เทพรีบวิ่งตามมาจนทันเห็นหลิวกำลังจะเดินเข้าไปเลยเรียกให้หยุดก่อน เขาหอบนิดๆระหว่างรอเธอเดินมาหา
“ไหวไหมคะ?” ดูสภาพเขาสิน่าสงสารมาก
“ไหว! ซื้อตั้วหนังให้หน่อยสิ เอาแบบนั่งติดกันนะ” เขาส่งเงินให้เธอเพราะตัวเองยังหอบอยู่เกรงว่าจะพูดคุยไม่รู้เรื่อง
“ทำไมต้องติดกันคะ?”
“เออน่า เดี๋ยวพี่เลี้ยงป๊อปคอร์น” เขามองเธอก็ยิ้มออกมาแบบหุบไม่ได้เลย
“แต่ว่าหลิวกินเยอะนะ” เธอพูดขณะไปเลือกที่นั่งให้เขา
“เลี้ยงไหวน่าเด็กน้อย” เทพส่ายหน้านิดๆเดินไปซื้อน้ำและป๊อปคอร์นไซส์ใหญ่สุดให้เธอ ดูสิจะกินเก่งขนาดไหน
“ไปกันเถอะพี่อยากดูหนังเหมือนกัน” เขาอยากจะเดินจับมือเธอนะ แต่ว่าตอนนี้ในมือเต็มไปด้วยน้ำและขนมทำให้ได้แค่มองเท่านั้นแหละ
“พี่เทพคิดยังไงอยากดูหนังคะเนี่ย?” เธอค่อนข้างงงนิดๆ
“ก็อยากดูไงแต่ไม่มีเพื่อนเลย เห็นว่าหนูมาดูพี่เลยถือโอกาสมาดูด้วยกัน” พูดได้เลยว่าตอนนี้แถอย่างเดียว ใครจะไปคิดว่าคนอย่างเทพประทานต้องมาไล่จีบเด็กขนาดนี้
“แล้วเรียนที่ไหน อายุเท่าไรเหรอ?” ก็อยากรู้ไงถึงได้ถามต่อ
“หลิวอายุ 18 ปีค่ะ เรียนที่โรงเรียนปรานบุรีวิทยาค่ะ” โรงเรียนของเธอมีชื่อเสียงพอสมควรเขาน่าจะรู้จัก
“อ๋อ” เทพพยักหน้ารับรู้พร้อมกับคิดในใจถึงอายุที่ห่างกันเกินไป เธออายุ 18 ปีส่วนเขาอายุ 28 ปี เชี้ย! ห่างกัน 10 ปี!! นี่เขาจะถูกพ่อจับเข้าคุกไหมถ้าพรากผู้เยาว์ไหมวะเนี่ย
เทพไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเพราะถึงเวลาหนังเข้าฉายแล้ว หลายครั้งที่มือเขาชนกับเธอตอนหยิบป็อปคอร์น อยากจะบอกจังว่าดูหนังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไรเพราะมัวแต่มองเธอนี่แหละ เด็กบ้าอะไรขนาดอยู่ใกล้ๆยังกวนใจฉิบหาย
เขาลองเอนตัวจะซบแต่ว่าแม่งยากวะ เขาเอาแต่มองเงียบๆจนเธอสะดุ้งเมื่อเธอหันมาสบตาพอดี! สัตว์!! ทั้งเขินทั้งอายแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แล้วที่สำคัญคืออยากจูบปากเธอมากเลย เด็กอะไรไม่รู้ปากเล็กๆสีชมพูขนาดนี้ ผิวก็เนียนสวยได้อีก
พอมองดูโดยรวมแล้วเธอโดนใจอย่างจัง
โดนใจตั้งแต่วันแรกเลยก็ว่าได้
“หนังจบแล้วไปกันเถอะค่ะ” แสงไฟในโรงหนังสว่างขึ้นทำให้เห็นว่าเขามองเธออยู่ก่อนหน้านี้
“ครับ แล้วจะไปไหนต่อ?”
“กลับบ้านค่ะ หลิวมีงานต้องทำต่ออีกเยอะเลย” เธอต้องไปแพ็คของเตรียมส่งลูกค้าแล้วในวันพรุ่งนี้ เธอกำลังจะเดินไปแต่พี่เทพมาจับมือเธอดึงไว้ให้หยุดก่อน
“เดี๋ยวจะหลงคนมันเยอะนะ” ข้ออ้างคนอยากแต๋ะอั๋งเด็กครับ เขาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะอาการหนักได้ขนาดนี้เลย
เทพยังไม่เดินออกไปยืนจับมือเธอไว้อย่างนั้น คนเดินออกหมดเขาถึงได้พาเธออกไปเป็นคนสุดท้าย ชอบเด็กจังเลยวะ! บอกแม่ให้ไปขอได้ไหมวะ แต่มันจะเร็วเกินไปน่ะสิ
“มีไลน์แล้วก็ตอบพี่ด้วยนะ อย่าเอาแต่อ่านอย่างเดียว” เขาพูดดักเธอไว้ก่อนเลย
“ค่ะ แต่อาจจะดึกหน่อยนะ” เธอไม่ค่อยว่างด้วยไงเลยต้องบอกเขาให้รู้จะได้ไม่ต้องคิดมาก
“ครับ ดึกแค่ไหนพี่ก็จะคุย”
หลิวยิ้มนิดๆเดินออกไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ เธอไม่เคยเจอใครมาทำให้รู้สึกดีแบบนี้เลยสักครั้ง
ก่อนกลับเธอแวะไปซื้อของที่ต้องใช้ก่อนแล้วจากนั้นถึงได้กลับไปแพ็คของอย่างจริงจังสักที
เทพเดินกลับไปที่ร้านทองตามเดิม วันนี้เขาสัญญาว่าจะมาช่วยขายจนร้านปิดเพราะแม่ต้องไปงานแต่งหลานช่วงเย็นพอดี ตอนนี้เขาอยากจะตามเธอไปจังแต่ก็ทำได้แค่มองตาม
“เป็นไงเทพชอบเรอะ?” ทิชาถามลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทันทีที่เดินเข้ามาในร้านทอง
“ยังต้องถามอีกเหรอหม่าม้า เคยเห็นเทพวิ่งตามใครไหมเล่า” เทพเดินไปกอดผู้เป็นมารดาอ้อนนิดๆด้วยอารมณ์ที่ดีมาก แล้วไปประจำหน้าร้านต่อเพื่อขายทอง
“ไม่เด็กไปเรอะ?”
“โธ่หม่าม้า! เด็กแล้วยังไงก็เทพชอบอะ” เทพเถียงนิดๆ แต่เรื่องอายุกับความรักมันสำคัญที่ไหนเล่า เขาเคยเห็นบางคนมีเมียเด็กกว่าหลายปีก็เยอะแยะไป
ของเขาห่างแค่ 10 ปีเองไม่เห็นจะเยอะตรงไหน
“หม่าม้าต้องเตรียมเงินไปประกันตัวลูกไหม?”
“อะไรอีกหม่าม้า?”
“ก็ถ้าเกิดพ่อแม่เขามาแจ้งจับเทพไง เด็กคนนั้นดูเหมือนยังอายุไม่ถึง 18 ปีเลยมั้ง” ทิชาแซวลูกชายนิดๆ
“ไปจับหลิวโน้นเลย!” เขาอยากจะบอกว่าเธอนั่นแหละเป็นผู้ต้องหาคดีร้ายแรงมาก นี่ถ้าเขามีกุญแจมือนะจะจับแล้วไปขังที่บ้านสวนของเขาสักปี
ทำไมคิดถึงจังวะห่างยังไม่ถึงชั่วโมงเลย
“อย่าพึ่งบอกป๊านะ” เขาไม่ได้กลัวพ่อด่านะ แต่ว่าพ่อนั่นแหละตัวแซวตัวชงชั้นดีเลย ขืนบอกพ่อไปไก่ได้ตื่นหมดพอดี
“ป๊ารู้แล้วหม่าม้าบอกเมื่อกี้เอง”
“หม่าม้าอะ!”
หลิวกลับมาถึงบ้านก็ลงมือแพ็คของและแอบตกใจนิดๆกับเสียงไลน์ที่ดังติดกันถี่ๆขนาดนั้น แต่เธอยังไม่เปิดอ่านดูหรอกเดี๋ยวจะหาว่าเธออ่านแล้วไม่ตอบอีก
เทพประทาน : ทำอะไรอยู่ครับ พี่เทพเองนะ
เทพประทาน : เงียบจังเลย
เทพประทาน : ถึงบ้านรึยังครับ
เขาเล่นไลน์มาเยอะมาก เธอแค่ดูแต่ยังไม่อ่านหรอกขอเล่นตัวก่อนนิดหนึ่ง นี่เขากำลังจีบเธอรึเปล่าไม่แน่ใจจริงๆเลย
“หล่อขนาดนี้คงเจ้าชู้น่าดูเลย” เธอไม่เคยมีแฟนแต่ก็คุยเยอะพอสมควรและหายตัวจากห้องแชทคนอื่นเยอะมาก แล้วมาแนวนี้มีเหรอเธอจะไม่รู้ว่าเป็นแบบไหน
“เลิกคิดถึงเขาได้แล้ว เธอต้องทำงานรีบแล้ว” งานตรงหน้ายังไม่กระเตื้องเพราะดันคิดถึงแต่ผู้ชายนี่แหละ เธอเร่งแพ็คเสื้อผ้า เครื่องประดับและรองเท้าแยกกล่องแยกประเภทจนครบถึงได้จะอาบน้ำนอนสักที
“เอ๊ะ!” เธอมัวแต่ทำงานเพลินเลยเปิดเพลงเสียงดัง พอมาดูไลน์ถึงได้เห็นว่าพี่เทพโทรหาเกือบ 20 สายได้มั้ง
“คนอะไรตื้อเก่งจัง!” เธอเปิดไลน์ของเขาอ่านไปยิัมไปมองเวลาตอนนี้ก็สามทุ่มครึ่งแล้ว เธอก็เริ่มง่วงเต็มทนแล้วแหละ
เทพประทาน : ฝันดีครับ อย่าลืมฝันถึงพี่นะ
ต้นหลิว : กู๊ดไนท์ค่ะ
เทพวางโทรศัพท์ลงนั่งอมยิ้มคนเดียว ตอนนี้มันดึกตรงไหนกัน ปรกติเขานอนเลยเที่ยงคืนไปแล้ว ตอนนี้เพื่อนก็พากันมากินเหล้าที่บ้านพอดีเลยต้องเก็บอาการให้มากเดี๋ยวมันจะจับได้
“เห้ยไอ้เทพสรุปเด็กคนนั้นมึงชอบเหรอวะ?” วินถามซ้ำด้วยความอยากรู้ในเรื่องที่สงสัย
“เออ! กูชอบ แล้วพวกมึงว่างไหมพรุ่งนี้?” ก็นั่นแหละคนมันคิดถึงและอยากไปเจอเธออีกแล้ว
“ทำไมวะ? หรือมึงจะพาพวกกูไปฉุดเด็กเหรอ?” อิฐถามพลางยกเหล้ามาดื่ม
“ฉุดพ่อมึงดิ! พรุ่งนี้มึงอย่าลืมเดี๋ยวกูไปหาที่ร้านนั่นแหละ” พวกมันก็คือหุ้นส่วนร้านขายอะไหล่รถแต่งเอง พวกเราคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมจนถึงตอนนี้ก็ยังคบกันอยู่ แล้วห็พากับทำเรื่องฉิบหายวายวอดหลายครั้งแล้วด้วย
“เฮียมีเด็กใหม่เหรอ?” เจเจถามเพราะไม่เคยรู้มาก่อน
“เจเจ ไอ้พุฒิ คนนี้ว่าที่เมียกูเดี๋ยวได้รู้จักแน่” มันสองคนเป็นลูกน้องคนสนิทคอยช่วยดูงานต่างๆให้
พอเหล้าเข้าสายเลือดพวกมันก็แซวกันตามปรกติ ส่วนเขาก็เปิดดูรูปในไลน์เธอทำให้รู้ว่าเด็กคนนี้ขายของออนไลน์เยอะมาก ขยันเหมือนกันนะเนี่ย เขาอยากจะช่วยอุดหนุนนะ แต่ของแต่ละอย่างเขาไม่ได้ใช้เลย เพื่อนก็มีแต่ผู้ชายบังคับใครไม่ได้สักคน
แต่ยังไงซะพรุ่งนี้เราก็ต้องได้เจอกันแน่