ตอนนี้เหตุการณ์หน้าบ้านเริ่มสงบเพราะชาวบ้านต่อคิวเพื่อจะแจ้งเรื่องที่โดนผู้นำหมู่บ้านเอาเปรียบ ส่วนตัวผู้นำเจ้าหน้าที่ของผู้พันจ้าวหมิงเย่วพี่ชายของหลินหลินนั้นควบคุมตัวไว้ และบ้านหวางเองก็ถูกเจ้าหน้าที่พากลับไปที่บ้านและสั่งห้ามไม่ให้ทุกคนก้าวเท้าออกมา อาเหมยเมื่อรู้ข้อเสนอของนายพลจ้าวจึงรีบแอบออกมาหาน้องสาวอย่างหลินหลิน ทั้งสองคนยังไม่ทันได้พูดอะไรกัน นายพลจ้าวและเฟยหลงเดินออกจากบ้านมาพร้อมกันพอดี
“อาหยางเป็นยังไงบ้างลูก” กุ้ยหนิงถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไรครับแม่ เรากลับไปคุยกันที่บ้านนะครับ” เฟยหลงบอกแม่ด้วยรอยยิ้ม เขารู้ว่าแม่รักและเป็นห่วงเขาแค่ไหน กุ้ยหนิงพยักหน้าให้ลูกชาย เฟยหลงหันกลับมาหาหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม
“หลินหลินรอพี่นะ พี่ใช้เวลาไม่นานพี่จะต้องทำสำเร็จให้ได้ เป็นกำลังใจให้พี่ด้วยนะครับ” เฟยหลงเอ่ยกับหลินหลินด้วยรอยยิ้ม เล่นเอาหลินหลินตาพร่า พยักหน้าโดยไม่รู้ว่าเขาหมายความว่ายังไง เฟยหลงอยากคว้าตัวเธอเข้ามากอดอีกครั้งแต่ไม่สามารถทำได้ เพราะกลัวเธอจะเสียชื่อเสียง และทั้งท่านนายพลและท่านผู้พันมองเขาไม่วางตา ทำอย่างกับเขาจะขโมยลูกและน้องสาวของทั้งสองคนไป ชายหนุ่มพอเห็นว่าหลินหลินของเขานั้นตอบตกลงแล้ว เขาจึงพยุงแม้กลับบ้านด้วยรอยยิ้มและหัวใจที่พองโต อาเหมยเมื่อเห็นจังหวะจึงได้จูงมือน้องสาวมาทางหลังบ้านเพื่อบอกเรื่องที่เธอไปแอบฟังให้รู้
“งานเข้าแล้วไอ้หลิน” อาเหมยลืมตัวจึงได้พูดแบบเดิมกับเธอ
“อะไรพี่เหมย พูดเสียงดังแบบนี้ไม่กลัวพ่อกับพี่ใหญ่ได้ยินหรือยังไง”
“ช่างก่อน เธอรู้ไหมว่าคุณลุงยื่นข้อเสนออะไรให้พี่อาหยางของเธอ” หลินหลินหันมามองค้อนคนถาม พี่เหมยนี่ก็พูดไม่คิด เธออยู่กับพี่ใหญ่ตลอดไม่ได้ไปแอบฟังด้วยจะรู้ได้ยังไง
“พี่ก็ถามไม่คิดนะ มีอะไรพูดมา อย่าลีลา”
“คุณลุงให้พี่อาหยางพิสูจน์ให้เห็นว่าเขานั้นรักและสามารถดูแลปกป้องเธอได้ และที่สำคัญคือ สินสอดที่คุณลุงเรียกคือ เงินหมื่นหยวน โดยให้เวลาสองปี หากทำไม่ได้คุณลุงจะพาแกกลับปักกิ่งทันที”
“หา! หมื่นหยวน” หลินหลินร้องเสียงหลงจนอาเหมยต้องเอามือมาปิดปากไว้ ก่อนหน้านี้เพิ่งจะด่าเธอเองว่าเสียงดัง แล้วตอนนี้ดันทำเองเสียได้
“ใช่ หมื่นหยวน แต่แกเบาหน่อยได้ไหม กลัวคนอื่นไม่ได้ยินที่เราพูดกันหรือยังไง”
“พี่เหมยแล้วเราจะช่วยพี่หยางยังไง เงินหมื่นหยวนไม่น้อยเลยนะสำหรับชาวบ้านธรรมดา” หลินหลินหนักใจและคิดไม่ตกว่าจะช่วยพี่อาหยางของเธอยังไงดี อยากจะถอนหายใจสักล้านรอบเหลือเกิน
“ตอนนี้อย่าเพิ่งวิตก เธอเป็นคนรู้จักพี่หยางดีที่สุด เธอต้องรู้ว่านิสัยเขาเป็นยังไง เงินหมื่นหยวนสำหรับเราสองคนนั้นไม่มากเลย แต่สำหรับพี่หยางของเธอนั้นมากเลยล่ะ แต่ไม่เห็นเขาวิตกกังวลอะไรเลยนะ นี่แหละที่ทำให้ฉันอึ้ง เรารอดูก่อนไหม หากว่าเขาไม่สามารถจริงๆ ค่อยให้นายน้อยหยางยื่นมือเข้าช่วย ให้เขาคุมบ่อนเป็นไง สามเดือนคงได้แล้วหมื่นหยวน หรือไม่ก็คุมตลาดมืด” อาเหมยเองช่วยหาทองออกเพราะไม่รู้ว่าจะช่วยยังไงเหมือนกัน ถ้าจะเอาเงินมาตั้งให้ เธอเชื่อว่าคนอย่างพี่หยางว่าที่น้องเขยของเธอคงไม่เอา เพราะมันคือศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายที่ทำเพื่อหญิงสาวที่ตัวเองรัก
เฟยหลงพยุงแม่กลับบ้านระหว่างทางเดินกลับเขาคิดหาวิธีตลอดเวลาว่าจะทำยังไงให้ได้เงินเร็วที่สุด ตอนนี้เขาคิดได้วิธีเดียวคือเข้าป่าล่าสัตว์ใหญ่เอาไปขายตลาดมืด ถ้าหาโชคดีก็คงเจอหมี หรือไม่ก็กวาง แต่สัตว์พวกนี้มักจะอยู่ในป่าลึกและนั่นคือสิ่งที่อันตราย
เมื่อมาถึงบ้านกุ้ยหนิงที่ร้อนใจไม่รู้ว่าลูกชายคุยอะไรกับท่านนายพลจึงรีบถามด้วยความเป็นห่วง
“อาหยางบอกแม่ได้ไหมลูกว่าท่านนายพลคุยอะไรกับลูก”
“ไม่มีอะไรหรอกครับแม่ ท่านแค่ยื่นข้อเสนอเล็กน้อยถ้าหากผมอยากจะแต่งงานกับหลินหลิน”
กุ้ยหนิงฟังที่ลูกชายพูดเธอก็คิ้วชนกัน ท่านนายพลจะยอมให้อาหยางแต่งงานกับหลินหลินลูกสาวของท่านง่ายดายขนาดนั้นเลยเหรอ ในเมื่อดูท่านและลูกชายหวงหลินหลินมากขนาดนั้น
“อาหยางอย่าปิดบังแม่เลย บอกแม่เถอะ เราจะได้ช่วยกัน”
เฟยหลงเห็นแม่ถามน้ำเสียงไม่สบายใจเขาจึงไม่คิดที่จะปิดบังอีก
“ท่านนายพลให้ผมพิสูจน์ตัวเองว่าผมรักสามารถดูแลปกป้องหลินหลินได้จริงๆ รวมทั้งให้ผมหาเงินหนึ่งหมื่นหยวน เพื่อมาเป็นสินสอดให้กับเธอครับ”
“อะไรนะ! หนึ่งหมื่นหยวนเลยเหรอลูก แล้วเราจะทำยังไงกันดี หรือว่าลูกจะถอดใจ” กุ้ยหนิงตกใจแทบสิ้นสติ เงินหนึ่งหมื่นหยวนไม่น้อยเลยทีเดียว ชาตินี้เธอจะมีหรือเปล่า กุ้ยหนิงได้แต่สงสารลูกชาย ไม่คิดว่าลูกชายจะเจออุปสรรคใหญ่แบบนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะมีเครื่องประดับของเดิมของแม่เธอฝังดินไว้ ต่อให้ขายหมดหีบคงได้ไม่ถึงสามพันหยวนหรอก และที่สำคัญคงหาคนซื้อยาก ต้องเข้าไปขายตลาดมืดอย่างเดียว
