ทานข้าวเช้ากันเสร็จเรียบร้อย ทุกคนมานั่งที่ชานบ้าน ด้านหน้าของบ้านเป็นสวนครัวเล็กๆ พ่อทำไว้ให้นางจันทรา ได้ปลูกพวกผักสวนครัวต่างๆ แถมมีแปลงให้ปลูกดอกไม้เมืองหนาวที่แม่ชอบ
บ้านหลังนี้ปลูกอยู่บนที่ดินของตา เป็นบ้านสวนที่น่าอยู่ เป็นที่มรดกของแม่ ถึงแม้ว่าจะปลูกอยู๋ในสวน แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยวเลย เพราะรอบข้างเป็นสวนเหมือนกัน มีเพื่อนบ้านอยู่ใกล้ๆกัน แม่เป็นลูกสาวคนเดียว แม่เข้าไปเรียนมหาวิทยาในกรุงเทพ ฯ จบแล้วก็หาทำงานในกรุงเทพฯ สักพัก ตากับยายก็อยากให้กลับบ้าน แม่เธอก็ตามใจลาออกจากงานที่กรุงเทพฯ ได้ทำงานธนาคารในเมือง ได้ดูแลตากับยาย ส่วนพ่อมาเจอแม่ที่นี่ ศึกษาดูใจกัน และได้แต่งงานกัน จนมีเธอและน้องชาย พอแม่คลอดน้องพ่อก็ให้แม่ออกมาเป็นแม่บ้านอย่างเดียว
สวนข้างๆ ที่อยู่บริเวณใกล้ๆ กัน ก็เหมือนพ่อ กับแม่เธอ เบื่อเมือง บางคน เกษียณงานแล้วไม่ว่าจะเป็นเอกชนหรือ รับราชการ ก็ออกมาทำสวน อยู่กับธรรมชาติ พ่อเลือกมาอยู่ที่นี่เพราะแม่ ขอให้มีแม่ที่ไหนพ่อก็อยู่ได้ นายอาทิตย์ชอบที่นี่มาก สมัยที่เขายังเรียนมหาวิทยาลัย เคยมาออกค่ายอาสาแถวนี้ ทำให้ประทับใจในสภาพแวดล้อม เขาคิดและฝันไว้ตลอดว่า อยากมีที่แปลงเล็กๆ สักแปลง ไว้อยู่เมื่อเกษียณจากงานที่ทำ อยู่กับภรรยา ลูก หลาน และฝันของเขาก็เป็นจริง ไม่ใช่แค่ที่ดินผืนน้อยๆ นี้ ด้วยความขยัน อุตสาหะของนายอาทิตย์ทำให้เขามีที่ทางมากขึ้น และมีกิจการที่มั่นคง พอสำหรับเลี้ยงดูครอบครัวของเขาได้
พื้นฐานเดิมครอบครัวของนายอาทิตย์ค้าขาย อยู่ทางภาคใต้ ญาติพี่น้องส่วนมากจะประกอบอาชีพค้าขาย ในช่วงที่เขาเรียนหนังสือ ครอบครัวค้าขาย ทำให้เขาเลือกที่จะเรียนบัญชี และเมื่อจบออกมาก็ทำงานในบริษัทเอกชน แต่เขาก็ชอบการเกษตร ปลูกต้นไม้ ชอบธรรมชาติ การที่มาเจอแม่ และได้มาอยู่จังหวัดนี้ นายอาทิตย์ถือว่าเป็นที่สุดของชีวิต เหลือแค่ที่จะได้เห็นลูกสาวลูกชาย ได้แต่งงานมีครอบครัว และได้เลี้ยงหลานก็เท่านั้น แต่ก็ยังไร้วี่แวว ว่าจะได้ลูกเขย เขาคิดว่าคนที่จะมาเป็นคู่ของลูกสาวเขา ก็ไม่น่าเลวร้ายหรอก เพราะเขาเชื่อว่าลูกเขาเป็นเด็กดี ย่อมที่จะได้คนดี
"วันนี้พ่อไม่ไปธุระที่ไหนเหรอคะ" ปกตินายอาทิตย์จะไม่ค่อยอยู่ พ่อเธอจะไปอยู่ตามสวนชาวบ้าน หรือหมู่บ้านใกล้ๆกัน พูดคุยกับชาวบ้าน แนะนำการทำเกษตรบ้าง หรือบางทีก็ยังรับเป็นวิทยากร ให้กับหน่วยงานราชการ
"ไม่ล่ะลูก ช่วงนี้พ่อพักก่อน ผลไม้ในสวนต้องซ่อมบางต้น พ่อกำลังศึกษาการปลูกผักไฮโดรโปรนิก แม่เขาจะได้มีผักสดๆสวยๆไว้ทาน ไว้ปั่นดื่ม เผื่อได้ส่งไปที่รีสอร์ท กับโรงแรมบ้าง"
อาชาติที่พ่อพูดถึงคือเพื่อนสนิทพ่อ ที่เรียนมาด้วยกัน อาชาติมีโรงแรม ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของจังหวัดนี้ และที่สำคัญที่ไม่ค่อยมีใครรู้คือ พ่อเธอมีหุ้นในโรงแรมของอาชาติด้วย แต่พ่อเบื่องานบริหารแล้ว อยากอยู่แบบนี้มากกว่า ปล่อยให้อาชาติบริหาร และรับเงินปันผลในส่วนของพ่อแค่นั้น แต่บางทีที่มีปัญหามากๆ อาชาติก็จะมาขอคำปรึกษาพ่อเธออยู่บ่อยๆ
"บัวอยากกลับมาอยู่บ้านแล้วค่ะพ่อ มีความรู้สึกว่าอิ่มตัว ไม่อยากทำงานให้คนอื่นแล้ว อยากกลับมาทำงานแถวบ้านเรา รับงานแถบภาคเหนือ หรือใกล้เคียง เบื่อเมืองใหญ่เต็มทีแล้วค่ะ"
"ยังไงเหรอลูก มีเรื่องอะไรหรือเปล่า? มีปัญหาที่ทำงานไหม ? เล่าให้พ่อฟังได้นะ" นายอาทิตย์สังเกตุบุตรสาวตัวเองว่า ไม่น่าจะเป็นเรื่องเบื่อเมืองอย่างเดียวแน่ๆ เขารู้นิสัยลูกเขาดี ต้องมีเรื่องอื่นอีกแน่ๆ
"มีอะไรอีกไหม เล่ามาได้เลยนะ มีเรื่องอะไรนอกจากงานหรือเปล่าหนูบัว" นางจันทราถามลูกสาว ขณะที่ถือส้มโอ มาให้พ่อกับลูก นางรู้ว่าลูกสาวชอบกินส้มโอมาก กินแล้วระบายดี รู้ว่าลูกจะกลับบ้าน เธอเลยให้สามีเก็บมาบ่มไว้ บัวกลับมาก็ได้กินพอดี ส้มโอที่สวนกุ้งใหญ่ หวานอร่อย เป็นที่ขึ้นชื่อของจังหวัด ปกติในสวนไม่ค่อยเหลือ เพราะนายอาทิตย์ให้พ่อค้ามาเหมาทั้งสวน แต่ต้นที่ปลูกไว้ใกล้ๆบ้าน ก็ดกมากเหมือนกัน แม่กับพ่อก็จะเก็บไว้แจกเพื่อนบ้านบ้าง หรือไม่ก็ให้อาชาติไปแจกลูกค้าฟรี ๆ ที่โรงแรม
"เรื่องงานก็มีปัญหาปกติค่ะแม่ แต่เรื่องคนนี่มีมากกว่า เรื่องของกริช ก็ด้วยค่ะพ่อ"
"เรื่องอื่นพ่อไม่มีปัญหา แต่ติดใจที่เรื่องของกริช มีปัญหาอะไรกัน รุนแรงไหม ?" ที่นายอาทิตย์ถามลูกแบบนี้ เพราะเขารู้ว่า ลูกสาวเขา เป็นผู้ใหญ่ มีความคิดเป็นของตัวเอง เขาคิดเองว่า ปัญหาอาจไม่ได้เกิดจากลูกสาวของเขา อาจเกิดจากตัวกริชเองมากกว่า
"แม่ก็อยากรู้ว่า มีเรื่องอะไรกัน แบบไหน ยังไง กริชไม่ได้คิดกับหนูบัวแค่เพื่อนใช่ไหม"
"บัวคิดกับกริชแค่เพื่อนค่ะแม่ แต่กริชไม่ได้คิดเหมือนบัว"
"พ่อกับแม่เชื่อใจลูกนะ แต่บางที่การที่เราให้ความสนิทสนมเหมือนเดิม อาจทำให้กริชคิดเลยเถิดไปไกล" นายอาทิตย์พูดขึ้น "ยิ่งคนสมัยนี้ด้วยแล้ว รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจจริงๆ"
"แม่ได้ข่าวว่าเขามีครอบครัวแล้วไม่ใช่เหรอลูก แล้วทำไมยังมามีปัญหากับบัวอีก"
"ใช่ค่ะแม่ เมื่อสองปีที่ผ่านมา กริชแต่งงานกับรุ่นน้องคนหนึ่ง ช่วงที่กริชคบกับรุ่นน้อง บัวทำงานหนักมากไม่ค่อยมีเวลาไปสังสรรค์กับ
เพื่อนคนไหน แต่พ่อกับแม่ก็รู้นะคะว่าบัวงานเยอะมาก มาได้ข่าวอีกทีกริชก็แต่งงานไปแล้ว เพราะภรรยากริชเกิดตั้งท้อง หลังๆ กริชมีปัญหาทะเลาะกับภรรยา แล้วติดต่อบัวมา เล่าปัญหาทุกสิ่งอย่างให้บัวฟัง และสารภาพว่ารักบัวมานานแล้ว ไม่เคยรักภรรยาเลย ที่แต่งงานเพราะภรรยาท้อง อยู่ด้วยกันไม่นานภรรยาก็แท้งลูก หลังจากนั้นก็มีปัญหากันเรื่อยมา บัวก็จะได้รับฟังตลอด และยังคงคุยให้คำปรึกษา คำแนะนำกับกริช ทำให้กริชคิดว่าบัวมีใจให้ เพราะบัวเองก็ไม่มีใคร สาเหตุนี้เองทำให้ภรรยากริช ตามมาอาละวาดบัวที่ทำงานหลายครั้งค่ะ บัวไม่รู้ว่าอะไรทำให้กริชเป็นแบบนี้ มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อมากเลยค่ะพ่อ แม่"
"แล้วลูกบอกกริชตรงๆ ไหม เรื่องความรู้สึกของลูก" นางจันทราถามลูกสาว
"บัวบอกตลอด และบอกมาเสมอค่ะแม่ พ่อกับแม่ก็รู้ว่า บัวระวังตัวมากเรื่องแบบนี้ เพื่อนก็คือเพื่อนค่ะ บัวไม่เคยคิดเป็นอื่น ผู้ชายในสเปคบัวก็ไม่ใช่แบบกริช เพื่อนผู้ชายบัวก็มีหลายคน ให้ความสนิทสนมเท่าๆกัน หลังๆ กริชเริ่มตามมาดักรอบัวมาที่คอนโด แต่น้องจะอยู่กับบัวตลอดคอยระมัดระวังให้ โชคดีที่มหาวิทยาลัยน้องใกล้กับที่ทำงานบัว เวลาไม่ต่างกันมากนัก น้องจะรอบัว แล้วกลับคอนโดพร้อมกันเกือบทุกวันค่ะ"
"ขนาดนั้นก็ยังไม่วาย กริชบ้ามากถึงขนาดมาดักเฝ้าหน้าคอนโด ให้ รปภ.คอยรายงานว่า บัว เข้า ออก เวลาไหนบ้าง แต่ รปภ.ไม่เล่นด้วยค่ะ เขาเล่าเรื่องนี้ให้บัวฟัง และอีกอย่างบุกถึงที่ทำงานบัวด้วยนะคะ แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ ระรานเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้ชาย สุดท้ายภรรยากริชก็ตามสามี ไม่ใช่กริชคนเดียวที่มาที่ทำงาน ภรรยากริชก็ตามมาระรานบัวด้วยค่ะ แต่พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ"
"บัวนัดคุยกับกริชและภรรยาเขาแล้วค่ะ บัวพาน้องไปเป็นพยาน ถ่ายวีดีโอไว้เรียบร้อย ป้องกันปัญหาตามมา บัวยืนยันว่าบัวคิดกับกริชแค่เพื่อน ไม่มีอะไรนอกจากนั้น ภรรยากริชก็เข้าใจแล้วค่ะ ขอโทษขอโพยบัว หลังจากวันนั้นกริชยังไลน์มานะคะ เขาบอกว่าจะไม่ยอมแพ้ ถ้าบัวยังไม่มีใครเขาก็มีสิทธิ์ เขาจะเลิกกับภรรยา บัวเลยตัดสินใจส่งข้อความของกริชไปให้ภรรยาเขาดูค่ะ และกำชับว่าอย่าให้กริชมาวุ่นวายกับบัวอีก ถ้ามีอีกครั้งบัวจะแจ้งความ และตอนนี้บัวก็บล็อคเบอร์กริชเรียบแล้วค่ะพ่อ แต่บัวมีลางสังหรณ์่ค่ะว่ากริชจะไม่หยุดแค่นี้"
"อีกอย่างนะคะพ่อ บัวจะขอจะขอพื้นที่ใกล้ๆ บ้านสร้างออฟฟิศ จริงๆ บัวสามารถทำงานที่บ้านได้ แต่ไม่อยากให้บ้านวุ่นวายค่ะ เอาไว้เป็นที่พักผ่อนของครอบครัวเราจริงๆ พ่อกันแม่จะอนุญาตไหมคะ"
"เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอกลูก บัวจะสร้างจะทำตรงไหน พ่อกับแม่ไม่หวงเลย แค่ลูกกลับมาอยู่บ้านพ่อกับแม่ก็มีความสุขมากๆแล้ว ที่ดินเราก็เยอะแยะ ลูกอยากจะสร้างจะปลูกตรงไหนก็แล้วแต่ลูกเลย" นายอาทิตย์บอกลูกสาว "พ่อกับแม่ยินดีเสมอ แล้วแจ้งที่บริษัท ไว้รึยัง"
"บัวยื่นใบลาออกไว้แล้วค่ะ ล่วงหน้า 3 เดือน เพราะยังมีงานคอนโด และหมู่บ้านค้างอีก 2-3 งาน บัวรับผิดชอบโครงการนี้ค่ะพ่อ เลยไม่อยากโยนงานให้ใคร ที่สำคัญงานงานหมู่บ้านโครงการใหญ่มาก ตอนนี้บัวยื่นแบบแล้ว รอคำตอบจากลูกค้า"
"ส่วนงานคอนโด กำลังตกแต่ง ตกแต่งเสร็จ ส่งงาน ก็เสร็จ ไม่เกินเดือนหน้าค่ะ"
"งานหมู่บ้าน ไม่น่าเกิน 3 เดือน เผื่อโน้นนี่อาจลากยาวไปเกือบ 5 เดือน ก็น่าจะเรียบร้อย บัวคิดว่าไม่น่าพลาด คงเสร็จทันกับบัวออกพอดี ถ้าไม่ทันบัวคุยกับเจ้านายแล้วค่ะ ถ้าเจ้านายไม่ส่งต่องานบัวให้ใคร เขาจะจ้างเป็นงานๆ ไป ค่าใช้จ่ายการเดินทางเขารับผิดชอบทุกอย่าง มีสัญญาว่าจ้างเรียบร้อยค่ะ"
"ช่วงนี้บัวจะกลับมาทำงานที่บ้านนะคะ ถ้างานมีปัญหา หรือมีเรื่องด่วน บัวจะบินไป ถ้าไม่เสร็จบัวจะค้างกับน้องที่คอนโดสักคืน เรื่องนี้บัวคุยกับหัวหน้าเรียบร้อยแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร เอาจริงๆ เรื่องงานบัวไม่ห่วงเลย แต่บัวมีลางสังหรณ์ แปลกๆ มันบอกไม่ถูกเลยค่ะ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เลยขอกลับตั้งหลักที่บ้านดีกว่าค่ะ"
"บ้านนี้เป็นบ้านของลูกๆ จะมาอยู่เมื่อไรก็ยินดีตลอดเวลา พ่อกับแม่ก็อยากให้ลูกกลับมาบ้าน จะทำอะไรก็ได้ จะไปทำงานที่โรงแรมกับอาชาติ รีสอร์ทบนภู หรือร้านกาแฟในเมืองของเราก็ได้ พ่อกับแม่แล้วแต่บัวเลยลูก พร้อมจะสนับสนุนลูกตลอดเวลา จริงๆ ถ้าบุตรเรียนจบมีงานทำที่กรุงเทพฯ เมื่อเบื่อทำงาน จะกลับมาดูกิจการของเราก็ได้ ไหนจะสวนอีก เหลือเฟือลูก หมดเวลาไปเป็นลูกจ้างเขาแล้ว มาทำของเราจะดีกว่า พ่อกับแม่ก็แล้วแต่ลูกนะ ไม่ได้บังคับอะไร"
"เรื่องกริช พ่อกับแม่ก็พอจะรู้ว่ากริชเป็นคนยังไง คิดว่าน่าจะมีปัญหา เพราะมองว่าเขาไม่ได้คิดกับบัวแค่เพื่อน แต่พ่อกับแม่ก็อยากให้บัวได้เรียนรู้ใจคน นิสัยคน ว่าเป็นยังไง อยากให้บัวคิดเอง แต่ถ้ามันเหลือบ่ากว่าแรง พ่อกับแม่ก็พร้อมที่จะปกป้องลูกของพ่อเสมอ จำไว้นะลูก" นายอาทิตย์กล่าว
"บัวขอบคุณพ่อกับแม่มากเลยนะคะ ที่เข้าใจบัว" หญิงสาวยกมือไหว้ พ่อ กับแม่
"จำไว้นะลูก พ่อกับแม่ เชื่อมันในตัวลูกเสมอ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกตัดสินใจ พ่อกับแม่คิดว่ามันเหมาะสมและดีที่สุดแล้ว"
นายอาทิตย์กล่าวพร้อมลูบหัวลูกสาวคนโตด้วยความรักความเมตตา
เอาล่ะ เดี๋ยวพ่อจะเข้าไปในเมือง กับลุงบุญ สักหน่อย แม่ลูกก็คุยกันไปนะ ไม่ต้องรอทานกลางวัน ค่ำ ๆพ่อจะรีบกลับมากินข้าวเย็น
ลุงบุญเป็นชายร่างใหญ่อายุมากกว่าพ่อ 5 ปี ลุงบุญอยู่กับพ่อมานานมากตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก เกิดมาก็เห็นลุงบุญแล้ว ลุงบุญเจอพ่อที่ กรุงเทพฯ สมัยที่พ่อเรียนมหาวิทยาลัย และติดต่อกันเรื่อยมา จนลุงบุญมีเรื่องคดีความ พ่อก็คอยให้ความช่วยเหลือตลอดมา และด้วยความดีของพ่อ ลุงบุญติดตามพ่อมาอยู่ที่นี่ และได้พบรักกับป้าเดือนซึ่งเป็นคนบ้านนี้ทั้งสองคน ขยัน พูดน้อย ทำงานช่วยพ่อกับแม่ดูแลสวน มาโดยตลอด ลุงบุญกับป้าเดือน มีลูก 2 คน เป็นรุ่นเดียวกับบุตร เป็นผู้ชายทั้งคู่ คนพี่ชื่อเมฒ คนน้องชื่อพายัพ ห่างจากบัว 7 ปี เพื่อนที่ทำงานชอบถามว่าทำไม เธอกับน้องห่างกันจัง ที่ห่างกันมากขนาดนี้ เพราะแม่แท้งน้องไป 2 คน กว่าจะได้น้องชายเธอมา ก็เกือบแท้งเหมือนกัน มีเลือดออก แต่คุณหมอฉีดยากันแท้งให้ทัน น้องชายเธอคนนี้เลยรอดมา
เมฆ พายัพ บุตร ก็เลยสนิทกันมาก เหมือนเป็นพี่น้องกันมากกว่า เพราะรุ่นเดียวกัน บ้านเธอดูแลครอบครัวลุงบุญเหมือนเป็นญาติสนิท พ่อแบ่งที่ดินให้ลุงบุญ จำนวนหนึ่งเพื่อทำสวน เป็นทรัพย์สินของตัวเอง ครอบครัวลุงบุญไม่เคยลืมบุญคุณ ให้ความเคารพพ่อเสมอ รวมถึง ลูกทั้งสองของลุงบุญก็เคารพนับถือพ่อกับแม่มาก พ่อกับแม่ดูแลน้องทั้งสองเหมือนลูก แถมยังส่งเสียให้เรืยน หากจบแล้วทั้งสองอยากหางานที่กรุงเทพฯ พ่อกับแม่ก็ไม่ว่าอะไร ทุกๆ เทศกาล หรือปิดเทอม น้องทั้งสองก็จะกลับมาไหว้ พ่อกับแม่ ช่วยกิจการที่บ้านเป็นประจำ ในบรรดาเพื่อนสนิท ทุกคนเลยคิดว่าเธอมีน้องชาย 3 คน ซึ่งเธอก็ยินดี เพราะรักเหมือนน้องอยู่แล้ว
ส่วนลุงบุญก็คอยดูแลไร่ นา สวน ให้พ่อ ยังทำหน้าที่ ขับรถให้พ่อด้วย แม่จะอุ่นใจทุกครั้งที่มีลุงบุญไปกับพ่อ เพราะลุงบุญมีรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาน่ากลัว ไปที่ไหนก็มีแต่คนเกรงใจ แต่ลุงบุญไม่เคยมีปัญหากับใคร พูดน้อย ทำงานเป็นหลัก แถมเป็นที่ปรึกษาที่ดีของพ่อตลอดเวลา
พ่อเคยสอนบัวกันน้องเสมอว่า เพื่อนมีน้อยแต่ขอให้มีคุณภาพ บัวกับบุตร ก็เลยดำเนินรอยตามพ่อกับแม่ เพื่อนน้อย คบคนยาก แต่ถ้ารักก็รักจริงๆ โลกส่วนตัวสูงมากๆ นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ทั้งเธอและน้องชายยังไม่มีแฟนสักที