Episode-๐๖ พลาดไม่เป็นท่า

1176 Words
หลายวันผ่านไป ฉันยังคงโก่งคออ้วกอยู่ทุกเช้า บางวันก็หน้ามืด อาการไม่ได้ต่างไปจากคนท้องเลยสักนิด คิดได้อย่างนั้นฉันจึงเปิดอินเตอร์เน็ตค้นหาดูว่ามันเป็นอะไรกันแน่หรือบางทีฉันอาจจะเป็นโรคร้ายแรงก็ได้ “แค่ครั้งเดียวจะท้องเลยเหรอวะ” พึมพำคนเดียวเมื่อนึกถึงเรื่องคืนนั้น ยาคุมกำเนิด ยาคุมฉุกเฉินเขาใช้กันยังไงก็ไม่รู้ แล้วเขาคนนั้นได้ป้องกันหรือเปล่าฉันก็ไม่รู้อีกนั่นแหละ มานึกได้เอาป่านนี้ถ้าท้องขึ้นมาจะทำยังไง นั่งมึนอยู่พักใหญ่ก่อนจะตัดสินใจไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาสองอัน อ่านรายระเอียดและวิธีการใช้งานทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ก่อนจะเริ่มจุ่มที่ตรวจลงไป กระทั่งขีดสีแดงค่อย ๆ ปรากฏขึ้นที่ละนิด ... เสียงหัวใจเต้นรัวมากแทบจะทะลุออกมาข้างนอกอยู่แล้ว “สะ สองขีด!! ...” ทรุดลงกับพื้นอย่างคนหมดแรง ฉันจะทำยังไงดี มันต้องมีทางออกสิ แล้วจะบอกแม่ยังไง จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแฟนก็ไม่มีแต่ดันท้อง ฉันไม่น่าพลาดเลยจริง ๆ ถ้าวันนั้นมีสติและคิดให้เยอะกว่านั้น ไม่อยากรู้อยากลองทุกอย่างมันคงไม่เป็นแบบนี้ นานนับชั่วโมงที่ฉันหยุดนิ่งอยู่ที่เดิมมันเครียดและคิดมาก ฉันยังไม่พร้อมและตั้งตัวไม่ทัน ลำพังตัวเองยังเอาไม่รอดเลยจะมีปัญญาที่ไหนมาเลี้ยงเด็กคนหนึ่งได้ หรือว่าฉันควรเอาเขาออก… “นะ นี่คืออะไรสายธาร?” “แม่...” ไม่รู้ว่าแม่เข้ามาในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ที่แน่ ๆ ผลตรวจมันอยู่ในมือแม่แล้วเรียบร้อย “ฉันถาม!!” “หนู... หนูท้อง” “กับใคร?” “...” “แม่ถามว่าแกท้องกับใคร!!” “ฮึก! ไม่รู้ค่ะ หนูไม่รู้” ฉันพูดออกไปทั้งน้ำตา ความรู้สึกมากมายในใจมันอัดอั้นจนเรียบเรียงออกมาเป็นคำพูดแทบไม่ถูก (เพี้ยะ!!) “ทำไมเหลวไหลแบบนี้ แกไปนอนกับใครมาห๊ะ!!” “ฮือ... หนูไม่รู้” “สายธาร!!” แม่ตวาดใส่ฉันเสียงดังลั่น ฝ่ามือเรียวฟาดลงตามร่างกายฉันหลายแห่งจนรู้สึกเจ็บแสบไปทั่วร่างกาย น้ำเสียงและแววตามันแสดงออกชัดเจนว่าผิดหวังในตัวฉันมากแค่ไหน “ฮือ... แม่หนูขอโทษ ๆ” ก้มกราบทั้งน้ำตาฉันรู้สึกผิดมากจริง ๆ ที่ทำให้แม่ต้องร้องไห้ “แกรู้ไหม สิ่งที่ฉันเกลียดมาตลอดก็คือคำพูดที่ว่าแม่มันเป็นยังไงลูกมันก็เป็นแบบนั้น!! ฉันเชื่อเสมอว่ามันไม่จริง ถ้าฉันเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนแกดี แกต้องไม่เหมือนฉัน!! ไอ้คำว่าท้องไม่มีพ่อมันเจ็บปวดแค่ไหนแกไม่รู้เหรอ ฮึก! ตัวเองเกิดมาไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นแกรู้สึกยังไงห๊ะสายธาร!! แล้วคิดว่าลูกแกจะเป็นยังไง? สังคมรอบข้างมันโหดร้ายกว่าที่แกคิดเยอะ ที่ฉันเฝ้าสั่งสอนมาตลอดเพราะไม่อยากให้แกเสียคนเหมือนฉัน แล้วดูแกสิ!!” “ฮึก! หนูขอโทษ” ฉันยังคงกอดขาแล้วพร่ำบอกอยู่แบบนั้น น้ำตาของแม่มันทำให้ฉันเจ็บปวดสุดหัวใจเพราะความคึกคะนองของฉันเองผลลัพธ์มันถึงออกมาเป็นแบบนี้ แม่ไม่มองหน้าฉันสักนิดก่อนจะสะบัดขาจนฉันขมำไม่เป็นท่าแล้วออกจากบ้านไปทันที คล้อยหลังแม่ฉันยังคงกอดเข่าร้องไห้อยู่แบบนั้น มองไปทางไหนมันก็มืดแปดด้านไปหมด ทางออกที่ดีที่สุดมันอยู่ตรงไหนนะ ... ออกจากบ้านเดินไปตามถนนอย่างไร้จุดหมายจนมาหยุดอยู่ที่สะพานข้ามแม่น้ำแห่งหนึ่ง เวลานี้มืดค่ำแล้วผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่านสักเท่าไหร่จะมีก็เพียงแต่รถที่แล่นสวนกันไปมาเท่านั้นเอง ฉันเพ่งมองลงไปยันด้านล่างที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยวอยู่ด้วยความรู้สึกมากมายถ้ากระโดดลงไปฉันจะตายไหมนะ? นี่เป็นคำถามที่แวบเข้ามาในหัว เพราะถ้าไม่ตายหรือพิการขึ้นมาก็ต้องเดือดร้อนแม่อีก ถ้าไม่มีฉันสักคนแม่จะไม่ทุกข์ใจ จะไม่ร้อนใจเหมือนอย่างตอนนี้ ครืด... ครืด... ชื่อที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอมันทำให้ฉันมีสติขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะกลับมายืนที่เดิมแล้วกดรับสาย (สายธารอยู่ไหนน่ะ) “ฮึก!” (อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ ตั้งสติหน่อย) แม่พูดเหมือนรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ “แม่...” (กลับบ้านนะ) วางสายฉันก็ปล่อยโฮออกมาทันที เกือบแล้ว...ฉันเกือบทำอะไรโง่ ๆ ลงไปอีกครั้งหนึ่งแล้ว ปาดน้ำตาทิ้งก่อนจะรีบเดินกลับบ้าน ถ้ารู้ว่าทุกอย่างมันจะแย่ขนาดนี้ฉันไม่ทำแบบนั้นเลย แต่ก็นั่นแหละคิดได้ตอนนี้มันไม่ทันแล้ว หมับ! ฉันพุ่งเข้าไปสวมกอดทันทีที่เห็นหน้าแม่ ความรู้สึกผิดมากมายมันเอ่อล้นเต็มไปหมด “หนูขอโทษ” “ไปอาบน้ำแล้วออกมากินข้าว” น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยด้วยความห่วงใย ปลายนิ้วเรียวเช็ดน้ำตาให้ฉันอย่างอ่อนโยน ฉันไม่ได้ตอบอะไรแค่เพียงพยักหน้ารับเท่านั้นเอง หมุนตัวกำลังจะเข้าห้องแต่สายตาดันเหลือบไปเห็นนมบำรุงกับผลไม้มากมายวางอยู่บนโต๊ะ มันยิ่งทำให้ฉันร้องไห้ออกมาอีก ผู้หญิงตรงหน้าเป็นทุกอย่างในชีวิตฉันจริง ๆ ค่ะ ใช้เวลาทำธุระส่วนตัวแค่ไม่นานออกมาอาหารมากมายก็ถูกจัดจานเรียบร้อยแล้ว “กินให้ครบทุกอย่างนะ มีประโยชน์ทั้งนั้นไม่ชอบก็ต้องกิน” แม่เอ่ยพลางเลื่อนอาหารสองสามอย่างมาตรงหน้าฉัน “แม่ไม่กินเหรอ” “ไม่ล่ะ แม่จะออกไปทำงานแล้ว อยู่คนเดียวอย่าลืมล็อคบ้านให้ดีล่ะ” “อื้ม” “แม่จะไม่ถามแล้วว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง จำไว้เถอะว่าทุกความผิดพลาดมันให้บทเรียนกับเราเสมอ ไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้วนะ จะทำอะไรคิดให้เยอะ ๆ ไม่ต้องไปสนใจหรือฟังคำพูดจากปากใครหรอก เพราะแม่ไม่อายที่แกเป็นแบบนี้ จะดีจะชั่วก็เป็นลูกอยู่วันยันค่ำนั่นแหละ” “...” ประโยคยาว ๆ ของแม่ทำเอาน้ำตาร่วงลงมาอีกครั้ง กินข้าวทั้งน้ำตารสชาติมันเป็นแบบนี้นี่เอง ผิดพลาดครั้งแรกคือไว้ใจมากเกินไป ปิดหูปิดตาไม่มองตามความเป็นจริง ผิดครั้งที่สองอยากรู้อยากลองประชดชีวิตเพียงเพราะผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ได้รักฉันและผิดครั้งที่สามคือฉันไม่รักตัวเอง ... สามผิดนี้ไม่โทษใครเพราะทำตัวเองทั้งนั้น ฉันคิดมาตลอดว่าตัวเองแกร่งและเข้มแข็งแต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD