บ้านที่อบอุ่น
05.30 น.เสียงไก่ขันแว่วมาแต่ไกล สำหรับคนที่ห่างบ้านไปนานอย่าง บัวหรือ นางสาวสโรชา อัครเกียรติไพบูลย์ ธิดาสาวของบ้านหลังนี้ เธอชอบเสียงไก่ขัน เวลาที่มันขันรับกันไปมาประสานเสียงกันเพราะมากๆ แต่บางคนก็อาจจะรำคาญ หญิงสาวไม่ชอบไก่ตัวเป็นๆ ไม่ชอบขนไก่ รวมถึงไม่ชอบนกและขนของมันด้วย แต่เธอชอบทานไก่ ยิ่งไก่ทอดร้านดัง เธอยิ่งชอบมากๆ
เสียงเจ้าสีนิล กับเจ้ามังกร ม้าของสโรชา หายใจฟีดฟาด ดังมาจากคอกม้าหลังบ้าน หญิงสาวคิดว่ามันคงรู้ว่าเธอกลับบ้านแน่ๆ เดี๋ยวต้องออกไปทักทายเจ้าสีนิลสักหน่อย สีนิล คือม้าเพศผู้ตัวสีดำสนิท เป็นม้าตัวโปรดของหญิงสาว ส่วนเจ้า มังกรสีน้ำตาลเข้ม เป็นม้าของน้องชายเธอ มันอยู่กับเธอมาตั้งแต่หญิงสาวเรียนมัธยม มันยอมให้แค่เธอกับน้องชายของเธอเท่านั้น ที่ขึ้นหลังของมันได้ แม้แต่พ่อกับแม่ มันก็ไม่ยอมให้ขึ้นหลัง รอหน่อยนะเจ้าสีนิล ฉันขอกินข้าวฝีมือแม่ก่อน เดี๋ยวจะลงไปทักทาย เธออยากจะพาเจ้าสีนิลออกไปเที่ยวที่ไร่ อยากออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ หลังจากที่ไม่ได้กลับบ้านนานมาก
ห้องนอนของเธออยู่ทางทิศตะวันตกตกเฉียงใต้ของบ้าน ตรงข้ามกับห้องพ่อ แม่ และติดสวนหลังบ้าน หลังจากช่วงเช้าไปแล้ว ห้องของเธอ จึงเงียบสงบมากๆ ถัดจากห้องของเธอไปเป็นห้องรับแขกอีก 2 ห้อง
บ้านสโรชาอยู่ทางภาคเหนือสุดของประเทศไทย ล้อมรอบด้วยภูเขา และป่าไม้ อากาศจึงค่อนข้างที่จะเย็นสบาย หน้าร้อน ก็ร้อนไม่มาก กลางวันร้อน กลางคืนเย็น บ้านหลังนี้เมื่อก่อนสมัยที่เธอกับน้องชายยังไม่ได้ไปเรืยนที่กรุงเทพฯ อาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน นายอาทิตย์บิดา นางจันทรามารดา ตัวเธอ นายองอาจหรือบุตร หลังจากที่เธอกับน้องไปเรียนที่กรุงเทพ ฯ พ่อกับแม่ก็อยู่กันลำพังสองคน พ่อกับแม่เธอซื้อคอนโดให้ตั้งแต่เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ที่กรุงเทพฯ เธอเรียนจบ ทำงาน ก็พักที่คอนโดเรื่อยมา น้องชายเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ก็ไปอยู่ด้วยกัน
มือเรียวยาวค่อยๆ โผล่ออกมาจากผ้าห่ม เพื่อควานหานาฬิกาปลุก ด้วยความเคยชินเหมือนตอนอยู่ที่คอนโด คลำซ้าย คลำขวา หานาฬิกาปลุกไม่เจอ จนต้องนอนนิ่ง ๆ ใต้ผ้าห่มสักพัก ได้กลิ่นสะอาด ผ้าห่ม ลายสกอต ฟ้า-ขาว กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มของเด็กอ่อน หอมแดดมาก หมอนก็หอมแดด ปลอกหมอนลายเดียวกับผ้าห่มนวม ปกติแม่จะไม่ค่อยใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม นางจันทราซักแล้วก็จะตากแดดเลย ต่างจังหวัดแบบนี้แดดดี แต่แม่รู้ว่าเธอจะกลับบ้าน นางก็เตรียมซักเครื่องนอนใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นหอมอ่อนๆให้ รอเธอ แม่รู้ว่าบัวชอบกลิ่นนี้ ชอบเครื่องนอนเซตนี้ ต่างกับน้องชาย ตาบุตรชอบสีชมพู ซึ่งมันก็ไม่แปลก น้องชายเธอเป็นชายเต็มร้อย แรกๆ ก็พากันขำ น้องชายเธอบอกว่า จะขำทำไม พี่บัวยังชอบสีฟ้าเลย ซึ่งส่วนมากผู้ชายชอบ เออ...ก็จริงอย่างที่น้องชายเธอพูด
ใจเธออยากนอนต่อ อยากตื่นสักประมาณ 7 โมงเช้า แต่ก็ตัดสินใจดีดตัวขึ้น พับผ้าห่ม จัดหมอนให้เข้าที่ คลุมทับด้วยผ้าผืนใหญ่อีกที บ้านหลังนี้แทบไม่ต้องเปิดแอร์เลย อากาศเย็นธรรมชาติมากๆ หญิงสาวยังคิดว่าแม่มาเปิดแอร์ให้เธอตอนไหน เพราะเมื่อคืนอากาสศเย็นมาก เก็บที่นอนคลุมเตียงเสร็จ ลุกไปเปิดหน้าต่าง กลิ่นข้าวใหม่โชยขึ้นมาถึงห้องนอนเลย หอมจัง เมื่อคืนน้ำค้างลงหนักแน่ๆ เช้านี้ถึงได้สดชื่นขนาดนี้ ไปหาแม่ดีกว่า
หญิงสาวลงไปข้างล่าง ตรงไปที่ห้องครัว เช้านี้แม่ทำกับข้าวอะไร เธอนึกอยากช่วยแม่ทำกับข้าวบ้าง หญิงสาวพอทำอาหารง่ายๆ ได้หลายอย่าง แต่จะให้มานั่งทำกับข้าว เช้า กลางวัน เย็น สามเวลาเธอก็ไม่ได้ชอบขนาดนั้น
ครัวบ้านเธอทำแยกออกมาจากตัวบ้าน ก่อปูนขึ้น และมีไม้ระแนงต่อขึ้นไปจนถึงหลังคา มีทั้งเตาถ่านและแก๊ส วันไหนที่แม่อยากใช้ฟืน ก็มีเตาฟืนอยู่ด้านนอกครัว ห่างออกไปไม่มาก ที่ต้องตั้งเตาฟืนห่างออกไปเพราะแม่ไม่อยากให้ควันเข้าบ้าน เตาถ่านทำอาหารอร่อยจริง แต่เวลาที่ควันลอยเข้ามาในบ้าน ติดเสื้อผ้าที่แขวนไว้ กลิ่นควันจะติดเสื้อผ้าเหม็นมาก
"หอมข้าวใหม่จังเลยค่ะแม่" หญิงสาวตะโกนพร้อมวิ่งลงบันไดจากชั้นบนลงมาหานางจันทราผู้เป็นแม่ที่ห้องครัว
"เบาๆ ลูก เดี๋ยวได้ตกบันได ก่อนได้กินข้าวเช้าหรอก" เสียงแม่เอ็ดเอา พร้อมยิ้มให้บัว
แม่ยิ้มกว้างอวดฟันสวย ฟันแม่เรียงกันเป็นระเบียบ ไม่ต้องดัดฟันเลย สโรชาได้แม่ ฟันสวยเรียงเป็นระเบียบไม่ต้องดัดเลย พวกอาๆ เพื่อนพ่อ เพื่อนแม่บอกว่า เวลาแม่ยิ้มแล้วสวย แต่แม่ไม่ค่อยยิ้ม เพื่อนแม่บอกว่าเวลาแม่ยิ้มคล้าย ดาราหญิงหนังฝรั่งคนหนึ่ง ชื่อ จูเลีย โรเบิร์ต เวลาเขายิ้มปากกว้างๆ สวยมาก บัวก็คิดแบบนั้น แม่ของเธอถึงแม้ว่าปีนี้นางจะอายุ 54 ปี แต่คงเค้าความสวยอยู่มาก แม่อายุน้อยกว่า นายอาทิตย์ 4 ปี หญิงสาวคิดว่าพ่อกับแม่อายุห่างกันกำลังดี ไม่มากไม่น้อย
"ทำไมตื่นเช้าจังเลยลูก นอนบ้านเราไม่ต้องรีบหรอก ตื่นเวลาไหนก็ได้ ไม่มีใครว่าหนูเลยลูก พักผ่อนให้พอ นอนให้เต็มที่ไปเลย" นางจันทราถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
"ทีแรกก็ว่าจะนอนต่อค่ะ บัวยังคิดว่าบัวนอนอยู่ที่คอนโดเสียอีกค่ะแม่ แต่ได้ยินเสียงไก่ขัน ถึงรู้สึกตัวว่าอยู่บ้านเรา นานๆกลับบ้าน บัวจะพลาดอากาศสดชื่นๆแบบนี้ได้ยังไงล่ะคะแม่ "
"ว่าแต่พ่อลงสวนแล้วเหรอคะ" หญิงสาวถามมารดาหลังจากมองหานายอาทิตย์ไม่เจอ
"จ๊ะ…ลงไปสักพักแล้วลูก ไปให้อาหารปลา อาหารไก่ สักเจ็ดโมงกว่าๆ ก็ขึ้นบ้านแล้วล่ะ หนูไม่อาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยก่อนล่ะลูกค่อยลงมาก็ได้ ไม่ต้องรีบหรอก อยู่บ้านเราสบายๆ "
"ไม่หรอกค่ะแม่ บัวจะช่วยแม่ทำกับข้าวก่อน วันนี้มีแกงส้มเหรอคะ เดี๋ยวบัวช่วยแม่ทอดปลาเค็มนะคะ เมนูนี้อยากกินมานานแล้ว ใครทำก็ไม่เหมือนแม่ทำ แกงส้มหน่อไม้ดองใส่ไก่ ใช้พริกแกงใต้ กินกับปลาแดดเดียวหรือปลาเค็มก็ได้ ผักสดจากสวนเยอะๆแบบนี้ วิเศษที่สุดเลยค่ะแม่"
"เอาจริงเหรอ" แม่ถาม "บัวไม่เหนื่อยแน่นะลูก" เสียงของแม่เอื้ออาทรเสียเหลือเกิน
"ไหวคะแม่เมื่อคืนบัวนอนเต็มตื่นมากๆ พลังมาเยอะเลย แล้วก็เริ่มหิวแล้วด้วยค่ะ "
"งั้นบัวช่วยทอดปลา เสร็จแล้วแกะกระเทียมล้างพริก เตรียมมะนาว พริกสดแม่จะทำน้ำพริกกะปิ วันนี้มีแกงส้มหน่อไม้ดอง น้ำพริกกะปิ ชะอมทอด คั่วกลิ้งหมู ต้มหมูชะม่วง แค่นี้น่าจะพอ จริงๆ แม่อยากทำมัสมั่นอีกอย่าง แต่เคี่ยวนานกลัวว่าจะช้า ไว้พรุ่งนี้ค่อยทำนะลูก" แม่พูดพรางมองหน้าบัว เป็นเชิงขอความเห็น
"อูย…แค่นี้ก็เยอะแล้วค่ะแม่ กินได้หลายเวลา ค่อยทำวันหลังก็ได้ค่ะ ตาบุตรไม่อยู่ ไม่ต้องทำก็ได้ค่ะ ไว้น้องมาแม่ค่อยทำให้น้องกินนะค"ะ น้องชายเธอชอบแกงมัสมั่นมาก ถึงขนาดเวลากลับบ้าน แม่เธอต้องทำใส่ถุงไปไว้ให้ทานที่คอนโด ทำทีก็อยู่ได้หลายมื้อ น้องชายเธอก็อุ่นกิน
"เอางั้นก็ได้ลูกไปๆ ทอดปลาเถอะ เดี๋ยวได้ชะอมมา บัวจะได้เด็ดชะอมให้แม่"
"บัวๆ มารับชะอมทีลูก" เสียงนายอาทิตย์เรียกลูกสาว พ่อวางไว้ที่ฝาโอ่งนะ พ่อขอไปอาบน้ำก่อนเสียงพ่อดังมาจากทางหลังบ้าน
"ได้ค่ะพ่อ เดี๋ยวบัวไปหยิบเองค่ะ พ่อไปอาบน้ำเลยค่าเสร็จแล้วรีบลงมานะคะพ่อ "
