“จะไปไหน” ฐานทัพจ้องมองดวงหน้าตื่นกลัวนั้นด้วยสายตาดุดัน ลูกสาวก็คงไม่ต่างกันกับพ่อ เห็นเงียบๆดูไร้เดียงสา แต่พอสบโอกาสกลับแว้งกัดเอาเสียจมเขี้ยว ถึงเวลาที่เขาจะเอาคืนบ้างแล้ว
“ดอกแก้วจะกลับบ้านค่ะ” พวงดอกแก้วตอบเสียงสั่น หน้าตาเขาน่ากลัวจนเธอต้องรีบก้มหน้าหลบ
“ไม่ได้ยินที่ผมตกลงกับพ่อคุณเหรอ” หญิงสาวพยักหน้ารับด้วยความอดสู
“ได้ยินค่ะ แต่คุณนัดจ่ายตังค์ให้คุณพ่อวันพรุ่งนี้” คิ้วเข้มเลิกสูงมองคนตรงหน้าอย่างประเมิน ฐานทัพหัวเราะในลำคอ เป็นเสียงหัวเราะที่เขย่าประสาทเธอจนแทบเข่าอ่อน
“อย่ามาบ่ายเบี่ยงเลยพวงดอกแก้ว ไหนๆใครๆเขาก็เข้าใจว่าผมกับคุณมีอะไรกันไปแล้วนี่ จะวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็คงไม่ต่างกันหรอก” ท่าทางคุกคามของชายหนุ่มทำให้พวงดอกแก้วขวัญผวา หญิงสาวถูกเขาต้อนให้เดินถอยหลังไปจนชนกับขอบโต๊ะ
“หมดเวลาของจอมลวงโลกอย่างคุณแล้วพวงดอกแก้ว ผมจะเรียกคืนให้คุ้มกับเงินสิบล้านที่ต้องเสียไป” ร่างสูงรุกประชิดอุ้มเอาคนที่ยืนตกตะลึงขึ้นพาดบ่า พวงดอกแก้วไม่กล้าดิ้นรนหรือทุบตีเขา ไม่กล้ากรีดร้องโวยวาย ได้แต่ยอมจำนนให้กับชีวิตที่ไม่ได้กำหนดเอง ชีวิตที่ต้องยอมตลอดมา บิดาของเธอก็เหลือเกิน ท่านเดินออกจากบ้านเขาไปโดยไม่สนใจว่าลูกสาวคนเล็กจะเดินตามไปด้วยหรือเปล่า ท่านคงจงใจจะทิ้งเธอไว้กับเขาที่นี่ เพื่อจะได้มั่นใจว่าเขาจะไม่บิดพลิ้วเรื่องเงินตามที่ตกลงกันไว้ หญิงสาวนึกน้อยใจกับชะตาชีวิตตัวเอง ถ้าเพียงแต่วันนั้นเธอไม่เป็นลม แล้วเขาไม่อุ้มเธอขึ้นลิฟท์ไปยังห้องผู้บริหาร บิดาของเธอก็คงไม่สามารถเอาเธอมาเป็นข้อต่อรองราวกับสิ่งของแบบนี้ได้
ภาพและเรื่องราวที่เป็นข่าวของหญิงสาว ที่ใครๆต่างก็รู้กันว่าเป็นลูกสาวคนเล็กของคุณกิตติอดีตเจ้าของห้างสรรพสินค้าชั้นนำของประเทศ ถูกชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของห้างคนใหม่อุ้มขึ้นลิฟท์แล้วหายไปนานสองนาน ทำให้บิดาของเธอยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ ท่านไม่สอบถามความจริง ไม่ดุด่าลูกสาวด้วยซ้ำ ท่านเพียงแต่ออกคำสั่งให้เธอรีบแต่งตัว แล้วพาเธอมาที่บ้านหลังใหญ่ของชายหนุ่มผู้ตกเป็นข่าวกับเธอ พร้อมกับถือหนังสือพิมพ์ฉบับที่มีรูปภาพตอนที่เขาอุ้มเธอเข้าไปในลิฟท์ติดมือมาด้วย หลังจากต่อรองกันแล้วสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการที่เธอต้องตกเป็นผู้หญิงของเขา โดยที่เธอไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย
“ว้าย!” พวงดอกแก้วร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อถูกทุ่มลงบนเตียงกว้าง หญิงสาวรีบลุกขึ้นกวาดสายตามองรอบกายด้วยความตื่นกลัว ก่อนจะรีบก้มหน้าเมื่อเขาพูดขึ้นด้วยเสียงดังแฝงไปด้วยความกรุ่นโกรธ
“เก่งนี่ แสดงละครได้เก่งมาก วันก่อนวางแผนแกล้งเป็นลมเพื่อให้ผมอุ้ม แล้วให้คนแอบถ่ายรูปไปขายเป็นข่าว มาวันนี้พ่อลูกก็รวมหัวกันมาขู่ให้ผมรับผิดชอบ ทั้งๆที่คุณก็รู้ว่าระหว่างเรามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณนี่มันงูเห่าชัดๆ ผมไม่น่าหลงกลใบหน้าซื่อๆของคุณเลยพวงดอกแก้ว” ฐานทัพสะกดหญิงสาวไว้ด้วยสายตาคมดุ เขานั่งลงบนเตียงเชยคางเล็กขึ้นให้เธอมองสบตากัน
“กลัวเหรอ กลัวแล้วทำแบบนี้ทำไม” ดวงตาคู่งามเอ่อคลอด้วยน้ำใสๆ ใบหน้าตื่นกลัว และอาการสะดุ้งทุกครั้งที่เขาขู่ตะคอกถามทำให้ฐานทัพรู้ว่าเธอกลัว หากแต่หญิงสาวกลับไม่ยอมรับ ไม่ปฏิเสธ และไม่อธิบายว่าเหตุใดจึงเกิดเรื่องบ้าๆแบบนี้ขึ้นได้ เมื่อเห็นเธอนิ่งเงียบ เขาจึงบีบคางเล็กบังคับให้เธอจ้องหน้าเขา
“เงินสิบล้านไม่ใช่น้อยๆนะพวงดอกแก้ว ผมจะเอาคืนอย่างสาสม ต่อจากนี้ไปคุณคือผู้หญิงของผม ตำแหน่งของคุณคือนางบำเรอ”
“นางบำเรอ” พวงดอกแก้วทวนตำแหน่งที่ถูกเขายัดเยียดให้ด้วยเสียงแผ่วเบา เจ็บปวดกับชีวิตที่เลือกและกำหนดเองไม่ได้
“พร้อมหรือยัง” ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง เมื่อร่างสูงใหญ่เริ่มคุกคามเนื้อตัว
ของตนเอง
“ยะ...ยังไม่พร้อมค่ะ” มันเร็วเกินไป เธอยังไม่ได้เตรียมตัวมาเพื่อใครทั้งนั้น
“ยังไม่พร้อมก็ไม่ควรจะเสนอหน้ามาต่อรองนะ” ถ้อยคำเสียดสีนั้นทำให้หญิงสาวก้มหน้า
“พรุ่งนี้ได้มั้ยคะ ดอกแก้วขอเป็นวันพรุ่งนี้ได้มั้ยคะ” เธอต่อรองออกไปด้วยเสียงเบาแผ่ว
“ทำไมผมต้องทำตามที่คุณบอก ในเมื่อคนที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบคือผม ผมต้องเสียเงินมากมายทั้งที่ยังไม่ได้แตะต้องคุณเลย นี่ก็ไม่รู้ว่าจะคุ้มกับที่เสียไปหรือเปล่า ไม่ใช่ย้อมแมวมาขายให้ผมหรอกเหรอ”
“ไม่ได้ย้อมแมวค่ะ เอ่อ...ดอกแก้วยังไม่เคยค่ะ” เธอก้มหน้าหลบสายตาดุ พูดออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ อยากจะตะโกนบอกเขาว่าเงินสิบล้านมันน้อยไปด้วยซ้ำกับค่าความเป็นคนของเธอ ฐานทัพยิ้มในหน้า
“เดี๋ยวก็ได้รู้กัน” ฐานทัพโถมกายเข้าหา ตรึงร่างของหญิงสาวไว้ใต้ร่างตนเอง พวงดอกแก้วกลัวจนต้องหลับตาแน่น หญิงสาวรับรู้ถึงมือร้อนที่ลากเลื้อยขึ้นมาจากโคนขา เธอได้แต่นอนนิ่ง แทบจะกลั้นหายใจ ฐานทัพจ้องมองใบหน้าที่หลับตาแน่น ริมฝีปากบางเม้มจนเป็นเส้นตรง สองมือของหญิงสาวจิกลงบนผ้าปูที่นอนแน่น เธอเกร็งจนเขารับรู้ได้ ชายหนุ่มยิ้มร้าย นี่ก็คงเป็นมารยาของเธอสินะ ผู้หญิงจอมลวงโลก