หลินหลินและอาเหมยเดินเข้ามาในห้องครัว อาเหมยมองซ้ายมองขวาเมื่อไม่เห็นใครตามมาเธอจึงรายงานเรื่องราวบางอย่างให้น้องสาวและคนเป็นเจ้านายให้รู้
“หลิน กู้เจียฉิงรู้แล้วว่าแกอยู่ที่นี่ ตอนนี้น่าจะกำลังเดินทางมาเพื่อเจอแก” อาเหมยได้รับรายงานจากลูกน้องตอนโทรเข้าไปในอำเภอ หลินหลินที่ถือมีดกำลังหั่นหมูสามชั้นเพื่อที่จะทอดกำมีดแน่น แต่สีหน้ายังคงราบเรียบปกติ
“แล้วยังไง ตอนนี้ฉันไม่รู้จักมัน แล้วมันจะตามหาฉันทำไม”
“มันคงอยากให้แกสนใจและแต่งงานกับมันแน่ จะให้คนของเราจัดการเลยไหม แต่ถ้าถามฉัน ปล่อยให้มันมาเถอะ ตอนนี้แกก็มีพี่หยางอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเข้ามาวุ่นวาย ฉันเชื่อว่าถ้าพี่หยางรู้ว่ากู้เจียฉิงเข้าหาแกเพราะอะไรเขาคงไม่ปล่อยมันไว้แน่ ดูก็รู้ว่าพี่หยางของแกคลั่งรักจะตาย”
“อืม ดีเหมือนกันบอกคนของเราดูจับตาดูไว้ เพราะฉันยังไม่รู้ตัวของคนในเงามือว่าเป็นใครที่จ้องจะทำร้ายครอบครัวฉัน ในเมื่อฉันมีโอกาสกลับมาแก้ตัวอีกครั้ง ฉันจะไม่ปล่อยคนที่มันคอยต้องจะทำร้ายครอบครัวและคนที่ฉันรักไปแน่ๆ ไม่มันก็ฉันที่จะต้องตาย แต่ครอบครัวและคนที่ฉันรักก็ต้องรอด” หลินหลินเอ่ยเสียงเหี้ยม หากจุดจบของเธอต้องตายอีกครั้ง เธอก็ต้องปกป้องครอบครัวและคนที่เธอรักให้รอด แค่นี้เธอก็พอใจแล้ว
“ไม่ต้องกลัวแกไม่ตายหรอก มีฉันอยู่ทั้งคน ว่าแต่ลูกชายคนรองของแม่เฒ่าหวางเป็นนักพนันตัวยงเลยนะที่เข้ามาเล่นในบ่อนของเรา รู้สึกจะมีบัญชีกู้ยืมกับบ่อนเกือบพันหยวน จะให้จัดการยังไง” อาเหมยนึกได้เพราะลูกน้องมากระซิบ ถึงว่าทำไมลูกชายคนรองของบ้านหวางจึงไม่พูดอะไรเลย ทั้งๆ ที่มีภรรยาเป็นถึงลูกสาวเลขาของผู้ว่าการมณฑล
“ไว้ก่อนเถอะ รอให้พวกนั้นค*****นมาเสียก่อน แล้วค่อยจัดการทีหลังก็ยังไม่สาย ว่าแต่นอกจากหมูทอดจะกินอะไรอีก สเต๊กค่อยกินมื้อเย็นนะ” หากเอาเนื้อแพะออกมามีหวังพี่หยางได้สงสัยพอดี
“เอามาเถอะ อะไรก็ได้ ตอนนี้หิวจนตาลายแล้ว”
“สรุปพี่หรือฉันที่หิว แล้วเมื่อไหร่จะฝึกทำอาหารให้กินได้เสียที ตกลงพี่ดูแลฉันหรือฉันดูแลพี่ พี่นี่เก่งทุกเรื่องนะ มีเรื่องนี้เรื่องเดียวที่ทำไม่ได้ คนอะไรต้มมาม่าถ้าไม่ดิบก็อืด”
“อยากเข้าไปนอนกอดโถส้วมก็ได้นะ ฉันยินดีจะทำให้นะ”
“เก็บความคิดไว้ตรงนั้นแหละ”
สองสาวหยอกล้อกันด้วยเสียงหัวเราะขณะที่ทำอาหาร เสียงหัวเราะของทั้งสองคนดังมาถึงห้องรับแขก ทำเอาเฟยหลงอมยิ้มตามก่อนจะถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องครัว เมื่อเข้ามาถึงอาหารก็เตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“มีอะไรให้พี่ช่วยไหมครับ” เขายืนมองอยู่ครู่หนึ่งจึงได้เอ่ยถามขึ้น หลินหลินหันมายิ้มให้ จนอาเหมยบ่นด้วยความหมั่นไส้เพราะเหม็นความรัก
“หึ๊ย! เหม็นความรัก เห็นใจคนโสดด้วยค่ะ อาเหมยคนนี้จะสำลักน้ำตาลตายอยู่แล้ว” พูดจบก็ส่งสายตาค้อนให้ทั้งสองคน ก่อนจะหยิบจานอาหารออกไปที่โต๊ะ เฟยหลงเองเมื่อโดนแซวเขาเพียงแค่ยิ้มรับ แต่หูนั้นแดงเถือก หลินหลินได้แต่อมยิ้มเพราะกลัวชายหนุ่มจะอายมากกว่านี้หากพูดอะไรไป จากนั้นทั้งสองคนจึงช่วยกันขนอาหารและถ้วยจานออกไปด้านนอกเพื่อจะกินอาหารมื้อเย็นพร้อมกัน
หลังจากที่กินอาหารเสร็จแล้ว หลินหลินจึงพูดเรื่องข้อเสนอของพ่อ
“พี่หยางพี่เดือดร้อนไหมกับข้อเสนอของพ่อ พี่จะทำยังไงต่อ เงินพอหรือเปล่า”
เฟยหลงมองด้วยรอยยิ้ม นี่ขนาดท่านนายพลสั่งห้ามไม่ให้ใครเข้ามาฟัง ไม่คิดว่าหลินหลินของเขาจะรู้ด้วย
“ไม่เป็นไรครับพี่ยังไหว หากรวมกับของบ้านหวางที่ให้มาคงขาดไม่เยอะหรือไม่คงจะครบพอดี แต่ถึงไม่ครบยังไงพี่ตั้งใจจะเข้าป่าล่าสัตว์ใหญ่ไปขายในตลาดมืด และคิดว่าจะลงทุนหาของจากทางใต้มาขาย หนูไม่ต้องห่วงถึงแม้ว่าจะหนักหนากว่านี่พี่ก็ต้องทำให้ได้ เพื่อจะได้แต่งงานกับหนูพี่สู้ตายครับ” เฟยหลงพูดยิ้มๆ ต่อให้หนักหนากว่านี้เขาก็พร้อม เพื่อให้ได้สาวน้อยตรงหน้ามาอยู่ในอ้อมกอด เขาพร้อมสู้สุดใจ
“โอ๊ย! ป้ากุ้ยหนิง ป้าคิดเหมือนฉันไหม น้ำตาลก็แพงหาซื้อก็ยาก แต่ทำไมบ้านนี้ถึงมีความหวานหกเรี่ยราดแบบนี้ ป้ากุ้ยหนิงกอดฉันหน่อย ชีวิตนี้ฉันขาดความหวานมากๆ” อาเหมยพูดจบก็อ้อนกุ้ยหนิง เธอลุกขึ้นไปกอดก่อนจะหันมามองค้อนทั้งสองคน กุ้ยหนิงเองก็อ้าแขนกอดด้วยรอยยิ้ม เธออยากมีลูกสาวแต่ไม่มี ได้อาเหมยมาออดอ้อนก็มีความสุขไม่น้อย
“เยอะไปพี่เหมย ว่าแต่พี่หยางอยากจะขายอะไร ลองไปหาซื้อกับคนของนายน้อยหยางสิ ราคาของเขาถูกกว่าทางใต้อีกนะ” หลินหลินเสนอแนะไป ในเมื่อเขาพูดมาแบบนี้หากยืนมือช่วยตรงๆ เขาคงไม่รับแน่ๆ
“พี่อยากจะลองเข้าไปดูตลาดมืดที่นี่ก่อนไม่รู้ว่ามีอะไรขายบ้าง พี่ไม่อยากขายเหมือนคนอื่น แต่พี่ขอถามได้ไหม หมู่บ้านนี้ไฟฟ้ายังไม่มา แล้วหนูสามารถใช้ไฟในบ้านได้ยังไง” เฟยหลงไม่อยากละลาบละล้วง แต่เขามีความสนใจจริงๆ เพราะหลายๆ หมู่บ้าน มีคนรวยหลายหลังหากติดต่อได้คงมีรายได้เพิ่มเข้ามา
“อ้อ หนูใช้แผงพลังงานแสงอาทิตย์ อันนี้หนูก็สั่งมาจากนายน้อยหยาง เพราะรู้ว่าที่หมู่บ้านแห่งนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้ มันสะดวกสำหรับคนที่ต้องการแบบหนู” หลินหลินจึงอธิบายแผงโซล่าเซลล์ให้เฟยหลงฟังอย่างละเอียด ในใจคิดว่าเขามีหัวการค้าเหมือนกัน ถ้าหากหาลูกค้าได้เธอจะให้คนไปติดตั้งให้เองพี่หยางจะได้ไม่เหนื่อย และที่สำคัญเธอหวงกลัวหญิงสาวเห็นคนไปติดตั้งหล่อแบบนี้แล้วจะเกาะติดพี่หยางของเธอ
“น่าสนใจนะ พี่เองก็มีสหายอยู่มากที่ขอปลดประจำการ คงจะพอหาคนที่สนใจได้ ในชนบทแบบนี้ชาวบ้านที่พอมีฐานะและไม่มีไฟฟ้าใช้คงอยากจะได้รับความสะดวกสบายมากเหมือนกัน”
“เอางี้ไหม จัดการเรื่องบ้านหวางเสร็จแล้ว หนูจะให้พี่เหมยติดต่อคนของนายน้อยหยางให้ และวันไหนพี่ว่างเราเข้าไปดูที่ตลาดมืดกัน หนูเองเพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ยังไม่เคยเห็นตลาดมืดเลย พี่หยางพาหนูไปด้วยนะ นะคะ นะ” หลินหลินเธออ้อนเพื่อที่จะไปด้วย เพราะคนของเธอจะได้รู้ว่าพี่หยางเป็นใครเมื่อไหร่ที่เขาเข้าไปขายของจะได้ไม่มีใครกล้ามาเอาเปรียบ
เฟยหลงยิ้มมุมปากเขาชอบที่จะให้หลินหลินออดอ้อน และอยากกอดเธอเหลือเกิน แต่ต้องรออีกหน่อยเมื่อไหร่ที่แต่งงานแล้ว เขาจะไม่ปล่อยอ้อมกอดนี้อีกเลย แต่เมื่อคิดว่าเธอสนิทกับนายน้อยหยางถึงขั้นสามารถติดต่อกันได้ ก็รู้สึกหึงหวงและไม่ยินยอม เขาเคยได้ยินชื่อนายน้อยหยางคนนี้ตั้งแต่เป็นทหารแล้ว และรู้ว่าเป็นคนมีอิทธิพลเยอะเลยล่ะ ถึงแม้ว่านายน้อยหยางจะไม่มีตำแหน่งหรือว่ารับราชการก็ตาม
“ดูเหมือนหนูจะสนิทกับนายน้อยหยางคนนี้มากเลยนะ”
“ก็สนิทค่ะ ว่าแต่พี่หยางเป็นอะไรทำไมทำหน้าอย่างนั้น หรือว่าพี่หึงนายน้อยหยางกับหนู” หลินหลินไม่เข้าใจ แต่พอเห็นว่าเขาพยักหน้าเธอก็ยิ้มกว้าง ส่วนอาเหมยนั้นหัวเราะจนตัวงอ
“พี่หยาง พี่จะบอกว่าพี่หึงนายน้อยหยางกับเสี่ยวหลินนี่นะ โอ๊ย! บ้าไปแล้ว” เฟยหลงไม่เข้าใจในสิ่งที่อาเหมยพูด
“พี่หยางพี่ฟังหนูนะ นายน้อยหยางจริงๆ แล้วเธอเป็นผู้หญิง เธอเป็นสหายของพวกเราเอง เธอมีเหตุผลที่บอกใครไม่ได้ และทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นนั้นเธอต้องการที่จะมอบให้กับคนรัก เธอจึงปิดบังทุกคนแม้แต่ครอบครัวของเธอ ตอนที่เธอสร้างอาณาจักรของนายน้อยหยางนั้นเพราะเธอต้องการตามหาคนรักเท่านั้นเอง พี่เลิกหึงเถอะ หนูและพี่เหมยสนิทกับเธอ ไม่อย่างนั้นบุคคลลึกลับเช่นนายน้อยหยางหนูกับพี่เหมยจะติดต่อเขาได้ยังไง มีแต่ทุกคนตามตัวเขาทั้งนั้น” หนูขอโทษนะพี่ที่ยังบอกทุกเรื่องตอนนี้ไม่ได้