จริงๆ เธอไม่ชอบเด็ดชะอมเลย มันชอบมีหนอนตัวเล็กติดมาด้วย ไหนจะหนามของมันอีก แต่เวลาที่ทำเป็นอาหารโคตรอร่อย แถมหอมอีกด้วย
นางจันทราเคยเล่าให้ฟังว่า แม่ลูกอ่อนบางคนจะแพ้กลิ่นชะอม จะกินไม่ได้เลย ได้กลิ่นจะเวียนหัวชวนอาเจียน แต่นางจันทรากลับหอม ตอนเลี้ยงหญิงสาว นางกินไข่เจียวชะอม ชะอมต้มเค็ม ทานได้ทุกเมนูที่ใส่ชะอม ไม่มีอาการแพ้เหมือนคนอื่นเลย
"แหม…วันนี้พ่อต้องเติมข้าวอีกแน่ๆ มื้อนี้มีแต่ของอร่อย" นายอาทิตย์พูดขึ้น หลังจากทุกคนพร้อมกันที่โต๊ะอาหาร พร้อมกับเอื้อมมือมาลูบหัวสโรชา "
"กินเยอะๆ นะลูก นานๆ ได้กลับบ้านมากินข้าวฝีมือแม่ แม่เขาอยากโชว์ฝีมือทำอาหารให้ลูกกินเต็มทีแล้ว มีแต่พ่อกับอาชาติที่ได้กินทุกวัน แต่พ่อไม่เคยเบื่อเลยนะ เพราะแม่เขาทำอะไรก็อร่อยทุกอย่าง"
นายอาทิตย์พูดชมภรรยา แล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข
"ค่ะพ่อ บัวก็ตั้งใจว่าจะมาเพิ่มน้ำหนักที่บ้านนี่ล่ะค่ะ บัวรู้สึกว่าอยู่คอนโดบัวขาดสารอาหารมาก" หญิงสาวพูดพลางตักข้าวใส่จานให้พ่อ และแม่
"จริงๆ หุ่นบัวแบบนี้ก็เหมาะเป็นนางแบบเลยนะลูก" นางจันทราพูดขึ้น
"ไม่เอาค่ะแม่บัวอยากมีน้ำมีเนื้อกว่านี้สักหน่อยค่ะ บัวไม่อยากเป็นนางแบบ"
นางจันทรายิ้มตามคำลูกพูด จริงๆ นางก็ไม่อยากให้ลูกสาวผอมไปมากกว่านี้ สโรชาสูง 175 สำหรับผู้หญิงไทยเรา ก็ถือว่าสูงทีเดียว ทั้ง
ครอบครัวนางกลายเป็นคนเตี้ยสุด นางสูง 165 สามีนางนายอาทิตย์สูง 180 ส่วนลูกชายสูง 185 จะว่าไปแล้วก็สูงกันทั้งบ้าน
เมื่อสมัยสโรชาเรียนอยู่มัธยม เริ่มสูงขึ้นๆ นางกังวล ห่วงว่าสโรชาจะมีแฟนเตี้ย ผู้ชายเตี้ย ผู้หญิงสูงยืนคู่กันนางมองว่า ไม่เหมาะเลย นางก็คิดไปตามประสา แต่เมื่อเวลาผ่านไป นางจันทราก็เริ่มปลง ถ้าวาสนาลูกสาวนางจะได้สามีเตี้ยกว่า แต่ถ้าเขาคนนั้นเป็นคนดี ดูแลลูกสาวนาง ครอบครัวลูกมีความสุข แค่นี้ก็พอแล้ว สำหรับคนเป็นแม่
ส่วนลูกชาย นางไม่ห่วงเพราะเขาสูง ผู้ชายสูง อะไรก็ดีไปหมด จะได้แฟนเตี้ยหรือสูงก็ดูดี ผู้หญิงไทยเราคงไม่สูงมากกว่าลูกชายนางแน่นอน นางจันทราคิด แต่กว่าจะถึงเวลาที่นางจะได้ลูกเขย ลูกสะไภัก็คงอีกนาน ป่านนี้ยังไม่มีวีแววเลย ลูกสาวนางโลกส่วนตัวสูง ไม่เปิดใจให้ใครง่ายๆ เธอกับสามีก็ไม่ได้เร่งรัดอะไร ปล่อยไปตามธรรมชาติ เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น