“ผมไม่มีทางถอดใจครับแม่ ต่อให้ท่านนายพลจะมีข้อเสนอมากกว่านี้ ผมก็จะทำให้ได้ ผมยอมรับครับว่าผมไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้มาก่อน แม่จะเชื่อผมไหมถ้าเกิดผมจะบอกแม่ว่าผมรักหลินหลินจริงๆ ยิ่งผมตอนที่เธออยู่ในอ้อมกอดผม ผมยิ่งหวงแหน ไม่อยากที่จะสูญเสียเธอไป ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมทั้งๆ ที่เพิ่งจะเจอเธอวันแรก” เฟยหลงพูดกับแม่ด้วยรอยยิ้ม
“ตอนนี้ผมมีเงินเกือบสองพันหยวน ไม่แน่ผมอาจจะรับของมาจากทางใต้ แล้วเข้าไปขายในตลาดมืดเพื่อเอากำไร อีกทั้งผมจะเข้าป่าล่าสัตว์ใหญ่ เท่าที่รู้มาหากได้หมีมาสักตัวคงขายได้เป็นพันหยวน เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดมากตอนนี้” เขารู้ว่าหมีและกวางเป็นที่ต้องการของร้านยา แต่คงไปขายแบบโจ่งแจ้งมากไม่ได้
“หากว่าลูกจะหาของจากทางใต้มาขายแม่ไม่ห้ามหรอกนะ เพราะลูกไม่ได้เป็นทหารแล้ว แต่เข้าป่าล่าสัตว์ใหญ่มันต้องเข้าป่าลึกนะลูก อันตรายมาเลยนะอาหยาง แม่เป็นห่วง แม่มีลูกแค่คนเดียวนะ” เรื่องค้าขายเธอไม่ห้าม เพราะใครก็แอบทำทั้งนั้น เธอรู้ว่าตลาดมืดที่นี่ใหญ่โตมาก และคนมีอิทธิพลเป็นเจ้าของ ไม่ต้องกลัวว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าไปวุ่นวาย แต่เรื่องที่จะเข้าป่านั้นเธอกลัวเหลือเกิน ชีวิตนี้เธอมีแค่เพียงสองคนแม่ลูกหากเกิดลูกชายเธอได้รับบาดเจ็บกลับมา หัวอกคนเป็นแม่เช่นเธอจะทำยังไง
“แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมเอาตัวรอดได้ แต่ว่าแม่เลิกทำงานในคอมมูนเถอะนะครับ เราขอหมูมาเลี้ยงแทนก็ได้ แม่จะได้ไม่เหนื่อยด้วย ผมทำคนเดียวก็พอแล้ว” แต่ก่อนที่เขาจะทำงานในคอมมูน เขาต้องหาเงินให้ครบเสียก่อน และเขามีทางเลือกให้ทำแค่สองอย่างคือ หาของจากทางใต้มาขายเก็งกำไร และเข้าป่าล่าสัตว์
“แม่สามารถช่วยอะไรลูกได้บ้าง อาหยาง” กุ้ยหนิงลูบไหล่ลูกชายด้วยความสงสาร เกิดมาเพิ่งจะมีความรักครั้งแรก แต่ต้องเจออุปสรรคอันใหญ่ ในเมื่อลูกชายไม่คิดจะถอยคนเป็นแม่เช่นเธอก็ไม่ถอยเหมือนกัน เธอไม่ได้ยึดติดว่าลูกสะใภ้จะต้องรวยหรือจน ขอแค่ลูกชายของเธอพอใจและหญิงสาวที่จะมาเป็นลูกสะใภ้รักลูกชายและไม่รังเกียจลูกชายเธอก็พอแล้ว
“แม่เป็นกำลังใจให้ผมก็พอครับ ช่วยเป็นกำลังใจให้ลูกชายคนนี้สมหวังนะครับ” เฟยหลงยิ้มให้กับแม่ตัวเอง 'เป็นกำลังใจให้พี่ด้วยนะหลินหลิน'
***********