หลังจากที่อภิวัตรได้กลับมากินข้าวที่บ้าน สามวันต่อมาอภิวัตรก็เข้ามานอนที่บ้านจากปกติที่ไม่ค่อยจะกลับบ้าน กลับมาถึงก็ถามหาบุษบาวรรณกับเด็กรับใช้ในบ้านทันที
"สำลีๆ เห็นคุณบุษไหมเขากลับจากโรงเรียนแล้วหรือยัง" อภิวัตรถามเด็กซึ่งเอาน้ำมาเสิร์ฟ
"วันนี้คุณหญิงท่านไปรับคุณบุษที่โรงเรียนและพาคุณบุษออกงานด้วย น่าจะไปแต่งหน้าทำผมแต่งตัวที่ร้านของคุณเก๋ช่างประจำตัวของคุณหญิงท่านค่ะคุณธรรพ์" สำลีรายงานเจ้านาย
"อ๋อเหรอแล้วคุณพ่อไปด้วยหรือเปล่า" อภิวัตรถาม
"ท่านเจ้าสัวก็ไปด้วยค่ะ แต่น่าจะกลับไม่ดึกมากค่ะคุณธรรพ์ ปกติถ้าคุณบุษไปโรงเรียนตอนเช้าสี่ทุ่มท่านเจ้าสัวกับคุณหญิงก็พากลับแล้วค่ะ คุณธรรพ์จะอยู่รอไหมคะสำลีจะได้ไปเรียนคุณแม่บ้านและจะได้จัดอาหารให้คุณธรรพ์ด้วย" สำลีรายงานและถามธรรพ์ด้วยความเป็นห่วงเรื่องอาหารการกิน
"อือ ฉันจะอยู่รอแต่ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องอาหารค่ำหรอกเดี๋ยวฉันให้ไอ้เชิดมันจัดการสั่งที่ร้านอาหารมาให้ ฉันจะว่ายน้ำเสียหน่อยสำลีช่วยเตรียมอาหารว่างน้ำผลไม้อะไรก็ได้ง่ายๆ ยกไปให้ฉันที่สระน้ำนะ" อภิวัตรสั่งสำลี
"ได้ค่ะคุณธรรพ์" สำลีรับคำ
พอพ้นร่างของสำลี อภิวัตรก็โทรหาลูกน้องคนสนิทอย่างเชิดชัยให้ช่วยสั่งอาหารมาให้และโทรไปสั่งให้ช่วยไปสืบหน่อยว่าแม่กับพ่อของเขาพาคนสวยที่ตนเองหมายตาไว้ไปงานเลี้ยงที่ไหน ไปเจอลูกชายเพื่อนพ่อแม่ของเขาคนไหนบ้างหรือไม่
"เชิดสั่งอาหารให้เข้ามาส่งให้ฉันที่บ้านหน่อยนะ" อภิวัตรโทรบอกลูกน้องหนุ่ม
"ครับนาย ส่งที่บ้านหรือครับไม่ใช่คอนโดหรือครับ แล้วทำไมวันนี้นายกลับบ้านละครับวันทำงานปกติ ปกตินายจะค้างคอนโดหรือไม่ก็ออกไปสนุกเพลิดเพลินไม่ใช่หรือครับ" เชิดชัยถามเสียยืดยาว
"เออ วันนี้ฉันอยู่บ้าน ตกลงแกเป็นเลขาฉันหรือเป็นเมียฉันวะไอ้เชิดซักฉันเสียละเอียดยิบ" อภิวัตรถามเชิดชัย
"แหมนายก็ ผมเป็นลูกน้องสิครับ ผมยังไม่อยากเลื่อนขั้นเป็นเมียนายหรอกเดี๋ยวฟ้าจะผ่าเอา ผมอะยังชอบผู้หญิงอยู่นะครับผม เดี๋ยวอาหารผมจัดการให้ครับ นายมีอะไรจะสั่งผมอีกหรือเปล่าครับ" เชิดชัยพูด
"มี....ฉันอยากให้แกส่งคนไปสืบหน่อยว่าเจ้าสัวกับคุณหญิงมารตี พาคุณบุษไปงานเลี้ยงที่ไหน อยากรู้ว่าพาไปแนะนำเปิดตัวหรือพาไปให้ลูกชายของเพื่อนๆ เขารู้จักบ้างหรือเปล่า ฉันอยากได้ข้อมูลให้ไวที่สุด" อภิวัตรสั่งน้ำเสียงจริงจัง
"นาย คุณบุษที่เจ้าสัวกับคุณหญิงเปิดตัวว่าเป็นหลานสาว คนสวยๆ ที่ลงข่าวสังคมฉบับเมื่อวานหรือเปล่า" เชิดชัยถาม
"อ๊ะ! อะไรนะลงข่าวสังคมด้วยหรือแม่นะแม่ ทำอะไรวะคนนี้ก็บอกแล้วว่าลูกจอง ยังจะพาออกงานไปเที่ยวโชว์ตัวล่อเสือล่อตะเข้อีก" อภิวัตรบ่นแม่ของตัวเองอย่างลืมตัวว่ากำลังคุยสายอยู่กับลูกน้องคนสนิท
"นาย นี่นายคิดจะเป็นสมภารกินไก่วัดหรือครับ" เชิดชัยถาม
"เออ แล้วแกจะทำไม ก็หนูบุษของแม่ฉันเขาสวยน่ากินนี่หว่า" อภิวัตรพูดออกมาอย่างไม่แคร์
"ไม่กล้าว่ายังไงหรอกครับ ผมก็ว่าคุณบุษสวยเหมาะกับนายแต่นายจะเหมาะกับคุณบุษหรือเปล่า แล้วนายหญิงจะเห็นสมควรหรือเปล่านะสิครับอีกอย่างนะครับนาย คุณบุษอายุ17ปี แต่นาย 29 แล้วนะครับหนึ่งรอบพอดิบพอดี" เชิดชัยพูดเตือนสติเจ้านาย
"ไอ้เชิด ฉันว่าแกพูดเยอะไปแล้ว ไปๆ ไปทำที่สั่งให้เรียบร้อย" อภิวัตรพูดตัดรำคาญลูกน้องคนสนิท และเปลี่ยนกางเกงว่ายน้ำไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำรอพ่อกับแม่และคนสวยที่หมายปองของเขากลับมา
เวลาผ่านไปจนรถเบนซ์คันสวยของเจ้าสัวขับเข้ามาจอดในบริเวณรั้วบ้าน อภิวัตรซึ่งนั่งอ่านหนังสือคอยอยู่หลังจากว่ายน้ำเสร็จก็เดินออกมารับที่หน้าบ้าน
"เจ้าสัวกับคุณหญิงพาลูกสาวออกงานโชว์ตัวที่ไหนมาครับวันนี้" ปากถามพ่อกับแม่แต่สายตากลับจ้องมองไปยังบุษบาวรรณในชุดราตรีสีสวย วันนี้เจ้าตัวแต่งหน้าทำผมเสียสวยจนคนมองแทบลืมหายใจ
"คุณธรรพ์สวัสดีค่ะ บุษขอตัวก่อนนะคะ" บุษบาวรรณทักทายและกล่าวลาขอตัวขึ้นไปอาบน้ำ
"ไปเถอะลูกเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พรุ่งนี้ก็ต้องไปโรงเรียนอีก" คุณหญิงบอกบุษบาวรรณ
"เดี๋ยวสิบุษอยู่คุยกับพี่ก่อนสิ แม่ก็ผมอยากคุยกับน้องบ้างจะรีบไล่ให้ไปนอนเสียแล้วหรือครับ" อภิวัตรทักท้วงไว้
"เอ่อคือบุษต้องรีบไปทำการบ้านก่อนด้วยค่ะ คุณธรรพ์มีอะไรจะคุยกับบุษเร่งด่วนไหมคะ" บุษบาวรรณบอกอภิวัตร
"นั่นสิธรรพ์มีอะไรจะคุยกับน้องก็ค่อยคุยกันพรุ่งนี้สิลูกนี่มัน4ทุ่มกว่าแล้ว แล้ววันนี้น้องก็ต้องทักทายคนนั้นคนนี้ มือแทบยกไม่ขึ้นแล้วเพื่อนๆ เจ้าสัวเขาเยอะ แต่จะว่าไปก็ดีนะหนูบุษจะได้ทำความรู้จักรุ่นลูกๆ ของเพื่อนๆ คุณพ่อไว้ต่อไปจะพูดคุยเจรจาธุรกิจกันก็จะได้ไม่ยากนะ" คุณหญิงพูดไปไม่ได้คิดอะไรแต่ลูกชายกลับโมโห
"เจรจาขายของหรือจะไปขายอย่างอื่นกันแน่ละครับคุณหญิง" อภิวัตรพูดเหน็บแม่ของตนเอง
"พอได้แล้วเจ้าธรรพ์ หนูบัวไปนอนเถอะลูกส่วนแกเจ้าธรรพ์แกมาคุยกับฉันก่อน" เจ้าสัวบอกลูกชาย
"ค่ะคุณท่าน" บุษบาวรรณรับคำและเดินจากไป ส่วนธรรพ์ก็เดินไปคุยกับพ่อที่ห้องทำงานแต่ท่าทางเหมือนไม่อยากเดินตามพ่อไปแต่อยากเดินตามสาวไปมากกว่า
"ยังไงอีกล่ะเจ้าธรรพ์ คนนี้พ่อขอร้องแกเถอะเขาเป็นเด็กดี พ่อไม่อยากให้แกต้องไปทำบาปกับน้องหนูบุษเขาสูญเสียมามากแล้ว เขาไม่ใช่ดอกไม้ริมทางที่แกจะเด็ดดมแล้วทิ้งขว้าง สวยๆ อย่างดารานางแบบแกก็ผ่านมาเยอะ คนนี้พ่อขอไว้สักคนเขายังเด็กพ่อสัญญากับคนตายไว้จะดูแลลูกของเขาให้ดีนะเจ้าธรรพ์" เจ้าสัวทรงเกียรติพูดอธิบายด้วยเหตุและผลและขอร้องลูกชายตัวเอง
"พ่อครับแล้วผมไม่ดีตรงไหน ผมบกพร่องตรงไหนถึงกับขนาดเป็นผัวใครไม่ได้เลยเหรอครับ" อภิวัตรถามพ่อ
"แกจะเป็นผัวของใครก็ได้ จะดารา นางแบบคนไหนในประเทศนี้พ่อไม่ว่า แกหาเงินได้แกจะใช้เงินซื้อความสุขพ่อก็ไม่ว่าแกนะธรรพ์แต่ต้องไม่ใช่หนูบุษพ่อขอร้อง" เจ้าสัวทรงเกียรติบอกลูกชายน้ำเสียงจริงจัง
"แล้วถ้าผมบอกพ่อว่าผมชอบเขาจริงๆ ผมพอจะลงแข่งสู้เพื่อพิชิตใจลูกสาวของคุณหญิงมารตีได้หรือเปล่าครับท่านเจ้าสัว" อภิวัตรถามพ่อและแม่
"ถ้าอยากจะลงแข่งแม่ไม่ว่าหรอกธรรพ์แต่รอน้องเรียนจบก่อนเพิ่งจะ17 อย่าทำลายอนาคตของน้องเลยนะธรรพ์" คุณหญิงมารตีพูด
"แม่พูดแล้วนะครับ งั้นผมจะเดินหน้าจีบนะครับ" อภิวัตรพูดกับแม่
"เดินหน้าจีบเลยเหรอวะ หนูบุษได้ใจแตกกันพอดี" เจ้าสัวทรงเกียรติว่าลูกชาย
"ครับเดินหน้าจีบ ถ้าเขาดีด้วยเนื้อแท้แห่งความดี ไม่เห็นแก่เงินเขาก็จะคู่ควรเป็นสะใภ้วัชรบดินทร์ครับเจ้าสัว" อภิวัตรพูดกับพ่อ
"ไม่รู้ล่ะ แม่อยากให้แกมองน้องในฐานะน้องสาวไม่อยากให้แกทำน้องเสียคน แม่ขอเถอะนะลูกนะให้น้องเรียนหนังสือให้จบก่อน" คุณหญิงมารตีขอร้องลูกชาย
"แล้วถ้าผมรักจริงหวังแต่งละครับแม่" อภิวัตรถาม
"งั้นแกก็พิสูจน์สิ พิสูจน์ว่ารักจริงรอให้น้องเรียนจบแล้วแม่จะยกให้" คุณหญิงมารตีพูด
"ครับ รอก็ได้แต่แม่ต้องเปิดโอกาสให้ผมได้ศึกษาดูใจกับเขาบ้าง เริ่มที่ผมขอเป็นคนรับผิดชอบค่าเล่าเรียนของน้องบุษเขาเองนะครับ ขอพาเขาไปซื้อของดูหนัง กินข้าวบ้างได้หรือเปล่าละครับ" อภิวัตรต่อรอง
"ได้ ถ้าแกชวนน้องแล้วน้องเต็มใจไปกับแก" คุณหญิงมารตีพูด
"งั้นวันหยุดนี้เราไปพักผ่อนที่หัวหินกันไหมครับ ผมจะได้โทรสั่งให้คนดูแลบ้านพักตากอากาศของเราเปิดบ้านและทำความสะอาดไว้คอย" อภิวัตรบอกแม่
"ก็ดีนะลูก เราไม่ได้ไปพักผ่อนด้วยกันนานแล้วนะ" คุณหญิงมารตีเห็นด้วย
"งั้นตกลงตามนี้นะครับแม่ อ๋อ! ..อีกเรื่องพรุ่งนี้เช้าผมขออนุญาตพาน้องไปส่งโรงเรียนเองนะครับแม่" อภิวัตรพูดและรีบสรุปตัดบทและเดินหนีไปนอนทันที
"มันเอาจริงแน่คุณหญิง ผมละกลัวใจมันจริงๆ คุณหญิงต้องอย่าให้คลาดสายตาเชียว" เจ้าสัวบอกภรรยาน้ำเสียงเป็นกังวล
เช้าของวันใหม่อภิวัตรตื่นมานั่งดื่มกาแฟที่ห้องอาหาร เพื่อรอบุษบาวรรณและพ่อแม่ลงมารับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารพร้อมกัน
"อ้าวเจ้าธรรพ์ตื่นแต่เช้าเลยนะลูก ไม่เข้าออฟฟิศหรือไงวันนี้" เจ้าสัวถามลูกชาย
"ไปครับ ว่าจะออกไปพร้อมบุษเลยแวะส่งน้องก่อนเพราะไปทางเดียวกันอยู่แล้วครับ" ธรรพ์บอกพ่อและหันไปสั่งให้บุษบาวรรณรีบกินข้าว
"น้องบุษรีบกินข้าวสิครับ จะได้ออกไปพร้อมพี่เลย" ธรรพ์บอกบุษบาวรรณ
"บุษไปเองได้ค่ะ ไม่รบกวนคุณธรรพ์ดีกว่าค่ะ" บุษบาวรรณพูดปฏิเสธอย่างนิ่มนวล
"ก็พี่บอกว่าพี่จะไปส่ง พี่ผ่านไปทางนั้นอยู่แล้ว" ธรรพ์บอกบุษบาวรรณน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ
"ป้าว่าไปกับพี่เขาเถอะลูก รีบกินข้าวก่อนไปทางเดียวกันไม่รบกวนพี่เขาหรอกนะลูก" คุณหญิงมารตีพูดกับบุษบาวรรณ
"เอ่อ! ค่ะคุณท่านบุษไปกับคุณธรรพ์ก็ได้ค่ะ" บุษรับคำคุณหญิงมารตี
"งั้นก็รีบกินสิ พี่มีประชุมตอนสิบโมงเช้านะครับ" ธรรพ์บอกบุษบาวรรณ
"บุษอิ่มแล้วค่ะไปกันเถอะค่ะคุณธรรพ์ สวัสดีค่ะคุณท่านทั้งสองบุษไปโรงเรียนก่อนนะคะ" บุษบาวรรณพูดกับธรรพ์และกล่าวลาพ่อแม่ของธรรพ์และเดินออกไปรอธรรพ์ที่รถของเขา
ธรรพ์ขับรถพาบุษบาวรรณออกจากบ้าน แต่บุษบาวรรณก็นั่งนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ธรรพ์จึงชวนคุย
"น้องบุษ เป็นอะไรง่วงนอนหรือครับ" ธรรพ์ถาม
"เปล่าค่ะ บุษไม่ได้ง่วงนอน" บุษบาวรรณตอบ
"เห็นนั่งเงียบไม่พูดไม่จาคิดว่าง่วงนอนและเหนื่อยจากงานเลี้ยงเมื่อคืนเสียอีก ต้องไปแนะนำตัวกับหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เสียทั่วทั้งงาน คงพูดกับเขาไปทั่วจนเสียงแหบเสียงแห้งหรือเปล่า" ธรรพ์พูดจาหาเรื่องบุษบาด้วยความไม่พอใจ
"บุษไม่ได้พูดจาอะไรกับใครเยอะหรอกค่ะ แค่สวัสดีทักทายตามที่คุณท่านบอกให้ทำ บุษไม่รู้จักใครในงานหรอกค่ะคุณธรรพ์" บุษบาพูดกับธรรพ์อย่างเป็นเรื่องธรรมดาโดยไม่ได้รู้สึกว่าธรรพ์กำลังหาเรื่องตนเองอยู่
"อ๋ออย่างนั้นหรอกหรือ เออวันเสาร์นี้บ้านเราจะไปพักผ่อนที่หัวหินกันนะ น้องบุษมีชุดว่ายน้ำใส่ไปเล่นน้ำทะเลหรือยัง" ธรรพ์เปลี่ยนเรื่องพูด
"บุษต้องไปด้วยหรือคะ บุษอยู่บ้านดีกว่าคุณธรรพ์คุณหมอและคุณท่านไปกันเถอะค่ะ อาทิตย์หน้าบุษจะสอบปลายภาคแล้วด้วยกลัวว่าจะอ่านหนังสือไม่ทันค่ะ" บุษบาบอกธรรพ์
"อ้าวจะสอบปลายภาคแล้วเหรอ นี่ก็จะเรียนจบม.6แล้วน่ะสิ" ธรรพ์ถาม
"ใช้ค่ะจะปิดเทอมแล้ว แต่ช่วงปิดเทอมบุษต้องไปเรียนปรับพื้นฐานที่มหาวิทยาลัยก่อนด้วยค่ะ" บุษบอกธรรพ์
"งั้นพี่ว่าเรื่องไปหัวหินเลื่อนไปให้บุษสอบเสร็จก่อนก็ได้ครับ" ธรรพ์เสนอทางออกเพื่อให้บุษสามารถไปทะเลกับตนเองได้
เวลาผ่านไปได้สองอาทิตย์บุษบาวรรณสอบเสร็จและธรรพ์ก็ได้พาครอบครัวไปเที่ยวหัวหิน
"หนูบุษมาพักห้องปีกขวาใกล้ๆ ห้องนอนป้านะลูกขึ้นไปเก็บกระเป๋าเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะได้ลงมาทานมื้อเที่ยง" คุณหญิงมารตีบอกบุษบาวรรณ
"ได้ค่ะ คุณท่าน" บุษบารับคำและเดินขึ้นห้องไป
เมื่อทานเมื่อเที่ยงเสร็จธรรพ์ก็ขับรถพาทุกคนไปกราบสักการะหลวงปู่ทวดที่วัดห้วยมงคล
"พี่หมอ ลอดท้องช้างขอพรอะไรครับขอให้คุณพยาบาลคนสวยรักและหลงยอมกลับมาทำงานด้วยหรือเปล่าครับ" ธรรพ์พูดล้อพี่ชาย
"ไอ้เจ้าธรรพ์ ฉันบอกแล้วไงฉันไม่ได้สนใจยายเด็กนั่น ว่าแต่กราบหลวงพ่อเสร็จแล้วเราแวะไปซื้ออาหารทะเลกันไหมช่วงคำจะได้มาทำปิ้งยางกินกันริมหาด"หมอวัชระว่าน้องชายและชวนไปหาซื้ออาหารทะเล
"เอาสิครับ" ธรรพ์บอกพี่ชาย
เมื่อไปซื้ออาหารทะเลมาเสร็จ บุษบาวรรณจึงเตรียมหมักกุ้ง ปลาหมึกและปู เพื่อเอามาย่างและทำน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดไว้จนเสร็จ แต่หน้าที่ย่างได้มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของแม่บ้านส่วนตนเองขึ้นไปเปลี่ยนชุดเพื่อไปเล่นน้ำทะเล ธรรพ์ที่จ้องมองบุษบาวรรณอยู่แล้วจึงอาศัยโอกาสนี้ตามลงไปสมทบเพื่อหาทางใกล้ชิดบุษบาวรรณ
"ว้าย! คุณธรรพ์มาได้ยังไงคะบุษตกใจหมด" บุษบาวรรณร้องด้วยความตกใจเมื่อมีมือของใครมากอดเอวคอดของตนเองไว้จากด้านหลัง
"พี่ก็เดินตามน้องบุษลงมานั่นแหละ ว่าแต่น้องบุษว่ายน้ำเก่งเหมือนกันนะครับใครสอนว่ายน้ำเหรอ" ธรรพ์ถามบุษบาวรรณยิ้มๆ
"พ่อบุษสอนตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ บุษจะขึ้นไปอาบน้ำแล้วนะคะเชิญคุณธรรพ์ตามสบาย" บุษบอกกับธรรพ์และทำท่าจะว่ายน้ำเข้าฝั่ง
"เดี๋ยวสิ เล่นน้ำเป็นเพื่อนพี่ก่อนนะ" ธรรพ์ยังคงยึดเอวบุษบาไว้
"เอ๊ะ! คุณธรรพ์ ปล่อยบุษนะคะ บุษจะขึ้นไปอาบน้ำลงมาช่วยพี่แววย่างปลาหมึก" บุษบาบอกธรรพ์สีหน้าไม่พอใจที่ธรรพ์ยึดเอวบางของตัวเองไว้
"หน้าที่แววไม่ใช่หน้าที่บุษ หน้าที่บุษตอนนี้คือเล่นน้ำกับพี่" ธรรพ์พูดเอาแต่ใจ
"คุณธรรพ์บุษไม่เล่นปล่อยบุษนะคะ" บุษบาดิ้นจนหลุดจากวงแขนของธรรพ์ และว่ายน้ำเพื่อเข้าฝั่งแต่พอว่ายน้ำห่างไปนิดหน่อยธรรพ์ก็ร้องให้ช่วย
"บุษ ช่วยพี่ด้วยขาพี่เป็นตะคริว ช่วยด้วย....." ธรรพ์ร้องให้บุษบาช่วยและจมลงไปในทะเล บุษบาเห็นดังนั้นก็ตกใจรีบว่ายน้ำเข้าไปช่วยธรรพ์ พอว่ายมาถึงจุดที่ธรรพ์จมลงไปก็ตะโกนเรียกธรรพ์และดำลงไปหาธรรพ์ใต้น้ำ
"คุณธรรพ์อย่าเป็นอะไรนะ คุณธรรพ์อยู่ไหนคะ" บุษบาดำลงไปหาธรรพ์แต่ก็ไม่เจอใจคอเริ่มไม่ดี แต่ในขณะที่บุษบาวรรณกำลังตกใจอยู่นั้นกลับมีมือมายึดร่างบางลงไปใต้น้ำและจูบปากอิ่มของบุษบาอย่างดูดดื่ม ธรรพ์เห็นบุษบาเริ่มต่อต้านและเริ่มขาดอากาศหายใจจึงพาพ้นผิวน้ำขึ้นมาแล้วพูดว่า
"ปากหวานมากกลบน้ำทะเลเค็มๆ ไปเลยนะ" ธรรพ์พูดอย่างอารมณ์ดี
"คุณธรรพ์ทำอะไรคะ เล่นอะไรแบบนี้คะบุษตกใจหมด แล้วคุณมา...." บุษบาว่าธรรพ์ด้วยความโกรธ
"จูบบุษนะเหรอ ถ้าไม่เล่นแบบนี้จะได้จูบบุษเหรอ" ธรรพ์พูดยียวน
"คุณธรรพ์......." บุษบาวรรณโกรธจนตัวสั่น ผลักหน้าอกธรรพ์แรงๆแล้วรีบว่ายน้ำหนีธรรพ์เข้าฝั่ง เมื่อถึงชายหาดก็รีบวิ่งขึ้นไปอาบน้ำและได้สวนกับหมอวัชระไปส่วนธรรพ์ก็วิ่งตามบุษบาวรรณมาติด ๆ หมอวัชระจึงรีบเรียกน้องชายไว้
"เจ้าธรรพ์หยุดก่อนๆ นี่ไปทำอะไรน้องบุษเขามา" หมอวัชระถามน้องชาย
"ไม่ได้ทำอะไรเขาเลย แค่จูบปากไปนิดหน่อยโกรธผมจนตัวสั่นไปหมดแล้ว พี่ว่าเขาจะไปฟ้องแม่ไหมวะ" ธรรพ์บอกพี่ชายของตนเองในใจก็หวังให้บุษบาวรรณไปฟ้องแม่ของตนเอง
"แล้วแกอยากให้เขาฟ้องหรือเปล่าละ" หมอวัชระถามน้องชายอย่างรู้ทัน
"อยาก.... ผมขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะพี่ช่วงหัวค่ำมาดวนเหล้ากัน" ธรรพ์บอกพี่ชาย
"เออ แกก็ให้มันเบาๆ หน่อยเถอะวะน้องเขาเพิ่งจะ17นะเว้ย" หมอวัชระพูดเตือนสติน้องชายของตัวเอง
"โตแล้วพี่ โตมากด้วยผมพิสูจน์มาแล้วครับ" ธรรพ์ยืนยันและทำตาวาวใส่พี่ชาย
"ไอ้บ้า โรคจิต" หมอวัชระด่าน้องชาย เมื่อโดนพี่ชายด่าธรรพ์เลยรีบขึ้นไปอาบน้ำ
บุษบาอาบน้ำและยืนถูปากตัวเองแรงๆ รู้สึกโกรธและอับอายกับเรื่องที่ธรรพ์ทำกับตนเอง ค่ำนั้นที่ชายหาดบุษบาเลยพูดน้อยและพยายามเอาตัวออกห่างจากธรรพ์มานั่งใกล้ๆ คุณหญิงมารตีตลอดเวลาเหมือนรู้ว่าท่านจะปกป้องตนเองได้
"ไก่ตื่นหมดแล้วว่ะพี่ ทำไงดี" ธรรพ์กระซิบบอกพี่ชาย
"ไอ้บ้า สมน้ำหน้าทำอะไรไม่คิด" หมอวัชระว่าน้องชาย
"เอาน่าพี่ ผมกลับไปคราวนี้จะรุกให้หนักกว่าเดิมอีก คนนี้ผมต้องได้เขาเป็นของของผม ผมรู้สึกอย่างนั้น" ธรรพ์บอกพี่ชายของตนเอง
จนกลับไปกรุงเทพ ธรรพ์ก็ให้ลูกน้องค่อยตามเฝ้าบุษบาวรรณห่างๆ จนบุษบาวรรณไปเรียนปรับพื้นฐานเพื่อเข้าเรียนปีหนึ่งธรรพ์ก็ค่อยเฝ้าติดตามอยู่ตลอดเวลา