“ไงคะริโอ ไม่เจอกันนานเลย คิดถึงกันบ้างหรือเปล่าคะ?” เสียงหวานแหลมส่งเสียงมาแต่ไกล
ริโอกระแทกสันมือกับขอบโต๊ะทำงาน ดันเก้าอี้สไลด์ไปจนชิดกระจกใสด้านหลัง
นี่ไงสาเหตุหลักที่เขาเบื่อผู้หญิงแทบกระอัก ‘เจนนี่ ดอว์สัน’ ผู้หญิงที่ครอบครัวของเขาหมายมั่นจะให้ริโอตกร่องปล่องชิ้นด้วย และเขาพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดหลายปี
“ไม่มีใครบอกคุณหรือไงเจนนี่ว่าผมไม่ว่าง”
ริโอพูดเสียงแข็ง สีหน้าระอาแทบปิดไม่มิด
เจนนี่ไหวไหล่ เดินมาทิ้งตัวอิงสะโพกกับขอบโต๊ะ โน้มตัวลงไปใกล้ แล้วตอบเสียงหวานแหลม “คนของคุณกล้าห้ามฉันด้วยเหรอคะ”
ทุกคนในไรท์คอร์ปอเรชันรู้ดีว่าเจนนี่ถูกวางไว้ตรงตำแหน่งไหน ไม่มีสักคนกล้าขวางหล่อน ยกเว้นฌอน ซึ่งช่วงนี้ฌอนเองก็ยุ่งวุ่นวายไม่แพ้ริโอเลย
“ที่นี่ไรท์นะเจนนี่ ไม่ใช่ดอว์สันของคุณ” ริโอตอบเสียงแข็ง
คงต้องสังคยนาครั้งใหญ่กับคนของตัวเอง ต่อให้บิดา มารดาปลื้มเจนนี่มากแค่ไหน หากเขาไม่ยินยอม มีใครบังคับเขาได้บ้างล่ะ
“ใจเย็นๆ สิคะ อย่าเพิ่งโกรธ เจนนี่แค่อยากเซอร์ไพรส์คุณนะริโอ” เจนนี่รีบพูดเสียงสั่น พยายามเดินอ้อมโต๊ะเข้าใกล้ริโอมากขึ้น จนเขาต้องรีบห้าม
“หยุดอยู่ตรงนั้นเลยเจนนี่ ผมไม่มีอารมณ์ อย่าพยายามกวนโทสะผมนักเลย”
เจนนี่แอบเบ้ปาก หากริโอไม่ใช่ทายาทไรท์ที่มั่งคั่งละก็ เธอก็ไม่อยากใส่ใจเขาสักเท่าไร่หร๊อก ในเมื่อโลกใบนี้ไม่ได้มีผู้ชายแค่ริโอคนเดียว ยังมีผู้ชายอีกหลายสิบคนที่อยากเข้ามาใกล้ชิดกับเธอ แต่มันเป็นคำสั่งบิดาที่เจนนี่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอเลยต้องยอมทน
“ใครทำให้คุณอารมณ์เสียคะ?”
ริโอไม่ได้ตอบ เขามองสบตาเจนนี่และรีบผ่อนลมหายใจช้าๆ
ถึงไม่เคยพึงพอใจเจนนี่เลยสักครั้ง แต่มารยาทการอยู่ร่วมกันในสังคมก็เป็นตัวการทำให้เขาจำใจกล้ำกลืน
“งานน่ะ คุณเถอะมีธุระอะไรกับผมเหรอไง?”
“มาหาคุณต้องมีธุระด้วยเหรอคะริโอ” เจนนี่พูดเหมือนเป็นต่อ ใครๆ ก็รู้ บิดา มารดาของริโอ อยากให้เขาตกลงปลงใจกับเธอ ถึงจะไม่ใช่ตอนนี้ ในอนาคตก็ไม่มีใครรับประกันได้ ทุกคนต่างรู้ดี นาทีนี้ ไม่มีใครเหมาะสมกับไรท์ ได้เท่าดอว์สันของเธอ
เสียงกระแทกลมหายใจแรงๆ ใส่ ทำให้เจนนี่เสียเซลฟ์ไม่น้อย แต่ก็ต้องรีบเก็บอาการเอาไว้ เธอมาหาริโอเพราะมีธุระจริงๆ นั่นแหละ หากพานอารมณ์เสียใส่เขา มันจะพาให้เสียงานใหญ่
“คุณพ่อฝากมาบอกคุณค่ะ โครงการที่มีปัญหา ขอให้คุณยืดเวลาให้อีกหน่อย เราสามารถเร่งงานให้ทันเวลาส่งแน่นอนค่ะ”
“อ้อ...ฝากกลับไปบอกพ่อคุณด้วยนะเจนนี่ ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมยืดเวลาให้ หากมีครั้งหน้าอีก โครงการครั้งต่อไป ผมคงต้องเปิดโอกาสให้คนอื่น” ริโอตอบแบบไร้เยื่อใย เขาเบื่อจนแทบกระอัก ดอว์สันใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวบีบคั้นให้เขาต้องทน
“ขอบคุณค่ะ...คือ” เจนนี่เตรียมพูดต่อ
แต่ริโอโบกมือห้ามไว้ก่อน
“ผมยุ่งน่ะ บอกไว้ก่อน ผมไม่มีเวลาเทคแคร์คุณหรอกเจนนี่” ริโอเอื้อมมือปิดแล็ปท็อปส่วนตัว ฉวยสูทที่แขวนไว้บนพนักเก้าอี้มาพาดไว้ที่ไหล่ซ้าย เอื้อมมือกดอินเตอร์คอมสั่งงานครั้งสุดท้าย แบบไม่สนใจเจนนี่ที่ยืนหัวโด่อยู่ตรงหน้าสักนิด
“ริเวียร่า ที่ผมสั่งไว้ได้ฟังกันหรือเปล่าครับ ถ้ามีครั้งหน้าอีกครั้ง คุณหางานใหม่ได้เลยนะ”
หากคำสั่งของเขาไม่มีคนเชื่อถือ ปล่อยให้เจนนี่เดินเข้าออกห้องทำงานเขาแบบไม่ขออนุญาตก่อน คงไม่จำเป็นต้องจ้างให้ทำงานต่อ ถ้ายังอยากทำงานกับไรท์คอร์ปอเรชัน คำสั่งเขาคือเอกฉันท์
เจนนี่เบ้ปากรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าฉาดใหญ่ ยิ่งตอนที่เดินตามริโอออกมาด้านนอก สายตาหลายคู่ที่มองมายังเธอ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเสียหน้า
ริโอไม่เคยไว้หน้าเธอเลย เขาไม่ยี่หระกับความสัมพันธ์ที่เกี่ยวเนื่องกันทางธุรกิจ
ความสามารถของเขาไม่ต้องพึ่งพาบิดาของเธอเหมือนสมัยก่อน พอเขาปีกกล้าขาแข็ง ดอว์สันก็แทบจะไร้ความหมาย
“คุณลุงคะ ริโอไม่ให้เกียรติหนูเลยค่ะ” แต่เจนนี่ก็ไม่ได้แคร์ริโอ เธอมีบิดาของริโอถือหางทั้งคน
โรเดลถอนใจแรงๆ ฟังเสียงแหลมบาดหูของเจนนี่แบบรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ บุตรชายของท่านกระด้างและค่อนข้างเอาแต่ใจ ยิ่งบีบคับยิ่งเตลิดไปกันใหญ่ เขาเองก็จนปัญญาที่จะควบคุมบุตรชายคนนี้ ริโอไม่ใช่หนุ่มน้อยที่ต้องอาศัยร่มเงาบิดา มารดาคุ้มหัว ปีนี้บุตรชายของท่านปาเข้าไปเกือบสี่สิบปีเต็ม เป็นหนุ่มใหญ่ที่ควรมีครอบครัวเป็นปึกแผ่นตั้งนานแล้ว แต่ริโอก็ยังใช้ชีวิตอิสระ ลอยไปลอยมาจนท่านปวดหัว
“หนูเจนอาจจะเข้าใจผิดก็ได้นะ ตอนนี้ที่ไรท์กำลังเจอปัญหาใหญ่ ลูกชายของลุงเลยรู้สึกหงุดหงิด ช่วงนี้อย่าพึ่งไปกวนใจเขาเลย” โรเดลทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ ปัญหานั่นก็มาจากดอว์สันนั่นแหละ เพราะความไว้ใจเลยไม่อยากถือสาหาความ แต่หากริโอเหลืออด ท่านเองคงยื่นมือไปช่วยไม่ไหว หลายครั้งที่จอร์นทำงานส่งไม่ตรงเวลา ค่าปรับสำหรับการเลื่อนก็มากเอาการ ซึ่งท่านก็ไม่เคยปรับเงินจำนวนนั้นกับทางดอว์สันเลย
เจนนี่เตรียมจะพูดต่อ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากโรเดล
“เดี๋ยวลุงโทรกลับนะหนูเจน ริโอโทรมา คงมีธุระด่วนน่ะ” แต่แล้วโรเดลก็พูดตัดบท แล้วสัญญาณก็ถูกตัด เจนนี่หงุดหงิดไม่น้อย แต่เธอก็ทำอะไรมากไม่ได้ หากไปจุดชนวนโกรธของริโอเข้า มันจะสะเทือนทั้งดอว์สัน
ประเทศไทย...
