บทที่ 5

1514 Words
นิ้วเรียวยาวเคาะลงบนโต๊ะทำงานที่อยู่ภายในคอนโดขนาดใหญ่ เคลลี่กำลังครุ่นคิดวิธีการที่เขาจะแย่งดุจตะวันมาจากแฟนของเธอ ใช่แล้ว..เขาคิดจะแย่งเธอมาจริง ๆ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล เวทมนตร์คาถาอะไรก็ช่าง แต่ยังไงเขาจะต้องได้ครอบครองผู้หญิงคนนี้ แล้วจะทำยังไงดีล่ะ.. เคลลี่ตัดสินใจกดโทรศัพท์หาเพื่อนซี้เพียงคนเดียวของตัวเองทันที ถึงแม้จะพอเดาได้ว่าคงโดนเพื่อนด่าแน่ แต่ก็เผื่อว่าเพื่อนจะมีไอเดียอะไรดี ๆ เสนอ รอสายไม่นานเท่าไหร่นีโอก็รับโทรศัพท์ /มีอะไร โทรมาซะดึกดื่น ไม่หลับไม่นอนบ้างหรือยังไง/ ยังไม่ทันได้พูดอะไรเพื่อนปลายสายก็บ่นเขาเสียแล้ว /กูมีเรื่องจะปรึกษาหน่อย/ /เรื่องอะไรของมึงอีกวะไอ้เคล มึงอย่าบอกนะว่าเรื่อง/ /เออ มีอยู่เรื่องเดียวนั่นแหละ เรื่องผู้หญิงที่กูคิดว่าคือตะวันกลับชาติมาเกิด/ หลังจบประโยคเคลลี่ก็ได้ยินเสียงเพื่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ /ไอ้เคล กูว่ามึงควรไปหาหมอนะ อันนี้กูพูดด้วยความเป็นห่วงล้วน ๆ / /กูไม่ได้เป็นบ้านะ ที่กูโทรมาหามึง กูแค่อยากจะปรึกษาว่าจะแย่งตะวันมาจากแฟนเธอยังไงต่างหากล่ะ/ /ไอ้เชี่ยเคล!!/ นีโอตะโกนมาตามสายด้วยความตกใจ นอกจากเพื่อนจะงมงายเรื่องกลับชาติมาเกิดแล้ว ไม่อยากจะเชื่อว่ายังจะคิดแย่งแฟนคนอื่นอีก /เออ มึงจะด่ากูยังไงก็ช่าง แต่กูต้องการให้ตะวันมาคบกับกู ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม/ /แต่เด็กนั่นแทบจะรุ่นลูกมึงได้แล้วนะไอ้เคล/ /กูไม่สน กูรักของกู ยังไงก็จะแย่งเธอมาให้ได้/ คุยโทรศัพท์กับเพื่อนอยู่พักใหญ่ นอกจากจะไม่ได้ข้อเสนอ หรือความคิดดี ๆ แล้ว เขายังโดนเพื่อนด่าจนหูชา แต่ถามว่าคิดได้หรือเปล่ากับสิ่งที่เพื่อนพูด ไม่มีทาง ในเมื่อเขาตัดสินใจแล้ว ยังไงซะดุจตะวันก็ต้องเป็นของเขา //////// วันต่อมา ภายในห้องทำงานของเคลลี่ เขากำลังนั่งมองคนตัวเล็กทำนั่นทำนี่ตามคำสั่ง ในหัวก็กำลังคิดแผนการต่าง ๆ นานา ตอนนี้เขาดูเหมือนเป็นตัวร้ายในนิยายอยู่ก็ไม่ปาน “ซัน วันนี้กลับบ้านยังไง” เคลลี่ตัดสินใจเอ่ยถามขึ้นมา ถ้าไม่รุกก็คงจะไม่ได้เธอมาข้างกายง่าย ๆ “หนูว่าจะกลับแท็กซี่ค่ะ โทรหาพี่เมฆเท่าไหร่ก็ไม่รับ สงสัยจะติดงานด่วน” ไม่รู้โชคชะตา หรือว่านรกเป็นใจ แต่ทุกอย่างมันเหมือนจะเข้าข้างเขาสุด ๆ “งั้นให้ฉันไปส่งซันนะ จะได้แวะกินข้าวเย็นกันด้วย” ดุจตะวันหันมามองหน้าเขาแค่ชั่วครู่แล้วก็หันกลับไปจดจ่อกับงานของตัวเอง “มันจะดีเหรอคะคุณ หนูเกรงว่าจะรบกวนเวลาคุณค่ะ” ดุจตะวันตอบกลับมาด้วยความเกรงใจ เขาเป็นเจ้านาย จะให้คอยไปรับไปส่งเด็กฝึกงานได้ยังไง “ไม่เป็นไรหรอก ถือซะว่าฉันเลี้ยงส่งก็แล้วกัน วันนี้ฝึกงานวันสุดท้ายแล้วไม่ใช่เหรอ” เคลลี่พยายามพูดโน้มน้าวคนตัวเล็ก ซึ่งเธอก็มีทีท่าโอนอ่อนตาม “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ วันนี้ขอฝากท้องหนึ่งวันนะคะ” ดุจตะวันตอบตกลงพร้อมกับระบายยิ้มสดใสบนใบหน้า เธอคงไม่รู้ตัวว่าตอนนี้กำลังทำให้ใครบางคนใจสั่นแทบจะคลั่ง ///// หลังเลิกงาน เคลลี่เดินนำหน้าดุจตะวันมายังรถตัวเองที่จอดอยู่บริเวณที่จอดรถส่วนตัว หลังจากที่เธอเข้ามานั่งข้างคนขับ เคลลี่ก็เอ่ยถามขึ้นทันที “ซันอยากจะกินอะไรเป็นพิเศษ ชาบูไหม” “คุณ! คุณรู้ได้ยังไงคะว่าหนูชอบกินชาบู เดาเก่งยิ่งกว่าหมอดูอีกนะเนี่ย” คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ท่าทางถูกอกกถูกใจกับเมนูอาหารเย็นที่เขาพึ่งเสนอไป “ถ้างั้นเย็นนี้กินชาบูกันนะ” “ได้เลยค่ะท่านประธาน” รถเก๋งคันใหญ่แล่นมาตามท้องถนน ในช่วงเย็นของวันสิ้นเดือนแบบนี้ ดูท่าการจราจรจะคับคั่งเป็นพิเศษ ทั้งคนที่กำลังเลิกงาน คนที่กำลังออกไปสังสรรค์ ทำให้รถติดมากกว่าทุก ๆ วัน จนเวลาเกือบจะทุ่มหนึ่งแล้ว ทั้งคู่ก็ยังนั่งอยู่ในรถ “คุณ หยุดก่อนค่ะ หยุดรถก่อน” ดุจตะวันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูตื่นเต้นตกใจกับอะไรบางอย่าง เคลลี่จอดรถข้างทางตามที่เธอบอก “มีอะไรเหรอซัน จู่ ๆ ทำไมถึงให้จอดรถ” “นั่นมันพี่เมฆแฟนหนู” เคลลี่มองตามไปยังทางที่เธอกำลังจดจ้องอยู่ สิ่งที่เห็นก็คือผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินออกมาจากร้านอาหาร และข้างกายก็มีสาวสวยคนหนึ่งคล้องแขนเดินเคียงคู่กันมา เคลลี่ยกยิ้มมุมปาก อะไรเขาจะโชคดีขนาดนี้ จู่ ๆ แฟนของเธอก็เดินควงอยู่กับผู้หญิงคนอื่น “เดี๋ยวซัน! จะไปไหน” “หนูจะลงไปคุยกับพี่เมฆให้รู้เรื่องน่ะสิคะ” ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยห้าม คนตัวเล็กก็เปิดประตูรถแล้วก็เดินฉับ ๆ ตรงไปยังแฟนหนุ่มของตัวเองทันที “พี่เมฆ นี่มันเรื่องอะไรกันคะ” ดุจตะวันเอ่ยถามแฟนหนุ่มด้วยความอยากรู้ พร้อมกับสายตาจับจ้องมองอยู่ที่แขนของเขาที่มีผู้หญิงอีกคนเกาะอยู่ “ซัน คือพี่อธิบายได้นะซัน” ม่านเมฆผละตัวออกจากการเกาะกุมแล้วก็เดินเข้ามาหาเธอ “อธิบายเหรอคะ พี่ไม่รับโทรศัพท์หนู แต่พี่มากับผู้หญิงคนอื่นเนี่ยนะ ยังจะต้องอธิบายอีกเหรอคะ” หยดน้ำใสเริ่มไหลลงอาบสองแก้มขาว ม่านเมฆได้แต่หันซ้ายมองขวา เขาเริ่มอายเมื่อรู้สึกว่าสายตาทุกคู่กำลังจับจ้องมาทางตัวเอง “ซันพอแล้ว มีอะไรก็ค่อยคุยกัน วันนี้ซันกลับไปก่อน” ฟังดูแล้วก็เหมือนเขากำลังเอ่ยปากไล่เธอเพื่อให้พ้นสายตา “ให้หนูกลับไปก่อนแล้วพี่ก็จะไปต่อกับผู้หญิงคนนี้ใช่ไหมคะ พี่เมฆตอบมาสิว่าใช่ไหม!” ดุจตะวันเริ่มตวาดขึ้นเสียงใส่ชายหนุ่มตรงหน้า โดยที่หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไรทั้งนั้น “ซัน อย่ามาขึ้นเสียงใส่พี่นะ” “ทำไมหนูจะขึ้นเสียงใส่พี่ไม่ได้ หนูเป็นแฟนพี่นะ แล้วหนูก็กำลังเห็นแฟนตัวเองจะไปไหนต่อไหนกับผู้หญิงคนอื่น ใครมันจะไปทนได้” เธอทั้งร้องไห้ ทั้งโวยวายใส่ม่านเมฆ “โธ่เว้ยซัน! เงียบสักทีจะได้ไหม ไม่ใช่เพราะซันหรอกเหรอที่ทำให้พี่ต้องออกมากับผู้หญิงคนอื่นน่ะ” “เพราะหนู เพราะหนูอย่างนั้นเหรอ” นิ้วชี้งอเข้าหาตัวเองด้วยความสงสัย เธอไปทำอะไรให้เขา “เออ เพราะซันนั่นแหละ ถ้าซันยอมให้พี่มีอะไรด้วย พี่ก็คงไม่ต้องออกมาหาเศษหาเลยข้างนอกอย่างนี้หรอก” “ก็ถ้ามันเป็นแบบนั้นแล้วพี่รับปากหนูทำไมว่าจะรอจนกว่าจะแต่งงาน ไอ้คนโกหก” ดุจตะวันยังคงโวยวายใส่ชายหนุ่มตรงหน้า เป็นเหตุผลในการนอกใจที่เห็นแก่ตัวที่สุด “พี่ไม่ได้โกหก แต่พี่ก็เป็นผู้ชายนะเว้ย เรื่องแบบนี้มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชาย แฟนตัวเองไม่ให้ ก็ต้องออกมาหาข้างนอกหรือเปล่า” เพี๊ยะ! เสียงฝ่ามือเล็กฟาดเต็มแรงลงบนหน้าของม่านเมฆ เขายกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง แต่สายตายังจับจ้องอยู่ที่ดุจตะวัน “ถ้าจะทำขนาดนี้ก็เลิกกันเถอะว่ะซัน พี่คงทนคบกับคนอย่างซันต่อไปไม่ไหวหรอก” พูดเพียงแค่นั้นม่านเมฆก็จูงมือผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างกายเดินออกไปทันที ปล่อยให้ดุจตะวันยืนแน่นิ่งอยู่แบบนั้น “ซัน กลับกันเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งนะ” เคลลี่ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ตลอดเดินเข้ามาหาเธอ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวเขาเลยไม่อยากยื่นมือเข้ามายุ่งแต่ทีแรก “ยังไม่อยากกลับ ไม่กลับก่อนได้ไหม” ใบหน้าสวยที่นองไปด้วยน้ำตาเงยหน้าขึ้นมาถามเขา “ได้สิ ซันอยากจะไปไหนบอกฉันมาได้เลยนะ ฉันจะพาไปทุกที่เลย” แม้จะรู้สึกดีใจอยู่ข้างในลึก ๆ ที่เธอเลิกกับแฟน แต่แววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของดุจตะวันก็ทำให้หัวใจของเขามันรู้สึกเจ็บไปกับเธอด้วย เวลานี้ก็คงต้องทำทุกอย่างเพื่อจะปลอบใจเธอก่อน //////////
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD