บทที่1 เกิดมาพร้อมกับความสูญเสีย พลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก

1515 Words
"บุษหนูแต่งตัวเสร็จแล้วยังลูก พ่อจะไปส่งลูกที่โรงเรียน พ่อเตรียมอาหารเช้าไว้ให้ลูกแล้วมากินก่อนนะลูก" นายโสภณเรียกลูกสาวมากินข้าว วันนี้รู้สึกอยากกินข้าวกับลูกและไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนด้วยตัวเอง "เสร็จแล้วค่ะพ่อ วันนี้พ่อใจดีจังเลยไม่ต้องรีบตามคุณท่านไปทำงานหรือจ๊ะ" บุษบาวรรณถามพ่อของตนเองสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุขที่พ่อว่างสามารถพาตนเองไปส่งโรงเรียนได้ "ไปสิลูก แต่ท่านเจ้าสัวออกไปสายๆหน่อยพ่อเลยจะไปส่งหนูก่อน" โสภณบอกลูกสาว "ข้าวต้มฝีมือพ่ออร่อยที่สุดเลยค่ะ เอาอย่างนี้ตอนเย็นบุษจะกลับมาทำกับข้าวรอพ่อ กุ้งย่างขมิ้นของโปรดพ่อน้ำพริกปลาทูแล้วก็แกงจืดตำลึงอีกอย่างไว้รอพ่อกลับมากินดีไหมคะ" บุษบาวรรณอ้อนพ่อ "ครับลูกสาวคนสวยของพ่อ ถ้าอิ่มแล้วก็ไปขึ้นรถจะได้รีบไปโรงเรียนเดี๋ยวรถจะติด" โสภณบอกลูกสาว "อิ่มแล้วจ้ะ แต่ว่าวันนี้บุษอยากเปียผมพ่อเปียผมให้บุษหน่อยนะคะ พ่อของบุษเปียผมสวยที่สุดเลย วันไหนพ่อเปียผมให้บุษนะเพื่อนๆชมกันใหญ่เลย" บุษบาวรรณอ้อนพ่อให้เปียผมให้ "เจ้าลูกคนนี้ปีนี้อายุ 17 แล้วนะพ่อยังต้องเปียผมให้อีกเหรอลูก ทำเหมือนเป็นเด็กอนุบาลเลยนะเรา" โสภณแกล้งว่าลูกสาวแต่ก็ยอมเปียผมให้ลูกสาวคนเดียวด้วยความรักสุดหัวใจ "บุษก็อยากให้พ่อเปียผมให้ทุกวัน ให้พ่ออยู่กับบุษทุกวันตลอดไปบุษรักพ่อที่สุดเลย" บุษบาวรรณบอกพ่อน้ำเสียงออดอ้อน และกอดเอวพ่อของตัวเองไว้ "พ่อก็รักบุษที่สุดลูก ลูกสาวของพ่อโตแล้วนะแล้วก็สวยมากด้วยคนสวยย่อมมีภัยมากกว่าเด็กผู้หญิงปกติทั่วไปบุษต้องดูแลตัวเองดีๆ ถ้าวันหนึ่งบุษไม่มีพ่อค่อยปกป้องคุ้มครองบุษต้องเข้มแข็งและดูแลตัวเองให้ได้นะลูก" โสภณบอกลูกสาว "ไม่ค่ะ บุษจะให้พ่ออยู่กับบุษตลอดไป ไม่ให้พ่อไปไหนหรอกค่ะ" บุษบาวรรณค้านและกอดพ่อแน่นขึ้นกว่าเดิม "ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าหรอกนะลูก เอาละพ่อเปียผมให้เสร็จแล้วสวยแล้วไปขึ้นรถพ่อจะได้ไปส่งที่โรงเรียน" โสภณพูดกับลูกสาว "ค่ะ แล้วตอนเย็นพ่อจะไปรับบุษที่โรงเรียนหรือเปล่าคะ" บุษบาวรรณถามพ่อน้ำเสียงออดอ้อน "พ่อไปทำงานกับคุณท่านไม่รู้จะเสร็จธุระตอนไหน ลูกกลับบ้านเองนะมารอพ่อที่บ้านก็แล้วกันนะลูก" โสภณบอกลูก "ได้ค่ะ"บุษบาวรรณรับคำและเดินไปขึ้นรถ โสภณไปส่งลูกสาวที่หน้าโรงเรียน ก่อนที่บุษบาวรรณจะลงจากรถโสภณก็ดึงลูกสาวมาหอมที่ศีรษะพร้อมกับบอกให้ตั้งใจเรียนและดูแลตัวเองดีๆ "พ่อรักบุษนะลูก ตั้งใจเรียนดูแลตัวเองดีๆ พ่อต้องไปก่อนนะลูก" โสภณบอกลูกสาว "ค่ะพ่อ บุษจะตั้งใจเรียนเลิกเรียนแล้วจะรีบกลับบ้านไปทำกับข้าวรอพ่อนะคะ" บุษบาวรรณรับคำและยิ้มให้พ่อ ช่วงค่ำของวันเดียวกันบุษบาวรรณนั่งรอพ่อที่โต๊ะอาหารที่มีกับข้าวหลายวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ รอพ่อกลับมากินพร้อมกันจนค่ำมืดแต่พ่อก็ยังไม่ได้กลับมาจนได้ยินเสียงรถยนต์ขับมาจอดที่หน้าบ้านเรือนเล็กที่อยู่หลังตึกใหญ่บ้านของเจ้าสัวทรงเกียรติ และเห็นนายบดินทร์เพื่อนของพ่อเดินลงจากรถเดินเข้ามาหาบุษบาวรรณ  "คุณลุงบดินทร์สวัสดีค่ะ แล้วทำไม่คุณลุงบดินทร์กลับมาคนเดียวละคะพ่อของบุษละคะ" บุษบาวรรณถามหาพ่อด้วยความเป็นห่วงและรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ "หนูบุษลุงว่าหนูไปขึ้นรถก่อนเถอะลุงจะพาหนูไปหาพ่อ ใจเย็นๆนะตั้งสติไว้ก่อนคือตอนนี้พ่อของหนูโดนยิงอาการสาหัสหมอกำลังช่วยอยู่ในห้องไอซียู รีบไปขึ้นรถเถอะลุงจะพาไปโรงพยาบาล" บดินทร์บอกลูกสาวของเพื่อนรักที่รักเหมือนลูกของตัวเองด้วยเช่นกัน "คุณลุงบดินทร์แล้วพ่อของบุษโดนยิงได้ยังไง โดนยิงที่ไหนแล้วใครทำพ่อของบุษค่ะคุณลุง" บุษบาวรรณถามบดินทร์ด้วยความอยากรู้และร้อนใจมาก "โดนยิงที่ไซน์งานโครงการก่อสร้างของคุณท่านนั่นแหละ คนร้ายหวังจะยิงคุณท่านแต่โสภณมันเข้ามาขวางรับกระสุนแทนช่วยชีวิตคุณท่านไว้ คนร้ายน่าจะเป็นฝั่งตรงข้ามที่ขัดเรื่องผลประโยชน์กับเจ้าสัว" บดินทร์บอกบุษบาวรรณ "แล้วพ่อบุษอาการเป็นอย่างไรบ้างคุณลุง"บุษบาวรรณถามบดินทร์ "อาการโคม่าเสียเลือดเยอะอยู่ไอซียู ระหว่างทางที่จะมาถึงโรงพยาบาลมันพูดถึงบุษด้วยความเป็นห่วงก่อนจะหมดสติไป" บดินทร์เล่าให้บุษบาวรรณฟัง เมื่อมาถึงโรงพยาบาล บุษบาวรรณก็รีบวิ่งลงจากรถตรงเข้าไปยังตึกฉุกเฉินเข้าไปที่ห้องไอซียูก็เห็นว่าเจ้าสัวทรงเกียรติและลูกน้องอีกหลายคนนั่งรออยู่ที่หน้าห้องไอซียู "คุณท่าน พ่อบุษละคะ" บุษบาวรรณร้องไห้ละล่ำละลักถามหาพ่อ "ยังอยู่ข้างในยังไม่ออกมาเลย หนูบุษใจเย็นๆก่อนนะลูกนะ"เจ้าสัวทรงเกียรติบอกบุษบาวรรณ "พ่อบุษจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะคุณท่าน คุณหมอจะต้องช่วยพ่อของบุษได้ใช่ไหมคะ" บุษบาวรรณร้องไห้อย่างเสียขวัญ เพราะบุษบาวรรณรู้ดีเธอจะสูญเสียพ่อไปไม่ได้ชีวิตเธอไม่มีแม่พ่อเป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับตัวเองมาโดยตลอด ถ้าพ่อไม่อยู่ชีวิตนี้มันคงดับมืดไม่สามารถไปต่อได้อีก "ทำใจดีๆนะหนูบุษหมอเขากำลังช่วยโสภณอยู่นะลูก" เจ้าสัวพูดปลอบบุษบาวรรณจนประตูห้องไอซียูเปิดออก เห็นคุณหมอเดินสายหน้าออกมาขอพบญาติ "หมอเสียใจด้วยครับ ที่ไม่สามารถรักษาชีวิตของคนไข้ไว้ได้ คนไข้เสียเลือดมากและกระสุนได้โดนจุดสำคัญคนไข้สิ้นใจแล้วครับ" หมอแจ้งให้ทุกคนทราบ เสียงของหมอดังก้องอยู่ในโสตประสาทของบุษบาวรรณ โลกทั้งใบค่อยๆดำมืดลงพร้อมกับสติของบุษบาวรรณก็ดับวูบลงเช่นกัน บุษบาวรรณเป็นลมหมดสติไปทันที งานศพของโสภณจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ มีการสวดบำเพ็ญกุศลจนครบ7วัน และทำการฌาปนกิจศพนำเถ้ากระดูกไปลอยอังคารตามประเพณี บุษบาวรรณยังคงอยู่ในอาการเหม่อลอยโศกเศร้าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น คุณหญิงมารตีและเจ้าสัวจึงต้องดูแลบุษบาวรรณอย่างใกล้ชิด "หนูบุษลูก คืนนี้ไปนอนบนตึกใหญ่กับป้านะลูก" คุณหญิงมารตีบอกบุษบาวรรณ "ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณหญิงหนูนอนเรือนเล็กได้ค่ะ" บุษบาวรรณบอกคุณหญิงด้วยความเกรงใจ "หนูบุษ ต่อไปอย่าเรียกฉันว่าคุณหญิงอีกนะ ให้เรียกฉันว่าคุณป้าและเรียกเจ้าสัวว่าคุณลุง หนูบุษจะเป็นเหมือนลูกเหมือนหลานฉัน ฉันและเจ้าสัวจะดูแลหนูเป็นอย่างดีหนูอย่าได้ทุกข์โศกเป็นกังวลเลยนะ พ่อหนูเขาไปสบายแล้วแต่หนูยังต้องอยู่ต่อและต้องอยู่ให้ได้อย่างดีอย่าทำให้วิญญาณพ่อของหนูเป็นกังวล พ่อหนูเขารักหนูมากนะลูก" คุณหญิงมารตีบอกบุษบาวรรณและค่อยๆดึงตัวบุษบาวรรณเข้ามากอดปลอบ "ใช่หนูบุษ โสภณเขารักหนูมากเขาฝากฝังหนูไว้กับลุงแล้วก่อนที่เขาจะหมดสติไปเขาฝากให้ลุงช่วยดูแลหนู ลุงเป็นหนี้ชีวิตเขาเป็นหนี้ชีวิตหนู ขอให้ลุงและคุณหญิงได้ดูแลหนูได้ทำหน้าที่ของโสภณต่อนะ" เจ้าสัวทรงเกียรติพูด "หนูกราบขอบพระคุณคุณท่านทั้งสองมากค่ะที่เมตตาหนู ชีวิตหนูไม่เหลือใครอีกแล้ว หนูเกิดมาแม่หนูก็ตายจากหนูไปพ่อก็มาจากหนูไปอีกชีวิตหนูไม่เหลือใครอีกแล้ว" บุษบาวรรณกราบขอบคุณและร้องไห้ด้วยความอึดอัดแน่นในหัวใจ "โธ่แม่คุณ หนูยังมีฉันและเจ้าสัวนะลูกเราสองคนจะรักหนูเหมือนลูกของเราอีกคนป้ามีลูกชายสองคนแต่ไม่มีใครได้อยู่บ้านเลยสักคน มีลูกสาวอย่างหนูเพิ่มมาอีกคนก็ดีนะฉันจะได้ไม่เหงา" คุณหญิงมารตีพูด "หนูไม่บังอาจเทียบเป็นลูกสาวคุณท่านหรอกค่ะ แต่หนูไม่มีที่ไปแล้วหนูไม่มีใครเหลือแล้วหนูขอใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับคุณท่านทั้งสอง จะทำงานแลกที่อยู่ที่กิน ถ้าหนูได้เรียนหนังสือหนูจะตอบแทนด้วยการช่วยงานแบ่งเบาภาระงานของคุณท่านนะคะ" บุษบาวรรณพูดฝากเนื้อฝากตัวฝากชีวิตที่เหลือไว้กับคุณท่านทั้งสองของเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD