วันต่อมา
เบลินดาเดินเข้ามายังสนามแข่งรถขนาดใหญ่แห่งหนึ่งพร้อมเพื่อนสนิท ดวงตากลมโตคู่สวยกวาดมองไปรอบสถานที่ไม่คุ้นเคย ผู้คนส่วนใหญ่ที่นี่เป็นผู้ชายเกือบทั้งหมด ผู้หญิงก็มีแต่ว่าส่วนน้อยเพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ผู้ชาย
“แกรู้จักที่นี่ได้ยังไง” เธอหันไปถามหมั่นโถวด้วยความอยากรู้ พลางดึงสายตากลับมากวาดมองรอบสนามแข่งรถขนาดใหญ่
“เคยมากับเพื่อนผู้ชายในคณะน่ะ ความจริงนัดกันไว้แล้วแต่มันดันติดธุระด่วน เลยต้องชวนแกมาเป็นเพื่อน”
“ที่นี่กว้างดีเหมือนกันนะ”
“ก็แหงน่ะสิ สนามแข่งรถนะไม่ใช่สนามเด็กเล่น” หมั่นโถวพูดติดตลก ก่อนจะจูงมือเบลินดาเดินไปยังที่นั่งซึ่งได้จองไว้ก่อนหน้านี้
“ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแกชอบอะไรแบบนี้ด้วย” หมั่นโถวเป็นผู้หญิงห้าวๆ ลุยๆ มีเพื่อนผู้ชายเยอะกว่าเพื่อนผู้หญิงและหนึ่งในเพื่อนสนิทหมั่นโถวก็คือเธอ
“เพิ่งมาเริ่มเข้าวงการพวกนี้ก็ตอนปีหนึ่งเนี่ยแหละ”
“แล้วนี่แกมาเชียร์นักแข่งคนไหน?”
“เดี๋ยวชี้ให้ดูว่าคนไหน ที่ฉันเลือกที่นั่งตรงนี้ก็เพราะจะได้มองเห็นนักแข่งในดวงใจชัดๆ เพราะตรงนั้นคือจุดสตาร์ท” หมั่นโถวพูดพร้อมชี้นิ้วไปยังจุดดังกล่าว ซึ่งเบลินดาก็มองตามมือเพื่อนสนิท
การแข่งขันได้เริ่มต้นขึ้น รถแข่งจำนวนหนึ่งได้ถูกเปิดตัวแล้วขับมาจอดยังจุดสตาร์ท ซึ่งบุคคลที่ขับรถมาจอดยังจุดสตาร์ทนั้นไม่ใช่เจ้าของรถแต่เป็นชายชุดดำ เพราะถือเป็นอีกหนึ่งกฎของสนามแข่งที่นี่
เบลินดามองนักแข่งกลุ่มหนึ่งที่เดินออกมาจากประตูในมุมหนึ่งของสนาม หัวใจข้างซ้ายพลันกระตุกวูบเมื่อนัยน์ตาสะท้อนเข้ากับเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาคุ้นเคย
“นั่นมัน…พี่อลันนิ” หมั่นโถวพูดขึ้นก่อนจะหันมามองเพื่อนสนิทที่นั่งอึ้งทำอะไรไม่ถูกอยู่ข้างกาย
“….” หัวใจกระตุกอีกครั้ง หลังจากอลันเบือนใบหน้ามาสบตากับเธอ มือทั้งสองบีบเข้าหากัน ทั้งที่บอกไว้ว่าจะไม่พาตัวเองมาเจอเขาอีก แต่ดูเหมือนยิ่งพยายามหลบหนี…ยิ่งเจอ
“ปกติเห็นพี่อลันแข่งรถอยู่ต่างประเทศ แต่ไม่คิดว่าจะแข่งที่ไทยด้วย” นับเป็นครั้งแรกที่เห็นอลันแข่งรถในประเทศไทย เพราะส่วนมากมักเห็นเขาแข่งรถอยู่ต่างประเทศ มิหนำซ้ำยังได้ฉายาว่า ‘แชมป์หิน’ เพราะไม่เคยมีใครโค่นอลันลงจากอันดับหนึ่งได้
“แกไม่รู้มาก่อนเลยเหรอว่าเขาจะมา…”
“ฉันก็รู้พร้อมแกตอนเขาเพิ่งเดินออกมาเนี่ยแหละ” สีหน้าของเบลินดาตอนนี้ดูตกใจมากกว่าตื่นเต้น “แกเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมมองพี่อลันเหมือนกำลังเห็นผีแบบนั้น”
“ปะ…เปล่า”
“ไม่ดีใจเหรอที่พี่อลันกลับมาจากต่างประเทศ?”
“ฉัน…” ตอนแรกดีใจที่รู้ว่าเขากลับมาแล้ว แต่พอได้เห็นตัวตนแท้จริงของเขา มันทำให้ความดีใจแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวแทน
ไม่ทันที่เบลินดาจะขยับเรียวปากพูดอะไร ก็มีเสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมาเสียก่อน
“ขอโทษนะครับ ที่ข้างๆ มีคนนั่งรึเปล่า?”
“ไม่มีค่ะ” เธอตอบกลับ เพราะถ้าหากมีคนนั่ง ตรงพนักเก้าอี้จะมีสติกเกอร์สีแดงแปะเอาไว้
“ถ้าอย่างนั้นผมขอนั่งข้างๆ ได้ไหมครับ พอดีว่าที่นั่งของผมโดนเพื่อนแย่งไปแล้ว”
“ตามสบายเลยค่ะ”
ชายคนดังกล่าวเมื่อได้รับคำตอบที่พึงพอใจก็หันไปยิ้มพร้อมพยักหน้าส่งสัญญาณบางอย่างให้แก๊งเพื่อนซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกล เชิงบอกว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน
“ทำไมพี่อลันเขามองแกตลอดเลยยัยเบย์” หมั่นโถวเอนตัวมากระซิบ เพราะสังเกตมาตั้งแต่แรกแล้วว่าอลันเอาแต่มองเบลินดา
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“อยากรู้จริงๆ ว่าแววตาเย็นชาของเขามีความรู้สึกอะไรซ่อนเอาไว้”
“แกยังไม่ชินกับแววตาของเขาอีกเหรอ”
“ไม่ชินเพราะไม่ใช่แก” เบลินดาคุ้นชินกับแววตาอลัน เพราะรักผู้ชายคนนี้มากจนหมดหัวใจ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเย็นชาใส่แค่ไหนก็ยังรักมากไม่เปลี่ยน ไม่รู้ว่าตอนนี้ความรู้สึกเบลินดาที่มีต่ออลันมันเปลี่ยนไปในรูปแบบอื่นแล้วหรือยัง
การแข่งขันได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากสาวสวยปล่อยผ้าในมือลงสู่พื้นถนนหยาบ เหล่ารถแข่งพุ่งทะยานออกจากจุดสตาร์ทเพื่อมุ่งหน้าสู่เส้นชัย
เธอมองรถคันสีดำขรึมของอลันที่เคลื่อนตัวนำทุกคันไปในระยะไกลพอสมควร ทั้งที่ไม่ได้ชอบการแข่งขันอะไรแบบนี้ หากแต่กลับเผลอลุ้นตามไปทุกวินาทีด้วยความตื่นเต้น
รถของอลันไม่มีใครแซงขึ้นมาอันดับหนึ่งได้แม้จะพยายามแค่ไหนก็ตาม อีกไม่กี่เมตรตัวรถของอลันก็พุ่งสู่เส้นชัย และไม่นานก็เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้
อลันคืออันดับหนึ่งในการแข่งขัน…
“เฮ้!!!” ผู้คนส่งเสียงร้องเฮด้วยความดีใจ เพราะครึ่งค่อนสนามแข่งวางพนันไว้ที่รถของอลัน
เธอพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ยอมรับลึกๆ ว่าแอบเชียร์อลันและหวังให้เขาชนะ สุดท้ายก็เป็นไปตามที่คิด…เขาชนะ
“เชียร์รถของคุณอลันเหรอ?” ชายที่นั่งข้างกายหันไปถามเบลินดา
“คะ?”
“ผมเองก็เชียร์คุณอลันเหมือนกัน” แววตาแพรวพราวที่ใช้มอง ทำให้เบลินดารับรู้ได้เลยว่าชายคนนี้กำลังสนใจตัวเอง หญิงสาวยิ้มแล้วขยับเรียวปากตอบสั้นๆ ตามมารยาท
“อ๋อ…ค่ะ”
“ชื่ออะไรเหรอครับ?”
“เบลินดาค่ะ”
“ชื่อเพราะจัง”
“ขอบคุณค่ะ” เธอตอบกลับชายคนข้างกายด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะดึงสายตากลับมามองอลันที่เพิ่งเปิดประตูรถลงมารับขวดน้ำจากชายชุดดำ
“ยัยเบย์ พาฉันไปถ่ายรูปกับนักแข่งในดวงใจหน่อยสิ”
“ใครเหรอ?”
“คนนั้นไง ไปเร็วเดี๋ยวเขาไปก่อน” หมั่นโถวคว้าแขนเพื่อนสนิทให้ลุกออกจากที่นั่งเพื่อตามไปขอถ่ายรูปกับนักแข่งรถในดวงใจ
เบลินดาเดินตามแรงจูงของเพื่อนสนิทมาข้างล่าง ซึ่งไม่ได้มีแค่หมั่นโถวคนเดียวที่มาขอถ่ายรูป ยังมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งกรูเข้าไปขอถ่ายรูปกับนักแข่งคนนั้นเช่นกัน
เธอถูกเบียดออกมาจากตรงนั้นจนชนเข้ากับใครบางคนที่ยืนอยู่ มือของเขาสอดเข้ามาจับเอวบาง กลิ่นหอมจากบุรุษคุ้นเคยที่ลอยเข้ามาในจมูกทำให้เธอใจเต้น
“พะ…พี่อลัน” เธอเรียกชื่อเขาออกมาเบาๆ ก่อนจะขยับร่างกายออกห่าง ทว่ากลับถูกเขารั้งเอวบางเข้าไปหา “จะทำอะไรคะ คนเยอะแยะ”
“ถ้างั้นก็ไปตรงที่คนไม่เยอะสิ”
“พี่…อ๊ะ!” ไม่ทันพูดอะไร ร่างของเธอก็ถูกเขากระชากให้เดินตาม เธอมองหมั่นโถวที่พยายามเข้าไปถ่ายรูปกับนักแข่งคนนั้นเพื่อขอความช่วยเหลือ ทว่าเพื่อนเธอกลับไม่ยอมมองมาเลย
เบลินดาถูกอลันลากมายังห้องหนึ่ง มาเฟียหนุ่มจับหญิงสาสแนบชิดลงผนังหนา สองมือยันผนังเพื่อกักขังไม่ให้เธอหนีไปไหน
“พี่อลันจะทำอะไรคะ”
“เสน่ห์แรงมากเหรอ?” ในจังหวะอลันโน้มไปใกล้เพื่อถาม เบลินดาได้หดลำคอลงราวกับเต่าน้อยที่เวลารู้สึกไม่ปลอดภัยก็จะหดหัวเข้าไปหลบในกระดอง
“เบย์ไม่เข้าใจว่าพี่อลันพูดถึงเรื่องอะไร”
“ที่มาที่นี่ เพราะต้องการหาลูกค้าอย่างนั้นเหรอ?”
“มะ…ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ แค่มาเป็นเพื่อนเพื่อนของเบย์เท่านั้น” เธอปฏิเสธทันควัน ‘ลูกค้า’ ที่เขาหมายถึง คงหนีไม่พ้นลูกค้าบนเตียงอย่างแน่นอน
“เหรอ”
“ถ้าเบย์จะมาหาลูกค้าที่นี่…มันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับพี่อลันเลยนิคะ” เธอก้มหน้าตอบอย่างไม่เต็มเสียง
“หึ เมื่อกี้เธอว่ายังไงนะ?” อลันกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะขยับเรียวปากหยักได้รูปเอ่ยถามเบลินดา สิ่งที่ถูกเอื้อนเอ่ยออกมาจากปากหญิงสาวเริ่มสร้างความไม่พอใจให้มาเฟียหนุ่ม
“มันไม่เกี่ยวกับพี่อะ…อื้อ!” พูดไม่ทันจบประโยค ริมฝีปากที่กำลังขยับพูดอยู่นั้นก็ถูกคนตรงหน้าฉกฉวยไปจูบโดยไม่ทันตั้งตัว
มือเล็กเลื่อนขึ้นมาวางบนแผงอกกำยำหมายจะผลักออก ทว่ากลับถูกมือหนาของเขาจับเข้าที่ข้อมือเล็กอย่างแรงแล้วกดลงผนังหนา แรงกดรุนแรงทำให้หญิงสาวรู้สึกเจ็บ
รสจูบป่าเถื่อนจากมาเฟียหนุ่ม ทำให้เบลินดาไม่สามารถต่อต้านและขัดขืนได้ เรี่ยวแรงที่มีเต็มเปี่ยมค่อยๆ ถูกสูบไปทีละนิดจากจูบนี้ ร่างกายเริ่มอ่อนลงราวขี้ผึ้งโดนไฟลน
“จะ…จูบเบย์ทำไม” เมื่อริมฝีปากเป็นอิสระ เธอรีบเอ่ยถามเขาทันที รับรู้ได้เลยว่าตอนนี้ใบหน้าตัวเองกำลังร้อนผ่าวจากการกระทำเมื่อกี้ของอลัน
“ปากไม่ดี”
“แล้วมาจูบเบย์ทำไม”
“อย่าว่าแต่จูบเลย มากกว่านี้ฉันก็สามารถทำได้”
อลันเชยคางเล็กขึ้นเพื่อให้เบลินดาสบสายตากับตัวเอง ตอนนี้ใบหน้าหวานละมุนกำลังแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด แววตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นเมื่ออยู่ใกล้เขา
เธอกำลังกลัว…
“อยากให้ทำมากกว่านี้ไหม?”
“มะ…ไม่ค่ะ”
“ตื่นเต้นดีออก ไม่ชอบรึไงความตื่นเต้น”
เธอส่ายหน้าไปมาเป็นการปฏิเสธ เขาเริ่มไม่ใช่อลันคนเดิมที่เคยรู้จักอีกแล้ว อลันคนนี้ช่างน่ากลัว ดุดัน และร้ายกาจ ไม่มีเค้าโครงคนเดิมที่เคยรู้จักเหลืออยู่อีกเลย
“อื้อ…พี่อลันไม่เอา” เธอปรามพร้อมเบือนใบหน้าไปอีกทาง ครั้นจะใช้มือทั้งสองดันตัวเขาออกก็ไม่เป็นผลเพราะถูกพันธนาการเอาไว้แน่น
“ไม่ชอบเหรอ?”
“เลิกแกล้งเบย์ได้แล้ว”
“ฉันบอกเธอเหรอว่ากำลังแกล้ง?”
“ดะ…เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น” เธอบอก ตอนนี้ปลายจมูกโด่งสันของเขากำลังแนบชิดกับแก้มเธอ การกระทำของเขาทำให้เธอรู้สึกใจสั่นและไม่เป็นตัวเอง
“คืนนี้มาหาฉันที่เดิม”
“ไม่ว่างค่ะ”
“จะมาเองหรือจะให้ฉัน…ฉุดมา?”
“…..” เธอไม่ตอบ ลมหายใจอุ่นของเขาที่เป่ารดแก้มพลอยทำให้หัวใจเต้นแรง
“หึ ถือว่าฉันบอกเธอแล้วนะ” อลันคลายมือที่ล็อกข้อมือเบลินดาออก ก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้หญิงสาวยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียว
เธอมองตามแผ่นหลังกว้างของเขา พลางลูบข้อมือที่เป็นรอยแดงจากมืออลันด้วยความปวดร้าว ทำไมเขาถึงได้ชอบใช้ความรุนแรงกับเธอแบบนี้ อ่อนข้อให้บ้างก็ไม่ได้ เธอเป็นผู้หญิงนะ!