EP 15

1262 Words
คุณหญิงเพลินพิศหันกลับมาหาช้าๆ ประหนึ่งไม่เชื่อหูว่าจะได้ยินคำเหล่านี้หลุดออกมา แต่ด้วยความเป็นคนผ่านโลกมาเยอะ ผ่านคนมาแยะ สิ่งขัดแย้งอยู่ในใจคุณหญิงจึงไม่ถูกเปล่งออกมา นอกจากชวนคุยเรื่องอื่น แต่สายตาก็อดมองเข้าไปในบ้าน เห็นอาทิตยากำลังทักทายพะยอมด้วยความเป็นกันเองแล้วก็ให้สงสาร ไม่ว่าจะจงรักภักดีสักแค่ไหน เจ้านายอย่างชมจันทร์ก็ยังคงมองไม่เห็นอยู่ดี “ข้างในไม่มีอะไรน่าห่วงจ้าตะวัน แต่พี่อยากจะให้ช่วยออกไปดูโต๊ะอาหารทีว่าเด็กๆ จัดการถูกต้องหรือเปล่า” พะยอมส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมอาชีพพร้อมกับชี้นิ้วไปทางสนาม อาทิตยารับคำอย่างเต็มใจ แต่ก็ไม่ลืมจะหันไปไหว้แม่ครัวใหญ่ของบ้านอย่างนอบน้อมด้วยความคิดถึง เพราะไม่เจอหน้ากันนานเต็มที ก่อนจะเดินออกมาชะเง้อคอมองไปหากลุ่มโต๊ะตั้งไว้เป็นแถวเต็มสนาม แล้วสลัดรองเท้าส้นสูง ไปขอยืมแตะที่ถอดไว้ประตูหลังครัวเพื่อลุยงานอย่างไม่เกรงกลัวความเหน็ดเหนื่อย แม้กระทั่งการช่วยเด็กรับใช้ในบ้านหามหม้อแกงร้อนๆ ออกไปเทใส่ถาดหลายครั้งก็ตามที เด็กด้อยโอกาสวัยรุ่นชายหญิงที่สมาคมเอามาฝึกเรื่องการเสิร์ฟแขกในงานเลี้ยงต่างๆ ก็คุ้นเคยกับตะวันเป็นอย่างดี เพราะเจอกันในงานบ่อยมาก จนสนิทสนมพูดหยอกเย้ากันได้ แม้จะคนละวัยก็ตามที ยิ่งจวนเจียนเวลาแขกจะมาข้าทาสรับใช้ทั้งหลายก็ยิ่งต้องวิ่งวุ่นกันขาแทบจะขวิดเหงื่อแทบจะท่วมตัว ผิดกับลูกเจ้าลูกนายทั้งหลายที่คอยยืนพูดคุยฉีกยิ้มให้กันและกันโดยไม่เสียเหงื่อสักหยดด้วยซ้ำ อาทิตยาเองก็ช่วยงานคนในบ้านโดยไม่ได้ออมแรงเช่นกัน แถมรู้งานกว่าหลายคนจนได้ช่วยเตือนว่าขาดตกบกพร่องตรงไหนบ้าง และนั่นจึงเป็นเหตุให้พะยอมเลขาคู่ใจคุณหญิงเพลินพิศชอบเหลือเกิน ความรู้สึกนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากคุณหญิงเพลินพิศสักเท่าไหร่เลย เพราะชอบใจ ประทับใจในความขยันหมั่นเพียร เก่งกาจ รอบรู้รอบคอบคล่องแคล่วงานสารพัดแถมซื่อสัตย์สุจริตอย่างไม่มีที่ติอย่างที่สุด จนแทบจะตอบตัวเองได้ว่าถ้าพ่อลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไม่ชิงแต่งงานไปก่อน คงจะยุให้จีบเอามาทำสะใภ้อย่างแน่นอน ด้วยน้อยครั้งเต็มทีจะเจอคนเกือบจะสมบูรณ์แบบอย่างนี้ผ่านเข้ามาในชีวิต หากจะตัดในเรื่องความด้อยทางภาษีสังคมออกไป “ใครกันครับคุณหญิงป้า ผมไม่เคยเห็นเลย” นนนที กว้างไพศาล หนุ่มผอมบางร่างสูงชุดกางเกงยีนผ้าเนื้อดีสีเทา เสื้อเชิ้ตสีพาสเทลโทนฟ้า มีสูทพอดีตัวสีดำสวมทับแล้วพับแขนพร้อมกับเสื้อเชิ้ตไปเกือบถึงข้อศอกเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างกายผู้เป็นป้า ที่กำลังยืนมองไปทางหญิงสาวในชุดธรรมดาๆ ทว่าเตะตาเขาเข้าอย่างจัง ในความคล่องแคล่ว คนถูกถามหันไปหาหลานชายแล้วส่งยิ้มอย่างรู้ทันให้ “สนใจล่ะสิท่า แต่อย่าเลยสงสารผู้หญิง รายนี้อายุน่าจะไล่ๆ กับเรา ป้าว่าผิดคอนเซ็ปต์ไปหน่อยนะ ปกติจะมองแต่ต่ำกว่ายี่สิบไม่ใช่เหรอ” หลานชายยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี และเปิดเผยตรงไปตรงมาซึ่งนั่นเป็นนิสัยโดยแท้ของเขาอยู่แล้ว “ก็น่ารักดีครับ ท่าทางคล่องงานเชียว รู้จักกับคุณหญิงป้าเหรอครับ ทำไมผมไม่เคยผ่านตาเลย” “แหม!!! ก็เรามัวแต่เรียนหนัก กลับเมืองไทยทีอยู่ไม่กี่วันจะไปเห็นได้ยังไงล่ะจ้ะ ชื่ออาทิตยา เป็นเลขาของคุณชมจันทร์ที่นั่งรวมกับเพื่อนอยู่ในบ้านโน่นไง คนใส่ชุดสีออกทองๆ หุ่นดีๆ น่ะ เคยเจอแกหลายครั้งแล้วนี่จำได้มั้ย” “อ้อ!!! คนที่คุณหญิงป้าบอกว่าขาเปนั่นน่ะเหรอครับ ใช่แม่พี่จิณ ที่เพิ่งจะแนะนำผมเมื่อกี้หรือเปล่าครับ” “นั่นล่ะๆ แล้วทำไมเราถึงได้มาก่อนพ่อกับแม่ล่ะ” คนเป็นป้าคิดขึ้นได้ เมื่อมองหาน้องสาวกับน้องเขยที่ควรจะมาแล้วแต่ยังไม่มีวี่แวว นนนทียิ้มน้อยๆ ให้ก่อนเอ่ยแผ่วเบา “อืม!!! คุณแม่มีแอกซิเดนต์เรื่องชุดนิดหน่อยครับ เลยส่งผมมาเป็นทัพหน้าก่อน ว่าแต่คุณหญิงป้าจะไม่กรุณาแนะนำผมให้รู้จักหญิงสาวผู้น่ารักคนนั้นหน่อยเหรอครับ เผื่อจะได้อีมงอีเมล์เอาไว้ติดต่อกันตอนผมกลับไปเรียนไงครับ นะครับคุณหญิงป้าคนสวย คุณหญิงป้าใจดี คุณหญิงป้าผู้น่ารัก” ชายหนุ่มพาร่างอันสูงสง่าผ่าเผย เดินไปโอบกอดผู้เป็นป้าอย่างประจบประแจง แกมคะยั้นคะยอจนอีกคนทนไม่ได้ต้องยอมทำตามคำขอด้วยการพาเดินตรงไปหาคนที่ถูกพูดถึง ซึ่งกำลังวุ่นอยู่กับการช่วยเด็กจัดเตรียมจานชามมาวางไว้บนโต๊ะ ไม่ถึงห้านาที นนนทีก็เปลี่ยนสภาพจากแขกไปเป็นคนช่วยงานอยู่ข้างๆ อาทิตยาเรียบร้อยแล้ว “ได้คนช่วยงานเพิ่มอีกคนแล้วเหรอคะคุณหญิง” ชมจันทร์เอ่ยด้วยใบหน้าเจือยิ้มน้อยๆ เมื่อออกมาเห็นการกระทำเมื่อครู่ของเจ้าบ้าน จิณณวัตรยืนอยู่ข้างแม่หันไปมองตามทิศทางที่แม่ปรายตาไป ก็เห็นยัยถั่วงอกสาละวนอยู่กับงาน โดยมีหนุ่มนักเรียนนอกที่ยังไม่จบคอยยุ่งอยู่ใกล้ๆ ถึงกับออกอาการขำมาในทันที เพราะไม่คาดคิดว่าเด็กในบ้านตัวเองจะเติบโตมาเป็นสาวสวยจนเตะตาไฮโซอย่างหลานคุณหญิงได้ “ตามประสาผีเสื้อที่เห็นดอกไม้งามก็อยากเข้าไปตอมค่ะ แขกเริ่มมาแล้ว ขอตัวไปต้อนรับก่อนนะคะ ฝากคุณเอ้ไปบอกหนุ่มๆ ข้างในว่าให้ออกมาด้านนอกได้แล้วหน่อยล่ะค่ะ” คุณหญิงเพลินพิศเอ่ยอย่างเร่งรีบ แล้วก็ตรงไปยังซุ้มดอกไม้หน้างานเพื่อรอต้อนรับแขก ที่ต่างทยอยมาเรื่อยๆ แต่ละคนจะถือซองสีขาวมายื่นให้เจ้าภาพแทนกล่องของขวัญหรือกระเช้าดอกไม้ เพราะเจ้าภาพแจ้งไว้แล้วว่าอยากได้เงินไปทำกิจกรรมการกุศลแทน ชมจันทร์ที่ไม่เคยได้จำข่าวสารเหล่านี้ก็ต้องรีบสั่งให้ลูกชายเดินตรงไปหาอาทิตยาช่วยจัดการหาซองใส่เงินหนึ่งหมื่นบาทมาให้เป็นการเร่งด่วนแทนของขวัญที่ยังเก็บไว้ในกระโปรงรถเช่นกัน “เอ้ขอเป็นคนบริจาคเบอร์รองๆ จากคุณหญิงในงานแฟชั่นโชว์เดือนหน้านะคะ คุณหญิงจะได้เมตตาสั่งดีไซเนอร์ให้จัดชุดสวยๆ หรูๆ ให้ยัยแอ๊ฟหน่อยค่ะ” ชมจันทร์ได้โอกาสเข้าไปกระซิบกระซาบ เมื่ออาทิตยาเอาซองเงินมาให้แล้วเตือนความจำตามคำสั่งแล้ว คนรับซองยิ้มกว้างออกมาอย่างยินดีปรีดา ทว่าในใจนั้นเอือมกับความอยากเด่นอยากดังของแขกคนนี้ไม่น้อย แต่เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วก็จำต้องยอมเพื่อให้ได้เม็ดเงินไม่ต่ำกว่าหกหลักมาไว้ในบัญชีมูลนิธิ จะได้เอาไปช่วยเหลือคนอื่นต่อ “ด้วยความยินดีค่ะคุณเอ้ อาทิตย์หน้าให้หนูแอ๊ฟไปหาคุณไก่ที่ห้องเสื้อเลยนะคะ” 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD