"คุณครับ คุณครับ เดี๋ยวก่อน ๆ ติดต่อเรื่องอะไรครับ กรุณาแจ้งก่อนนะครับ ไม่งั้นเข้าไปไม่ได้"
"ทำไมฉันต้องแจ้ง ในเมื่อฉันก็มาออกบ่อยๆ แกก็เคยเห็นฉันนี่ จะถามทำไมอีก น่ารำคาญ"
"ที่นี่เขาติดป้ายประกาศห้ามคุณเข้ามาที่บริษัทนี้นะครับ คุณไม่เห็นป้ายเหรอครับ ? กลับออกไปเสียเถอะครับ ก่อนที่คนข้างในจะออกมาเจอ นี่ก็ใกล้พักเที่ยงแล้ว" รปภ.บอกกล่าวกับเขา
"แกมีสิทธิ์อะไร ? มาห้ามไม่ให้ฉันเข้าไปในบริษัทฯ นี้ แกไม่ใช่เจ้าของ แกเป็นแค่ ยาม อย่ามาสะเออะห้ามฉัน"
"คุณไม่ใช่พนักงานของที่นี่นะครับ คุณมาทำความวุ่นวายให้กับบริษัท ป้ายห้ามเข้าก็ติดใหญ่โต คุณยังจะดื้อเข้าไปอีกเหรอครับ ผมไม่ยอมให้คุณเข้าไปเด็ดขาด เป็นไงเป็นกัน ผมจะทำตามหน้าที่ของผม และผมจะไม่ยอมให้คุณเข้าไปข้างในเด็ดขาด"
"ไอ้ยามบ้า แกกล้ากับฉันเหรอ ฉันจะเข้าไปหาคุณสโรชา ใครก็ห้ามฉันไม่ได้"
"หยุดอยู่ตรงนั้นเลยคุณกริช คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาวุ่นวายในบริษัทนี้ ถ้าคุณก้าวขาเข้ามาในเขตรั้วบริษัทฯ แม้แต่ก้าวเดียว ผมโทรหาตำรวจแน่ อย่าหาว่าผมท้านะ ผมจะแจ้งข้อหาบุกรุกคุณเพิ่มอีกกระทง ลองเข้ามาสิ่ครับ หรือคุณอยากลอง ศักดิ์สิทธิ์ตะโกนออกมาจากประตูออฟฟิศ"
"กริชชะงักนิดหนึ่ง ก่อนที่จะตะโกนตอบ ถ้าคุณไม่ให้ผมเข้าไป คุณก็ให้บัวออกมาคุยกับผมซิ ผมมีเรื่องจะคุยกับบัว เรามีเรื่องต้องตกลงกัน คนอื่นไม่เกี่ยว"
"กลับไปเถอะครับ ก่อนที่ผมจะโทรแจ้งตำรวจ คราวที่แล้วไม่เข็ดใช่ไหม? บัวก็บอกคุณแล้วนี่ครับตั้งแต่วันนั้น ว่าไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน คุณจำไม่ได้หรือครับ ผมมีหลักฐานนะครับ กล้องวงจรปิดติดทั่วทุกที่ "
ศักดิ์สิทธิ์ หรื่อพี่สิทธิ์ของน้องๆทั้งออฟฟิศ และเป็นเจ้าของบริษัทฯ เป็นพี่ที่ทุกคนสามารถพึ่งพาได้ในทุกๆเรื่องเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ให้คำแนะนำได้ตลอด เมื่อคราวที่กริชบุกเข้ามาหาสโรชาในออฟฟิศ และอาระวาด แบบคนเสียสติ แถมภรรยากริชก็ตามมาโวยวาย กล่าวหาโรชาว่าแย่งสามีตัวเอง ถึงขั้นเอามีดปอกผลไม้ไล่แทงสามีตัวเอง และสโรชา ก็ได้พี่สิทธิ์ช่วยไว้ ไม่งั้นสโรชาคงแย่ และที่หญิงสาวกลับไปตั้งหลักที่บ้าน ศักดิ์สิทธิ์และภรรยาก็แนะนำ เขามองว่ากริชไม่ปกติ ถ้าบัวไม่ได้ทำงานในออฟฟิศ อยู่ข้างนอกคนเดียว อาจมีอันตรายได้
เขาพอรู้มาว่า กริชกับสโรชา เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย กริชปลื้มสโรชามาก ติดสอยห้อยตามไปทุกที่ แต่สโรชา ให้ความสนิทสนมแค่เพื่อนเท่านั้น เขารับรู้เรื่องราวของเด็กสองคนนี้มาตลอด เขาในฐานะรุ่นพี่คณะเดียวกัน ภรรยาของเขาก็เอ็นดูสโรชามาก
กระทั่งเขาได้มาเปิดบริษัท ก็ชักชวนสโรชา มาทำงานด้วย หญิงสาวทำงานดี มีความมั่นใจ ไหวพริบดี สร้างสรรค์งานดีมาก ลูกค้าชอบ หลายงานที่บริษัท ฯ เขากำไรมหาศาล เพราะงานของสโรชา งานของสโาเป็นอันดับต้นๆของบริษัทฯ เลยทีเดียว
แต่การที่มีเพื่อนแบบกริช อาจทำให้งานสโรชาเสียหาย บางทีอาจเป็นอันตรายกับหญิงสาว เขาปรึกษากับภรรยาจึงแนะนำให้เธอกลับบ้าน บิน ไปมา ไม่ต้องนั่งที่ออฟฟิศ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างบริษัทออกให้ แต่เขาไม่คิดว่าสโรชา จะตัดสินใจลาออก
แต่ก็นั่นแหละ สโรชาอาจลำบากใจหลายอย่าง การได้กลับไปอยู่บ้านอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด อย่างน้อยถึงแม้ว่าสโรชาจะลาออก อนาคตก็ยังเรียกใช้งาน ปรึกษางานได้
"ผมจะบอกคุณนะครับว่า สโรชาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เธอลาออกแล้วครับ เพราะคุณคนเดียวทำให้สโรชาตกงาน ต่อให้คุณมาอีกกี่รอบคุณก็จะไม่ได้เจอเธอผมแนะนำนะครับ กลับไปปรับความเข้าใจกับภรรยาคุณหาทางออกกัน อย่าดึงสโรชาไปเกี่ยวข้องด้วย แค่นี้นะครับ ผมหวังว่าจะไม่ได้เจอหน้าคุณอีก ในวันหน้า ไม่ต้องถามว่าสโรชาไปไหน เพราะผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน โอเคนะครับ รู้เรื่อง รปภ.เชิญแขกด้วยครับ"
"รับทราบครับคุณศักดิ์สิทธิ์ เชิญครับคุณ อย่าให้ผมต้องออกแรงนะครับ เพราะถ้าคุณไม่ออกไปจากที่ตรงนี้ อย่าหาว่าผมรุนแรงไม่ได้นะครับ ผมไม่ได้ขู่ผมทำตามหน้าที่"
"ไปก็ได้ว่ะ" บ้าพวกบ้า บ้าทั้งเจ้านายลูกน้อง บัวไปไหน เรื่องแค่นี้ต้องถึงกับลาออกเลยเหรอ กริชอธิบายได้นะบัว ทำไมบัวไม่รับสายกริช กริชคิดถึงบัวมากรู้ไหม ทำยังไงดี บัวอยู่ไหน ทำไมบัวไม่เข้าใจกริช เขาเดินพร่ำบ่นไปที่รถของตัวเอง เหมือนคนบ้า เขาขับรถตะบึงออกไปอย่างเร็ว
"ดีที่ช่วงเวลานี้รถไม่เยอะ ถ้าเป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วนอย่าหวังว่าจะรอด มีชนแน่ๆ" รปภ.เอ่ยบ่นพึมพำออกมาเบาๆ สายตามองตามหลังรถของกริชไปจนลับตา
"พี่กริชมีธุระอะไรกับบุตรหรือครับ ถึงขนาดมาดักรอหน้าคอนโด ถ้าจะมาหาพี่บัว ไม่อยู่หรอกครับ และไม่ต้องถามนะครับว่าพี่บัวอยู่ไหน เพราะบุตรก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆพี่บัวขนของใช้ส่วนตัวออกไปจากคอนโดหลายวันแล้ว รบกวนพี่กริชอย่ามาวุ่นวายกับบุตรนะครับ ช่วงนี้บุตรกำลังดูหนังสือสอบ มันสำคัญกับบุตรมากๆ แค่นี้นะครับ บุตรขอตัวไปอ่านหนังสือเตรียมสอบพรุ่งนี้"
บุตรหรือ องอาจ อัครเกียรติไพบูลย์ น้องชายแท้ๆของ นางสาวสโรชา นั่นเอง
เด็กหนุ่มพอที่จะรู้เรื่องราวระหว่าง เพื่อนของพี่สาวเขาคนนี้ แรกๆ นิสัยก็น่ารักดี เขาหายไป 1-2 ปี พอโผล่มาอีกทีดูเขามีอาการแปลกๆ กับพี่บัว แน่นอนไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เขาคุยกับพี่สาวเขาตลอด ให้ระวังเพื่อนชายคนนี้ ดูเขาไม่่ค่อยปกตินัก ทางไหนที่จะปกป้องพี่ของเขาได้เขาก็จะทำให้เต็มที่
เมื่อโดนน้องชายสโรชาพูดดักคอขนาดนั้น มันทำให้เขาได้สติ แว๊บขึ้นมาในหัว ถ้าเขาตามบัวอยู่แบบนี้ บัวก็ต้องหนีไปจากเขาตลอด ไม่ยอมคุยกับเขาแน่ๆ เขาต้องหาทางใหม่ ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆคิด เขาสัญญาว่าเขาจะเริ่มต้นใหม่ จะนิ่งและมีเหตุผลมากกว่านี้ เขาต้องรอเพื่อที่จะได้พบกับบัว
เขารักสโรชามาตลอด แต่หญิงสาว ไม่เคยให้ความสนิทสนมไปมากกว่าการเป็นเพื่อน แม้แต่คำว่าเพื่อนสนิท เขาก็ไม่เคยได้รับจากเธอ เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ฐานะทางบ้านเขาก็ไม่ได้แย่ ยิ่งเขาเป็นลูกชายคนเดียว ผู้หญิงสาวมากมายที่อยากจะเข้ามาหาเขา อยากมาเป็นภรรยา แต่เขาไม่สนใจใครนอกจากสโรชา เขาตามติดเธอมาตั้งแต่ปี 2 แต่หญิงสาวก็ให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนเท่านั้น แต่เขาก็ไม่เคยท้อ มีโอกาสเขาก็คอยตื้อเธอตลอดมา ความเป็นจริงเขาก็มีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตเรื่อยๆ ไม่ขาด แต่ก็ไม่เหมือนสโรชา เพราะเขาไม่ได้รักผู้หญิงเหล่านั้น
ที่เขาต้องแต่งงานกับพิมพรรณ เพราะพิมพรรณพลาดท้อง นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาห่างสโรชา หลังจากที่เขายอมแต่งานกับพิมพรรณ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเกือบ 2 ปี เขาเพิ่งรู้ใจตัวเองว่าไม่เคยรักพิมพรรณเลย อาจมีความเห็นใจและสงสารอยู่บ้างในฐานะที่เป็นแม่ของลูก แต่ถึงตอนนี้ลูกก็ไม่อยู่แล้ว และเขาก็อยากเป็นอิสระ เขาพลาดที่จดทะเบียนสมรสกับพิมพรรณ ทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย พิมพรรณไม่ยอมหย่า แต่เขาอยากหย่า เขาอยากมีอิสระ
พ่อแม่ของพิมพรรณเป็นเพื่อนกับ พ่อ แม่ ของเขา ทั้งสองครอบครัว เป็นเพื่อนกันก็อยากให้ลูกได้เกี่ยวดองกันด้วย ฐานะทางบ้านพิมพรรณถึงแม้จะไม่ได้มีมากเท่าบ้านเขา แต่ก็ไม่ได้ลำบาก หลังจากที่เธอเสียลูกไป อารมณ์ของพิมพรรณก็เปลี่ยน เธอขี้หึงมาก คอยจับผิดเขาตลอดเวลา อยากให้เขาอยู่บ้านกับเธอตลอด ไม่ยอมให้เขาไปยุ่งกับผู้หญิงคนไหนเลย เขาไม่ชอบให้ใครมาบังคับ เขาไม่ได้รักพิมพรรณ ถึงขนาดที่จะต้องยอมทุกอย่าง วันนี้เขาขอกลับไปตั้งหลักที่คอนโดก่อนล่ะกัน ค่อยหาทางใหม่ ถึงวันนี้เขายังไม่เจอสโรชา แต่เขาก็ยังมีสาวๆ อีกหลายคน ที่จะคอยปรนนิบัติเอาใจเขาให้เย็นลงได้บ้าง
ทั้งกริช และพิมพรรณ ยังเด็กด้วยกันทั้งคู่ เรียนจบมาแล้วก็ไม่ได้ทำงานที่ไหน เพราะบ้านก็มีฐานะทั้งสองฝ่าย พ่อแม่ยอมไม่ได้ที่ลูกจะไปเป็นลูกจ้างคนอื่น ลำพังทรัพย์สินเงินทองที่มีก็ใช้ไม่หมด ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นการเลี้ยงลูกที่ผิด แต่่ก็ไม่ใส่ใจ หรือสนใจตรงนี้เลย คิดเพีียงว่ามีเงินก็สามารถทำอะไรก็ได้
จะทำงานหรือไม่ทำงานก็ได้ นี่เป็นอีกสาเหตุ ที่ทั้งสองคนมาเจอกัน ต่างก็มาจากครอบครัวที่โดนตามใจมาทั้งคู่ ทำให้ทั้งคู่เอาแต่ใจตัวเอง เมื่อมาใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน ต่างคนต่างแรงทั้งคู่ จึงทำให้อยู่กันลำบาก