จ้าวเจียวหลินหรือหลินหลิน เธอเป็นลูกสาวของท่านนายพลระดับสูง มีพี่ชายเป็นถึงท่านผู้พัน มีแม่เป็นเจ้าของกิจการมากมายที่ทำร่วมกับรัฐ เธอเป็นเด็กสาวที่สดใสและมั่นใจในตัวเอง ถึงขั้นเอาแต่ใจเลยก็ว่าได้ ทุกคนตามใจลูกสาวและน้องสาวเพียงคนเดียวของบ้าน
วันหนึ่งเธอได้เจอกับชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดี ทำให้สาวน้อยอย่างตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอ ใครห้ามก็ไม่ฟัง ถึงขั้นขัดคำสั่งของที่บ้านแอบไปจดทะเบียนกับชายคนนั้น
“พ่อ แม่ หนูรักเขา หนูอยากแต่งงานกับเขา”
จ้าวเจียวหลินพูดอย่างไม่ยินยอมเธอรักกู้เจียฉิงตั้งแต่แรกเจอ เธอปักใจไปแล้วจะให้เธอทำยังไง
“หลินหลิน ทุกครั้งพ่อไม่เคยห้ามลูกเลย ไม่ว่าลูกต้องการอะไร พ่อทำให้ลูกได้เสมอ แต่เรื่องแต่งงานลูกเพิ่งจะเจอเจียฉิงได้ไม่นาน อีกทั้งคนของพ่อบอกว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว เขาจะรักลูกจริงๆ หรือเปล่า ไม่ใช่เขาหวังอะไรอยู่เหรอ”
นายพลจ้าวเอ่ยขัดลูกสาว ถึงเขาจะมีอำนาจและฐานะไม่ด้อยในสังคม เขาเองไม่เคยดูถูกคนที่ฐานะด้อยกว่า แต่นี่คือความสุขทั้งชีวิตของลูกสาวของเขา เขานิ่งนอนใจไม่ได้ อีกทั้งกู้เจียฉิงมีคนรักที่แอบอยู่กินกันแล้วด้วย เขาไม่อยากให้ลูกน้อยของเขาต้องช้ำใจในอนาคต
“แต่หนูเป็นของเขาไปแล้ว และตอนนี้หนูจดทะเบียนกับเขาแล้ว พ่ออนุญาตให้เราแต่งงานกันนะคะ”
จ้าวเจียวหลิน หรือหลินหลินลูกสาวคนเดียวของตระกูลที่ทุกคนรักและเลี้ยงดูมาอย่างดี กลับบอกในสิ่งที่ทำให้ใจของผู้เป็นพ่อแม่แตกสลาย ตอนนี้ไม่สามารถจะแก้ไขอะไรได้แล้ว
จ้าวหยางเฟยล้มตัวนั่งอย่างหมดแรงเมื่อได้ยินในสิ่งที่ลูกสาวตัวน้อยสารภาพ แม้แต่เซียนเจียงชุนหญิงแกร่งของยุค เป็นนักธุรกิจหญิงลำดับต้นๆ ที่สามารถทำงานร่วมกับภาครัฐได้ โดยไม่สนใจคำครหาที่บอกว่าผู้หญิงนั้นเป็นเพียงแม่บ้าน
เธอใช้ความสามารถในการไต่เต้าจนมาถึงจุดนี้ เธอผู้เป็นแม่ยังทรงตัวไม่อยู่ในคำสารภาพของลูกสาว หรือว่าจ้าวหมิงเย่วพี่ชายที่รักและตามใจน้องสาวทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องอะไร และมีตำแหน่งเป็นถึงท่านผู้พันหนุ่มอนาคตไกลยังยืนน้ำตาไหลกับสิ่งที่น้องสาวซึ่งเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของคนในบ้านนั้นบอก
เซียนเจียนชุนทำใจได้คนแรก ในเมื่อทุกอย่างมันไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว จึงได้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอันขมขื่น “หลินหลิน หากลูกตัดสินใจดีแล้ว แม่จะไม่ห้ามอีก แต่ลูกจงจำไว้ว่า อย่าเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองเลือก ไม่ว่าจุดจบของเรื่องนี้จะเป็นยังไง ลูกไม่สามารถที่จะโทษใครได้ เพราะลูกได้เลือกมันแล้ว”
พูดจบเธอหลับตาเพื่อจะนำน้ำตาที่พยายามจะไหลออกมาให้กลับเข้าไปข้างใน คนเป็นแม่เช่นเธอต่อให้รักลูกมากแค่ไหน แต่เธอเลี้ยงได้แต่ตัว หัวใจนั้นเธอเลี้ยงไม่ได้!!
งานแต่งงานระหว่างคุณหนูลูกสาวคนเล็กและคนเดียวของท่านนายพลจ้าวได้เกิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ สร้างความปลื้มปีติและดีใจให้กับจ้าวเจียวหลินมาก ในที่สุดวันที่เธอรอคอยนั้นก็มาถึง เธอได้แต่งงานกับชายที่รักและจะได้อยู่กินกับเขาเสียที
โดยเธอไม่รู้เลยว่านี่คือแผนการของสามีและคนรักของเขาเพื่อที่จะหวังในสมบัติและอำนาจจากตระกูลจ้าว
เซียนเจียงชุนนั้นได้มอบกิจการร้านค้ามากมายที่เธอมีกรรมสิทธิ์ร่วมกับรัฐให้ลูกสาวคนเล็กในวันแต่งงาน และเงินที่สามารถทำให้ลูกสาวใช้ชีวิตได้อย่างไม่ลำบากทั้งชีวิต!
แต่ด้วยความรักที่จ้าวเจียวหลินมอบให้สามี เธอกลับยกสมบัติพวกนี้ให้กู้เจียฉิงดูแลทั้งหมด ส่วนเธอทำหน้าที่เพียงแม่บ้านในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่พ่อแม่มอบให้อย่างมีความสุขในฐานะภรรยา
แต่แล้ววันหนึ่งเธอได้ข่าวว่าพ่อและแม่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้ท่านทั้งสองตายคาที่เพราะอยู่ๆ รถคันนั้นกลับระเบิดขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง
“ไม่!! ไม่จริง พ่อกับแม่ต้องไม่ตาย”
จ้าวเจียวหลินกรีดร้องเสียงดังก่อนจะหมดสติ แม่บ้านทั้งหลายต่างพากันตกใจ เมื่อเห็นนายหญิงของบ้านเป็นลมหมดสติหลังจากได้รับข่าวร้าย
เหมือนเป็นเคราะห์กรรมของเธอหลังจากพ่อแม่จากไปเพียงสองเดือนพี่ชายเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ต้องมาตายจากไปตอนไปปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ตอนนี้ตระกูลจ้าวเหลือเพียงเธอคนเดียวที่ต้องดูแลทรัพย์สินมากมายของครอบครัว แต่ด้วยความที่เธอไม่มีความรู้เรื่องนี้บวกกับความไว้ใจในตัวของสามี ทำให้เธอมอบทุกอย่างให้เขาดูแล จ้าวเจียวหลินไม่รู้เลยว่านี่คือช่วงสุดท้ายของชีวิตของเธอแล้ว
วันหนึ่งเธอถูกใครบางคนจับตัวมา เธอได้ยินพวกนั้นพูดถึงชื่อของคนที่เธอรักมากที่สุดและชื่อของผู้หญิงคนหนึ่ง และได้ยินเสียงของคนที่คุ้นเคยที่เธอรักเขาสุดหัวใจ ใช่แล้ว! นั่นคือเสียงของกู้เจียฉิงสามีที่เธอรักมากและมอบทุกอย่างให้เขานั้นเอง
“สามีคุณทำแบบนี้ทำไม”
จ้าวเจียวหลินถามทั้งน้ำตา ก่อนจะกัดฟันถามในสิ่งที่ภาพมันฟ้องอยู่แล้ว
“คุณเคยรักฉันบ้างไหม”
“แกยังจะถามอีกเหรอนังโง่ พี่เจียฉิงไม่เคยรักแกเลย เขารักฉัน เขาเป็นสามีของฉันคนเดียว ทำไมแกไม่คิดบ้างแต่งงานมาตั้งหลายปีแต่แกไม่ท้องเสียที เพราะเขาไม่เคยรักแกและไม่อยากมีลูกกับแกยังไงล่ะ ในเมื่อกำลังจะตายแล้วฉันจะบอกให้นะ ฉันมีลูกชายที่น่ารักกับเขา เพราะเขารักฉันไม่ใช่แก”
คนรักของกู้เจียฉิงพูดอย่างสะใจ เธอยอมให้คนรักหรือสามีของเธอเข้ามาแต่งงานกับจ้าวเจียวหลินเพราะทรัพย์สมบัติเท่านั้น ในเมื่อทุกอย่างตกเป็นของสามีเธอทั้งหมดแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องปิดบังอีก
“ปล่อยเธอไว้แบบนี้ ไม่นานเธอก็ตายแล้ว โดนวางยามาตั้งหลายปี เรากลับกันเถอะ ป่านนี้ลูกคงจะรอเรากลับไปหาแล้วล่ะ”
กู้เจียฉิงหันมาบอกหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดโดยไม่สนใจจ้าวเจียวหลินเลยแม้แต่น้อย ทั้งสองเดินจากไปด้วยเสียงหัวเราะที่บาดลึกเข้าไปถึงจิตใจของจ้าวเจียวหลิน
จ้าวเจียวหลินคิดว่าเธอโง่เองที่หลงรักผู้ชายคนนี้จนชีวิตไม่เหลืออะไร อยู่ๆ เธอจึงฮึดสู้ขึ้นมาด้วยแรงอันน้อยนิด เธอคิดว่าการตายของทุกคนในครอบครัวต้องมีเงื่อนงำ เธอรอจังหวะที่ลูกน้องทั้งสองคนของกู้เจียฉิงเผลอ จึงได้แอบหนีออกมา ตอนนี้แรงเธอนั้นแทบจะไม่มีและดวงตากลับพร่าเลือนแทบจะมองไม่เห็น เธอไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน รู้เพียงว่ามีแต่ป่าล้อมรอบ
เมื่อหนีออกมาได้ เธอวิ่งวนอยู่ในป่าอย่างไร้จุดหมายเพราะดวงตาเธอนั้นแทบจะมองอะไรไม่เห็นแล้ว จนเธอได้ยินเสียงของลูกน้องทั้งสองคนตามมา ไม่รู้เป็นวิบากกรรมของเธอหรือยังไง เธอกลับสะดุดล้มกลิ้งตกเขา จากนั้นก็หมดสติและไม่รับรู้อะไรอีกเลย
“คุณ คุณครับ”
ชายคนหนึ่งที่เตรียมจะเดินทางกลับบ้านร้องเรียกด้วยความตกใจ จ้าวเจียวหลินได้ยินเสียงเรียกจึงรู้สึกตัว แต่กลับกลายเป็นเธอมองอะไรไม่เห็นอีกแล้ว ภาพมีแต่สีดำไปหมด
“คุณฟื้นแล้ว คุณเป็นใคร ให้ผมไปส่งที่บ้านไหมครับ”
“น้ำ ขอน้ำหน่อย”
จ้าวเจียวหลินพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า ตอนนี้เธอคอแห้งเหลือเกิน ชายหนุ่มใจดีคนนี้หยิบน้ำออกมาจากกระเป๋าก่อนจะประคองให้เธอกินอย่างเบามือ
“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยเหลือคนตาบอดแบบฉัน แต่ว่าฉันไม่มีบ้านให้กลับอีกแล้ว”
จ้าวเจียวหลินตอบ เมื่อนึกถึงชะตาชีวิตของตัวเองที่พบเจอทำให้เธอน้ำตาไหลไม่หยุด เธอไม่ได้เสียใจแต่เธอแค้น แค้นให้กับความโง่ของตัวเองจนทำให้ตัวเองและครอบครัวต้องเจอหายนะแบบนี้
“คุณปล่อยฉันไว้ที่นี่เถอะค่ะ ไม่นานฉันคงจะตายแล้ว ฉันโดนวางยามา”
จ้าวเจียวหลินไม่รู้ว่าทำไมถึงกล้าบอกชายตรงหน้าที่เธอไม่แม้แต่จะเห็น
“คุณเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว จะอยู่ในป่าได้ยังไง หากไม่รังเกียจว่าบ้านของผมจน ไม่ได้สะดวกสบาย คุณไปพักที่บ้านผมก่อน แต่ไม่ต้องกลัวนะ ที่นั่นมีแม่ของผมอยู่ด้วย ท่านใจดีมาก”
จะให้เขาทิ้งเธอไว้คนเดียวได้ยังไง ร่างกายก็ตัวแค่นี้