ตอนที 3 มายืนจูบกันในที่สาธารณะได้ไงกัน

2046 Words
กิ่งกาญใช้เวลาในการอาบน้ำ ประมาณ 15 นาที และตอนนี้เธอก็พร้อมจะไปทานข้าวเย็นแล้ว เพราะเธอกำลังหิวมาก ถึงมากที่สุดในตอนนี้ กิ่งกาญ แต่งตัวด้วยชุดเสื้อยืดสีขาว เข้ารูปกับกางเกงขาสั้นสีฟ้า ผมที่ปล่อยสยายเมื่อสักครู่ถูกรวบและมัด ไว้กลางศีรษะและปล่อยให้ลูกผม ระมาตามใบหน้า และต้นคอระหงประปราย ยิ่งทำให้เธอเหมือนเด็กน้อยยิ่งขึ้นไปอีก กิ่งกาญสาวเท้าเร็ว ๆ ไปที่โรงแรม และเธอรู้สึกว่า ทำไมโรงแรมมันถึงได้อยู่ไกลจังเลย เพราะตอนนี้เธอทั้งเหนื่อยทั้งหิวด้วย “ไปถึงจะกินให้หนำใจเลย เฮ้อ ทำไมมันไกลอย่างนี้ หิวจะตาลายแล้ว เฮ้อ ตอนนี้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักเขียนไส้แห้งเลย ไม่มีอะไรจะกิน และก็หิวโซ” “โอ๊ะ ถึงแล้ว อาหารจ๋า กิ่งมาแล้ว ฮือ หิวเหลือเกิน “ กิ่งกาญสาวเท้าเดินเข้าไปในโรงแรม อย่างรวดเร็ว ขณะที่กำลังก้าวเท้าฉับ ๆ นั้น ก็พอดีกับที่ลิฟท์กำลังเปิดออก กิ่งกาญรีบวิ่งตรงไปที่ลิฟท์ เพื่อจะขึ้นไปยังชั้น ที่เป็นห้องอาหารของโรงแรม อย่างรวดเร็ว “รอด้วยคะรอด้วย “กิ่งกาญ ตะโกนมาแต่ไกลและวิ่ง กระหืดกระหอบ มาที่ลิฟท์ ขณะที่ประตูลิฟท์กำลังจะปิดและกิ่งกาญได้แต่ยืนมองอย่างหมดหวัง เพราะเธอคงต้องรอ ลิฟท์อีกพักใหญ่เลย แต่ว่าเธอหิวจนจะเป็นลมอยู่แล้วขณะที่เธอยืนก้มหน้าเตะเท้าไปมาอย่างเซ็ง ๆ แต่แล้วประตูลิฟท์ก็เปิดออกอีกครั้ง ทำให้กิ่งกาญเงยหน้ายิ้มออกมาอย่างดีใจและรีบเดินเข้าไปในลิฟท์ อย่างรวดเร็ว “ขอบคุณค่ะ “เมื่อเข้ามาในลิฟท์ กิ่งกาญก็หันมาเพื่อจะขอบคุณคนที่กดลิฟท์รอเธอเมื่อสักครู่ และเมื่อเธอหันมาเห็นคนที่ยืนอยู่ในลิฟท์ ดวงตากลมโตต้องเบิกโพรงและขมวดคิ้วในเวลาเดียวกัน นายหัวเดชเองก็ได้แต่ แปลกใจที่เห็นเด็กสาวอีกครั้งก่อนจะมองเธอด้วยสายตาคมวาวไม่วางตา ยิ่งเห็นใกล้ ๆ แบบนี้ เธอยิ่งสวยน่ารัก มาก ๆ “คุณคือ ลุงคนนั้นนี่นา “ คำทักของคนตรงหน้าทำให้เขาแทบสะอึกและทำหน้าไม่ถูกเลย “อะไรนะ เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ “ “อ้าวคุณลุงเจอกันอีกแล้วนะคะ ขอบคุณนะคะ ที่กดลิฟท์รอค่ะ “กิ่งกาญยังคงพูดเจื้อยแจ้ว ไม่หยุด แต่คนที่ถูกเรียกว่าลุงได้แต่ขบกรามแน่น นี่เขาแก่ขนาดนั้น เลยเหรอ ถึงต้องเรียกเขาว่าลุงอย่างนี้ นะ ส่วนอีกคนที่ตอนนี้ทำหน้าอมยิ้มอย่างกลั้นขำก็นั่นเอง “นี่ “ ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยตอบ เสียงประตูลิฟท์ดังติ้ง