5 เดือนผ่านไป
ที่ผ่านมาผมไม่เคยล่ะความพยายามที่จะติดต่อหาหมวยลี่แฟนของผม ถึงผมจะรู้ดีว่าเธอไม่มีทางกลับมาหาผมอีกแล้วก็ตาม ถึงผมจะรู้ว่าตอนนี้เธออาจจะหมั้นกับคนอื่นไปแล้วก็ตาม แต่ผมก็ยังตัดเธอออกจากใจไม่ได้
ทุกๆคืนผมจะต้องดื่มเหล้าอย่างหนักเพื่อที่จะให้ตัวเองนอนหลับโดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องอะไรทั้งนั้น ผมแทบจะไม่ไปเรียน ไปบ้างไม่ไปบ้าง ทั้งที่แม่พยายามพูดกล่อม แต่ผมไม่อาจทำตามคำขอร้องของแม่ได้
บ้านของผมถูกยึดไปแล้ว รถก็ต้องขาย ผมต้องขึ้นรถเมล์ไปเรียน หรือไม่บางวัน ไอ้โชน เพื่อนสนิทของผมก็มารับ
นี่คืออีกสาเหตุหนึ่งที่ผมไม่อยากไปเรียน ผมอยากทำงานมากกว่า จะได้ลืมหมวย แล้วก็ชวยพ่อแม่หาเงิน เพราะผมแทบไม่มีเงินเหลือเลย
จนกระทั่ง3 เดือนที่แล้ว
ในระหว่างว่างที่ผมกำลังจะกลับจากมหาวิทยาลัย ผมได้รับสายโทรศัพท์จากใครคนหนึ่ง โทรศัพท์มาบอกว่า พ่อและแม่ของผมได้จบชีวิตของตัวเองลงภายในห้องเช่า นี่คือข่าวร้ายที่สุดในชีวิตผม
ผมแทบจะขาดใจตายเมื่อได้เห็นภาพของพ่อกับแม่ที่กอดกัน ร่างที่ไร้วิญญาณ...ในมือถือจดหมายเปื้อนไปด้วยเลือด ที่เขียนถึงผม
"เหมันต์ พ่อกับแม่ขอโทษ ที่ต้องทิ้งลูกไปแบบนี้ สัญญาได้มั้ยว่าจะไม่ให้การตายของพ่อกับแม่ศูนย์เปล่า ตั้งใจเรียน แล้วเอาบ้านกับบริษัทของเราคืนมาให้ได้นะลูก ต่อไปนี้ลูกต้องเข้มแข็ง"
พ่อกับแม่จะคอยมองดูลูกจากบนฟ้า...
ผมอ่านข้อความในกระดาษด้วยความรู้สึกเสียใจ ผมร้องไห้น้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด หลายเดือนที่ผ่านมาชีวิตผมไม่เคยมีความสุขเลย แม่กับพ่อยังจะมาจากผมไปอีก
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น พ้นจากงานศพของพ่อกับแม่ไป ผมย้ายห้องเช่าใหม่ เพราะไม่อยากคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้นอีก
ผมรู้ทีหลังว่า ที่พ่อแม่ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ก็เพื่อที่จะเอาเงินประกันที่พ่อกับแม่ทำไว้ ให้ผมได้เรียนต่อให้จบ
ยิ่งผมรู้ว่าพ่อกับแม่หวังในตัวผมมากเท่าไหร่ ผมยิ่งรู้สึกเสียใจ เพราะที่ผ่านมาผมไม่สนใจการเรียนเลย ผมเอาแต่คิดถึงผู้หญิง ที่ทิ้งผมไป...จนลืมความสำคัญของคนในครอบครัว
เรื่องนี้ผมโทษตัวเองมาตลอด...
ปัจจุบัน...
ชีวิตผมจากที่เคยสดใส เคยยิ้มหัวเราะง่ายๆกับทุกคน ตอนนี้ชีวิตถูกทำลายจนไม่เหลืออะไรแล้ว ผมตัวคนเดียว ตอนนี้ผมพยายามตั้งใจเรียน อ่านหนังสืออย่างหนัก เพื่อที่เรียนจบผมจะเอาบริษัทของครอบครัวคืนมาตามที่พ่อกับแม่ได้สั่งเสียเอาไว้
ส่วนเรื่องหมวยลี่ ผมไม่แม้แต่จะสนใจ หรือจะไปอาลัยอาวรณ์อะไรกับเธออีกแล้ว และผมจะจำผู้หญิงคนนี้เอาไว้ ถ้าผมกลับมามีทุกอย่างเมื่อไหร่ ผมจะไม่แม้แต่เห็นหัวเธอ เหมือนที่เธอทิ้งผมไป
[ Talk หมวยลี่ ]
"แม่ หมวยขอโทรศัพท์ของหมวยคืนได้มั้ย"
ตั้งแต่มาอยู่ที่อังกฤษ ได้2 อาทิตย์ ฉันไม่ได้จับโทรศัพท์ของตัวเองเลยสักครั้ง แถมยังรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนตัดขาดจากโลกภายนอก เพราะขนาดมหาวิทยาลัยฉันก็ไม่ได้ไป พ่อกับแม่จ้างครูพิเศษมาติวเข้มให้ฉันที่บ้าน
"โทรศัพท์อยู่ไหนไม่รู้แม่ลืม ช่วงนี้ก็อย่าห่วงแต่โทรศัพท์มากนัก ถ้าพ่อแกรู้คงจะโดนบ่น" ผู้เป็นแม่พูดเตือน
"แต่หมวยอยากคุยกับเหมันต์น่ะแม่...."
"เลิกอาลัยอาวรณ์มันสักที"
"มะ แม่หมายความว่าไม่" ฉันมองแม่อย่างไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ถึงพูดออกมาแบบนั้น
ตอนแรกที่พ่อกับแม่บอกว่าเมื่อมาถึงอังกฤษ พ่อกับแม่จะเล่าทุกอย่างให้ฉันฟัง แต่มันกลับไม่เป็นไปตามนั้น ทุกครั้งที่ฉันเอ่ยถามอะไรออกไป ฉันไม่ได้คำตอบอะไรกลับมาเลย
มีครั้งนี้ที่แม่หลุดพูดออกมา บอกให้ฉันเลิกยุ่งกับเหมันต์
"บ้านแฟนแกมันล้มละลาย แกอยากจะไปตกระกำลำบากกับมันรึไง"
"ละ ล้มละลาย..." ฉันเบิกตากว้างทันทีที่ได้ยินแม่บอกมาแบบนั้น
ในใจตอนนี้ฉันนึกเป็นห่วงเหมันต์มาก เขาต้องคิดมากแน่ๆ แล้วยิ่งฉันหายมาแบบนี้เหมันต์จะรู้สึกยังไง
"แม่ หมวยอยากกลับไทย...ขอร้องนะแม่" ฉันพูดอ้อนวอนแม่ หวังจะให้แม่ยอมให้ฉันกลับ
แต่!! ไม่เลย แม่เดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านโดยที่ไม่ตอบอะไรฉันสักคำ
ฉันค่อยๆทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ ฉันก้มหน้าลง พร้อมกับหยดน้ำตาที่มันค่อยๆไหลออกมา ตอนนี้ฉันพอจะรับรู้แล้วว่าฉันกับเหมันต์ถูกพ่อกับแม่กีดกัน
เพียงเพราะบ้านของเหมันต์ล้มละลาย...
5 เดือนผ่านไป
ที่ผ่านมาไม่มีเลยสักครั้งที่ฉันจะไม่คิดถึงเขา 'เหมันต์'
ฉันถูกตัดขาดจากโลกภายใน ถูกกักตัวอยู่แต่ในห้อง เพียงเพราะฉันรั้นที่จะไปหาเหมันต์ให้ได้ ฉันเลยถูกพ่อขังไว้แบบนี้ ถึงเวลาจะมีอาจารย์มาสอนฉันเอง
ฉันได้แต่หวัง หวังว่าสักวันฉันจะได้กลับไทย มันต้องมีสักวันที่ฉันได้กลับไปเจอหน้าคนรักของฉันอีกครั้ง
ถ้ามีโอกาส ฉันจะไม่ยอมพ่อกับแม่แบบนี้อีกแล้ว ฉันจะอยู่ข้างๆเหมันต์ สู้กับปัญหาไปด้วยกัน
เหมันต์เป็นคนเก่ง ฉลาด ฉันมั่นใจว่าเหมันต์ต้องผ่านมันไปได้
"เหมันต์ คิดถึงหมวยบ้างรึเปล่า รอหมวยหน่อยนะ...." น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยขึ้น
ภายในห้องที่มืดสนิท หยดน้ำใสๆค่อยๆไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง ฉันนั่งบนเตียงนอนขนาดคิงไซส์ นั่งชันเข่าขึ้นแล้วเอาหน้าซุกลงไปจากนั้นก็ร้องไห้สะอื้นออกมาเบาๆ ฉันคิดถึงเขาเหลือเกิน....
ไม่มีคืนไหนเลยที่ฉันจะไม่ร้องไห้ เพราะคิดถึงเหมันต์ ฉันอยากให้พ่อกับแม่เข้าใจฉัน ไม่ใช่จับฉันแยกกับเขาแบบนี้ มันไม่มีใครอยากล้มละลายหรอก...
ยังโชคดีที่ก่อนมาฉันบอกควีนเอาไว้ ให้บอกเหมันต์ ให้ เรื่องที่ฉันมาอังกฤษ แต่ฉันก็ไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ ฉันจึงฝากบอกควีนไปแค่นั้น ส่วนวันศุกร์เพื่อนอีกคนของฉันก่อนมาฉันติดต่อเธอไม่ได้
[ Talk เหมันต์ ]
@คลับชื่อดังแห่งหนึ่ง
เสียงเพลงดังกึกก้องไปทั่วคลับ ผู้คนมากมายกำลังสนุกไปกับการท่องราตรี แต่มันกลับทำให้ผมไม่มีความสุขเลยสักนิดที่ได้มาอยู่ในจุดนี้
"เฮ้ย!! อย่าคิดมาดิวะ กูพามาแดกเหล้าเนี่ย กูไม่อยากเห็นมึงเศร้า" โชนเพื่อนสนิทของผมเอ่ยทักขึ้น เมื่อเห็นว่าผมเอาแต่นั่งมองแก้วเหล้าไม่ยอมยกมันขึ้นมาดื่มสักที
"มึงสืบให้กูได้มั้ยวะ ว่าบ้านกูใครเป็นคนซื้อไป บริษัทด้วย" ผมพูดขอร้องมัน
ผมพึ่งจะรู้มาไม่นานนี้เองว่า บ้านกับบริษัทของผมถูกนายทุนเงินหนาซื้อไปแล้ว แต่ผมไม่รู้ว่าคือใคร และผมก็ไม่มีปัญญาสืบอะไร นอกจากจะให้เพื่อนช่วยสืบให้
"เอออๆ กูจะสืบให้ มึงเลิกทำตัวเหมือนอยู่ในวัดสักที"
"อื้ม" ผมยกเหล้ากระดกจนหมดแก้ว พรางปรายตามองไปรอบๆคลับ
สายตาดันไปสะดุดกับหญิงสาวที่กำลังอยู่ในชุดเดรสรัดรูปสีแดง ที่กำลังเดินตรงมาทางผม
"เหมันต์ มาเที่ยวไม่ชวนควีนเลยนะ" ผมมองเธอสักพักก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่นโดยที่ไม่ได้ตอบอะไรเธอไปสักคำ
"ไปต่อที่ห้องควีนมั้ย ^_^" เสียงหวานกระซิบบอกผม พร้อมกับขบใบหูของผมเบาๆ เพื่อบ่งบอกถึงสิ่งที่เธอต้องการ
"มึงอย่าเชียวนะ นั่นเพื่อนหมวยนะไอ้เหมันต์" ไอ้โชนพูดเตือนสติผม แต่มันกลับทำให้ผมฉุดคิดอะไรได้บางอย่าง
มันจะเป็นอะไรไป ถ้าผมจะเอากับเพื่อนของหมวย เธอเป็นคนทิ้งผมไปมีผัวใหม่เอง มีอะไรที่ผมจะต้องสนใจเธออีก
"อื้ม ไปสิ" ผมหันไปตอบควีน ก่อนจะลุกขึ้นเดินนำเธอออกไปด้านนอกคลับ โดยไม่ฟังคำคัดค้านจากไอ้โชนเลยแม้แต่น้อย