ล่าหัวใจนายอัศวิน
ผ้ายับที่พับไว้ เขียน
บทที่ 2
สวัสดีฉันชื่อกล้วยไม้พ่อชื่อช้าง บ้านฉันชอบกล้วยไม้กันมาตั้งแต่รุ่นปู่ ที่บ้านก็เลยทำฟาร์มกล้วยไม้แถมยังเอามาตั้งเป็นชื่อลูกอีก อยากชื่อเท่ๆ แบบพี่เคลียร์ลูกพี่ลูกน้องกันก็ไม่ได้ ตอนนี้ฉันอยู่ ม.6 กำลังจะเข้ามหาลัย นี่ก็ว่าจะไปเรียนที่มอเดียวกับพี่เคลียร์ แต่ติดที่ว่าถ้าพักที่เดียวกัน ฉันคงต้องกระชับมิตรกับไอ้โรคจิตเพื่อนพี่เคลียร์นั่นอะ วันนี้พ่อก็ให้พาเค้าไปถ่ายรูปดอกผักตบชวาในคลอง แล้วก็บัว ดอกหญ้า ต้นไม้ ป่า เขา ลำเนาไพร ก็อย่างว่าคนในเมือง มีอะไรสวยอ่ะดอกผักตบอะเอ้อออออ
-บ้านป้าวัน-
ฉันมารอเป็นนานสองนานก็ยังไม่เสร็จสักที ลีลาจริง
“เพื่อนพี่แอบหลับหรือป่าวพี่เคลียร์ ช้าจัง”
ฉันบ่นกับพี่เคลียร์อยากไปแล้วก็ชักช้าลีลา
“ มันจะไปถ่ายรูปก็เตรียมของเยอะหน่อย”
พี่เคลียร์แก้ตัวให้เพื่อย
“เอาลงเรือไปเยอะๆ ได้จมกันพอดี”
ฉันบ่นต่อ เคยนั่งเรือมั้ยเนี่ย ไม่ใช่พาฉันไปเรือคว่ำจมน้ำตายฉันไม่ช่วยหรอกนะ
“เฮ้ยๆ เตือนไว้ก่อนนะเว้ย กล้องไอ้เลโอเนี่ย หลายหมื่นนะเว้ย ไปทำของเขาพัง กล้วยไม้ลุงช้างเนี่ยไม่เหลือเลยนะ”
พี่เคลียร์โวยลั่น
“ อะไรอะพี่เคลียร์ ไม้ไม่ไปละ”
มันแพงขนาดนั้นฉันไม่เสี่ยงดีกว่า พูดจบฉันก็หันหลังเตรียมเดินกลับ
“ เฮ้ยๆ ใจเย็นดิ”
พี่เคลียร์โดดมาคว้าแขนฉันไว้
“ลุงช้างสั่งแล้วก็ทำไปเหอะ เนี่ยถ้าทำดีอยากให้มันถ่ายรูปไปติดพอร์ตฟอริโอให้ก็ขอมันได้เลย มันถ่ายรูปสวยนะ”
“ได้หรอ”
แบบนี้ค่อยน่าสนใจหน่อย
“ไอ้เลโอมันใจดีนะ แต่…”
พี่เคลียก้มลงมากระซิบ
”ปากหมาไปหน่อย”
ไอ้โรคจิตนั่นเดินมาพอดี พวกเรานี่แยกออกจากกันแทบไม่ทัน
“นินทากูรึไง”
ไอ้พี่เลโอโรคจิตถามพร้อมกับเดินเข้ามาหาพวกเรา
“ป่าววววว”
พี่เคลียร์ก็ตอบซะเนียนเลยเสียงสู๊งงงงง
“ จะไปได้รึยังมารอแต่เช้าละ”
ฉันเท้าเอวถามคนตรงหน้าที่ยืนสะพายกระเป๋าเก๊กอเกือบหล่อยู่ตรงหน้า
“ก็นำไปดิ“
ฉันเดินนำมาที่ศาลาริมน้ำหลังบ้านพี่เคลียร์ ฉันเป็นคนลงเรือก่อนแล้วหมอนั่นก็ตามลงมา
“อะนี่ไม้พาย”
หมอนั่นมองไม้พายหน้านิ่งๆ แล้วเงยขึ้นมามองหน้าฉัน
”เอ้าเฮ้ย รับไปสิ มองอะไรล่ะ”
”พายไม่เป็น”
แน่ะ!!! ตอบมาหน้าตาเฉย จะกินแรงกันนี่หว่า
”พายไม่เป็น !!? โตจนป่านนี้พายเรือไม่เป็น ฉันพายเป็นตั้งแต่ ป.5 โน่น โกหกปะเนี่ย จะกินแรงกันใช่มั้ย !!!”
”จะโกหกทำไมล่ะ พายไม่เป็น”
“พาย!!! ไม่เป็นก็ไม่ต้องไป”
รู้จักไอ้ไม้น้อยไปซะแล้ว ฉันเตรียมขึ้นจากเรือ แต่ก็ต้องชะงักเพราะแสงวาววับจากแผ่นธนบัตรสีเทากระทบกับแดดอ่อนๆ สะท้อนเข้าตา
“1000 บาทสำหรับค่าพาทัวร์ในหมู่บ้านวันนี้”
ฉันรีบเอื้อมมือไปคว้าแต่ไม่ทัน ไอ้เจ้าของเงินมันดึงกลับไปก่อน
”อย่าลีลาได้ไหม”
ฉันร้องว่า
”หลังเสร็จงานจะจ่ายทันที”
หนอยยยยลูกไม้เยอะนักนะ
”งั้นก็จ่ายมัดจำมาก่อน”
ไม่ได้หรอกเกิดมันตุกติกขึ้นมาล่ะ นี่กล้วยไม้ไม้นะเว้ยไม่ใช่จะหลอกกันง่ายๆ นายเลโอล้วงมือเข้าไปใยกระเป๋ากางเกงก่อนจะยื่นเงินมัดจำให้ฉัน
“อะไร!!!”
“ เงินมัดจำไง”
ดูมัน ดูมันนนนนน ตอบมาหน้าตาเฉย
“ค่าแรง 1000 มัด 20!!!”
ใช่สีเขียวอี๋กระแทกเข้าหน้า จะบ้าเรอะสัก 100 ก็ยังดีมั้ง
“จะเอาไม่เอา”
นายนั่นพูดแล้วก็ทำท่าจะเก็บเงิน
“เห้ยๆๆๆ จะ จะ ใจเย็นดิพี่”
ฉันพูดพร้อมกับเอื้อมไปหยิบแบงค์ 20 มา เอาๆ ไปก่อน
“เสร็จงานอย่าลืมนะ”
ฉันพูดพร้อมกับยิ้มหวานนนน ใจดีสู้เสือไปก่อนเดี๋ยวอดหมด
ฉันพายเรือพาคุณพี่ช่างภาพหาถ่ายตั้งแต่สากกระเบือยันเรือผุๆ ริมคลอง แวะจุกแวะจิก ดีที่แดดไม่ร้อนอากาศดีด้วย
“ อยู่เฉยๆ นะ”
อยู่ดีๆ มาบอกให้อยู่เฉยๆ ตกใจดิ
“อะไร”
“อย่าขยับ”
เอ้า อยู่ดีดีก็บอกให้ฉันอยู่เฉยๆ
แชะ
“ ถ่ายอะไร”
พอได้ยินเสียงชัตเตอร์ฉันก็รีบถามทันที
“ก็บอกให้อยู่เฉยๆ แล้วไม่ต้องมองกล้อง มองไปทางโน้นโน่น หุบปากด้วย”
นายเลโอชี้มือสั่ง เออเอาวะ 1000 ไอ้ไม้ท่องไว้ 1000
”โอเค”
”ถ่ายไรอะ”
“เมื่อกี้ผีเสื้อมันมาเกาะหัวเธอน่ะ พี่เลยถ่ายแสงมันสวยพอดี”
ก็นึกว่าอะไร บอกดีดีแต่แรกก็จบแล้วมะ
“ สระผมบ้างนะ คงเค็มอะ มันถึงมาเกาะ”
นั่นไง !!! ปากหมาจริงๆ ด้วย มันว่าพร้อมกับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หันไปถ่ายนกถ่ายไม่ต่อ 1000 ไม้ 1000!!! หู่ววววใจเย็นๆ
พายเรือกันจนพอใจก็พายกลับเล่นเอาฉันแขนแทบเดี้ยง ก็พายอยู่คนเดียวเฮ้อ
“ อะ นี่ค่าจ้าง”
หมอนั่นยืนแบงค์พันให้ฉัน ปน่นอนสินี่รีบคว้าแบบทันทีเลยจ้า
“โอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะ”
“ไม่เอาอะแพง คราวหน้าพายเองดีกว่า”
ไหนบอกพายเรือไม่เป็นไง นี่มันหลอกกันนี่หว่า !!! หึ้ยยยยย
“ นี่!!! ไหนบอกพายเรือไม่เป็นไง”
“ อ่าวหรอ พูดงั้นหรอ สงสัยเมาเรือ”
มันพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ แล้วเดินถือกล้องผ่านหน้าฉันไป
“ แบบนี้มันกินแรงกันนิ”
“กินแรงอะไร เงินก็จ่ายแล้วนี่”
เออนั่นดิ แต่..
“ ไม่รู้อะ แล้ว...มาโกหกว่าพายไม่เป็นทำไม”
“ นี่พี่ก็จ่ายเงินให้เราไปแล้วจะอะไรอีก”
“ เห็นฉันเป็นคนหน้าเงินหรอฮะ!!!”
“ ไม่ใช่คนหน้าเงิน งั้นน... เอาคืนมา”
เห้ยๆๆ เงินฉันนน อิเลโอเอามือมาล้วงกระเป๋ากางเองฉันแย่งเงินค่าแรงไปต่อหน้าต่อตา ไม่ได้นะเว้ย ฉันพายเรือแทบตาย
“ เอาเงินฉันคืนมานะ”
โอ้ยยยยยทำไมมันสูงอย่างงี้วะ ฉันพยายามกระโดดแย่งเงินของตัวเอง แต่ด้วยความสูงที่ต่างกันมาก กระโดดยังไงก็ไม่ถึงสักที ก็ไอ้บ้านั่นมันดันชูมือสุดแขนเลย
“ เอาเงินฉันคืนมานะ”
“ ไหนบอกไม่น่าเงินไง ไม่หน้าเงินก็พายให้ฟรีดิ”
“ ได้ไงอ่ะ พายไปตั้งไกล พายไปพายกลับ พายอยู่คนเดียว พายจนปวดแขน”
ฉันพยายามกระโดดแย่ง จนในที่สุดก็เกิดแสงสว่างในสมอง ฉันกระโดดขึ้นไปขี่หลังไอ้คนขี้โกง เอาขาสองข้างพันรอบเอวมันแล้วพยายามดึงแขนลงมา
“ ทำอะไรกันน่ะ”
เสียงคุ้นๆ เห้ยยยย พ่อ ฉันรีบกระโดดลงมายืนตั้งหลัก ดีล่ะจะฟ้องพ่อ เหอะๆ
“ พ่อไอ้บ้านี่มันเอาเงินไม้ไปอะ”
“ เงินอะไร”
“ นั่นไงพ่อแบงค์พันในมือมันอะ”
ฉันกอดแขนพ่อ ชี้ใหม่พ่อดูที่มือมัน พร้อมกับทำเสียงออดอ้อนให้พ่อช่วย พ่อเห็นหน้าหมอนั่นแล้วมันอดขำไม่ได้เลยหลบหลังพ่อแล้วแลบลิ้นหลอก โอ้ยยยสะใจ
“ ไม้ไปเอาเงินมาจากไหน พ่อว่าพ่อยังไม่ได้ให้ตังเรานะ”
“ เงินค่าจ้างพายเรือน่ะครับ พอดีผม จ้างน้องเขาให้พายเรือพาผมไปถ่ายรูป”
“ โอ้ย ไม่ต้องหรอกครับ ไอ้ไม้ หนูไปเอาเงินพี่เค้าทำไมตั้งเยอะแยะขนาดนี้”
อ่าวพ่อ นี่ลูกนะ
“ เก็บไว้เถอะ พอดีลุงมีเรื่องจะขอให้ช่วยสักหน่อย”
“ ได้ครับ จะให้ผมช่วยอะไร”
“พ่ออออออ”
“อะไรคนโตเค้าจะคุยกัน เอ้อออไม้นี่”
“ พ่อไม้พาย...”
“ ไอ้ไม้”
ง่าาาพ่อดุไม้ทำไม
“เดี๋ยวไปคุยกันในบ้านดีกว่ามั้ยครับตรงนี้ร้อน แมลงเยอด้วย”
“เออดีดี ไปๆ”
ฉันยังเกาะแขนพ่อแน่น แต่พ่อแกะมือฉันออกแบบไม่สนใจใยดี เหนื่อยฟรี พ่อเทอีก ไรว้า
“ขอบคุณนะครับ น้องไม้เนี่ยเป็นคนน้ำใจงามจริงๆ”
ไอ้ขี้โกงก้มลงมากระซิบที่ข้างหูฉัน หนอยยยยรู้จักไอ้ไม้น้อยไปโว้ย ครั้งนี้ฝากไว้ก่อน หึ้ยยยยยย