บทที่5

1061 Words
บทที่5 ข่าวที่พระชายาจื่อหยางป่วยหนักถึงขั้นไม่ออกจากตำหนักจิ๋วเฟิ่นไม่ได้ทำให้องค์ชายสี่ทุกข์ร้อนหรือกังวลใจ เขาชินชาเสียแล้ว ที่สตรีผู้นั้นแกล้งป่วยเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา ไม่ใช่เขาไม่รู้ว่านางวางยาตัวเอง ถึงหมอที่นางเรียกมารักษาจะเป็นคนของนางแต่เมื่อเข้ามาอยู่ในวังของเขาก็คือคนของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางทำเขารู้หมด นั่นเป็นสาเหตุที่เขาไม่จำเป็นที่จะต้องไปเยี่ยมเยียนยามนางเจ็บไข้ได้ป่วย ในเมื่อทำตัวเองก็ต้องดูแลตัวเอง “องค์ชายคราวนี้พระชายาป่วยนานกว่าทุกครั้งไม่คิดจะไปเยี่ยมพระนางบ้างหรือเพคะ“ หนึ่งในนางรำเอ่ยเสียงหวานในระหว่างในขณะที่รินสุราใส่จอกด้วยท่าทางชดช้อยให้แก่บุรุษผู้เป็นเจ้าของวังแห่งนี้ “ไม่จำเป็น” โจวตงอวี่ยกสุราเครื่องดื่มรวดเดียวจนหมดจอก “ถ้าเช่นนั้นวันนี้จะให้พวกหม่อนฉัน เล่นดนตรีหรือแข่งกันแต่งกลอนดีเพคะ” นางรำอีกคนนึงเอ่ยถามเสียงหวานไม่แพ้กัน “ฟังหม่อมฉันขับกล่อมเพลงดีหรือเพคะ” เหมยเหมยพี่ใหญ่สุดของเหล่านางรำเอ่ยถาม นางรู้ใจองค์ชายสี่มากกว่าใคร และถ้าให้เรียงลำดับสตรีทุกนางในที่แห่งนี้ นางมาก่อนใครเรียกว่าเป็นที่โปรดปรานอันดับหนึ่งก็ว่าได้ เสียงดนตรีแว่วดังออกมาจากเรือนชมจันทร์เรือนที่องค์ชายสี่สร้างเอาไว้เพื่อให้เหล่าสตรีที่เขาโปรดปรานทั้งหลายพักอยู่อาศัย และองค์ชายใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่เรือนแห่งนี้ ไม่ใช่เรือนหนังสือหรือตำหนักนอนของพระองค์ แม้แต่ตำหนักของพระชายาองค์ชายสี่ก็ไม่เคยย่างกลายเข้าไป ขนาดพระชายาป่วยหนักองค์ชายก็ยังสำเริงสำราญขลุกตัวอยู่ที่เรือนชมจันทร์ ราวกับไม่สนใจว่าพระชายาของตนจะเป็นหรือตาย สิ่งที่เกิดขึ้นข้าราชบริพารองครักษ์นางตำนานล้วนไม่แปลกใจ พระองค์เป็นเล่นนี้มานานแล้ว ”ท่านหมอพระชายาเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ“ เมื่อเห็นหมอหลวงตรวจเจ้านายของตนเรียบร้อยนางก็รีบถามอย่างร้อนใจ ทุกครั้งพระชายาจะแค่ปวดหัวตัวร้อน อาเจียนเป็นไข้เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น แต่ครั้งนี้เลือดเปื้อนไปทั้งร่างทำเอาเสี่ยวอันตกใจไม่น้อย แต่เห็นพระนางยังลุกเดินไปยังส่วนชำระล้างร่างกายได้อย่างปกติก็ ทำให้เสี่ยวอันวางใจได้ในระดับหนึ่ง แต่ลึกๆ ในใจก็ยังเป็นห่วงอยู่ดีปริมาณเลือดที่เลอะชุดนั้นไม่ใช่น้อย หมอหลวงส่ายหัวแม้จะตกใจตอนที่นางกำนัลเล่าว่าพระชายาบาดเจ็บ ไม่รู้เพราะสาเหตุอะไร ตอนที่พบพระนางช่วงเช้าตรู่ร่างกายโชกไปด้วยเลือด แต่หลังจากที่เขาตรวจแล้วไม่พบบาดแผลใดๆ เลย สอบถามอาการเบื้องต้นแล้วพระชายาก็ไม่ได้บอกว่าเจ็บป่วยหรือปวดส่วนใดของร่างกาย ตรวจชีพจรก็เต้นปกติไม่พบว่าร่างกายมีธาตุไฟแทรกหรือมีสาเหตุใดที่ทำให้กระอักเลือดออกมาจนท่วมกายเช่นนั้นได้ แต่เอาเถอะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ทรงคงกำลังเรียกร้องความสนใจจากองค์ชายสี่อยู่เป็นแน่ เขาก็เป็นแค่หมอตัวเล็กๆ ทำเพียงก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตนไป “พระวรกายปกติดี มีอาการเลือดออกอย่างที่เจ้าว่าแต่ก็ไม่อาจวางใจได้ เดี๋ยวข้าสั่งยาบำรุงให้เจ้าก็ต้มให้พระนางดื่มอย่างเช่นทุกครั้งก็แล้วกัน ให้พระชายาพักผ่อนมากๆช่วงนี้อากาศเย็น เลือดที่เจ้าเห็นอาจจะเพราะเลือดกำเดาไหล สาเหตุมาจากอากาศ เปลี่ยนแปลงกระทันหันก็เป็นได้”หมอหลวงหันไปบอกเสี่ยวอันเช่นนั้นอาการที่แจ้งนางกำนันของพระชายาน่าจะใกล้เคียงที่สุดกับเลือดที่ออกเปียกชุดบรรทมของพระองค์ได้ “ท่านหมอ ท่านช่วยจัดรางจืดให้ข้าหลายๆ ชุดหน่อยได้หรือไม่” จื่อหยางหันมาสั่งเทียบยาจากหมอหลวงเพิ่ม นางรู้ดีว่าเจ้าของร่างนี้ทำสิ่งใดกับร่างของตนบ้างไม่รู้ว่าสารหนูที่เจ้าของร่างเดิมทยอยกินเข้าไปนั้นสะสมอยู่มากมายเพียงใด เพื่อที่จะให้แน่ใจว่านางจะสามารถใช้ร่างนี้ต่อไปได้ยาวนานขึ้น ก็ต้องขับพิษออกเท่าที่สามารถจะทำได้ ยาถอนพิษที่พอจะนึกได้รางจืดนี่แหละ “พะยะค่ะพระชายา“ หมอหลวงหัวคิ้วหมุน พระชายานึกครึ้มอะไรถึงอยากได้รางจืดมาต้มกิน นึกว่าจะอยากเติมพิษเข้าในร่างมากกว่าเสียอีก เขาเคยเสนอให้พราะนางเมื่อนานมาแล้ว แต่พระนางก็ปฎิเสธท่าเดียว จื่อหยาง เก็บตัวอยู่ในตำหนักจิ๋วเฟิ่นนางกินยาที่นางกำนัลต้มมาให้ไม่ขาดแม้แต่มื้อเดียว แม้จะขมและรสชาดแย่เท่าไหร่นางก็ยอมทนกรอกยานั่นลงคอ ตั้งแต่ฟื้นมานางไม่เคยเอ่ยถามถึงสามีพระสวามีอย่างองค์ชายสี่เลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่โอดครวญตัดพ้อน้อยใจ ว่าเหตุใดเขาถึงได้มาเยี่ยมนางอย่างเช่นทุกครั้งที่ล้มป่วยจนเสียวอันแปลกใจ ”พระชาาออกไปนั่งรับลมด้านนอกเสียหน่อยดีหรือไม่เพคะอากาศกำลังดีเลยเชี่ยว“ จื่อหยางพยักหน้ารับ ก็ดีเหมือนกันอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ เบื่อแต่ก็ก็บ่นไม่ได้ นางเดินออกมานั่งที่เก้าอี้ยาวหน้าตำหนักสายลมเย็นฉ่ำพัดมากระทบดวงหน้า ที่ผ่ามานชีวิตเดิม ทุกวันนางคอยแต่จะคิดหาว่าจะทำงานอะไรดีเพื่อที่จะได้ปลดหนี้เร็วขึ้น จากนั้นจะได้ทำตามความฝันของตนเองเสียที แต่สุดท้ายชีวิตก็จบลงอย่างคาดไม่ถึง เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมาที่นางได้นั่งเฉยๆ ได้นั่งทอดถอนอารมณ์ดื่มด่ำกับบรรยากาศ คนที่เคยทำงานตลอดเวลาพอมาอยู่เฉยก็ออกอาการเบื่อ ระหว่างที่กำลังคิดถึงชีวิตในโลกอนาคต เสียงฟ้าร้องเมฆคลอยต่ำไม่ช้าหยาดฝนก็โปรยปรายลงมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD