หลังจากคำพูดของแม่ แม่เดินออกไปจากห้องทิ้งความสงสัยเอาไว้
กริ่ง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ฉันรีบกดรับสายทันทีเพราะคนที่โทรมานั้นคือเหมันต์
หมวยลี่?"หมวยโทรไปตั้งกี่สายทำไมไม่รับโทรศัพท์หมวยเลย"
หมวยลี่? "เหมันต์หมวยมีเรื่องจะบอก..."
เหมันต์?"หมวยตอนนี้เหมันต์ยังไม่ว่างพอดีที่บ้านมีปัญหาเดี๋ยวเหมันต์จะโทรกลับไปใหม่นะ"
เขาพูดสวนขึ้นก่อนที่ฉันจะพูดจบ จากนั้นสายโทรศัพท์ก็ถูกตัดไปไม่รู้ว่ามีเรื่องด่วนอะไรถึงไม่ยอมฟังฉันให้จบสะก่อน ฉันกำลังจะบอกว่าฉันจะไปอังกฤษ
พอโทรกลับไปเหมันต์ก็ไม่รับสายฉันอีกเลย
เขามีปัญหาอะไรรึเปล่านะ...
ฉันขุ่นคิดในใจ เพราะเหมันต์ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยสักครั้ง ไม่ว่าเขาจะไม่ว่างขนาดไหน ยังไงเขาก็ต้องบอกฉันตลอด แต่นี่เหมือนมีเรื่องอะไรที่กำลังปิดบังฉันอยู่
เช้าวันใหม่...
ก๊อกๆ ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
ฉันที่กำลังอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ขายาว ก้าวขาเดินไปเปิดประตูห้อง
แกร็ก ประตูห้องเปิดออก
"คุณท่านให้มาตามค่ะ เดี๋ยวกระเป๋าลำดวนยกลงไปให้เอง" สาวใช้ในบ้านของฉันพูดขึ้น
ฉันพยักหน้าตอบก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อลงไปยังชั้นล่างของบ้าน ป่านนี้ฉันก็ยังไม่หายสงสัยเลยว่าทำไมเราต้องไปอังกฤษกันกระทันหันขนาดนี้ แถมวันนี้ฉันยังมีเรียนด้วย
แต่สงสัยไปก็เท่านั้น นิสัยฉันมันเป็นคนที่ไม่ค่อยถามอะไรให้วุ่นวาย พ่อกับแม่ว่ายังไงฉันก็ต้องทำตาม
"ไปเถอะ เดี๋ยวจะตกเครื่อง" พ่อพูดขึ้น
"งั้นเดี๋ยวหมวยโทรศัพท์ไปบอกเหมันต์ก่อนนะคะ"
ฉันพูดพรางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเบอร์โทรออกไปหาเหมันต์ แต่ยังไม่ทันที่จะได้คุยอะไรกัน โทรศัพท์ก็ถูกพ่อดึงไปสะก่อน
"ไปอังกฤษค่อยโทร ตอนนี้รีบไปก่อน ส่วนเรื่องเรียนพ่อกับแม่จัดการให้แล้ว"
คำพูดของพ่อสร้างความประหลาดใจให้กับฉันเป็นอย่างมาก สรุปแล้วเราต้องย้ายไปอยู่ที่อังกฤษอย่างงั้นหรอ ถ้าเป็นแบบนี้ฉันกับเหมันต์จะได้เจอกันมั้ย
อ่า! ยังไงเหมันต์ก็ต้องบินไปหาฉันอยู่แล้ว
แต่เรื่องฉันไปอังกฤษแล้วเขาไม่รู้นี่สิ เหมันต์ต้องโกรธฉันแน่ๆเลยงานนี้
"ไปกันได้แล้ว" พ่อพูดขึ้น ก่อนที่จะเดินนำออกไปจากบ้าน
ฉันเดินตามพ่อกับแม่ออกไปจากบ้าน พรางขุ่นคิดไปต่างๆ นาๆ ว่าทำไมเราจะต้องย้ายไปที่อังกฤษกันด้วย แล้วบ้านหลังนี้ล่ะ
[Talk เหมันต์]
2วันผ่านไป สองวันที่ผมเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับกองเอกสารไม่ยอมไปเรียน ไม่ติดต่อกับใคร แม้กระทั่งหมวยลี่
ผมเอาแต่คิดหาวิธีว่าจะทำยังไง ให้บ้านผมไม่ล้มละลาย ไม่ให้ทรัพย์สินที่พ่อกัยแม่สร้างมาถูกยึดไปในอีกสองเดือนข้างหน้า แต่ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ มันก็เหมือนจะมีแต่ทางตัน
วันนี้ผมโทรไปหาหมวยหลังจากที่ไม่ได้ติดต่อกับเธอสองวันเต็มๆ แต่พอโทรไปกลับโทรไม่ติด หรือว่าเธอจะโกรธที่ผมไม่ยอมรับโทรศัพท์เธอ
วันนี้ผมมีเรียนบ่ายพอดี เอาไว้ค่อยไปง้อเธอที่มหาวิทยาลัยก็แล้วกัน อีกอย่างผมจะไปบอกเรื่องที่บ้านผมล้มละลายด้วย
ใจนึงผมก็กลัวว่าหมวยจะรับไม่ได้ที่จะต้องมีแฟนถังแตกแบบผม แต่นิสัยของหมวยไม่ใช่คนดูถูกคน ผมมั่นใจว่าหมวยจะไม่ทิ้งผมไปไหนแน่นอน
@มหาวิทยาลัย
ผมเดินเข้าไปในตึกคณะของหมวย
"ควีน ควีน" ผมตะโกนเรียกควีน เพื่อนสนิทของหมวยที่กำลังเดินไปไหนสักที่
"อ้าว เหมัน^_^"
"หมวยล่ะ คือเราโทรหาหมวยแต่หมวยไม่รับสาย หมวยคงโกรธเราอยู่บอกเราได้มั้ยว่าหมวยอยู่ไหน"
"ถามแบบนี้แสดงว่ายังไม่รู้เรื่องหมวยสินะ"
ผมขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปมทันที เมื่อได้ยินควีนเพื่อนของหมวยพูดออกมาแบบนี้
"ไม่รู้เรื่องอะไร หมวยเป็นอะไร ?".
"คืองี้นะ จริงๆควีนก็ไม่ได้อยากยุ่ง เพราะควีนก็เป็นเพื่อนกับหมวย แต่ควีนสงสารเหมันต์"
"....." ตอนนี้ใจคอผมเริ่มไม่ดีแล้ว ผมรู้สึกกลัวในสิ่งที่ควีนกำลังจะพูดขึ้นมาจับใจ
"หมวยมันไปอังกฤษแล้ว ครอบครัวหมวยย้ายไปทำธุระกิจที่นั่น"
"และที่สำคัญ หมวยมันกำลังจะหมั้น คือจริงๆหมวยมันไม่ให้บอกนะเพราะกลัวว่าเหมันต์จะเสียใจ มันอยากหายไปแบบเงียบๆ"