“มีอะไรคะคุณ มาร์” อารยาถามผู้ช่วยฝ่ายบุคคล ที่ยืนขวางหน้า ก้มมองหน้าท้องราบเรียบช้าๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเธอคนนั้นตรงๆ ไม่รู้ว่าท้องกับเสี่ยจริงหรือเปล่า
“คุณมาสายรอบที่ห้า รู้ใช่ไหมว่าหมายถึงอะไร” มารวียิ้มเยาะ ลูบท้องตัวเองเบาๆ เหมือนต้องการสื่ออะไรบางอย่าง เมื่อเห็นสายตาที่ก้มลงท้องของตัวเอง
“ค่ะ ต่อไปดิฉันจะมาเร็วขึ้น”
มาสายเกินห้าครั้งจะถูกพักงาน และมีผลเรื่องการบรรจุ เธอรู้ดี อารยาพูดจบก็หมุนตัวเดินหนีไปนั่งรวมกับเพื่อนร่วมงาน เธอไม่ใช่หัวหน้าหรอก สิ่งที่สามีรู้อาจจะเป็นอย่างนั้น แต่ความจริงมันไม่ใช่ เธอเป็นแค่พนักงานธรรมดาในบริษัทต่างหาก
“ก็ดี จำใส่หัวไว้ ว่าถ้ามาสายอีกทีถูกไล่ออกแน่” มารวีพูดไล่หลังอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะเห็นเต็มสองตาว่าวันนี้อารยามาทำงานกับใคร ผู้ชายคนนั้นต้องเป็นของเธอ สงสัยวิธีที่ใช้อยู่ตอนนี้ คงจะไม่ได้ผลเท่าไหร่ คงต้องงัดไม้ตายเด็ดมาใช้ซะแล้ว
อารยามองตามหลังคนที่ชื่อมารวีไปจนลับสายตา มารวีหรือมารราวีชีวิตเธอก็ไม่รู้ ตั้งแต่ถูกเสี่ยขุนฝากเข้ามาทำงาน เธอก็ถูกยัยมารกับหัวหน้าฝ่ายบุคคลที่เป็นญาติกันกลั่นแกล้งมาตลอด ไม่ได้ทำงานในตำแหน่งที่เสี่ยมอบให้ยังไม่พอ แต่ละวันยังถูกเล่นงานจนหัวหมุน แต่ละวันงานยุ่งแทบไม่ต่างกับเจ้าของบริษัท
“วันนี้มากับเสี่ยเหรอ”
มุจรินทร์ หรือพี่มุกเป็นเพียงคนเดียวในที่แห่งนี้ที่อารยารู้สึกได้ว่าหวังดีกับเธอ ที่เหลือก็ร่วมหัวกันแกล้งเธอ หรือไม่ก็ไม่สนอกสนใจอะไรในชีวิตเธอเลย
“ค่ะ” อารยาไม่เคยบอกใครว่าเป็นเมียแต่งของเสี่ยขุน แต่กลับมุจรินทร์ เธอกลับพูดทุกอย่างได้อย่างตรงไปตรงมา และกล้าบอกว่าเป็นภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกับเสี่ยด้วย
“ทำไมไม่บอกคนอื่นๆ ไปเลยว่าเป็นภรรยาเสี่ย” มุจรินทร์ถามอย่างไม่เข้าใจ ใครๆ ต่างก็อยากแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเสี่ยทั่งนั้น โดยเฉพาะมารวีที่ป่าวประกาศทั่วบริษัทว่าตอนนี้เธอเป็นที่รักของเสีย แต่อารยากลับนิ่งเงียบ ทั้งๆ ที่เป็นเมียตัวจริง
“ไอซ์ไม่อยากถูกมองว่าใช้เส้นค่ะ อยากทำงานที่นี่ด้วยความสามารถของตัวเอง” อารยายกไอแพดประจำตัวขึ้นมาเริ่มร่างแบบ
เธอทำงานเป็นอินทีเรียของบริษัทรับเหมาและตกแต่งภายในแห่งนี้ เจ้าของจริงๆ เป็นใครทำไมเธอจะไม่รู้ แต่ไม่อยากพูดอะไร เพราะไม่อยากรู้สึกอึดอัดใจกับเพื่อนร่วมงาน แม้ทุกวันนี้มาทำงานเหมือนมาให้คนอื่นแกล้งก็ตามที แต่ไม่อยากบ่นอะไรมาก เธออยากได้ใบรับรองจากที่นี่ เมื่อครบหนึ่งปีเต็ม เธอจะใช้ใบรับรองนั่น ยื่นทำงานกับบริษัทในกรุงเทพที่มาทาบทาม เดินออกจากเส้นทางของภรรยาเสี่ย ด้วยความสามารถของตัวเอง
“เห้อ! เหมือนทุกวันนี้ได้ทำงานอย่างที่อยากทำงั้นแหละ” มุจรินทร์ทำงานของตัวเองบ้าง เมื่อท่าทางของอารยาทำให้ไม่กล้าออกความเห็นต่อ สงสารแต่จะทำอะไรได้ ในเมื่อเจ้าตัวยอมเอง ทั้งๆ ที่ตัวเองมีอำนาจอยู่ในมือ กลับยอมให้คนอื่นรังแกง่ายๆ เป็นผู้หญิงที่แปลกนัก
ตุบ!
เอกสารเล่มหนาถูกวางลงบนโต๊ะของอารยาแรงๆ ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองเพียงครู่ รอฟังเงียบๆ ว่าคนที่โยนงานของเธอลงมาด้วยท่าทางไม่พอใจ ต้องการอะไรกันแน่
“ลูกค้าอยากเปลี่ยนแบบทั้งหมด” มารวีไม่ได้ทำหน้าที่นี้โดยตรง แต่เสนอตัวเองรับหน้าที่นั้นมา เพราะอยากทำให้อารยารู้ตัวสักที ว่าไม่ควรมาสู้กับเธอ
“ค่ะ ดิฉันกำลังทำ”
“ลูกค้าจะเอาเดี๋ยวนี้”
“ค่ะ ดิฉันคุยแล้ว ลูกค้าจะเอาเดี๋ยวนี้ก็จริงค่ะ แต่เป็นแบบเดิมที่เขาเผลอทำไฟล์หาย ส่วนงานใหม่ที่ลูกค้าส่งมาเร่ง กำหนดอาทิตย์หน้าค่ะ”
อารยาตอบกลับด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย ไม่รู้จะทนไปทำไมกัน แต่การฟาดฟันเพราะสาเหตุมาจากเรื่องผู้ชาย เธอไม่เห็นประโยชน์อะไรจากการทำแบบนั้น บางอย่างยอมได้ก็ยอม ยอมไม่ได้เธอก็ต้องสู้กลับบ้าง ไม่เคยคิดว่าจะยอมอยู่ตลอดซะทีไหน
“ทำเป็นรู้ดี ถ้ารู้ดีขนาดนั้น ทำไมลูกค้าถึงโทรมาด่าคนในแผนกนั้นให้วุ่น”
“ก็เพราะพวกคุณพยายามเสนองานคนอื่น ทั้งๆ ที่เขาบอกว่าจะให้ฉันออกแบบให้ไม่ใช่เหรอ แล้วก็อีกอย่างนะคะคุณมาร์ นั่นไม่ใช่หน้าที่คุณ ฉันว่าคุณกลับไปทำเงินเดือนพนักงานดีกว่าไหมคะ จะสิ้นเดือนแล้วด้วย การช่วยงานคนอื่นมันก็ดีนะคะ แต่ช่วยจนลืมหน้าที่ตัวเองมันก็ไม่ควร”
ใบหน้าสวยก้มลงทำงานตัวเองต่อเงียบๆ ปล่อยให้สายตามาดร้ายทิ่มแทงตัวเองอยู่อย่างนั้น ไม่รู้มารวีเป็นอะไรกับเธอนักหนา ตั้งแต่เริ่มทำงานมาไม่มีสักครั้งที่จะไม่ถูกทำแบบนี้ สรรหาสารพัดเรื่องมาราวี เป็นผู้หญิงที่เหมาะกับชื่อตัวเองจริงๆ
แต่ก็พอรู้หรอกนะ ว่าเพราะอะไร เพราะว่าเธอได้ตำแหน่งภรรยาของเสี่ยขุนที่มารวีหมายมั่นว่าจะได้มาครองละมั้ง เธอคนนั้นถึงไม่พอใจ
“ก็ทำได้นี่นา” มุจรินทร์ยกนิ้วโป้งให้ ถูกใจการตอบกลับนิ่มๆ ของอารยามาตลอด แม้อารยาจะไม่เคยโต้เถียงเหมือนที่มารวีชอบทำ แต่ก็ไม่ค่อยยอมให้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายดียว ถ้าผิดอารยาจะก้มหน้ารับ แต่ถ้าไม่ผิดเธอไม่เคยลังเลที่จะเงยหน้าสู้กลับ เป็นผู้หญิงที่รู้จักอ่อนและแข็ง จนกลายเป็นเสน่ห์
“ตัวสั่นแล้วค่ะ มือสั่นด้วย”
อารยายื่นมือสั่นเทาไปให้มุจรินทร์ดู มุจรินทร์จึงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี บางทีเด็กคนนี้ก็สู้ชีวิตเหลือเกิน ขนาดโดนแกล้งสารพัดก็ยังไม่หนี แถมไม่ขี้ฟ้องอีก ถ้าเป็นคนอื่นคงวิ่งโร่ๆ ไปฟ้องเสี่ยแน่ๆ โดยเฉพาะยัยมาราวีนั่น ปานนี้คงกำลังฟ้องทางนั้นอยู่แน่ๆ