แล้วก็เปิดออก และก็เป็นชั้นที่เป็นห้องอาหารของโรงแรม กิ่งกาญจึงก้าวเท้าเดินออกไปทันที โดยที่ชายหนุ่มยังพูดไม่ทันจบด้วยซ้ำ เขาจึงได้แต่มองตามหลังเธอไป เท่านั้น “เด็กบ้า ฝากไว้ก่อน”นายหัวเดชได้พึมพำเสียงเบา ...................................... กิ่งกาญ เมื่อทานข้าวเย็นเสร็จแล้ว ตอนนี้ก็เป็นเวลา เกือบจะ 2 ทุ่มเข้าไปแล้ว และตอนนี้เธอยืนอยู่ที่หน้างานเลี้ยงวันเกิด ของลูกค้าของโรงแรมที่ วิภาบอก ตอนแรกเธอ ก็ว่าจะกลับบังกะโลของเธอ เมื่อทานข้าวเสร็จ แต่พอดี วิภาเพื่อนรักโทรให้มาหาที่นี่ ก่อน เธอจึงได้มายืนอยู่ตรงนี้ เพื่อรอเพื่อนรักที่อยู่ด้านใน ก่อนจะหันรีหันขวางมองหาวิภา และหันหลังกลับเพื่อที่จะเดินไปที่โซฟาที่เธอวางกระเป๋าเธอไว้ ห่างออกไป เธอหันหลังจะเดินไปนั่งรอที่เดิม เมื่อเดินเข้ามาใกล้ เธอก็ต้องตัวแข็งทื่อกับภาพตรงหน้าที่เธอเห็นตอนนี้ ภาพชาย หญิงกำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม กิ่งกาญ ได้แต่ยืนนิ่งมอง คนทั้งคู่อย่างไม่วางตา ในตอนแรกเธอก็ตกใจ แต่ตอนนี้เธอกำลัง ขมวดคิ้ว เพราะสมองเธอกำลังประมวลผลและคิดไปถึงบทนิยายที่เธอเขียน การแสดงท่าทางสีหน้าและอารมณ์ของทั้งคู่ไหนจะเสียงที่เปล่งออกมาอีก “มันก็เหมือนกับที่เราเขียนนี่นา “กิ่งกาญยืนมองนิ่ง เพ่งมอง ริมฝีปากหนาของชายคนนั้น ที่บดจูบหญิงสาวสวย และถ้าเธอมองไม่ผิด หญิงสาว คนนั้น กำลัง พยายามสอดลิ้นเล็กไล้เลียริมฝีปากหนาของเขาอยู่ และดูเหมือนผู้ชายจะไม่ค่อยจะยอมร่วมมือเท่าไหร่ และเมื่อมองดี ๆ เธอก็ต้อง ตกใจอีกครั้ง เพราะนั่นมันตาลุงที่อยู่ในลิฟท์นี่นา กิ่งกาญได้แต่ จ้องมองนิ่ง แต่เธอก็ต้องตกใจกับความคิดของตัวเองว่าถ้าเธอเป็นผู้หญิงคนนั้นที่กำลังจูบกับตาลุงนั่น จะรู้สึกยังไง “โห ลุง ร้ายไม่เบานะเนี๊ยะ แต่จะว่าไป ถ้าเราจูบแบบนั้น เราจะรู้สึกยังไงนะ “กิ่งกาญได้พึมพำอีกครั้ง และก็เผลอกัดปากตัวเอง อย่างใช้ความคิด “ไอ้กิ่ง มายืนอยู่นี่เอง “เสียงเอ่ยดังมาจาก ด้านหลัง ทำให้ คนทั้งสามหันไปมองที่ต้นตอของเสียงพร้อม ๆ กัน ด้วยความตกใจ และกิ่งกาญก็รีบเดินมาที่เพื่อนรักอย่างรวดเร็ว “เดือน หยุดก่อน “เสียงห้าวเอ่ยห้ามหญิงสาวเมื่อตอนนี้ มือบางไม่อยู่นิ่ง ยังคงลูบไล้ ที่อกแกร่งของเขา และพยายามเงยหน้าจะจูบเขาต่อ “ทำไมละคะ นายหัว เรามาต่อกันดีกว่านะคะ อย่าไปสนใจคนไร้มารยาทพวกนั้นเลยค่ะ”เดือนเต็มเอ่ยเสียงหวาน และมือก็ยังไม่หยุด ลูบไล้ร่างหนาของเขา แต่มือหนาของนายหัวเดชก็พยายามที่จะดึงมือเธอออกเช่นกัน เพราะถ้าเมื่อกี้เธอไม่จู่โจมโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว ละก็ เขาคงจะไม่จูบกับเธอ แบบนั้นแน่ “อะแฮ่ม ขอประทานโทษนะคะ ที่มาขัดจังหวะ ค่ะ”เสียงกระแอมไอของกิ่งกาญทำให้ คนทั้งคู่ต้องหันมองอีกครั้ง เมื่อเห็นเธอเดินกลับมาอีกรอบ และ กิ่งกาญก็เดินผ่านทั้งสองคนไปหยิบกระเป๋าของเธอที่วางอยู่ที่โซฟาและกำลังจะเดินผ่านทั้งคู่อีกครั้ง แต่เมื่อกำลังจะเดินผ่าน เท้าเล็กก็หยุดและใบหน้าสวยน่ารักของเธอก็หันมามองทั้งคู่ แล้วก็เอ่ยเสียงเบา “เอ่อ ฉันไม่ใช่คนไร้มารยาทนะคะ แต่ว่า คุณลุงกับแฟนก็ต้องดูสถานที่ด้วยสิคะ ว่ามันสมควรไหม จะได้ไม่ทำให้คน ปกติทั่วไปที่มาเห็นบทพิศวาสของพวกคุณ แล้วกลายเป็นคนไร้มารยาทนะค่ะ สถานที่แบบนี้ เหมาะไหม ก็น่าจะคิดได้นะคะ อ้อลุง แก่แล้ว หักห้ามใจตัวเองบ้าง ทางที่ดี เปิดห้องดีกว่านะ เพราะนี่มันที่สาธารณะ ค่ะ แขกคนอื่น ๆ ก็มี คิดเยอะ ๆ หน่อยนะคะ ก่อนจะว่าคนอื่นว่าไร้มารยาท นะ ฝากไว้ให้คิดค่ะ ขอตัวค่ะ “ กิ่งกาญเอ่ยยืดยาว ก่อนจะเดินตรงไปหาวิภาที่ยืนห่างออกไป อย่างรวดเร็ววิภาได้แต่มองใบหน้าหล่อของเขา และเธอก็นึกขึ้นได้ว่าคือผู้ชายที่เห็นที่สนามบินนั่นเอง “นี่เธอ “อีกแล้ว นายหัวเดชพูดได้แค่นั้นอีกแล้ว เพราะตอนนี้เธอเดินห่างออกไปไกลแล้ว ก่อนที่เขาจะหันมาที่ เดือนเต็ม อีกครั้ง “คุณรู้จักเด็กคนนั้นเหรอคะ นายหัว ไร้มารยาทจริง “เดือนเต็มเอ่ยเสียงไม่พอใจเมื่อเธอถูกเด็กเมื่อวานซืน พูดจา กระทบไม่สิเรียกว่า พูดจาแดกดันมากกว่าแบบนี้ “ผมขอตัวนะ เดือน และผมคงไม่เข้าไปในงานอีกนะ คงจะกลับเลย ขอตัวนะ “นายหัวเดชบอกเธอด้วยน้ำเสียงเข้ม ก่อนจะก้าวเท้าเดินออกมาจากตรงนั้นและตรงไปที่ลิฟท์ เพื่อจะลงไปด้านล่างและกลับบ้าน แต่เมื่อเดินมาถึงหัวมุม ที่จะไปที่ลิฟท์เท้าหนาก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อได้ยินเสียงคนสองคนกำลังคุยกันอยู่ และเขาจำเสียงนั้นได้ ยัยตัวแสบนั่นเอง เดชได้นิ่งฟังว่าเธอคุยอะไรกัน “ฮึ ฉันขอเสียมารยาทหน่อยนะ ยัยตัวแสบ”จากนั้นนายหัวเดชก็ยืนแอบฟัง ทั้งสองคนคุยกัน “วิ แก มีอะไร หรือเปล่า หรือว่าจะให้ฉันรอแกกลับบังกะโลพร้อมกันเหรอ แกเปลี่ยนใจจะไปพักที่บังกะโลกับฉันใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันนั่งรออยู่แถวนี้แหละ “ “แต่มันคงจะดึกนะ กิ่ง ฉันว่าแกกลับไปทำงานของแกก่อนก็ได้นะ แล้วฉันจะตามไปเมื่อเสร็จงานแล้ว “ “เอาอย่างนั้นเหรอ “ “อือ อย่างนั้นละ ว่าแต่เมื่อกี้ แกทำอะไรอยู่ ตั้งนาน “ “อ้อ ฉันดูคนจูบกัน “ “อะไรนะ ไอ้กิ่ง ไอ้บ้า แกไปเสียมารยาทแอบดูเขาได้ไง” “ก็เขามายืนจูบกันในที่สาธารณะแบบนั้น ใครกันที่เสียมารยาท ไอ้วิแกคิดดู และอีกอย่างฉันก็อยู่ตรงนั้นก่อนที่พวกเขาจะมาแสดงฉากเลิฟซีนกัน ด้วย “ “เออ ๆ แล้วแบบนี้ พวกนั้นคงโกรธแกแย่เลยเหรอวะไปขัดจังหวะความสุขเขาแบบนั้นนะ แล้วแกก็อีกคน ไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไง ไปยืนดูเขาจูบกันแบบนั้นนะ “ “อือ ไม่อะ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าพวกเขารู้สึกแบบไหนเวลาที่จูบกันแบบนี้ “ “ไอ้ กิ่ง นี่แกอายุตั้ง 24 ปีแล้วผ่านมาหลายฝนแล้ว แม้แต่จูบแกก็ไม่เคยเลยหรือไง แล้วแบบนี้เวลาแกเขียนนิยาย ของแกนะ แกจะบรรยายบทเลิฟซีนของแกได้ไงวะ ถ้าหากแกยังไม่รู้ว่า ความรู้สึกจริง ๆ มันเป็นยังไง นะไอ้กิ่ง “ วิภาถามเพื่อนรัก ก่อนจะอมยิ้ม เมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนรักในตอนนี้ แต่คนที่ยิ้มมากกว่า วิภากลับเป็นคนที่ยืนแอบฟัง พวกเธออยู่ในตอนนี้ต่างหาก ตอนแรกเค้าคิดว่าเธอน่าจะเป็นประเภทเด็ก ปี 1 แสบ ๆ กวน ๆ แถมมาเรียกเขาว่าลุงอีก แต่เมื่อเขารู้อายุจริงของเธอ ตอนนี้ ทำให้ นายหัวหนุ่ม ยิ้มมากกว่าเดิม อีก ใช่เธอไม่เด็กแล้ว ก็แค่หน้าเด็กไปหน่อยเท่านั้นเอง แต่เขากลับชอบจัง “เฮ้อ นี่แหละ ปัญหาใหญ่ของฉัน เพราะคอมเม้นท์พวกนั้นละ ทำให้ฉัน จิตตกอยู่ในตอนนี้ แกก็รู้นี่ไอ้วิ แกยังจะมาซ้ำเติมฉันอีก “ “เออรู้ นี่กิ่งแกไม่ลอง มองหาคนที่แกจะสามารถมอบจูบแรกของแกให้เขาดูวะ แล้วจะได้รู้ไงว่าการจูบมันจะรู้สึกยังไง ดูจาก หนัง วีดีโอ มันไม่เหมือนกันหรอกนะ “ “ไอ้บ้า ไม่มีทาง จูบแรกของฉัน จะต้องมอบให้คนที่ฉันรักยะ “ “เฮ้อ แกก็เพ้อฝันถึงรักแรก อีกแล้วไอ้กิ่ง มันไม่มีหรอกนะ ไม่เอาละฉันไม่คุยแล้ว แกกลับบ้านไปก่อน ฉันเครียล์งานเสร็จจะตามไป ไปเถอะ” “อือ แกไปทำงานเถอะ แล้วเจอกันที่บ้าน ไปละ” กิ่งกาญพูดจบ ก็เดินไปที่ลิฟท์ เพื่อจะลงไปชั้นล่าง “ให้พนักงานของโรงแรมขับรถไปส่งนะ กิ่ง “ “อือ ไปละ “ พูดจบพร้อมกับประตูลิฟท์ปิดลง และ วิภาก็เดินไปที่ห้องจัดเลี้ยง และนายหัวเดชก็ก้าวออกจากมุมและเดินไปที่ลิฟท์ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ****************************************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD