"ผมจะขอโทษคุณลุงคุณป้า และก็คุณพ่อด้วยครับที่ผมไม่สามารถแต่งงานกับน้องกี้ได้แล้ว"
พอจบคำพูดทุกคนต่างตื่นตกใจโดยเฉพาะคุณไกรสร ที่ไม่คาดคิดว่าลูกชายคนเล็กที่ตั้งความหวังเอาไว้ว่าจะให้สานต่อธุรกิจของเขาและครอบครัวของทางฝั่งอรปรียา กลับมาขอยกเลิกงานแต่งเสียดื้อๆแบบนี้
"นี่มันอะไรกัน คุณไกรสรลูกชายคุณพูดเรื่องอะไรผมไม่เข้าใจ "
คุณไพโรจน์เอยถามขึ้นด้วยความแปลกใจ
"นั่นสิแกพูดอะไรของแกลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ "
คุณไกรสรที่โมโหลูกชายแต่ไม่สามารถแสดงออกอะไรได้มากไปกว่านี้ โดยทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ในสายตาของภวิศ ที่คิดว่าช่วงเวลาที่สนุกกำลังมาถึงแล้วหลังจากที่พูดคุยเรื่องน่าเบื่อกันได้ตั้งนาน
"ผมมีคนรักอยู่แล้วครับคุณพ่อ และตอนนี้เธอก็กำลังตั้งท้องลูกของผมอยู่ครับ"
พอได้ฟังคำพูดของลูกชายคุณไกรสรถึงกับหน้ามืดความดันขึ้นด้วยความตกใจคนโมโหสุดขีด มันกล้าทำอย่างนี้ต่อหน้าทุกคนได้ยังไงนี่มันกล้าฉีกหน้าเขาอย่างนั้นหรอเลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ
" คุณลุงคุณป้าครับน้องกี้ด้วยพี่ขอโทษจริงๆ ถึงแม้เราจะแต่งงานกันพี่ก็ไม่สามารถจะอยู่กับน้องกี้ได้ พี่มีคนที่รักอยู่แล้วพี่ผิดเองน้องกี้ไม่ได้ผิดอะไร"
"คุณไกรสรแบบนี้มันเท่ากับฉีกหน้ากันชัดๆลูกชายคุณทำแบบนี้กับลูกสาวผมได้ยังไง สถานะมันหมายก็ยังมีอยู่แต่ลูกชายคุณดันไปทำผู้หญิงคนอื่นท้อง เงื่อนไขที่เราเคยคุยกันไว้เป็นอันยกเลิก และเราก็ไม่ต้องมาทำธุรกิจร่วมกันอีกต่อไป ไปคุณหญิงยายกี้กลับบ้านเรา"
คุณไพโรจน์พูดขึ้นด้วยความโมโหไม่คิดว่าทางบ้านนี้จะกล้าหักหลังเขาแบบนี้ เขาหวงก็แต่ความรู้สึกของลูกสาวที่ตั้งแต่กรเดชพูดเรื่องยกเลิกแต่งงานก็นั่งเงียบไม่พูดไม่จาอะไรเลย
แต่ใครจะรู้ที่อรปรียานั่งเงียบอยู่เธอรู้สึกโกรธแค้นไอ้ตากรเดชนี่ต่างหาก ก็ดียังไงมาฉีกหน้าเธอโดยการบอกว่ามีคนรักแล้วแล้วถึงขั้นมีลูกกันด้วย เธอเป็นคนในวงการคิดดูว่าถ้าคราวนี้หลุดออกไปเธอจะเสียหน้ามากแค่ไหน
ที่คู่หมั้นที่มันหมายกันมาตั้งแต่เด็กไปทำผู้หญิงคนอื่นท้อง แล้วคงประโคมข่าวกันเรื่องที่ว่าเธอเป็นชู้กับผู้จัดและอื่นๆอีกมากมาย ยังไงซะเธอก็ไม่มีทางยอมเด็ดขาด
"เดี๋ยวก่อนสิครับคุณลุงไพโรจน์ ผมว่าที่เจ้ากรมันยกเลิกงานแต่งก็ดีแล้วนี่ครับ ลูกสาวคุณลุงจะได้ไม่ต้องแต่งงานกับคนที่เธอไม่ได้รัก อีกอย่างผมมองว่าเรื่องธุรกิจเรายังสามารถคุยกันได้อยู่นะครับ "
ภวิศที่เดินตามคุณไพโรจน์ออกมาเอ่ยห้ามขึ้นก่อนที่อีกฝ่ายจะขึ้นรถ
" ยังไงนายจะเสนออะไร"
คุณไพโรจน์ถามขึ้นด้วยความสงสัยทางคุณหญิงจำปาและอรปรียาก็รอฟังอยู่เช่นกัน
" ผมจะแต่งงานกับอรปรียาเอง เพื่อกู้หน้าของอรปรียาและทางคุณลุงคุณป้าด้วย คิดดูสิครับผู้คนจะพูดให้น้องดูไม่ดีมากแค่ไหน คู่หมั้นที่หมั้นกันมาตั้งแต่เด็กหนีไปแต่งงานใหม่เพราะเธอมีข่าวไม่ดี สู้เราปล่อยข่าวว่าคนที่อรปรียาหมั้นด้วยจริงๆ แล้วคือผมไม่ใช่กรเดช " ภวิศเสนอขึ้น
"นายเอาตัวเองมาช่วยแบบนี้แล้วนายจะได้อะไร "
คุณไพโรจน์ถามขึ้นเขาก็เห็นด้วยกับสิ่งที่ชายหนุ่มพูดเรื่องชื่อเสียงของลูกสาวเขา แต่ข้อเสนออะไรล่ะที่ทำให้เด็กหนุ่มอนาคตไกลแบบเขายอมเสียสละตัวเองเสียสละความโสดมาแต่งงานกับลูกสาวเขา
"เรื่องที่ดินครับ ผมต้องการคงเงื่อนไขเดิมกับตอนที่ทางคุณลุงแจ้งทางคุณไกรสรหลังเงื่อนไขการแต่งงานครับ "
"ไม่เอานะคะคุณพ่อ กี้ไม่อยากแต่งงานแล้วชื่อเสียงกี้ กี้จะเป็นคนจัดการเองไม่ ฉันต้องการให้คนอื่นเข้ามายุ่ง "
อรปรียาที่เงียบฟังอยู่นานเอ่ยขึ้นด้วยความโมโหเขาเห็นเธอเป็นอะไรเป็นสิ่งของหรือไงจะหยิบจับจะวางไว้ตรงไหนก็ได้
"หยุดยัยกี้ไม่ต้องพูดป๊าตัดสินใจแล้ว ได้ผมจะให้ลูกสาวแต่งงานกับคุณและต้องแต่งให้เร็วที่สุดเพื่อกู้ชื่อเสียงลูกสาวของผมกลับคืนมา ส่วนเรื่องเงื่อนไขเราค่อยมาคุยกันอีกทีตอนที่คุณทำตามที่คุณพูดแล้ว"
ว่าเสร็จคุณไพโรจน์ก็เดินขึ้นรถแล้วสั่งให้คนขับรถออกตัวไป เขาไม่อยากที่จะทนอยู่บ้านของคนที่ลูกชายทรยศหักหลังลูกสาวของเขาแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียวแล้ว
'เพรี๊ยะ เพรี้ยะ ' ภวิศที่เดินกลับเข้ามาเห็นคุณไกรสรกำลังจัดการกรเดชที่กล้าทำให้เขาเสียธุรกิจพันล้านร้อยล้านไป ผู้ชายคนนั้นจะคิดถึงอะไรนอกจากผลประโยชน์ของตัวเอง หึ!
"อย่านะคะคุณไกรสรอย่าทำลูกเลยนะคะ ฮื่อๆ " คุณหญิงจำปาร้องไห้ด้วยความเสียใจรีบเข้าไปโอบกอดปกป้องลูกชาย
"หยุดเลยนะคุณจำปาคุณก็เป็นเสียอย่างนี้ลูกคุณมันถึงได้เสียคน งามหน้าไหมล่ะไปทำผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ท้อง แล้วยังมาทำให้ฉันต้องทะเลาะกันกับคุณไพโรจน์อีก ไปเลยนะแกจะไปไหนก็ไปอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก ฉันไม่เคยมีลูกทรพีอย่างแก ไป๊!!"
ไกรสรชี้หน้าด่ากรเดชด้วยความโมโหและไล่ไปให้พ้นหน้า เพราะมันทำให้เขาเสียหายหลายร้อยล้าน
"ขอบคุณนะครับที่วันนี้เชิญผมมาร่วมทานข้าวด้วย เป็นมื้อที่วิเศษและสนุกมากจริงๆ " ภวิศที่ยืนดูละครฉากนี้ตั้งนานเอ่ยขึ้น
"ใครเป็นคนชวนแกมา ใครใช้ให้แกมาเหยียบบ้านฉัน"
ไกรสรถามขึ้นตอนแรกที่เห็นภวิศเขาตกใจและแปลกใจไม่คิดว่าเด็กที่ออกจากบ้านเขาไปวันนั้นจะยอมกลับมาเหยียบที่นี่ง่ายๆ
" ผมก็ไม่ได้อยากจะมาเหยียบนักหรอกนะครับไอ้บ้านหลังนี้ ถ้าน้องชายสุดที่รักของผมไม่โทรชวน สงสัยอยากให้ผมมาเป็นพยานในการยกเลิกงานแต่งครั้งนี้มั้ง "
ภวิศเอ่ยขึ้นและเขาก็มองเกมออกแต่แรกอยู่แล้วว่าให้เขามาทางพ่อและทางนั้นจะไม่กล้าทำอะไรตนมาก แต่ที่เขายอมมาเพราะเขาก็ต้องการแบบนั้นเช่นกัน
" ออกไปจากบ้านฉันเลยนะไป๊!! " ไกรสรเอ่ยปากไล่ลูกชายคนโตที่มันคงไม่นับเขาเป็นพ่อหลังจากที่แม่ของมันตายไปก็โทษแต่ว่าเป็นความผิดของเขาจนถึงทุกวันนี้
"ไปแน่ครับไม่ได้อยากมาเหยียบหรอก แต่ผมดีใจนะที่ได้มาวันนี้ อย่างน้อยที่ดินสินสมรสของน้องชายสุดที่รักก็ตกมาเป็นของผม หึๆ"
"แกว่าอะไรนะ เดี๋ยวกลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้แทน ไอ้.."
ภวิศพูดเสร็จก็เดินออกมาเลยไม่สนใจกับเสียงร้องด้วยความตกใจของคุณไกรสรแม่แต่น้อย กลับสะใจมากกว่าที่เห็นหน้าตาแบบนั้นของผู้ให้กำเนิด