“ยัยเบย์! อยู่ตรงนี้นี่เองนึกว่าหายไปไหน”
เสียงของหมั่นโถวทำให้เบลินดาพลันสายตาไปมอง เพื่อนสนิทสาวเดินตรงเข้ามาหาด้วยแววตาเป็นห่วง เพราะก่อนหน้านั้นตามหาเบลินดาจนทั่วแต่ก็ไม่เจอ เริ่มกลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไร แต่พอเห็นว่ายังปลอดภัยดีก็รู้สึกโล่งใจ
“แกถ่ายรูปกับนักแข่งในดวงใจเสร็จแล้วเหรอ?”
“ไม่ได้ถ่ายอะ เพราะไม่เห็นแกเลยออกมาตามหา” ตอนแรกตั้งใจจะถ่ายรูปกับนักแข่งในดวงใจ แต่พอมองไม่เห็นเบลินดาก็เลยตัดสินใจไม่ถ่ายรูปกับนักแข่งในดวงใจแล้วออกมาตามหาเพื่อนสนิท
“พอดีไบร์ทโทรมาน่ะ แล้วตรงนั้นมันเสียงดังไม่ค่อยได้ยิน ฉันเลยออกมาคุยตรงนี้” เธอเลือกที่จะโกหกหมั่นโถว เพราะไม่อยากให้เพื่อนสนิทเป็นห่วงไปมากกว่านี้
“ฉันนึกว่ามีใครฉุดแกไปซะอีก เป็นห่วงแทบแย่”
“ขอโทษที่ไม่ได้บอก เห็นแกกำลังมีความสุขกับนักแข่งในดวงใจเลยไม่อยากเข้าไปขัด” เธอพูดด้วยรอยยิ้ม
“แล้วนี่อยากกินอะไร เดี๋ยววันนี้เลี้ยงเอง เนื่องในโอกาสที่แกพาฉันมาดูรถแข่ง”
“อะไรก็ได้ ฉันได้หมดเลย”
“ถ้าอย่างนั้นไปกินราเมนดีไหม?”
“ราเมนก็ได้”
“งั้นไปกันเลย” หมั่นโถวพูดจบก็จูงมือเบลินดาเดินออกไปจากตรงนี้ตรงไปยังลานจอดรถ
จังหวะที่สองสาวกำลังเอื้อมมือไปเปิดประตูรถ เสียงผู้ชายคนหนึ่งที่ดังขึ้นทำให้ทั้งสองคนพลันสายตาไปมองแล้วชะงักมือที่กำลังเปิดประตูรถเอาไว้
“เดี๋ยวก่อนครับ”
เบลินดาทำหน้างงเล็กน้อย เจ้าของเสียงดังกล่าวคือชายหนุ่มที่นั่งชมการแข่งขันข้างกายตัวเอง ทว่าตอนนี้เขากำลังเดินตรงมาหา
“จะเป็นอะไรไหมถ้าผมอยากขอไลน์คุณเบลินดา”
“เอ่อ…” เธอหันไปมองเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่อีกฝั่ง หมั่นโถวไหวไหล่เล็กน้อย ทว่าริมฝีปากก็ลอบยิ้มเล็กๆ
“ผมแค่อยากทำความรู้สึกกับคุณเบลินดาให้มากกว่านี้น่ะครับ”
“ไลน์เหรอคะ?”
“ใช่ครับ”
เบลินดาชั่งใจพักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์จากชายคนตรงหน้ามาเพื่อพิมพ์ไอดีไลน์ตัวเอง ไม่ทันไม่ทันที่มือเล็กจะจับโทรศัพท์มา เสียงแรงปะทะบางอย่างที่ดังขึ้นก็เรียกความสนใจให้หญิงสาวพลันสายตาไปมอง
โครม!!!
“ไอ้ดิน! ปอร์เช่มึงโดนชนท้าย”
“บ้าฉิบ!” ชายหนุ่มตรงหน้าเบลินดาจากยิ้มระรื่นก็พลันหัวเสียทันควัน รถที่เพิ่งถอยมาหมาดๆ ไม่กี่วันถูกชนท้ายจนบุบ
เจ้าของรถปอร์เช่เดินตรงไปยังรถหรูสีดำแล้วใช้มือทุบกระจกรถฝั่งคนขับด้วยความโกรธจัด กระจกที่ติดฟิล์มดำสนิทค่อยๆ ลดลงจนปรากฏใบหน้าคนขับ
“มีอะไร” น้ำเสียงเข้มเอ่ยถามนิ่งๆ ราวกับทองไม่รู้ร้อน เสมือนว่าสิ่งที่ตนตั้งใจทำลงไปเมื่อกี้คือเรื่องเล็กน้อย
“คุณขับรถชนท้ายรถของผม คุณจะรับผิดชอบยังไงคุณอลัน” เจ้าของการกระทำนี้คืออลัน ตอนแรกจากโกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้า แต่พอรู้ว่าเป็นใคร ความโกรธที่สะสมมาก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความกลัว
“หึ รถสวยดีนะ แต่เสียดาย…จอดผิดที่” มาเฟียหนุ่มตอบกลับชายเจ้าของรถ แล้วสายตาเบนไปมองเบลินดาด้วยแววตานิ่งเรียบ
“แล้วสรุปคุณจะรับผิดชอบค่าเสียหายไหม?”
ชายเจ้าของรถเอ่ยถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ ไม่มีใคนไม่รู้จักอลัน เพราะรู้จักถึงได้เกรงกลัวอีกฝ่ายขนาดนี้ อลันเอื้อมมือไปหยิบเช็คเงินสดแล้วเขียนจำนวนเงินลงไป ก่อนจะใช้สองนิ้วคีบเช็คเงินสดแล้วยื่นให้ชายเจ้าของรถที่ตัวเองเพิ่งขับชนท้ายจนพังยับเยิน
“ค่าซ่อม”
เจ้าของรถปอร์เช่รับมา พอเห็นจำนวนเงินก็ทำหน้าอึ้ง เพราะค่าซ่อมที่อีกฝ่ายเขียนลงบนเช็คมันมากเกินราคาซ่อมจริงหลายเท่า
อลันเปิดประตูรถที่พังยับเยินจากการขับชนท้ายรถออกแล้วแล้วก้าวขาลงมา จากนั้นเดินตรงไปยังรถเฟอร์รารี่หรูที่จอดรออยู่ไม่ไกล ระหว่างเดิน สายตาคมเข้มพลางเบนไปมองเบลินดาซึ่งยืนมองตัวเองอยู่เช่นกัน
“….” เธอมองอลันที่เดินผ่านหน้าไป การกระทำอุกอาจของเขาก่อนหน้านั้นถูกขุดขึ้นมาฉายในหัว นั่นทำให้เธอรู้สึกร้อนผ่าวบนใบหน้า
“แค่พี่อลันเดินผ่าน ถึงกับหน้าแดงซ่านเลยเหรอหืม” หมั่นโถวเอ่ยแซวเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้ม
“พวกเราไปกันเถอะ” เธอพูดพร้อมเปิดประตูรถของหมั่นโถวออกแล้วพาตัวเองเข้าไปนั่งอยู่ภายใน ไม่วายจะแอบเบนสายตามองไปยังอลันที่เพิ่งก้าวขึ้นรถหรูไป
“มองขนาดนั้น ให้ฉันขับตามพี่เขาไปด้วยเลยไหม?”
“เลิกแซวได้แล้ว”
“ไม่เจอพี่อลันตั้งหลายปี คิดถึงพี่เขาไหม?”
“ฉันพยายามจะตัดใจจากเขาอยู่”
“ทำไมล่ะ?” หมั่นโถวถามอย่างไม่เข้าใจ อลันคือรักแรกของเบลินดา แถมยังเป็นรักครั้งแรกที่คลั่งรักมากอีกด้วย ไม่เคยได้ยินคำว่า ‘ตัดใจ’ หลุดออกมาสักครั้ง นับว่านี่เป็นครั้งแรก
“เขา…อันตรายเกินไป”
“ฉันว่าพี่อลันดูแบดบอยขึ้นนะ แกไม่ชอบเขาในแบบนี้เหรอ?”
“ฉันว่าเขาดูไม่เหมือนเขาคนเดิมที่เคยรู้จัก ดูร้ายกาจและน่ากลัวจากเมื่อก่อนมาก”
“ยังไง?”
“เขาดูไม่เหมือนฮีโร่คนเดิมของฉันในตอนนั้น”
“แกเคยได้ยินประโยคนี้ไหม ฮีโร่จะเลือกปกป้องคนทั้งโลก แต่ตัวร้ายจะเลือกทิ้งคนทั้งโลกเพื่อมาปกป้องคนที่ตัวเองรัก”
“แต่พี่อลันเขาไม่ได้รักฉันสักหน่อย”
“มันก็จริง แต่อนาคตมันก็ไม่แน่นอนหรอกนะ บางที…แกกับพี่อลันอาจจะได้แต่งงานกันในอนาคตก็ได้”
“แกคงอ่านนิยายมากเกินไป นี่ชีวิตจริง ไม่ใช่เรื่องจริงที่อิงมาจากนิยาย”
หมั่นโถวไม่ตอบ นั่งขับรถแล้วอมยิ้มกริ่ม ส่วนเบลินดาหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดเช็กโซเชียล
@20:30 น.
แกร๊ก
เธอเปิดประตูห้องนอนตัวเองออก วางกระเป๋าสะพายลงเตียงนอน เสียงแจ้งเตือนข้อความจากไลน์ทำให้เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเพื่อดูว่าใครส่งข้อความมาหา
ไบร์ท: คืนนี้ค้างคอนโดเพื่อนนะ ไม่ต้องรอ
เธอพิมพ์ตอบกลับน้องชาย ก่อนจะตั้งท่าเตรียมวางโทรศัพท์ลง ทว่ากลับมีเบอร์แปลกโทรเข้ามา
ครืด ครืด~
เธอชั่งใจพักหนึ่งว่าควรปัดหน้าจอรับสายดีไหม แต่ด้วยความอยากรู้จึงตัดสินใจรับสายเจ้าของเบอร์แปลก
“ฮัลโหล…”
(ดูเหมือนว่าเราสองคนมีเรื่องต้องคุยกันหน่อยนะ…เบลินดา)
น้ำเสียงเข้มคุ้นหูที่ดังเข้ามาทำให้หัวใจนิ่งสงบพลันเต้นแรง เธอเริ่มทำอะไรไม่ถูก เพราะเจ้าของเบอร์แปลกนี้คืออลัน ไม่รู้ว่าเขาเอาเบอร์เธอมาจากไหนทั้งที่ไม่เคยให้เบอร์แก่เขา
“พี่อลันรู้จักเบอร์เบย์ได้ยังไงคะ”
(ไม่สำคัญว่าฉันรู้ได้ยังไง มันสำคัญที่…เธอจะมาหาฉันก่อนสามทุ่มรึเปล่า)
“เบย์ไม่ไป” เธอปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
(หึ แน่ใจเหรอที่พูดแบบนี้?)
“ทำไมเบย์จะพูดไม่ได้ล่ะคะ”
(อยากรู้เหตุผลไหมล่ะสาวน้อย)
ปลายสายเหยียดยิ้ม ก่อนจะเดินตรงไปยังบุคคลหนึ่งแล้วแนบโทรศัพท์ในมือใส่หูคนๆ นั้น
(เบย์…)
“!!!!” หัวใจเธอกระตุก เสียงสั่นที่เปล่งออกมา แม้เพียงสั้นๆ แต่ทว่าเธอก็สามารถจำได้ขึ้นใจ…เสียงพ่อของเธอ
(ทีนี้รู้เหตุผลรึยัง?)
“ทำไมพ่อเบย์ถึงอยู่กับพี่อลัน!”
(บอกแล้วไง ถ้าอยากรู้ให้มาหาฉัน)
“พี่อลันใช้วิธีสกปรกเพื่อให้ทำให้เบย์ยอมออกไปหาอย่างนั้นเหรอคะ?”
(ตอนแรกก็กะว่าจะฉุดมาเอง แต่บังเอิญโชคชะตาดันเข้าข้าง เลยไม่ต้องเสียเวลาให้คนของฉันไปฉุดมาให้เหนื่อย)
“พี่มัน…เลว” เธอกล้ำกลืนฝืนพูดคำว่า ‘เลว’ ด้วยความเจ็บปวด ชายคนที่เธอรักมากจนหมดหัวใจ บัดนี้กลับกลายเป็นปีศาจร้ายไปเสียแล้ว
(ก็ถึงถามไง ว่าก่อนหน้านั้นเธอวาดฝันฉันไว้แบบไหน ถึงได้ดู…ผิดหวังในตัวฉันมากขนาดนี้)
“….”
(พอฉันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอวาดฝันเอาไว้ ก็เลยผิดหวังว่าอย่างนั้น?)
“จะให้เบย์ไปเจอที่ไหน”
(ตอนนี้คนของฉันน่าจะถึงหน้าบ้านเธอแล้ว)
ประโยคนั้นทำให้เธอรีบวิ่งไปเปิดผ้าม่านตรงระเบียงห้องนอนออกเพื่อดูว่าใครคนของอลันอยู่หรือเปล่า แสงไฟจากหน้ารถหรูสาดส่องไปทั่วถนนหน้าบ้าน ทำให้เดาว่านั่นคงเป็นรถของคนของอลัน
(คนของฉันจะพาเธอมาเอง)
“ไหนบอกว่าจะไม่ฉุดไงคะ แล้วที่ทำอยู่มันแตกต่างจากฉุดตรงไหน?”
(ถ้าฉุดเธอจะขัดขืน แต่ถ้าไม่ฉุด เธอจะยินยอมมาเอง)
เธอมองไปยังรถหรูคันนั้น ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋ามาสะพายแล้วเดินออกไปจากห้องนอนโดยไม่ลืมตัดสายจากเขา
ครั้งหนึ่งเคยมอบความรู้สึกดีๆ ให้กับผู้ชายคนหนึ่ง แต่ในวันนี้เขากลับทำให้ความรู้สึกดีๆ เหล่านั้น…ค่อยๆ เลือนหายไปด้วยการกระทำของเขา