บทที่ 5
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลาห้าทุ่ม..
เสียงโอเปอเรเตอร์ประกาศดังบอกลูกเรือสายการบินของแคนาดาดังขึ้นอีกครั้ง ซึ่งทำให้พ่อแม่ลูกที่นั่งรอขึ้นเครื่องนั้นมองตากัน
“ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วนะสาวๆ” วัลลภลุกขึ้นยืนมองไปรอบโถงนั่งรอขึ้นเครื่อง แล้วหันมองบอกลูกและภรรยา
“ค่ะพี่” อรอุมาลุกขึ้นยืนกอดเอวของสามี สัมผัสนุ่มนวลที่เธอได้รับจากสามี ทำให้เธอเงยหน้ายิ้มให้สามี
“ต่อไปนี้เราคงได้เดินทางบ่อยเพื่อไปเยี่ยมยัยพายแน่ๆ”
วัลลภพาดแขนบนบ่าบางของภรรยา สายตาก็มองผู้คนมากหน้าหลายตาแล้วแอบจูบขมับของเธอเบาๆ
“อ้าวพาย นั่งทำอะไร ลุกสิลูก ไปยืนต่อแถวขึ้นเครื่องกัน”
วัลลภเรียกลูกสาวที่นั่งเหม่อลอย
“ค่ะพ่อ” แพรพายมองพ่อแม่ แล้วลุกขึ้นยืน
“เป็นอะไรหรือเปล่าลูก ทำไมทำหน้าเหงาๆอย่างนี้ล่ะ” อรอุมาถามลูกสาว
“..” แพรพายไม่ตอบ เธอยิ้มให้แม่และพ่อ แล้วก้มหน้าเดินตามหลังแม่ที่เดินตามหลังพ่ออีกทีเพื่อเช็กอินขึ้นเครื่อง…
หนึ่งอาทิตย์แล้วที่แพรพรรณเข้ามาอยู่ในบ้านของแสงเหนือ และอยู่ในความดูแลของพ่อแม่แสงเหนือ
“เอ่อ ทำไม ยัยพรรณยังไม่ลงมากินข้าวอีกนะ”
ปวีณาแม่ของแสงเหนือถามขึ้น สายตาก็มองหาลูกสาวของเพื่อนรักของสามี
“เดี๋ยวจันทร์ไปตามให้ค่ะ” แสงจันทร์กำลังจะลุก แต่เสียงของน้องชายทำให้เธอนั่งลงที่เดิม
“พี่จันทร์ไม่ใช่คนใช้ อย่าขึ้นไปตามเลยครับ เดี๋ยวถึงเวลาเธอก็ลงมาเองแหละครับ”
“ตาเหนือทำไมพูดอย่างนั้นล่ะลูก” ปวีณาว่าลูกชาย
“ทำตัวเหมือนลูกคุณหนู ผมนี่เบื่อมาก เมื่อไรลุงลพกับน้าอรจะกลับมาสักทีครับ”
แสงเหนือถอนหายใจแรงๆ นึกถึงเด็กสาวหน้าหวานที่เขาย่ำยี อยากรู้จังว่าเธอจะคิดถึงเขาไหมนะ
“อื้อ เป็นผู้ชายอย่านินทาผู้หญิงสิเหนือ เราเป็นเพื่อนกับยัยพรรณมาตั้งแต่เล็กก็น่าจะรู้ใจกันสิ ว่ายัยพรรณนิสัยยังไง” แสงตะวันทำเสียงแข็งตำหนิลูกชายสุดท้อง
“..” เมื่อถูกพ่อดุทำให้เขาหงุดหงิด แสงเหนือก็วางช้อนหยุดกินอาหารเช้า แล้วพูดว่า “ผมอิ่มล่ะ”
“เหนือ ทำไมกินน้อยจัง กินอีกสักหน่อยนะลูก เอานี่ไข่เค็มของชอบของลูกไง” ปวีณาตักของโปรดให้ลูกชาย
ด้านแสงเหนือส่ายหน้าไม่ยอมกิน เขาลุกขึ้นแล้วบอกทุกคนว่า
“ผมขอขึ้นไปเก็บของก่อนนะครับ”
เมื่อเห็นลูกชายเดินขึ้นบันได ปวีณาก็บอกลูกชายว่า
“ถ้าเจอยัยพรรณก็บอกให้ลงมากินข้าวเช้าด้วยนะลูก”
ด้านแสงจันทร์ดูท่าจะยาก ที่แสงเหนือจะเข้าไปบอกแพรพรรณ เธอจึงขันอาสาขึ้นไปตาม “เดี๋ยวจันทร์ขึ้นไปตามน้องเองค่ะแม่”
“รีบไปตามน้องมากินข้าวไป ขืนให้ตาเหนือบอก อาหารเช้าคงเย็นหมดแล้วดี” ปวีณาบอกลูกสาว
“ค่ะแม่” แสงจันทร์ขานรับ แล้วเดินขึ้นไปชั้นบน..
เมื่อลูกไปกันหมดแล้ว ปวีณาก็ถามสามีว่า
“นี่คุณ คุณได้โทรหาลพบ้างไหม ตกลงพวกเขาจะกลับมากันวันไหน ไหน บอกว่าจะมาให้ทันส่งยัยพรรณเข้าเรียนมหาลัยไม่ใช่เหรอ”
“เมื่อวานไอ้ลพโทรมา มันเลื่อนการเดิน ขออยู่กับยัยพายอีกหนึ่งอาทิตย์น่ะ ยังไงผมฝากยัยพรรณให้เป็นหน้าที่ของคุณด้วยนะณา”
แสงตะวันบอกภรรยา
“อ้อ ได้ค่ะ เดี๋ยวณาจะดูแลยัยพรรณเอง ยังไงยัยพรรณก็เหมือนลูกหลานเราอยู่แล้ว” ปวีณารับคำสามี เพราะสามีและเธอเป็นเพื่อนรักกับวัลลภ ซึ่งเรียนมาด้วยกัน อายุก็เท่ากัน
“กินข้าวเถอะคุณ อิ่มแล้วจะได้เตรียมตัวเข้ากรุงเทพไม่ใช่เหรอ”
แสงตะวันตักกับข้าวให้ภรรยา
“ค่ะ” ปวีณายิ้ม แล้วก็ตักอาหารโปรดให้สามีเช่นกัน…
ด้านแสงจันทร์เมื่อมาถึงหน้าห้องของแพรพรรณ เธอก็เคาะประตูเสียงดัง ก๊อก!ๆ พลางเรียกคนข้างใน
“พรรณเปิดประตูให้พี่หน่อย”
“ค่ะพี่จันทร์ พรรณไม่ได้ล็อกประตูค่ะ พี่จันทร์เข้ามาได้เลยค่ะ” แพรพรรณกำลังวุ่นจัดกระเป๋า จึงไม่เดินไปเปิดประตู
ด้านแสงจันทร์ เมื่อเข้ามาในห้อง ก็ถามน้องสาวข้างบ้านว่า
“เก็บเสื้อผ้าอยู่เหรอ”
“ค่ะ ใกล้เสร็จแล้วค่ะ” แพรพรรณยิ้มให้พี่สาวข้างบ้าน
“อื้อ ถ้าเสร็จแล้วก็ลงไปกินข้าวนะ แม่กับพ่อรอเธออยู่นะ”
แสงจันทร์บอก
“ค่ะ” แพรพรรณพยักหน้า ทั้งที่เก็บของหลายอย่างใส่ในกระเป๋า
“งั้นก็รีบๆหน่อยนะ” แสงจันทร์เร่งน้องอีก
เมื่อเก็บของเสร็จแล้ว เธอก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว บอกพี่สาวข้างบ้านว่า “ค่ะ ขอพรรณอาบน้ำสักสิบนาทีแล้วจะรีบลงไปเลยค่ะ”
“อื้อ”
แสงจันทร์มองน้องเดินเข้าห้องน้ำ ส่วนเธอก็เดินออกจากห้องและไม่ลืมที่จะล็อกประตูให้แพรพรรณด้วย...
สิบนาทีต่อมา..แพรพรรณก็เดินออกมาจากห้องน้ำตรงไปยังตู้เสื้อผ้า โดยที่เธอไม่ได้ทันสังเกตว่ามีใครอยู่ในห้องด้วย
“ไง? มัวช่วยตัวเองหรือไงถึงได้อาบน้ำนานอย่างนี้”
แสงเหนือถือวิสาสะขึ้นไปนอนหลังพิงพนักเตียงนอนของพรพรรณ
“เหนือ นายเข้ามาได้ไง” แพรพรรณกำปมผ้าเช็ดตัวไว้แน่น เมื่อได้สบสายตากันผ่านกระจกตู้เสื้อผ้า
“นี่มันบ้านฉัน ฉันจะเข้าออกห้องไหนก็ได้” แสงเหนือชูกุญแจห้องให้แพรพรรณดู แล้วเขยิบก้นไปนั่งปลายเตียง
“แต่ตอนนี้ห้องนี้มันเป็นห้องของฉัน นายควรมีมารยาทด้วย”
แพรพรรณตะคอกเสียงเขียวใส่ พร้อมจับสิ่งของใกล้มือเหวี่ยงใส่ ชายหนุ่ม
“คนอย่างเธอทำไมต้องมีมารยาทด้วย” แสงเหนือโยกตัวหลบสิ่งของที่เหวี่ยงใส่
“นายออกไปจากห้องฉันได้แล้ว” แพรพรรณตวาดไล่
“เธอนี่จริงๆเลย ปากทำเป็นไล่ฉัน แต่ฉันรู้นะว่าเธออยาก”
เขาพูดและกำมือแล้วเอานิ้วชี้แทงลงไปในมือชักนิ้วเข้าออกขึ้นชักลงให้เธอดู ด้านแพรพรรณทำไมจะไม่รู้ว่าแสงเหนือทำคืออะไร เธอหน้าแดงเพราะอาย และด่าชายหนุ่มว่า
“ไอ้ทุเรศ”
“ทุเรศแบบนี้ไม่ใช่เหรอที่เธอชอบ”
แสงเหนือฉุดให้เธอมายืนตรงหว่างขา มือหนาจับคางมนให้เงยขึ้นสบตากัน และอีกมือก็กระตุกผ้าขนหนูผืนเดียวที่พันร่างบาง ดีที่แพรพรรณจับไว้แน่นไม่อย่างนั้นมันคงล่วงไปกองอยู่ที่พื้น
“ว้าย เหนือนายจะทำอะไร” แพรพรรณใช้มือข้างหนึ่งจับผ้าเช็ดตัวไว้ อีกข้างก็ดันหน้าอกเอาไว้
“เธอนี่ก็สวยไม่แพ้น้องสาวของเธอนะ แก้ขัดได้อยู่นะเนี่ย”
แสงเหนือเกาคางยิ้มเยาะ สายตาก็มองร่างบางตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า แล้วอุ้มเธอให้นอนบนเตียง
“ปล่อยฉันนะไอ้คนเลว นี่นายจะทำอะไรฉัน”
แพรพรรณขัดขืน เมื่อชายหนุ่มขึ้นมานอนทับบนตัวเธอ
ก่อนแสงเหนือจะลุกออกจากตัวแพรพรรณนั้น เขาได้โน้มหน้าลงทำเหมือนจะจูบเธอ แต่เขากลับพูดผสมเสียงหัวเราะว่า
“หึ! รีบแต่งตัวซะ ไปถึงกรุงเทพเมื่อไหร่ เธอโดนฉันขย่มเธอจมเตียงแน่ เตรียมตัวไว้ให้ดีเถอะ”
“ไอ้เหนือ ไอ้คนเลว”
แพรพรรณรีบลุกนั่ง เหวี่ยงหมอนใส่หลังของเขาที่เดินไปยังประตูห้อง เธอร้องหวีดๆใส่มือตัวเอง เมื่อชายหนุ่มพูดดูถูกเหยียดหยาม…