13.เปลี่ยนไป

1368 Words
เคทส่งยิ้มก่อนที่เธอจะหยิบผ้าคลุมไหล่มาคลุมให้คุณหนูของเธอ "ที่นี่คือห้องชั้นบนของคฤหาสน์เมนเคลค่ะ ท่านชายอามีนสั่งให้เราย้ายมาอยู่ที่นี่เพื่อให้สะดวกต่อการรักษา" ไซคีเลิกคิ้วขึ้นมามองหน้าของเคท ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม.. เธอไม่เคยเห็นหน้าสามีในนามของตัวเองเลยด้วยซ้ำ แล้วทำไมเขาถึงได้สั่งให้เธอมาอยู่ที่นี่กันนะ? ยังจะสาวใช้สามสี่นางที่ยืนอยู่ในห้องนี้ด้วยท่าทีสงบเสงี่ยมนั่นอีก ทั้งที่เมื่อก่อนไม่มีสาวใช้นางไหนที่จะเกรงใจเธอเช่นนี้มาก่อนเลย ราวกับว่าเคทนั้นสามารถเดาความสงสัยของคุณหนูเธอได้ เธอจึงสั่งให้สาวใช้ผู้อื่นออกไปจากห้องนี้ก่อน "เกิดอะไรขึ้นในตอนที่ข้าหลับไปอย่างนั้นหรือ?" เคทยกยิ้มจางๆก่อนจะส่งแก้วยาอุ่นๆให้คุณหนู "ท่านชายอามีนเป็นคนพาคุณหนูมาที่นี่ด้วยตัวเองเลยนะคะ ท่านชายเป็นคนอุ้มคุณหนูมาพร้อมกับมีคำสั่งให้ข้ารับใช้ในคฤหาสน์เมนเคลทุกคนรับใช้คุณหนูด้วยความเต็มใจ ท่านชายยังสั่งอีกด้วยว่าหากมีใครก็ตามที่ไม่เต็มใจรับใช้คุณหนูสามารถลาออกได้ตลอดเวลา" ไซคีรู้สึกว่าเธอกำลังมึนหัวอย่างมาก ทั้งจากพิษไข้และจากการกระทำของสามีในนาม ตามเนื้อเรื่องเดิมเขาน่ะ..เกลียดเธอจะตาย อามีนน่ะทั้งเกลียดชังและไม่ชอบท่านแม่สุดๆไปเลย และแน่นอนความเกลียดชังนั้นมันสะท้อนเข้ามาในตัวไซคี จนไซคีคือสนามอารมณ์ของเขา ข้ารับใช้ถูกสั่งให้เมินเฉยต่อไซคีเพราะเขาไม่ต้องการให้ไซคีอยู่ที่เมนเคลอย่างมีความสุข เขาต้องการให้นางทุกข์ทรมาน.. นี่คือสาเหตุหลักที่ทำไมพอมาถึงที่นี่ เธอถึงได้ขอท่านดยุคย้ายไปที่เรือนเล็กเพราะว่าเธอไม่อยากจะถูกอามีนทรมาร.. แล้วเรื่องราวมันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง ไม่ใช่ว่านี่คือแผนการทรมานเธอหรอกใช่ไหม อย่างเช่นให้เธออยู่ที่นี่อย่างสบายใจแล้วค่อยมาลอบฆ่าเธอทีหลังอะไรแบบนั้นน่ะ ประตูไม้บานใหญ่ถูกเปิดออกมา พร้อมกับเงาร่างที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไซคีเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะหันไปมองประตูที่ถูกเปิดออก เธอค่อนข้างมั่นใจหลายส่วนเลยว่าผู้ที่เดินเข้ามาคืออามีนอย่างแน่นอน ดวงตาของเธอพลันเบิกกว้างออกมาเมื่อเธอได้มองเห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน จะมีคำนิยามใดที่เหมาะสมกับเขาไปมากกว่าคำว่าสมบูรณ์แบบอีกอย่างนั้นหรือ? ถึงเขาและเฟลิกซ์จะไม่ใช่พี่น้องแท้ๆแต่ทว่าทั้งสองคนก็มีอะไรหลายๆอย่างที่เหมือนกัน ใบหน้าของเขานั้นเรียบเฉย ผมสีดำสนิทถูกหวีและจัดทรงมาอย่างเรียบร้อย ดวงตาของเขาจับจ้องมาที่ใบหน้าของเธอเขาเดินตรงเข้ามาหาเธอเรื่อยๆ หัวใจของไซคีพลันเต้นแรงขึ้นมา เธอกำลังพยายามอย่างหนักที่จะหาคำพูดเพื่อมาทำลายบรรยากาศน่าอึดอัดนี้ลง แต่ทว่าเธอก็ไม่อาจตั้งสติได้เลย เพราะว่าสายตาของเขา..ที่มองมายังใบหน้าของเธอทำเอาไซคีทำตัวไม่ถูก "..ข้าได้สั่งให้ช่างตัดเสื้อและช่างทำเครื่องประดับมาดูแลเรื่องการแต่งกายของเจ้าแล้ว" ไซคีกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะปั้นยิ้มขึ้นมาเพื่อส่งให้เขา "ขอบคุณค่ะ" "อาการป่วยของเจ้า..ดีขึ้นบ้างรึยัง?" เคทก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปด้านนอก นี่มิใช่ช่วงเวลาที่จะเกิดขึ้นง่ายๆ เธอควรจะให้สามีและภรรยาในนามได้พูดคุยกันอย่างเป็นส่วนตัว เพราะบางทีทั้งสองคนอาจจะกลับกลายเป็นสามีภรรยากันจริงๆก็เป็นได้ "ค่ะ ขอบคุณท่านชายที่คอยช่วยเหลือ" เธอช้อนสายตาขึ้นมามองหน้าเขา พร้อมกับคำถามมากมายที่เกิดขึ้นมาในใจ หากว่าเป็นอามีนล่ะ เพราะการจะชักจูงเฟลิกซ์มันคือเรื่องยากแล้วหากว่าเป็นชายผู้นี้.. หากว่าเธอลองยั่วยวนเขา..เขาคงจะไม่ฆ่าเธอหรอกใช่ไหม? ไซคีสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนที่เธอจะช้อนสายตามองหน้าของอามีนด้วยสายตาที่คลอเคลียไปด้วยหยาดน้ำตาแวววาว เขาปรายตามองใบหน้าที่ดูราวกับหวาดกลัวของเธอก่อนจะเดินเข้ามาแล้วนั่งลงที่ข้างเตียง มือของอามีนถูกยกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเบาๆเพื่อวัดระดับความร้อนจากร่างกายของไซคี มันมิได้ร้อนเช่นเมื่อวานแต่ทว่าอุณหภูมิในร่างกายของเธอก็ยังสูงมากเมื่อเทียบกับร่างกายของเขา และเมื่ออามีนมองอาหารที่วางเรียงรายก็พบว่ามันยังคงอยู่ในสภาพสวยงาม นั่นหมายความว่าเธอยังมิได้แตะต้องอาหารเหล่านั้นเลย "ไม่ถูกปากอย่างนั้นหรือ?" ไซคีมองอาหารมากมายที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ เพียงแค่เธอมองเห็นอาหารมากมายเหล่านั้นท้องไส้ของเธอก็พลันบิดมวนด้วยอาการความหิวโหย ที่ยังไม่ได้กินไม่ใช่ว่าไม่หิวแต่เป็นเพราะว่าเธอพึ่งจะตื่นต่างหากแล้วเขาก็เดินเข้ามาพอดีด้วย "ข้ายังรู้สึกมึนหัวอยู่ ก็เลยไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะทานด้วยตัวเองค่ะ" เธอสบตาของเขาพร้อมกับริมฝีปากที่หยักยิ้มขึ้นมาจางๆ ยกขึ้นมาสิอามีนถ้วยอาหารพวกนั้นยกมันขึ้นมาป้อนเธอ.. "เช่นนั้นข้าจะออกไปก่อนก็แล้วกัน เจ้าเองก็รอเคทมาป้อนเถอะ" รอยยิ้มยังคงแข็งค้างอยู่บนใบหน้าอันแสนงดงามของไซคี แต่ทว่าอามีนกลับเดินออกไปจากห้องนี้แล้ว เธอถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปยังโต๊ะอาหาร เขาพยายามหลีกเลี่ยงเธอหรือว่าเขาไม่รู้จริงๆกันแน่ อามีนเป็นคนเช่นไรกันนะ? จากคำบอกเล่าของเคทเขาก็ดูมีเมตตาดีนี่นา หรือว่าบางทีเธออาจจะต้องค่อยเป็นค่อยไปกับเขา ไซคีนอนพักอีกวัน อาการของเธอก็ดีขึ้นตามลำดับ เธอส่งยิ้มที่แสนจะงดงามให้อามีน ทั้งที่ตั้งใจจะยั่วยวนเขาแท้ๆแต่มันกลับกลายเป็นว่าเราจะต้องห่างกันอีกครั้ง เพราะเธอจะต้องมายืนส่งเขากลับไปที่สนามรบ.. "เจ้ากลับไปพักเถอะ ส่งเท่านี้ก็พอ" อย่างน้อยในครั้งนี้เขาก็ยอมคุยกับเธอถึงจะมีหมวกเหล็กนั่นขวางกั้นอยู่ก็ตาม ไซคียื่นผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงินให้เขา ทั้งที่ในครั้งแรกเธอเลือกที่จะหลีกเลี่ยงเขา เพราะเธอมองเห็นความเป็นไปไม่ได้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรา แต่ทว่าในครั้งนี้มันไม่ใช่อีกแล้ว ไม่ว่าใครก็ตาม..ที่สามารถทำประโยชน์กับเธอได้ในอนาคต ไซคียินยอมที่จะเอาชีวิตของเธอเข้าไปเสี่ยง.. อามีนรับผ้าเช็ดหน้าที่เธอส่งให้ไปถือเอาไว้ เขามองที่ภรรยาในนามนิ่งๆก่อนจะขี่ม้าออกไป ที่มือของเขายังคงกำผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นแน่นพร้อมกับหัวใจที่เกิดเป็นความหวั่นไหวขึ้นมา ความงดงามที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถต้านทานได้หรอก สวยขนาดนั้น..จะไม่ให้เขาหวั่นไหวได้ยังไงเขาไม่ใช่ก้อนหินสักหน่อย ทั้งที่รู้ว่าหากเขาเดินทางออกมา ไซคีจะไม่มีทางหลบหนีจากเฟลิกซ์พ้น แต่ทว่าเขาคือผู้นำเมนเคลคนต่อไป เขาไม่อาจละทิ้งสนามรบเพื่อปกป้องไซคีได้ อามีนถอนหายใจเบาๆ หวังว่าอีกหนึ่งปีข้างหน้าเธอจะยังคงรอเขาอยู่ที่นี่นะ เพราะเมื่อสงครามสิ้นสุดเราคงจะได้กลับมาคุยเรื่องการแต่งงานกันให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD