2 สบสายตา

758 Words
หนึ่งเดือนต่อมา นาร์มินเดินลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่อยู่ภายในสนามบินท่ามกลางผู้คนจำนวนหนึ่งที่เดินสวนไปมา หลังจากอกหักจากแฟนหนุ่มที่คบกันมาสองปี เธอก็ตัดสินใจจองตั๋วบินไปรักษาแผลใจคนเดียวที่แคนาดาร่วมหนึ่งเดือนเต็ม แม้ว่าตอนนี้ยังทำใจไม่ได้เต็มร้อย แต่ก็ไม่เจ็บปวดเหมือนวันแรกที่รับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอกใจ ที่ต้องบินกลับประเทศไทยเพราะธุรกิจทางบ้านมีปัญหา ทำให้ต้องบินกลับมาช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ดวงตากลมโตละจากโทรศัพท์ในมือมองไปยังทางเดินตรงหน้า สายตาปะทะเข้ากับชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งที่สวมแว่นตาสีดำกำลังเดินมาอยู่เบื้องหน้าพร้อมกับชายชุุดดำ ด้วยความที่เขาคนนั้นมีความโดดเด่นและมีเสน่ห์ ทำให้เธอไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้ แปลก…ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าใบหน้าผู้ชายคนนั้นถึงดูคุ้นตาราวกับเคยเจอที่ไหนมาก่อน แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกเสียที ชายหนุ่มหน้าตาดีเดินผ่านไป กลิ่นหอมจากตัวเขาเผลอมาเตะจมูกจนเผลอทำให้ใจสั่น เธอหยุดชะงักสองเท้าแล้วหมุนตัวไปมองเขาคนนั้นพร้อมเกิดคำถามในใจ “ทำไมดูคุ้นๆ เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน” เธอพึมพำคนเดียวด้วยความสงสัย ลักษณะท่าทางของเขาดูคุ้นตาพิกล แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน “ไม่อยู่เมืองไทยแค่เดือนเดียว จำทางในสนามบินไม่ได้เลยเหรอพี่นาร์” เสียงผู้ชายที่ดังขึ้นทำให้นาร์มินละสายตาจากกลุ่มชายชุุดดำที่เดินออกไปมามองเจ้าของเสียง นาร์วิน น้องชายของนาร์มินเดินตรงเข้าไปหาพี่สาวพร้อมเอ่ยทักทายด้วยคำพูดยียวนกวนประสาทเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน “ไปอยู่แคนาดาเดือนนึง แผลใจหายดีรึยัง” “นี่คือสิ่งที่น้องชายทักทายพี่สาวที่เพิ่งกลับมาจากการรักษาแผลใจอย่างนั้นเหรอ?” “แล้วที่ไปแคนาดาเพราะอกหักไม่ใช่เหรอ?” “พ่อให้มารับ ไม่ใช่ให้มาซ้ำเติมพี่สาวตัวเอง” เธอบ่นให้น้องชาย ห่างกันแค่เดือนเดียว ความกวนประสาทของนาร์วินก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน “ถามอะไรหน่อยสิ” “ว่า?” “รู้จักผู้ชายคนนั้นไหม?” เธอพูดพร้อมชี้นิ้วไปยังผู้ชายคนนั้นที่กำลังยืนคุยกับบางคนอยู่ “ถามเหมือนผมเป็นวิกิพีเดียไปได้” นาร์วินตอบกลับพร้อมดึงสายตาไปมองคนที่พี่สาวเอ่ยถาม “รู้จัก” “เขาเป็นใครเหรอ?” “สาบานว่าพี่ไม่รู้จักเขา?” “ถ้ารู้ก็คงไม่ถามหรอก” “ชื่อมาร์คิน เป็นลูกชายทายาทตระกลูมาเฟีย เขาเป็นนักธุรกิจ และตอนนี้ก็กำลังสานต่อไนต์คลับของพ่อตัวเอง เปลี่ยนชื่อจากมาร์เวลล์คลับมาเป็นไนต์คิงส์คลับ” “อ๋อ…” “คนนี้แหละที่พี่นาร์ต้องไปคุยเรื่องธุรกิจด้วย” “คะ…คุยอะไรนะ?” “พ่อเรียกพี่นาร์กลับมา เพราะจะให้พี่ไปคุยเรื่องธุรกิจกับคุณมาร์คิน พ่อบอกว่าถ้าได้คุณมาร์คินมาร่วมทำธุรกิจด้วย โอกาสที่บริษัทบ้านเราจะไม่ล้มละลายมีสูงมาก” “เขามีอิทธิพลขนาดนั้นเลยเหรอ?” “ไม่ใช่แค่นักธุรกิจในไทยนะที่อยากทำธุรกิจกับเขา ต่างประเทศก็มี อีกอย่าง คุณมาร์คินไม่เคยตกลงทำธุรกิจกับใคร” “อ้าว แล้วแบบนี้เขาจะยอมตกลงทำธุรกิจกับครอบครัวของเราเหรอ?” “พ่อบอกว่าให้พี่ใช้ความสวยที่พ่อกับแม่ตั้งใจปั้นมากับมือให้เป็นประโยชน์” “อยู่แคนาดาดีๆ ยังจะเรียกตัวกลับมา” “ความหวังบริษัท…ขึ้นอยู่กับพี่แล้วนะ” นาร์วินยิ้ม ก่อนจะลากกระเป๋าพี่สาวแล้วเดินนำออกไป นาร์มินถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ ก่อนจะหันกลับไปมองผู้ชายที่ชื่อมาร์คิน ขณะที่กำลังมอง เขาก็ได้เบนสายตามาสบตาด้วย แม้จะสวมใว่แว่นตาอยู่แต่ก็รับรู้ได้ว่ากำลังสบสายตากัน เธอเป็นฝ่ายหลบสายตาไปจากเขา ก่อนจะเดินตามน้องชายที่เดินออกไปก่อนหน้านี้ ยอมรับว่าตอนสบตากับมาร์คินแอบเผลอใจสั่นอยู่เล็กน้อย ได้สบตากับคนหล่อ ใครบ้างไม่ใจเต้นแรง…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD