บทนำ
สิบเก้าปีก่อน...
ซ่า...
เปรี้ยง...ครื้นนน…
ความหนาแน่นของเม็ดฝนที่ตกกระทบกับพื้นทำให้เสียงดังกึกก้องผสานกับเสียงคำรามของฟากฟ้าที่ดังอยู่เป็นระยะพร้อมกับสาดแสงสว่างวาบไปทั่วทั้งท้องฟ้ายิ่งทำให้บรรยากาศในช่วงหัวค่ำมืดครึ้มกว่าปกติและดูน่ากลัว ไร้ซึ่งผู้คนและรถยนต์ที่จะขับผ่านบริเวณนี้ ทำให้คฤหาสน์หลังโตตั้งอยู่บนพื้นที่อันกว้างใหญ่โดดเด่นอยู่เพียงหลังเดียว ด้วยที่บริเวณนี้ยังไม่มีบ้านคนมากนักทำให้พื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยป่าไม้ ตอนกลางวันดูร่มรื่นและสัมผัสกับธรรมชาติแบบเต็มปอดแต่ในตอนกลางคืนกลับน่ากลัวจนไม่มีใครกล้าขับเข้ามาในซอยนี้ ต่อให้จะอยู่ในเมืองกรุงแต่พื้นที่ผืนนี้ยังคงห่างไกลความเจริญ
ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่วันนี้ดูคึกคักกว่าทุกวัน ต่อให้ข้างนอกฝนจะตกฟ้าจะร้องหนักขนาดไหนก็ไม่รบกวนคนที่อยู่ข้างใน ต่อให้จะเป็นครอบครัวขนาดเล็กมีเพียงสามคนพ่อแม่ลูก ไม่รวมคนสวนและแม่บ้าน แต่ไม่ทำให้บ้านหลังนี้เงียบเหงา ความใหญ่ของคฤหาสน์ไม่เป็นอุปสรรคกับการใช้ชีวิตกับครอบครัวนี้ เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสุข
"สุขสันต์วันเกิดนะครับคนเก่งของแม่" จันทราพูดกับลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียวด้วยรอยยิ้ม
"สุขสันต์วันเกิดคนเก่ง อายุครบสิบขวบแล้ว" สุริยายกแขนพาดบ่าลูกชายตัวน้อยตามประสาลูกผู้ชายคุยกัน ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มเมื่ออยู่ต่อหน้าภรรยาและลูกชายสุดที่รัก
"ขอบคุณครับพ่อ ขอบคุณครับแม่ อาทิตย์มีความสุขมากเลยครับที่ได้อยู่ฉลองวันเกิดกับพ่อและแม่ อาทิตย์คิดว่าวันนี้พ่อจะทำงานกลับดึกจนลืมวันเกิดของอาทิตย์" เด็กหนุ่มตัวน้อยพูดเสียงเจื้อยแจ้ว ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของตัวเองและมีพ่อกับแม่คอยอวยพรวันเกิดให้ในทุกปี
“วันสำคัญของลูกพ่อไม่มีทางลืมแน่นอน”
"คนเก่งโตเป็นแล้วไหนลองตัดเค้กแบ่งให้พ่อกับแม่ แล้วแบ่งพี่ๆที่อยู่ในบ้านด้วยได้ไหมครับ ปีก่อนๆแม่เป็นตัดแบ่งให้ แต่ปีนี้แม่อยากให้อาทิตย์ลองทำด้วยตัวเอง"
"ได้ครับแม่" เด็กหนุ่มคว้ามีดตัดเค้กด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจตัดเค้กแบ่งให้ทุกคนในบ้าน ตัดแบ่งเหมือนที่เห็นผู้เป็นแม่ทำให้ในทุกปี พอโตขึ้นทำให้อาทิตย์อยากทำอะไรด้วยตัวเองไปซะทุกอย่าง
การกระทำของเด็กหนุ่มเรียกรอยยิ้มให้กับทุกคน ได้เห็นพัฒนาการของเด็กหนุ่มยิ่งมีความสุข จากเด็กตัวน้อยในวันนั้นตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว เป็นเด็กดีว่านอนสอนง่ายและไม่เคยเกเร เปรียบเสมือนของขวัญของพ่อกับแม่
"สองชิ้นนี้ของพ่อกับแม่ครับ ที่เหลืออาทิตย์แบ่งเป็นชิ้นเท่าๆกันแบ่งพี่ทุกคน"
"เก่งมากลูกชายของพ่อที่รู้จักแบ่งปัน" สุริยาลูบหัวลูกชายด้วยความเอ็นดูและมองหน้าลูกชายด้วยความรัก
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
เม็ดฝนยังคงโหมกระหน่ำ เสียงฟ้าผ่าฟ้าร้องยังคงดังอยู่ต่อเนื่อง
เปรี้ยง...ครืนน
"อึก" อาทิตย์สะดุ้งโหยงเมื่อเสียงฟ้าร้องดังสนั่นหวั่นไหวจนรับรู้ได้ถึงแรงสั่น
"ไม่เป็นไรคนเก่ง เราอยู่ในบ้านไม่ต้องกลัว" จันทราโผลเข้ากอดลูกชายเพราะรู้ดีว่าลูกชายกลัวเสียงฟ้าแต่พยายามทำให้ตัวเองเข้มแข็ง
"ถ้ากินกันอิ่มแล้ว คุณพาลูกไปนอนกล่อมในห้องนอนเถอะ เปิดเพลงเคล้าเสียงฝนเสียงฟ้าให้ลูก ผมจะเข้าเคลียร์งานในห้องทำงานสักหน่อย" สุริยาพูดกับจันทรา
"ได้ค่ะ คุณอย่าโหมงานหนักนะคะ ฉันอยากให้เรานอนกอดกันสามคน" จันทราบอกสามีเพราะปกติแล้วอาทิตย์จะนอนแยกห้องกับพ่อแม่ แต่วันนี้ฝนตกฟ้าแรงแบบนี้อาทิตย์ไม่มีทางยอมนอนคนเดียวแน่
สุริยาพยักหน้าและเผยรอยยิ้มบางๆ มองภรรยาและลูกชายเดินผ่านหน้าไป มองจนทั้งสองคนเดินขึ้นบันไดแต่สายตาที่มีความสุขกลับแปลเปลี่ยน แต่เมื่อภรรยาหันมองลงมาริมฝีปากหนาได้ระบายยิ้มและโบกมือเชิงให้เข้าห้องไปนอนกับลูก
ใบหน้าคมของสุริยามองไปรอบๆบ้านราวกับสั่งลาครั้งสุดท้าย เท้าแกร่งเดินขึ้นไปยังห้องทำงานของตัวเอง
สองชั่วโมงต่อมา...
ปัง!
"อึก" จันทราสะดุ้งโหยงกับเสียงที่แว่วเข้ามาในหู เธอเผลอหลับไปพร้อมกับลูกชาย และมองไปรอบๆห้องยังไม่เห็นเงาของสามี ฝนด้านนอกได้เบาความรุนแรงลงแล้ว เสียงฟ้าเริ่มเบาลงเช่นกัน ด้วยความเป็นห่วงสามีทำให้จันทราลุกออกจากเตียงไปดูสามีที่บอกว่าจะเคลียร์งาน
ก๊อก ก๊อก...
ไม่นานจันทราได้ยืนอยู่หน้าห้องทำงานและเคาะประตูส่งสัญญาณ แต่คนที่อยู่ข้างในกลับไร้เสียงตอบรับ
"ฉันเข้าไปนะคะ"
แกร่ก
มือเรียวเล็กเปิดห้อง ทันทีที่ประตูอ้าออกทำให้เห็นคนที่นั่งอยู่ข้างใน มือเรียวเล็กที่สั่นเทาปิดปากแน่น นัยส์ตาสั่นระริกและเอ่อล้นด้วยคราบน้ำตาเมื่อเห็นภาพตรงหน้า แข่งขาอ่อนแรงจนล้มฟุบลงไปกองกับพื้น
"คุณสุริยา...ฮื้ออ...ทำแบบนี้ทำไม ฮรืออ" ทันทีที่ได้สติจันทราเรียกชื่อสามีจนสุดเสียงและรีบเข้าไปกอดสามีที่นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น เสียงร้องไห้แทบขาดใจดังกึกก้องไปทั่วห้องทำงาน
ฮรือ..."คุณทำแบบนี้ทำไม ทิ้งฉันกับลูกไปทำไม ฮือออ...ทำไมไม่คุยกันว่ามีปัญหาอะไร ทำไมต้องเก็บความเครียดไว้คนเดียว"
"พ่อครับ...แม่ครับ"
อาทิตย์ที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นแม่ทำให้เดินออกจากห้องนอน และเห็นประตูห้องทำงานของพ่อเปิดอยู่ ทันทีที่เข้ามาเห็นแม่นั่งกอดพ่อร้องไห้ดั่งสายเลือด ในมือของพ่อกำปืนสีดำสนิทไว้ หัวของพ่อมีเลือดสีแดงสดกำลังไหลออกมาจนไหลนองไปเต็มพื้น ทำให้ตัวของแม่เลอะเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด
เด็กหนุ่มช็อคไปกับภาพที่เห็นทั้งที่ยังไม่พ้นคืนวันเกิดตัวเอง แต่เป็นวันที่พ่อฆ่าตัวตาย
"ฮือ...ฮือ พ่อครับ"
จากความสุขแปลเปลี่ยนเป็นความเศร้าเสียใจ จากเสียงหัวเราะแปลเปลี่ยนเป็นเสียงสะอื้นไห้
_______________
คฤหาสน์หลังใหญ่ของคาไลน์
ภายในคฤหาสน์เต็มไปด้วยความสุข วันนี้ลูกสาวคนโตของบ้านในวัยเก้าขวบสอบได้ที่หนึ่งของห้อง และยังได้รางวัลนักเรียนเรียนดีประจำปี ทำให้พ่อกับแม่ได้จัดงานฉลองกันภายในครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ใบหน้าของทุกคนเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ของกินต่างๆมากมายตั้งอยู่บนโต๊ะเพื่อให้ลูกๆได้เลือกสรร
"คนเก่งของม่ามี๊ ม่ามี๊ดีใจที่ลูกสาวคนเก่งสอบได้ที่หนึ่ง และยังเป็นเด็กดีของม่ามี๊กับแด้ดดี๊มาโดยตลอด" วิเวียนกอดลูกสาวด้วยความรักและเอ็นดู
"ลิกซ์ไม่เก่งเหรอครับม่ามี๊ ม่ามี๊รักลิกซ์ไหม" เด็กหนุ่มตัวน้อยวิ่งมาอ้อนขอความรักจากผู้เป็นแม่และทำสีหน้าออดอ้อนราวกับลูกแมว
"ลูกชายคนเล็กของม่ามี๊เก่งเหมือนกันครับ ม่ามี๊รักเอลิกซ์นะครับ"
"อ้อนม่ามี๊กันใหญ่เลยนะเด็กๆ" คาไลน์เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มที่เห็นลูกชายกับลูกสาวกำลังออดอ้อนแม่ โดยเฉพาะเจ้าแสบเอลิกซ์
"แด๊ดดี๊มีของขวัญมาให้คนเก่งของวันนี้ด้วยนะ" คาไลน์ส่งกล่องของขวัญให้กับเอวาลูกสาวคนโต
"ขอบคุณค่ะ" ดวงตากลมโตของเด็กสาวมองกล่องของขวัญตาลุกวาวและเหลือบไปเห็นหน้าน้องชายที่มองกล่องของขวัญเช่นกัน "เอวาแบ่งเอลิกซ์ได้ไหมคะ เอวามีเยอะแล้ว อยากให้น้องค่ะ"
"ไม่เอาหรอก แด๊ดดี๊ซื้อมาให้พี่เอวานะ"
"แต่พี่อยากให้น้องนะ"
"ผมโตแล้วไม่เล่นตุ๊กตาหรอก"
"รู้ได้ไงว่าตุ๊กตา"
"ผู้หญิงชอบเล่นตุ๊กตา"
"ไม่ใช่สักหน่อย ผู้หญิงทุกคนไม่จำเป็นต้องเล่นตุ๊กตา"
"เด็กๆคะ ทะเลาะกันอีกแล้วนะ" วิเวียนส่ายหัวเบาๆ รู้ดีว่าทั้งคู่รักกัน คนพี่ก็อยากให้น้อง ส่วนคนน้องก็ไม่อยากเอาของจากพี่เพราะพ่อซื้อให้ วิเวียนรู้ดีว่าพี่น้องรักกันแค่ไหน แต่แค่เจ้าแสบคนเล็กพูดจาอ่อนหวานกับพี่ไม่เก่งก็เท่านั้น
"เอวาอยากให้น้องนิ่คะม่ามี๊"
"มันเป็นของพี่เอวานะครับม่ามี๊ เอลิกซ์ไม่อยากได้"
"แล้วถ้าพี่เอวาได้ของชิ้นนี้ไป เอลิกซ์จะน้อยใจไหมคะ"
"ไม่น้อยใจครับ เพราะอีกไม่กี่วันก็วันเกิดผมแล้ว ผมรอของขวัญวันเกิดตัวเองดีกว่า แถมยังได้จากอาๆด้วย" เอลิกซ์ยักคิ้วอย่างเหนือกว่าและกอดอกตามประสาเด็ก
"ไอ้แสบ" คาไลน์โยกหัวลูกชายเบาๆด้วยความมันเขี้ยว
การกระทำของเอลิกซ์เรียกรอยยิ้มให้กับทุกคน และดีใจที่พี่น้องไม่น้อยใจกัน
สองชั่วโมงต่อมา...
ฮ่า...ฮ่า..
"ไล่จับพี่ให้ทันสิเอลิกซ์"
"เดี๋ยวลิกซ์จะจับพี่เอวาให้ทันเลยคอยดู"
เสียงเจี๊ยวจ๊าวของสองพี่น้องดังไปทั่วคฤหาสน์หลังใหญ่ เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ทั้งสองคนวิ่งเล่นไล่จับกัน ใบหน้าของเด็กสาวและเด็กหนุ่มเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข
วิเวียนและคาไลน์นั่งกอดกันมองลูกๆวิ่งเล่นด้วยรอยยิ้ม
”วันนี้ฝนตกหนักเลยนะคะ ฟ้าแรงด้วย แต่พอสองแสบได้เล่นกันก็ลืมความกลัวไปเลย”
“นั่นสิ แต่เจ้าเด็กสองคนไม่สนใจฟ้าฝนอะไรเลยจริงๆ ไม่รู้ว่าโตขึ้นจะได้เห็นภาพแบบนี้อีกหรือเปล่า แต่พี่จะดูแลตัวเองและอยู่กับลูกไปนานๆ รอดูวันที่เขาสองคนประสบความสำเร็จ”
แค่ได้เห็นลูกๆส่งเสียงหัวเราะสนุกสนาน บ้านหลังนี้ก็ตลบอบอวลไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม