เขาไม่คิดจะทิ้งหญิงสาวคนนี้ไว้อยู่แล้ว ในเมื่อร่างกายเธอแทบจะไม่มีแรง อีกทั้งยังมองไม่เห็น ถึงแม้เขาจะไม่ใช่คนรวยหรือมีเงิน แต่เขาไม่ใช่คนไร้น้ำใจ
“ต่อให้พรุ่งนี้ต้องหมดลมหายใจ หากเป็นผม ผมจะทำวันนี้ให้มีความสุข ปล่อยวางทุกอย่าง ใครไม่รักก็ช่าง เรารักตัวเราเองก็พอแล้ว” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม
จ้าวเจียวหลินคิดตามที่ชายหนุ่มพูด 'มันก็จริง ต่อให้ต้องตายพรุ่งนี้ วันนี้ต้องมีความสุข'
เมื่อคิดได้ เธอจึงพยักหน้า เพราะมีบางอย่างที่เธอจะขอร้องให้เขาช่วยตามใครบางคนมาหาเธอ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
“ขอบคุณมากนะคะ ที่ทำให้ฉันมีแรงที่จะสู้ต่อ ถึงแม้ว่าไม่รู้ว่าจะตายตอนไหน แต่ฉันจะไม่ทำตัวไร้ค่าแน่นอนค่ะ”
จ้าวเจียวหลินพยักหน้ารับ เธอยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มที่สดใสและจริงใจ
“ครับ เรากลับบ้านกันเถอะ ผมขออนุญาตนะครับ คุณขึ้นหลังผมดีกว่า ผมแบกไปเอง”
ชายหนุ่มขออนุญาตก่อนจะให้เธอขี่หลัง เขาเอากระเป๋ามาสะพายไว้ด้านหน้า จากนั้นจึงได้แบกหญิงสาวขึ้นหลังกลับบ้าน
จ้าวเจียวหลินใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านของชายหนุ่มด้วยความสุขในบั้นปลายของชีวิต แม่ของเขาดีกับเธอมาก ไม่รังเกียจและไม่ถามว่าเธอมาจากไหน ชายหนุ่มให้เธอเรียกเขาว่าพี่หยาง
อาหยางไม่สนใจว่าชาวบ้านจะพูดยังไงเรื่องของหญิงสาว เช้าเขาทำงานที่ทุ่งนาเย็นกลับมาดูแลเธออย่างดีเหมือนเดิม จนมาวันหนึ่งเธอรู้ร่างกายของตัวเองดีว่าคงอยู่ได้อีกไม่นาน จึงได้ให้เขาตามใครบางคนมาพบเธอ อาหยางเลือกที่จะไม่ถาม
หลังจากนั้นไม่กี่วันมีชายวัยกลางคนแต่งตัวดีและมาพร้อมกับรถยนต์ส่วนตัว
“คุณหนู ผมดีใจเหลือเกินที่คุณหนูยังอยู่”
ลุงโจว ทนายความประจำตระกูลร้องเรียกอย่างดีใจ
“ใช่ค่ะ หากฉันไม่ได้พี่หยางช่วยไว้ ฉันคงตายไปแล้วเหมือนกัน ลุงโจวช่วยเล่าสถานการณ์ที่นั่นให้ฉันฟังได้ไหม”
จ้าวเจียวหลิน ให้ลุงโจวเล่าเรื่องราวทั้งหมดหลังจากที่เธอจากมาให้ฟัง ทันทีที่ได้ฟังความแค้นในใจของเธอปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
“ลุงโจว ยึดคืนทรัพย์สินทุกอย่างของตระกูลจ้าวกลับมา ของฉันที่ให้ไปมันไม่มากเท่าของตระกูลจ้าว การตายของพ่อแม่ และพี่ใหญ่ฉันเชื่อว่ามีเงื่อนงำ ลุงช่วยจัดการเรื่องทรัพย์สินด้วยนะคะ และทรัพย์สินทั้งหมดฉันขอยกให้กับพี่หยางและแม่ของเขา เพื่อตอบแทนที่ดูแลฉันมาดีตลอด”
“ครับคุณหนู”
ลุงโจวเลือกที่จะไม่ถาม เพราะเขามีหน้าที่ทำตามคำสั่งเท่านั้น
ลุงโจวจากไปได้ไม่นานเขาก็จัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้น แต่เขายังไม่บอกกับทางกู้เจียฉิงว่าตอนนี้ทรัพย์สินของตระกูลจ้าวได้เปลี่ยนมือเจ้าของแล้ว
จ้าวเจียวหลินใช้ชีวิตได้อีกไม่นาน วันหนึ่งเธอจึงเลือกคุยกับพี่หยางของเธอ เพราะเวลาเธอไม่เหลือแล้ว
“พี่หยาง หลังจากที่ฉันตายไป พี่และแม่ไปอยู่ที่ปักกิ่งนะ ช่วยดูแลทรัพย์สินให้ตระกูลจ้าวด้วย ฉันไม่ห้ามหากว่าพี่จะแต่งงานกับใคร หรือพี่จะมีคนรักหรือไม่ เพียงแค่พี่ดูแลฉันอย่างดีมาจนช่วงเวลาสุดท้ายฉันก็พอใจที่สุดแล้ว”
“ไม่นะหลินหลิน น้องต้องไม่เป็นอะไร น้องต้องอยู่ต่อไป พี่จะไม่แต่งงาน เพราะใจของพี่มอบให้น้องไปหมดแล้ว”
อาหยางพูดทั้งน้ำตา เขาพยายามทำน้ำเสียงให้เป็นปกติ และกระชับอ้อมกอดที่กอดหญิงอันเป็นที่รักแน่น เขาไม่เคยรังเกียจต่อให้เธอจะตาบอดหรือจะป่วยยังไง ขอเพียงแค่เธอมีชีวิตรอดต่อไปเท่านั้นที่เขาต้องการ
“ฉันขอโทษ หากเราเจอกันเร็วกว่านี้ ฉันจะขอเป็นภรรยาพี่ไปชั่วชีวิต แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว พี่ต้องอยู่กับปัจจุบัน พี่ยังมีแม่ที่ต้องดูแล หากชาติหน้ามีจริงฉันขอให้เราได้เจอกันอีกนะ ต่อให้ฉันต้องตามหาพี่ตลอดชีวิตฉันก็จะทำ!!”
จ้าวเจียวหลินสัญญาทั้งน้ำตา อยู่ๆ ร่างกายเธอกระตุกพร้อมกับสำลักเลือด เวลาเธอไม่เหลืออีกแล้ว อาหยางใช้มืออันหยาบกร้านของตัวเองเช็ดเลือดเธอไม่รังเกียจ ได้แต่ภาวนาให้เธออยู่กับเขาอีกสักหน่อย
ตอนนี้ใจของชายหนุ่มแตกสลายไม่มีชิ้นดี เขาขอดึงเวลาไปอีกสักหน่อยได้ไหม ขอแค่สักนาทีก็ยังดี ใจเขาคิดว่าเธอคือภรรยา ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะไม่มีความสัมพันธ์ทางร่างกาย แต่ตลอดเวลาที่อยู่กันมาเกือบปี เขาได้รักผู้หญิงคนนี้สุดหัวใจไปแล้ว
ในเมื่อสวรรค์ส่งเธอมาให้เขาแล้วทำไมต้องมาพรากเธอจากไปด้วย ทำไม!!
“น้องไม่ต้องพูดแล้ว พี่จะไม่แต่งงาน พี่รักน้อง ถึงแม้น้องจะเคยแต่งงานมาก่อนพี่ไม่เคยรังเกียจ หากเลือกได้ พี่ขอให้น้องอยู่กับพี่ต่อไปได้ไหมครับ หลินหลิน พี่รักน้องนะ รักมาก มากเท่าที่ชายคนหนึ่งจะรักผู้หญิงคนหนึ่งได้ หากไม่มีน้องพี่จะขออยู่คนเดียว ใจพี่ไม่มีที่ว่างให้ใครอีกแล้ว”
อาหยางเว้าวอนทั้งน้ำตา เขาได้แต่ขอร้องสวรรค์ อย่าเร่งเอาหญิงคนรักของเขาไป เขายังทำใจกับความสูญเสียในครั้งนี้ไม่ได้
จ้าวเจียวหลินซึ้งใจในความรักที่พี่อาหยางมอบให้เธอ ถ้าจะบอกว่าเธอไม่หวั่นไหวคงเป็นไปไม่ได้ เธอไม่กล้าที่จะบอกว่ารักเขาเช่นกัน เธอเคยผิดหวังมาแล้ว
ช่วงสุดท้ายของชีวิตเธอไม่อยากผูกมัดเขาไว้ หากเธอพูดว่ารักเขา เธอเชื่อว่าเขาจะทำตามที่พูด แต่เธออยากให้เขามีชีวิตที่ปกติ ไม่อยากให้ต้องจมอยู่กับผู้หญิงเช่นเธอ
จ้าวเจียวหลินใช้แรงเฮือกสุดท้ายยกมือมาจับหน้าชายที่อยู่ในใจเธอตอนนี้ เธอขอสลักความทรงจำทั้งหมดไว้ในใจ และฝั่งมันไว้ในจิตวิญญาณ ด้วยแรงอธิษฐานสุดท้าย เธอขอไว้ว่า
หากเธอได้มีโอกาสเกิดใหญ่ เธอจะขอตามหาชายคนนี้จนชั่วชีวิต หากเธอหาไม่เจอ เธอจะไม่ขอมีใครอีก เมื่อสิ้นสุดคำอธิษฐานมือของจ้าวเจียวเจียวหล่นลงมา ทำให้อาหยางรู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวที่รักคนนี้ได้จากไปแล้ว
“ไม่!!! หลินหลิน อย่าจากพี่ไปแบบนี้ ไม่นะ ใครก็ได้ช่วยหลินหลินด้วย ไม่!!”
น้ำตาลูกผู้ชายไหลไม่ขาดสาย เขากอดร่างของเธอไม่ปล่อยและอยู่แบบนี้หลายชั่วโมง จนลุงโจวและแม่ของเขาทนมองไม่ได้อีกต่อไป ทั้งสองคนจึงเข้ามา
“นายท่านครับ ปล่อยให้นายหญิงไปอย่างหมดห่วงเถอะนะครับ หากเธอเห็นนายท่านเป็นแบบนี้ เธอจะไปไม่สงบนะครับ”
ลุงโจวไม่ติดใจอะไรอีกแล้ว เขาพร้อมที่จะยกอาหยางชายหนุ่มคนนี้เป็นนายเหนือหัวทันที คงไม่มีใครรักคุณหนูตัวน้อยของเขาได้เท่าชายคนนี้อีกแล้ว
“อาหยาง ปล่อยหลินหลินให้ไปอย่างสงบเถอะลูก ลูกต้องเข้มแข็งต่อไปนะ”
แม่ของอาหยางเสียใจไม่น้อยไปกว่าลูกชายและสงสารในชะตาชีวิตของเด็กสาวคนนี้ เธอพบกับความสุขในวันที่ช่วงท้ายของชีวิต แต่ไม่มีใครหลบหนีความเป็นจริงไปได้ ดังนั้นทุกคนจึงทำได้เพียงเดินหน้าต่อไป
หลังจากที่จัดงานศพของหญิงอันเป็นที่รักเสร็จสิ้น อาหยางชายหนุ่มอารมณ์ดี และมักจะมองโลกในแง่ดีเสมอ กลับกลายเป็นชายหนุ่มที่เย็นชา ไร้หัวใจ เพราะใจดวงเดียวที่เขามีได้ตายไปพร้อมกับหลินหลินหญิงสาวที่รักมากคนนี้ไปแล้ว เขาไม่เคยมีรอยยิ้มให้กับใครอีก นอกจากแม่ของเขา
อาหยางเดินทางกลับไปที่ปักกิ่งพร้อมกับแม่และลุงโจว การปรากฏตัวของชายหนุ่มทำให้อดีตสามีของจ้าวเจียวหลินตกใจไม่น้อย อาหยางทวงทุกอย่างคืน เขาจัดการธุรกิจของตระกูลจ้าวให้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ตัวเขาเองศึกษางานทุกอย่าง หลังจากนั้นเขาทวงคืนความแค้นให้กับหญิงอันเป็นที่รักและหนึ่งเดียวในดวงใจจนตระกูลกู้ไม่เหลืออะไรแม้แต่ชีวิต
อาหยางทำตามที่พูดไว้ เขาไม่แต่งงานใหม่จนหมดลมหายใจ แต่ในระหว่างนั้นเขาได้รับเลี้ยงเด็กกำพร้าและจัดตั้งมูลนิธิให้กับคนรักและตระกูลจ้าว
ทรัพย์สินทุกอย่างเขามอบให้มูลนิธิทั้งหมด โดยให้เด็กกำพร้าที่เขารับเลี้ยงช่วยกันดูแล เด็กทั้งหมดรู้เพียงว่าแม่ของพวกเขาคือจ้าวเจียวหลิน และพ่อคือจ้าวหยาง
“หลินหลิน พี่กำลังจะไปหาน้อง เรากำลังจะได้เจอกันแล้วนะครับ คนดีของพี่”
อาหยางพูดประโยคสุดท้ายด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็ได้หมดลมหายใจ ทำให้ลูกๆ บุญธรรมทั้งหลายร้องไห้เสียใจกับการจากไปของพ่อของพวกเขา