4

1167 Words
“ทำลายหลักฐานอะไร”  ภูผาจ้องเธอนิ่ง ไม่ตอบว่าหลักฐานอะไร เลือกจะขู่ด้วยคำกล่าวของบิดาที่เคยคาดโทษปลายฝน “ขับรถไว ขับรถประมาทจนเฉี่ยวชนคันอื่น เป็นเหตุให้คนอื่นได้รับบาดเจ็บหรืออันตราย รอบนี้โดนยึดรถ โดนยึดใบขับขี่แน่” ไม่รู้ว่าภูผารู้เรื่องที่เธอถูกคาดโทษจากบิดาได้อย่างไร เดินเลี่ยงร่างหนาสูงล่ำจะกลับห้อง แต่เพราะร่างกายใหญ่โตคับโรงจอดรถ ไม่ยอมหลบทางให้ ปลายฝนมองด้วยสายตาเจ็บใจ เพราะไม่อยากเข้าไปใกล้เขา เลยออกปากไล่ด้วยเสียงมึนตึง “ถอยไป!” นอกจากจะไม่ถอยแล้ว ภูผายังเดินหน้าเข้าหาเธอด้วย ปกติปลายฝนเคยสั่งใครต่อใครได้เสมอ พอเจอคนทำหูทวนทำใส่ ก็ให้หงุดหงิดใจไม่น้อย ถามหาเรื่อง “ไม่ถอยใช่ไหม” คนถูกหาเรื่องไม่ตอบอีกเช่นเคย มองด้วยสายตาวาว ๆ แปลก ๆ จนเธอใจสั่นเพราะเคยถูกเขาจูบไปรอบหนึ่งแล้ว แถมยังขู่ทิ้งท้ายว่าจะจับแก้ผ้าปล้ำด้วย แม้จะรู้ว่าขู่ แต่ก็ใจสั่นทุกทีเวลาที่นึกถึง บอกตัวเองว่าภูผาก็ดีแต่ขู่เท่านั้นแหละ เขาไม่มีทางทำหรอก แล้วทำใจกล้าเดินหน้าใส่ แม้ขนาดตัวจะเทียบอีกฝ่ายได้ครึ่งเดียว แต่ก็มั่นใจในเรี่ยวแรงที่มี ตั้งใจจะกระแทกให้เขาเสียหลัก จนต้องหลบทางไปเอง แต่พอพุ่งเข้าหา นายแพทย์ภูผาก็หลีกออกไปยังอีกทางในเสี้ยววินาที จนกลายเป็นว่าตัวเธอเองที่ทำท่าจะเซล้มหน้าคว่ำลงไปกองที่พื้น แต่เขาคว้าแขนเธอเอาไว้ได้ ดึงให้รอดจากจังหวะที่กำลังจะล้มได้อย่างฉิวเฉียด ปลายฝนตกเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่งของภูผาในนาทีต่อมาทันที เธอเงยหน้าขึ้นมองสบตากับเขา เสี้ยววินาทีนั้นเองที่รู้สึกได้ถึงความรู้สึกอ่อนหวาน คิดถึงแล่นพล่านในดวงตาของเขา หัวใจของเธอจึงได้กระหน่ำเต้นระรัวเร็วขึ้น ปลายฝนพริ้มตาหลับลง คิดว่าจะถูกเขาจูบแบบครั้งก่อนอีก แต่เปล่าเลย เธอถูกดันให้ออกจากอ้อมแขนของเขา ดันเสียห่างราวกับรังเกียจเธออย่างนั้นแหละ นึกแปลกใจที่รอบนี้ไม่ดึงไปจูบแบบครั้งก่อน แล้วก็ให้หน้าชาเล็กน้อย เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง เห็นสายตาของเขามองมาราวกับอ่านความคิดของเธอออก ยกมือลูบแขนตรงที่ถูกสัมผัสจากเขา เดินหลบไปทางอื่น แว่วเสียงเตือนของภูผาดังตามหลังมาว่า “อยู่ให้ห่างจากปรินเอาไว้” ได้ยินแบบนั้นก็หันหน้ามาถามเสียงเยาะ ๆ “หึงหรือไง” ไม่รอคำตอบ ทำเหมือนว่าเพิ่งนึกอะไรได้ ยอกย้อนใส่เขา “อ้อ ลืมไปว่าไม่ได้ชอบผู้หญิง นี่อย่าบอกนะว่าภูรี่ก็ชอบพี่ปรินเหมือนกันน่ะ” ไม่พบร่องรอยความโกรธจากภูผาเลยสักนิด แม้จะถูกเรียกว่า ‘ภูรี่’ ก็ตาม เห็นแต่สายตาแปลก ๆ ที่มองทีไรใจสั่นทุกที แว่วเสียงทุ้มถามมา “รู้อะไรไหม” ปลายฝนกอดอก ย้อนถามเขากลับว่า “อะไร” “ล่าสุด ลองนอนกับผู้หญิงดู ก็โอดีนะ ไม่ได้น่าขยะแขยงเท่าที่คิดไว้แต่แรก ถ้าแบบนี้ คิดว่าน่าจะนอนได้อีกหลายคน” เขาพูดด้วยใบหน้าเรียบ ๆ พร้อมถามกลับว่า “อยากลองไหม” “แหวะ ไอ้หมอบ้ากาม” ปลายฝนร้องด้วยความรังเกียจ ทำไมใครต่อใครถึงได้มองว่าภูผาสุขุมนุ่มลึกนะ ทั้ง ๆ เขามันจอมกวน จอมป่วน จอมปั่นอารมณ์แท้ทีเดียวเลยล่ะ “เตือนในฐานะของพี่ก็แล้วกัน นายปรินนั่นน่ะเสือผู้หญิง” “ฉันมั่นใจว่าเก่งพอจะปราบเสืออย่างพี่ปริน แล้วก็รู้เอาไว้ด้วยว่าฉันเป็นลูกคนเดียว ไม่มีพี่!”   “เก่งแบบไหนกัน ได้ข่าวว่าร้านเสื้อไปก๊อปแบบจากแบรนด์เนมดังมา กำลังจะถูกฟ้องเร็ว ๆ นี้แล้วไม่ใช่หรือ” ปลายฝนหน้าแดงจัด เพราะนอกจากจะยั่วอีกฝ่ายไม่ได้ กลับโดนยั่วกลับจนเดือดพล่านอยู่ตอนนี้ “ไอ้หมอโรคจิต ข่าวนั่นน่ะเฟคนิวส์ ว่าแต่คนอื่น ตัวเองดีแค่ไหนเชียว” ภูผายิ้มน้อย ๆ ที่เธอดูอย่างไร ก็เห็นเป็นรอยยิ้มยั่วยุอยู่ดี ก่อนจะผุดคำพูดตอบโต้กลับมาว่า “แล้วได้ยินพูดว่าตัวเองดีกว่าใครหรือยัง”  ไม่คิดว่าเขาจะยั่วคนเก่งได้ขนาดนี้ ปลายฝนยืนมองเขาด้วยอาการไม่พอใจ แล้วพาตัวเองหันหลังจะเลี่ยงออกไปจากตรงนั้น แอบนึกว่าเขาจะรั้งเธอไว้ด้วยการดึงแขน แต่เปล่าเลย ภูผาไม่ได้แตะต้องตัวเธออีก บ้าจริง! คราวก่อนมาอย่างเถื่อน ทำไมรอบนี้ไม่ทำอะไรเลยล่ะ กลับขึ้นห้อง ปิดประตูได้ วางมือทาบลงบนอกด้านซ้าย หัวใจของเธอทำไมถึงยังเต้นแรงอยู่อีกนะ  ภูผามองตามหลังยายแสบจอมเอาแต่ใจของคนทั้งบ้านไปด้วยสายตาที่อ่อนโยนกว่าเมื่อครู่ ก่อนจะตรงไปยังรถของอีกฝ่าย มองสำรวจรอบคัน แล้วค่อยหากุญแจที่แขวนอยู่ในที่ของมัน เปิดดูภาพจากกล้องในรถคันนั้น ถอดเมมโมรีออก เอาขึ้นห้อง ดึงข้อมูลในนั้นเรียบร้อย ค่อยเอาลงมาเก็บอย่างเดิม “ว่าไงหมอภู”  “ไม่ว่ายังไงครับ” ปิยมาภรณ์แสร้งทำหน้าเอือมบุตรชาย ที่ตอบคำถามของตนแบบขอไปทีอย่างนี้อีกแล้ว วางมื้อเช้าที่ตรงหน้า ค่อยหันไปรับน้ำผลไม้จากแม่บ้าน วางลงข้าง ๆ ถามอีกที “ลูกเคยเจอน้องแล้วนี่ ครั้งนี้ลองไปทำความรู้จักกันเพิ่มอีกหน่อย แม่ก็ว่า ไม่ได้เสียหายอะไรนะ”  ปลายฝนเดินเข้ามาทันได้ยินคำสุดท้ายพอดี ก็นิ่งไป ใครเสียหายอะไร หรือไอ้หมอโรคจิตนี่จะฟ้องเรื่องที่ตนขับรถเฉี่ยวเมื่อคืนนี้ เดินเข้ามาสมทบ ทำเป็นถามแทรก “เสียหายเรื่องอะไรหรือคะ”  กล้วยที่ทยอยยกอาหารมาวางให้ที่โต๊ะ รายงานด้วยน้ำเสียงติดจะมีแง่งอนนิด ๆ “คุณแม่น่ะสิคะคุณหนู นัดว่าที่ลูกสะใภ้ให้คุณหมอภูแล้วล่ะค่ะ”  ได้ยินแบบนั้น หัวใจของเธอออกร้อนขึ้นชั่วขณะ ร้องเหอะแล้วกล่าวเยาะใส่ “ทำไมไม่หาลูกเขยให้คะคุณแม่ เล่นไปหาลูกสะใภ้ให้พี่สาว จะไปโดนใจได้ยังไง คุณแม่นี่ไม่รู้เรื่องอีกแล้ว” “เดี๋ยวเถอะลูกนี่” คนเป็นแม่รีบเอ็ดขัดคำพูดของเธอทันที นึกขึ้นได้ว่าลืมสั่งคนครัวให้ทำสละลอยแก้ว เลยเลี่ยงออกไปสั่งงานก่อนจะลืมอีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD