@คอนโดควีน
หลังจากเสร็จบทกามที่ผมมอบให้เธอแล้ว เธอก็เอาแต่กอดผม จนผมรู้สึกรำคาญผู้หญิงคนนี้จริงๆ
"ปล่อย กูจะกลับห้อง" ผมกลายเป็นคนหยาบคายตั้งแต่ที่ผมเสียทุกอย่างไปในตอนนั้น
"ต่ออีกมั้ย ควีนชักจะติดใจเหมันต์แล้วสิ ^_^"
"ไม่ กูหมดอารมณ์ล่ะ"
ผมลุกขึ้นจากเตียง ทั้งตัวมีแค่บล็อกเซอร์ตัวเดียวที่ปิดบังความเป็นชายอยู่ ผมก้มลงไปหยิบเสื้อผ้าที่ถูกถอดออกแล้วโยนไปคนละทิศละทางของห้องมาสวมใส่
"ไม่นอนกับควีนหรอ มันดึกแล้วนะเหมันต์"
"ไม่ !!"
"อื้อ หมวยมันหมั้นแล้วนะ"
ผมที่กำลังสวมใส่เสื้อผ้าอยู่ชะงักทันทีที่เพื่อนสนิทของคนรักเก่าของผมเอ่ยออกมา ผมกำหมัดเข้าหากันแน่น
เมื่อได้ยินแบบนี้ผมยิ่งรู้สึกเกลียดชังเธอเพิ่มขึ้นไปอีก ผู้หญิงเห็นแก่เงิน....
"เหมันต์...."
"อย่าพูดถึงมัน กูไม่อยากฟัง" ผมพูดเสียงแข็ง ก่อนจะจัดแจงใส่เสื้อผ้าต่อ
"เหมันต์ เรามาคบกันมั้ย เหมันต์อยากได้อะไร หรือ อยากให้ควีนช่วยอะไร ควีนจะช่วยทุกอย่าง"
"ไม่จำเป็น กูไม่ชอบเกาะผู้หญิงกิน !!" ผมพูดออกไปอย่างไร้อารมณ์
หลังจากใส่เสื้อผ้าเสร็จ ผมก็เดินออกมาจากห้องโดยไม่สนใจคำคัดค้านของควีนเลยสักคำ
@ห้องเช่า...
เมื่อผมกลับมาถึงห้อง ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงขนาดเล็ก ห้องเช่าเป็นเพียงแค่ห้องเช่าเล็กๆ ที่ผมใช้ซุกหัวนอนให้มันพ้นไปวันๆ
ถึงแม้ว่าผมไม่อยากจะสนใจผู้หญิงที่เห็นแก่เงินคนนั้น แต่พอเอาเข้าจริง ผมกลับคิดถึงแต่คำพูดที่ควีนเธอพูด
"หมั้นแล้ว หึ!!" น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยขึ้นจากปากของผม
เธอมันน่าสมเพช ผู้หญิงมักมาก ที่เธอทิ้งผมไปแบบนั้น สักวันเธอจะไม่เหลือใคร
ผมได้แต่โกรธแค้นหมวยลี่ในใจ สิ่งที่เธอทำ มันสร้างความเจ็บปวดให้ผมมากจริงๆ แผลที่เธอทำ มันจะไม่มีวันหาย สักวันผมจะเอาคืนเธอให้ถึงที่สุด ที่เธอทำกับผมแบบนี้
หลายปีผ่านไป....
ตอนนผมอยู่ในชุดบอดี้สูทสีดำ กำลังขึ้นรับรางวัลนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแห่งปี เสียงปรบมือเเสดงความยินดีจากแขกที่มาร่วมในงาน ดังกึกก้องไปทั่วห้องจัดงานของโรงแรม
"เอ่อ...คุณเหมันต์ครับ เชิญกล่าวอะไรสักนิด..."
"กูไม่มีอะไรจะพูด " น้ำเสียงเรียบๆพูดขึ้นก่อนจะเดินลงเวที หลังจากรับรางวัลเสร็จ และไม่เอ่ยขอบคุณใดๆ สำหรับรางวัลที่ผมได้ เพราะมันไม่จำเป็น
@ห้องพักในโรงแรม
"ไอ้เหมันต์ มึงแน่มาก ฉีกหน้าประทานของงานนี้ชิบหาย" ไอ้โชนพูดแซวผม เรื่องที่ผมขึ้นไปรับรางวัน
"แล้วมึงจะให้กูพูดอะไร ในเมื่อกูไม่มีอะไรจะพูด"
"เออๆ มา ชนแก้วให้กับความสำเร็จของมึง"
เคร๊ง~ เสียงแก้วเหล้ากระทบกันเบาๆ ก่อนที่ผมจะยกมันดื่มจนหมดแก้ว
ตั้งแต่เรียนจบผมพยายามเป็นอย่างมากที่จะทวงทุกอย่างของตัวเองคืน แต่มันกลับไม่ได้ง่ายแบบที่ผมคิด
บ้านและบริษัท ที่ถูกนายทุนเงินหนาซื้อไป ผมรู้แล้วว่าเป็นใคร สิ่งที่ผมรับรู้มันยากที่จะเชื่อ ว่าพ่อของหมวยลี่เป็นคนที่ซื้อทั้งบ้านและบริษัทของผม มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ และผมไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นครอบครัวของเธอ หึ....
หลังจากเรียนจบผมทำงานอย่างหนัก ทำงานจนพอจะมีเงินทุนก้อนหนึ่ง ก่อนจะกู้เงินเพิ่มเพื่อมาเปิดบริษัทเล็กๆเป็นของตัวเอง บริษัทเกี่ยวกับส่งออกรถยนต์ เป็นโชว์รูมรถ แต่ก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร
กิจการของผมเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะผมเป็นคนฉลาด มีไหวพริบ และ เจาะการตลาดได้รวดเร็ว ทำให้บริษัทเล็กๆ ขยายใหญ่ขึ้นกายเป็น บริษัทส่งออกรถยนต์รายใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศ และของเอเชียในเวลาต่อมา
ในวันที่ผมมีพร้อมทุกอย่าง พอที่จะซื้อบ้านและบริษัทคืนได้ ผมติดต่อกลับไปหาพ่อของคนรักเก่า กะว่าจะนัดเจรจาเรื่องบ้านกับบริษัท แต่ผมกลับโดนปฏิเสธ คุณพ่อของหมวยลี่ไม่ยอมคุยกับผม นั่นหมายความว่าผมไม่มีทางได้บ้านกับบริษัทคืน
และที่มันทำให้ผมเจ็บใจไปมากกว่านั้นก็คือ ผมพึ่งมารู้เมื่อไม่นานมานี้เอง จากปากเพื่อนสนิทของคุณพ่อของผมว่าคนที่โกง คนที่ทำให้บ้านของผมล้มละลาย ก็คือครอบครัวของหมวยลี่ อดีตคนรักเก่าของผม
เพียงเพราะอยากมีอยากได้ จึงยอมลงทุนทำทุกอย่างให้ได้มา โดยที่ไม่สนว่าคนอื่นจะเป็นยังไง
ครอบครัวเธอทำผมจมดิ่งลงนรกได้....ผมก็ทำให้ครอบครัวเธอเป็นเหมือนครอบครัวผมได้เหมือนกัน แล้วจะได้รู้ว่าความทุกข์ที่ผมเจอมันทรมานขนาดไหน....