดในบรรดาภาพที่ถ่ายส่งไปยั่วเพื่อนสนิทในกลุ่มที่ว่านั่น ก่อนจะขำก๊ากเมื่อใบสนส่งสติกเกอร์โมโหพร้อมด่าสั้น ๆ ตอบกลับมา
กุ๊กเก๋ถามพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปมองที่หน้าจอโทรศัพท์ของอมยิ้ม
“มันว่าไงมั่ง”
“จะว่าอะไร ก็ด่าน่ะสิคะ” อมยิ้มขยายภาพในโทรศัพท์ให้เธอดูพร้อมกับติตามประสาไปว่า “รูปแกดูบวมอืดมากเลยว่ะอันอัน กินเยอะหรือไงวะ”
“ไหน”
กุ๊กเก๋ชี้มือมาที่เธอ เพราะภาพออกมาไม่ได้สวยแบบทุกที เห็นด้วยกับอมยิ้ม “เออ จริงด้วยว่ะ อัน แกบวมมากเลยนะ”
“ท้องเปล่าเนี่ย”
“ตลกเหอะ ฉันจะไปท้องกับใคร ท้องผูกสิไม่ว่า”
“ก็กับหมอหล่อที่ฉันช่วยแกลากกลับห้องคืนนั้นไง แกกลับออกมาทีหลังฉันนะ ไม่ใช่ว่าปล้ำหมอคนนั้นไปแล้วหรือ”
อันนานึกถึงเหตุการณ์นั่นได้ในทันที
คืนนั้นเธอออกไปนั่งดื่มกับอมยิ้มที่คลับของรุ่นพี่ แต่แล้วดันเห็นอาร์เธอร์เดินเข้ามาในคลับพอดี ก็เลยนั่งหันหลังให้ ไม่อยากเจอหน้ากัน แต่แล้วก็อดเหลือบมองไม่ได้
เผลอแวบเดียว ทางนั้นก็ฟุบลงกับโซฟาไปแล้ว พอเห็นอย่างนั้นก็สะกิดอมยิ้มให้ไปดู เพราะคนที่นั่งดื่มด้วยลุกหายไป ก่อนจะช่วยกันลากขึ้นรถของเธอ แล้วพากลับห้องพัก อมยิ้มช่วยหามขึ้นห้องแล้วก็บอกว่าจะขอออกไปก่อน แฟนหนุ่มที่เพิ่งคั่วกันได้ไม่นานโทรตามจิกแล้ว ท่าทางจะงอนซะด้วย
เธอเองก็จะกลับออกไปเช่นกัน แต่กลับได้ยินเสียงครางฮือดังมาจากอาร์เธอร์ พอเข้าไปดูก็ถูกไอ้หมอบ้านั่นดึงลงไปบนที่นอน จับเธอปล้ำจนถึงเช้านั่นไง
“อัน!”
เสียงเรียกดึงเธอออกมาจากภาพเหตุการณ์ในคืนนั้น
อันนาหันมามองเพื่อน ร้องตอบไปว่า “หืม”
“ยิ้มมันบอกให้แกสารภาพรักกับพี่ต้นปัณคืนนี้ไปเลย เอาไงวะ”
“วันเกิดเขาเนี่ยนะ ไม่เอา เดี๋ยวเขาซวยขึ้นมาแล้วไม่ชอบฉัน แล้ว แล้ว แล้ว” เธอพูดได้แค่นั้น ก็ร้องว่า “มาแล้ว ๆ พี่ต้นปัณมาทางนี้แล้วอะ ทำไงดี ทำไงดีวะ”
ทั้งอมยิ้มและกุ๊กเก๋พากันหัวเราะ ไม่มีใครช่วยเธอเลยแม้แต่คนเดียว จนในที่สุดเจ้าของวันเกิดก็เดินมาหยุดตรงข้าง ๆ เธอ มองเธอด้วยรอยยิ้มแสนอบอุ่น ก่อนจะปรายตามองคนอื่น ๆ บนโต๊ะ เอ่ยปากทักขึ้นว่า
“ไง สาว ๆ ขอโทษด้วยนะ พี่ติดแขกผู้ใหญ่ทางโน้น เลยไม่ได้แวะมาทักทายพวกเราเลย”
“ก็แล้วทำไมไม่รีบแวะมาทักล่ะครับพี่ต้นปัณ”
อมยิ้มแซวเจ้าของวันเกิดแล้วส่งสายตาบอกให้กุ๊กเก๋ลุกออกจากโต๊ะไปเสีย เพื่อที่เพื่อนตัวดีจะได้มีเวลาตามลำพังกับชายที่ตนเองแอบมีใจให้
กุ๊กเก๋เห็นสายตาของอมยิ้มแล้วก็บอกขึ้นว่าจะไปหยิบเครื่องดื่มทางนู้นหน่อย ปล่อยให้เธอนั่งกับปัณณวัฒน์สองคน
อันนาออกร้อน ๆ หนาว ๆ ไปหมดทั้งใบหน้าและเรือนกาย รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ทุกที เธอประหม่าทุกครั้งเมื่อได้ใกล้ชิดกับชายหนุ่มรุ่นพี่ แล้วก็ค่อยนึกได้ คว้าเอาของขวัญมาส่งให้ถึงมือเขาพร้อมกับบอก
“แฮปปีเบิร์ธเดย์ค่ะพี่ต้นปัณ”
“ครับผม ขอบคุณมากนะ” ปัณณวัฒน์จ้องหน้าเธอนิ่ง ๆ ก่อนจะถามพร้อมด้วยสายตาเหมือนกับรอคอยอะไรบางอย่างจากเธออยู่ “อันไม่มีอะไรจะบอกพี่อีกหรือ”
อันนามองสบตากับชายหนุ่มรุ่นพี่แล้วก็อ้าปากอยากจะพูดสิ่งที่อัดแน่นในใจออกไปให้อีกฝ่ายได้รู้
“มีค่ะ”