“จะบอกให้ก็ได้นะพี่ภาส คุณรามิลเขาเป็นฝาแฝดกับราเมศยังไงล่ะ รู้อย่างนี้แล้วพี่ยังจะกู้เงินจากเขาอีกไหม”
คำตอบของบาลิกาทำให้ภาสกรนิ่งเงียบไปชั่วครู่แต่แล้วเขาก็ตอบกลับมาว่า
“บุ๋ม...น้องต้องอยู่กับเขาไปก่อนนะ ถึงแม้ว่ารามิลจะเป็นแฝดกับราเมศแต่เรื่องที่เกิดขึ้นมันก็จบไปแล้วและศาลก็ตัดสินว่าพี่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องชายเขาแล้ว พี่คิดว่ามันจะเป็นการดีซะอีกที่เจ้าหนี้ของเราเป็นพี่ชายของราเมศ อย่างน้อยที่สุดแกก็เคยเป็นแฟนกับน้องชายเขาเขาก็ต้องปราณีแกบ้างล่ะ”
“ทำไมพี่ภาสพูดแบบนี้ล่ะ มันไม่ได้เกี่ยวกันเลยนะ แล้วถ้าบุ๋มจะขอปฏิเสธไม่อยู่ที่นี่ล่ะ”
“ไม่ได้อย่างเด็ดขาดเลย! รู้ไหมบุ๋มว่าตอนนี้พี่ถูกตามทวงเงินอย่างหนัก แกก็รู้ว่าพี่ไปเสียเงินที่บ่อนคาสิโนมา ลูกน้องของคนที่ที่ไปติดหนี้มันน่ะทวงถามเงินจากพี่ ถ้าพี่ไม่มีเงินให้มันขู่ว่าจะเอาชีวิตพี่เลยนะ พี่ไม่รู้ว่าจำทยังไงแล้ว นี่เป็นแสงสว่างสุดท้ายของพี่เลยนะบุ๋ม ขอร้องเถอะ...ช่วยพี่สักครั้ง”
คำพูดของภาสกรทำให้คนฟังถึงกับนิ่งอึ้งไป บาลิกาไม่คิดเลยว่าเรื่องราวจะบานปลายและเลวร้ายมากถึงขนาดนี้ เธอคิดว่าก็แค่การปฏิเสธไม่รับเงินกู้จากคนที่ทำเหมือนหวังดีแต่การณ์กลับเป็นว่าเธอไม่สามารถทำแบบนั้นได้เพราะมันเป็นอย่างที่รามิลพูดไว้จริง ๆ เธอต้องยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อที่จะปกป้องชีวิตของพี่ชายไม่อย่างนั้นแล้วภาสกรอาจได้รับอันตรายเพราะสิ่งที่เขาพูดมันเป็นความจริง ภาสกรติดการพนันและถ้าเกิดไม่มีเงินไปคืนให้เจ้าหนี้ก็อาจโดนตามล่าและเอาชีวิตได้จริงๆ หญิงสาวนิ่งเงียบไปชั่วอึดใจก่อนที่จะตอบกลับไป
“ถ้าบุ๋มยอมอยู่ที่นี่เพื่อแลกกับการที่พี่ภาสจะได้กู้เงิน พี่ต้องสัญญานะว่าจะรีบหาเงินมาคืนให้กับคุณรามิลนะ”
“พี่สัญญา...พี่สัญญาเลยบุ๋มว่าพี่จะรีบหาเงินมาคืนเขาให้เร็วที่สุดและบุ๋มก็ไม่ต้องกลัวนะ พี่คิดว่าเขาจะไม่ทำร้ายแล้วก็ไม่ทำอะไรบุ๋มอย่างเด็ดขาด อย่างน้อยที่สุดบุ๋มก็เคยเป็นคนรักของน้องชายเขา พี่ขอบใจมาก...ขอบใจบุ๋มมากจริงๆ”
บาลิกาวางสายโทรศัพท์ ตอนนี้ความตื่นเต้นค่อย ๆ คลายลงแต่กลายเป็นความรันทดท้อในหัวใจ เธอเก็บโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าสะพายของตัวเองแล้วหันกลับไปยังรามิลที่ยืนกอดอกพิงโต๊ะทำงานและจ้องมองมาอย่างเธอด้วยแววตาที่แสดงให้รู้ว่าเขาคือผู้ชนะ
“มันเป็นอย่างที่ผมบอกคุณใช่ไหม ผมมองอะไรไม่เคยผิด ถ้าคุณไม่ยอมอยู่กับผมเพื่อแลกกับเงินจำนวนนั้นที่จะช่วยเหลือพี่ชายของคุณ ภาสกรอาจจะไม่มีชีวิตรอดและได้เจอคุณอีกก็เป็นได้”
“คุณไม่ได้ดูผิดหรอก แต่คุณกำลังบีบบังคับฉันต่างหาก คุณกำลังวางแผนอะไรอยู่”
เขาไหวไหล่และหยัดยิ้มเจ้าเล่ห์ “ผมไม่ได้วางแผนอะไรหรอก แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นและเป็นไปตามครรลองของมัน มันควรจะเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ คนที่ทำชั่วก็ต้องได้รับผลตอบแทนจากสิ่งที่ตัวเองกระทำ”
“คุณรามิล ฉันไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณเป็นแฝดกับราเมศ ฉันอาจจะคบเขาในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ก็อยากบอกให้คุณรู้ว่าราเมศเป็นคนดี”
“ที่พูดนี่คุณอยากเอาใจผมหรือยังไงบาลิกา”
เขาขยับเข้ามาใกล้หญิงสาวอีกครั้งและจ้องมองเธอ ดวงตาคู่นั้นฉายประกายคมกล้ายิ่งอยู่ใกล้ชิดเขาแม้เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกันแต่บาลิกาก็ยิ่งรู้สึกกลัวหัวใจตัวเอง เธอรู้ว่าเขาร้ายกาจแตกต่างจากราเมศเหมือนฟ้ากับเหวหากแต่ใบหน้าที่เหมือนกัน ลักษณะท่าทางนั้นมันทำให้หญิงสาวยิ่งเกิดความไหวหวั่น นับตั้งแต่เธอได้สูญเสียคนรักไปราเมศยังคงเป็นผู้ชายคนเดียวในหัวใจและภาพของเขาไม่เคยลบเลือนไปจากความทรงจำของเธอแม้แต่วันเดียว
“ฉันไม่ได้พูดเอาใจคุณ แต่ฉันพูดความจริง ความจริงที่ว่าฉันคบกับเขาด้วยความจริงใจ”
“มารยาผู้หญิงก็เป็นแบบนี้ ไม่เคยเชื่อใจด้วยใจอะไรได้เลย”
รามิลคว้าข้อมือบอบบางของเธอเอาไว้อีกครั้ง คราวนี้กอบกุมเอาไว้แน่นจนบาลิการู้สึกเจ็บเขาขยับเข้ามาใกล้ เบียดร่างหนาใหญ่เข้าหาหญิงสาวทำให้หัวใจเธอเต้นแรงอีกครั้ง
“คุณคิดว่าผมจะเชื่อคุณได้แค่ไหนในเมื่อเหตุการณ์คืนนั้นมันเกิดขึ้นจากความขัดแย้งของราเมศกับพี่ชายคุณ”
“คุณรู้ได้ยังไง?”
“ทำไมผมจะไม่รู้ น้องชายของผมร่วมทำธุรกิจกับพี่ชายของคุณ ตอนหลังก็จับได้ว่าภาสกรยักยอกเงินของเขาและคิดไม่ซื่อในการดำเนินธุรกิจ เขาต้องการที่จะยุติทุกสิ่งทุกอย่างและต้องการทำความตกลงเรื่องเงินส่วนที่หายไปที่พี่ชายของคุณเอาไปละลายในบ่อนการพนันนั่นยังไง”
“คุณรู้เรื่องทุกอย่างแล้วทำไมคุณถึงไม่เข้าไปต่อสู้ในชั้นศาล และขอโทษด้วยนะคะ ถึงฉันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่ก็แน่ใจว่าพี่ชายของฉันไม่ใช่คนลงมืออย่างแน่นอน”
“ก็เพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นมีแต่พี่ชายคุณกับน้องชายของผมเท่านั้นยังไงล่ะ ในห้องนั้นไม่มีกล้องวงจรปิดและไม่มีใครรับรู้ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ศาลอาจตัดสินให้พี่ชายของคุณพ้นโทษและกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ถึงแม้ว่าน้องชายของผมจะเสียชีวิตไปแล้วแต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งเรื่องกฎแห่งกรรมคนชั่วก็ย่อมต้องได้รับกรรมที่ตัวเองกระทำและตอนนี้เวรกรรมมันกำลังทำงาน”
“นี่แสดงว่าที่คุณตั้งใจจะเสนอให้พี่ของฉันกู้เงินจากคุณเพราะอยากแก้แค้นอย่างนั้นใช่ไหม”
“ถ้าผมบอกว่าใช่ล่ะ แล้วถ้าเป็นคุณจะทำยังไงถ้าคนในครอบครัวหรือคนที่คุณรักถูกคนอื่นทำร้ายแต่ไม่มีใครสามารถทำอะไรเขาได้แถมมันยังลอยหน้าลอยตามีชีวิตอยู่อย่างสุขสงบและแถมยังทำชั่วทำเลวต่อไปได้เรื่อย ๆ มันก็มีวิธีการเดียวเท่านั้นคือการที่เราต้องเอาคืนด้วยตัวของเราเอง ชีวิตมันก็ต้องแลกด้วยชีวิตนี้ไม่ใช่เหรอ”
“คุณรามิล แล้วคุณจะทำยังไงกับพี่ชายฉัน”
“ผมก็แค่ให้เขากู้เงินจากผมไปคุณก็เห็นสัญญาแล้วนี่ไม่ใช่เหรอ?”
“ถ้าพี่ภาสหาเงินมาคืนคุณได้ทั้งหมด คุณก็จะปล่อยฉันให้เป็นอิสระอย่างนั้นใช่ไหมคะ?”