ม่านไหมพยายามอดทนไม่ใส่ใจความซุกซนของบุตรทั้งสอง ริทกับโรซีเพิ่งเต็มห้าปีเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ทั้งสองคนแค่อยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็ก ถึงจะเกินความอยากรู้ของเด็กวัยเดียวกันไปสักหน่อยก็เถอะ
“ป่าน วันนี้ริทกับโรซีเรียนออนไลน์นะ ไม่ต้องไปโรงเรียน”
เพราะโรคระบาดที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในประเทศ เลยพลอยทำให้นักเรียนเด็กเล็กพากันลำบาก การเรียนไม่ต่อเนื่องสักเท่าไหร่ โชคดีที่สามารถปรับตัวทันโรค แต่ก็มีนักเรียนบางส่วนที่หลุดออกไปจากระบบการศึกษาไม่น้อย เนื่องจากบิดามารดาของพวกเขาสัพพอร์ตไม่ไหว ความเลื่อมล้ำทางสังคมเป็นปัญาหลัก ครอบครัวยากจนมีมากกว่าสี่สิบเปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งประเทศ คนรายได้น้อยหาเช้า กินค่ำ หาอุปกรณ์การเรียนให้บุตรของพวกเขาไม่ได้ เด็กเหล่านั้นเลยตามเพื่อนไม่ทัน และทำให้พวกเขาหลุดออกไปจากระบบการศึกษา และกลายเป็นปัญหาที่ต้องรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน
หากภาครัฐไม่แก้ปัญหาเหล่านี้ให้ลุล่วงในเวลาอันรวดเร็ว
คงมีนักเรียนหลุดออกจากระบบการศึกษาไปไม่น้อย
“เมื่อวานมีลูกคนงานป่วยหลายคนเลยค่ะคุณไหม?” ป่านเปรยลอยๆ
“เอายาที่ฉันเตรียมไว้ ไปให้พวกเขาด้วยนะ อย่าลืมล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งก่อนเข้าบ้านด้วยล่ะ” ไม่มีใครรู้ตัวล่วงหน้า การระวังตัวจึงสำคัญ การต่อสู้กับโรคระบาดที่แพร่ทางอากาศได้มันไม่ง่ายเลย
“รอให้คุณหนูเรียนก่อน ป่านถึงจะไปค่ะ” ม่านไหมเคยบอกไว้หลายหน เรื่องยาสามัญที่เตรียมไว้ให้คนงาน
“ฉันจะไปที่โรงงานนะ บ่ายๆ ถึงกลับ ก่อนออกจากบ้านล็อกประตูรั้วให้เรียบร้อยด้วยนะ” ม่านไหมกำชับ
เธอไม่ไว้ใจสองแสบสักเท่าไหร่ ต่อให้บ่นจนหูชา ปรามจนคร้านที่จะพูด สองแสบนั่นก็ไม่ค่อยสนใจ ม่านไหมเลยเปลี่ยนวิธีเป็นระวังแทน
โรงงานดอกไม้ผ้าที่ม่านไหมสานต่อจากบิดา กิจการไม่ได้หวือหวา แต่ก็เป็นงานที่สร้างรายได้ให้กับเธอ ถึงไม่ได้เรียนสายนี้มาโดยตรง แต่มันก็ไม่ยากเลย ม่านไหมโตมากับกิจการของบิดาตั้งแต่เด็ก เธอรู้วิธีทำทุกขั้นตอน พอเริ่มทำก็ทำได้ไม่มีอะไรติดขัด ช่วงนี้มีออเดอร์เข้ามาเยอะ เลยทำให้เธอละเลยบุตรทั้งสองคนไปบ้าง