ตอนที่ 9

1792 Words
แสงแดดสะท้อนผ่านรอยแยกของกระโจมเข้ามาและนั่นก็ทำให้คนที่กำลังหลับใหลอยู่บนเตียงรู้สึกตัวตื่น แองเจลล่าลืมตาขึ้นช้าๆ รอจนม่านตาปรับรับกับเสียงสว่างได้แล้วจึงลุกขึ้นนั่ง หล่อนมองไปรอบๆ กายก็ได้เห็นว่าคนตัวโตนอนเหยียดยาวอยู่บนโต๊ะยาวๆ ที่ถูกปูด้วยพรมหนาสีสดอยู่ข้างกระโจม ความรู้สึกอ่อนหวานที่อัดแน่นอยู่ภายในอกผลักดันให้หญิงสาวก้าวลงจากเตียงและเดินไปทรุดตัวอยู่ข้างๆ กายกำยำ ฟาเดล... หญิงสาวระบายยิ้มบางๆ ออกมา ขณะกวาดตามองไปทั่วไปหน้าหล่อระเบิดเถิดเทิงนั้นอย่างลุ่มหลง ผู้ชายคนนี้หน้าตาดีเหลือเกิน หล่อเหลายิ่งกว่าเทพบุตรบนชั้นฟ้าเสียอีก ดูสิ... ตาแสนคมสีนิลเนื้อดีที่ขนานไปกับแนวคิ้วเข้มสีเดียวกันกับลูกตาคู่นั้นมันทำให้หัวใจของหล่อนหวั่นไหวได้ทุกครั้งที่ได้มอง จมูกก็โด่งเป็นสันพอดิบพอดี ส่วนปากก็... บางเฉียบและเร่าร้อนนักเวลาเขาแนบชิดลงมา แองเจลล่าหน้าแดงก่ำเมื่อความต้องการบางอย่างผลักดันให้หล่อนก้มหน้าต่ำลงไปหาคนตัวโต หล่อนอยากจูบเขา... ใช่ ขโมยจูบตอนหลับนี้แหละ ความกล้าที่ไม่เคยมีมากเท่านี้มาก่อนบงการให้หล่อนก้มต่ำลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดหล่อนก็ได้แตะปากอิ่มของตัวเองกับปากหยักสวยของคนตัวโตที่ยังนอนนิ่งอยู่สมใจ ปากของเขาร้อนผ่าว... ร้อนได้อย่างไม่น่าเชื่อ หญิงสาวคิดอย่างประหลาดใจก่อนจะค่อยๆ ขยับปากของตัวเองช้าๆ บนปากสุดเซ็กซี่นั้น โอ้พระเจ้า ทำไมหล่อนถึงรู้สึกดีได้มากถึงเพียงนี้นะ รู้สึกดีทั้งๆ ที่กำลังขโมยจูบนายบอดี้การ์ดปากเสียอย่างฟาเดลอยู่นี่นะ สาวน้อยหลับตาลงช้าๆ ขยับปากหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ตอนนี้ไอ้ความคิดที่ว่าจะทำแค่เพียงสัมผัสปากของเขาเฉยๆ นั้นกระเด็นออกไปจากหัวเสียแล้ว มันเหลือไว้แค่เพียงความปรารถนาลึกๆ ภายในหัวใจเท่านั้น “อยากมากหรือไง...” เสียงพึมพำแผ่วเบาของคนตัวโตดังแทรกขึ้นมาทันทีเมื่อยามที่หล่อนหยุดครอบครองปากของเขาชั่วอึดใจ แองเจลล่าหน้าแดงก่ำจะดีดตัวออกห่างแต่ก็ช้าไปกว่ามือหนาที่ตวัดรวบร่างของหล่อนเอาไว้เสียก่อน “จะรีบไปไหนเสียล่ะ” “ฉัน... ฉัน...” ความอับอายที่ถูกจับได้มันทำให้หญิงสาวที่เคยปากกล้าพูดไม่ออกเอาซะดื้อๆ หล่อนพยายามฝืนตัวออกแต่คนตัวโตไม่ยอมปล่อย แถมยังพลิกร่างอรชรของหล่อนให้ลงไปนอนอยู่ใต้ร่างอีกต่างหาก “จะ... ทำอะไร...” คนถูกถามแสยะยิ้ม มองหล่อนด้วยสายตาลุกเป็นไฟ “ก็จะช่วยสอนการจูบที่ถูกต้องให้ยังไงล่ะ” แล้วคนพูดก็ก้มหน้าต่ำลงมาหา ตะโบมจูบลงมาอย่างดุดัน หนักหน่วง เร่าร้อน และแน่นอนว่าร้อนแรงราวกับสุมด้วยไฟ ทั้งลิ้นทั้งปากทั้งฝ่ามือของเขาทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม ลิ้นเกี่ยวรัดรึงกวาดหาความหวานอย่างหิวกระหาย ปากก็ดูดเม้มหนักหน่วง ในขณะที่ฝ่ามือก็ลูบไล้ไปทั่วทั้งกายสาว หล่อนไม่เคยเห็นฟาเดลอารมณ์รุนแรงแบบนี้มาก่อนเลย แองเจลล่าคิดอย่างเลื่อนลอยทว่าก็ให้ความร่วมมือด้วยเป็นอย่างดีดีจนสติที่เคยรั้งเอาไว้ของบาร์ซาร์แทบจะหลุดลอยไปเลยทีเดียว “แบบนี้หรอกเขาถึงจะเรียกว่าจูบ...” “ฟาเดล...” ชายหนุ่มที่กำลังจะยุติทุกอย่างต้องสบถออกมาด้วยความเดือดดาลทันทีเมื่อแม่สาวน้อยใต้ร่างตวัดลำแขนเกี่ยวรอบลำคอของเขาเอาไว้แน่น จากนั้นหล่อนก็ยกศีรษะขึ้นและแนบปากอิ่มแสนหวานนั้นกับปากของเขาอีกครั้ง ไม่ไหวแล้ว เขาทนที่จะเก็บไม้เก็บมือกับร่างกายอวบอัดของแองเจลล่าต่อไปไม่ได้อีกแล้ว “แม่มด...” เสียงพึมพำเดือดดาลของเขาดังขึ้นพร้อมๆ กับการแนบชิดลงมาอีกครั้งของคนตัวโต ปากของเขาตะโบมจูบหล่อนอย่างดุเดือดราวกับต้องการลงทัณฑ์ ในขณะที่อ้อมแขนกำยำกอดรัดรอบเอวคอดของหล่อนเอาไว้แน่น แน่นจนหล่อนสัมผัสได้ถึงความปรารถนาที่ใหญ่โตสุดๆ ของเขาที่กลางลำตัว ฟาเดลก็ต้องการหล่อนเหมือนกัน... แองเจลล่าคิดอย่างมีความหวัง พลางตอบสนองรสสัมผัสแสนป่าเถื่อนของชายหนุ่มอย่างเต็มอกเต็มใจ ปากก็ครวญครางออกมาเมื่อยามที่ถูกคนตัวโตงับปลายถันผ่านอาภรณ์อย่างหยอกเย้า “ฟาเดล...” “คุณร้อนมากนะแองจี้” คำพูดของเขาไม่มีอิทธิพลอะไรกับหล่อนอีกต่อไปแล้ว หญิงสาวตั้งมั่นกับตัวเองเอาไว้ว่าจะไม่มีวันปล่อยมือจากฟาเดลอีกแล้ว หากครั้งนี้เขากับหล่อนจบลงด้วยการมีเซ็กซ์ด้วยกัน ด้วยประสบการณ์ของเขาก็จะทำให้เขารู้ว่าหล่อนไม่เคยต้องมือชายคนไหนมาก่อน และนั่นก็จะทำให้หล่อนกลายเป็นที่รักของเขาได้อย่างไม่ยากเย็นเลย แองเจลล่าคิดอย่างมีความสุข และยอมให้ความร่วมมืออย่างดีเมื่อคนตัวโตเปลื้องอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายออกไปจากกาย “สวยมาก...” คำชื่นชมของเขาผลักดันให้หล่อนร้อนมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่านัก แองเจลล่ากอดรัดกายกำยำเอาไว้แน่น มองเขาอย่างสนิทเสน่หา “ฉันต้องการคุณ... ฟาเดล...” “คุณพูดอย่างนี้กับผู้ชายทุกคนหรือเปล่า แองจี้” ไม่รู้ว่าหล่อนเข้าใจผิดไปเองหรือเปล่าแต่น้ำเสียงของเขาที่หล่อนได้ยินนั้นมันเต็มไปด้วยความเดือดดาลเหลือเกิน เหมือนกับว่าเขากำลังโกรธใครอยู่ แล้วเขาโกรธใครล่ะ “ไม่ค่ะ ฉันไม่เคยพูดกับใคร ฉันพูดกับคุณคนแรก” “ต้องให้ผมเชื่อด้วยไหมล่ะ...” รอยยิ้มเหยียดหยันประชดประชันปรากฏบนใบหน้าหล่อลากดินของชายหนุ่มอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะผลุนผลันลุกออกไปจากกายเปลือยเปล่าของหล่อน แองเจลล่าน้ำตาคลอด้วยความอับอาย สายตาของเขาที่มองมานั้นเป็นยิ่งกว่ามีดคมๆ เสียอีก หล่อนมันบ้าไปเองที่ควบคุมความต้องการของหัวใจตัวเองไม่ได้ แล้วไง... แล้วเป็นไงล่ะ ถูกเขาขว้างความดูหมิ่นใส่จนหัวใจแทบจะกระอักออกมาเป็นเลือดแบบนี้ เจ็บพอใจหรือยัง หญิงสาวถามตัวเองลั่นอก ก่อนจะยกมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้งจากนั้นก็ก้มลงคว้าเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมากอดเอาไว้แนบอก “มันจะไม่เกิดขึ้นอีก...” ไม่เคยคิดเลยว่าเสียงของหล่อนจะเบาหวิวได้ถึงเพียงนี้ คนที่ยืนหันหลังให้อยู่หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า ใบหน้าของเขาราบเรียบและเย็นชา ดวงตามืดดำไม่บอกความรู้สึก แล้วนั่นมันก็ทำให้หล่อนไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่าคนตรงหน้ากำลังคิดกำลังรู้สึกอะไรอยู่ แต่สิ่งที่หล่อนพอจะเดาได้ก็คือเขาเกลียดหล่อนมากนั่นเอง “ถ้าคุณทำได้อย่างที่พูดมันจะดีมาก...” น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ไม่ให้ไหลบนแก้มมันย้อนลงไปท่วมท้นหัวอกอย่างไม่ปรานี แองเจลล่าฝืนกลืนก้อนสะอื้นลงไปในลำคอก่อนจะฝืนยิ้มและพูดออกมา “ฉัน... ต้องทำได้... อยู่แล้ว” “ผู้หญิงอย่างคุณไว้ใจได้ที่ไหนกันล่ะ ขนาดจะอภิเษกกับองค์ชายบาร์ซาร์อยู่ร่อมร่อ คุณยังจะลากผมเป็นผัวได้หน้าตาเฉย ทุเรศสิ้นดี...” “ฉันมันคนไร้ยางอาย พอใจหรือไง ถ้าพอใจแล้วก็ออกไปซะ เพราะฉันไม่รับรองหรอกนะว่านายจะปลอดภัยหากอยู่ใกล้ฉันมากๆ แบบตอนนี้ ไปสิ...” แองเจลล่าเค้นเสียงเบาหวิวออกมา เจ็บปวดนักที่ถูกผู้ชายตรงหน้ามองต่ำต้อยถึงเพียงนี้ ทำไม... หล่อนไม่มีหัวใจหรือไง หล่อนรักผู้ชายอื่นที่ไม่ใช่องค์ชายบ้าเลือดนั่นไม่ได้หรือไง ความชอกช้ำทำให้น้ำตาทะลักออกมาอาบแก้มเสียงสะอื้นดังหลุดออกจากปากอิ่มสั่นระริกนั้นเป็นระยะ บาร์ซาร์เห็นแล้วก็หัวใจกระตุก เขายอมรับว่าผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาลืมตัวได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่เขาก็ไม่ควรใจอ่อนกับผู้หญิงสำส่อนอย่างแองเจลล่าไม่ใช่หรือ “ผมจะออกไปข้างนอกสักพัก” “ไม่ต้องมาบอกฉันหรอก จะไปไหนก็ไปเลย ฉันเกลียดนาย” แองเจลล่าตวาดแหวออกไปแล้วก็ก้มหน้าร่ำไห้กับฝ่ามือของตัวเองอย่างไม่สามารถเก็บกักเอาไว้ได้อีก และก็ไม่สนใจด้วยว่าตอนนี้ใครจะอยู่หรือใครจะไป หัวใจของหล่อนกำลังบอบช้ำยับเยินเหลือเกิน และเมื่อมาอยู่นอกกระโจมบาร์ซาร์จึงถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความสับสน น้ำตาของแองเจลล่ามีผลต่อระบบการนึกคิดของเขาอย่างรุนแรง หล่อนทำให้เขาหงุดหงิดได้ทั้งๆ ที่ไม่สมควรเลยสักนิด และหล่อนก็ทำให้เขาร้อนเป็นไฟได้เพียงเพราะจูบเงอะงะนั้นเท่านั้น ชายหนุ่มยกมือขึ้นเสยเส้นผมสีเข้มของตัวเองอย่างรำคาญ ขณะก้าวเท้าออกห่างจากกระโจมที่แองเจลล่าซ่อนตัวอยู่ทีละน้อย ทำไมเขาต้องรู้สึกอึดอัดปวดร้าวแบบนี้นะ ทั้งๆ ที่คิดว่าทุกสิ่งที่ทำลงไปนั้นเพื่อทำให้แองเจลล่าทุกข์ทรมาน แต่คนที่ทำท่าจะได้รับผลกระทบหนักหนาสาหัสที่สุดกลับเป็นเขาไปเสียนี่ “ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ” เสียงของชาวเบดูอินคนอื่นดังขึ้นด้านหลัง บาร์ซาร์หันไปมองก่อนจะเอ่ยเตือนขึ้นเสียงน่าสะพรึงกลัว “ลืมคำสั่งของฉันไปแล้วหรือไง...” “เอ่อ คือกระหม่อม...” คนที่กำลังก้มหน้ากับพื้นทรายอยู่ตัวสั่นเทา “กระหม่อมไม่บังอาจพ่ะย่ะค่ะ” “งั้นก็ไปกำชับทุกคนที่นี่ ห้ามเรียกฉันว่าฝ่าบาทอีก ไม่อย่างนั้นจะได้รับโทษกันถ้วนหน้าแน่นอน” “พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท เอ่อ... ท่านฟาเดล...” แล้วผู้ชายที่คุกเข่าอยู่ก็รีบลนลานจากไปอย่างรวดเร็ว บาร์ซาร์มองตามไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย จากนั้นก็หันกลับไปมองที่กระโจมหลังใหญ่ที่ตัวเองพึ่งจะก้าวออกมาอีกครั้ง “หวังว่าคุณจะไม่ก่อเรื่องอีกนะแองจี้...” ชายหนุ่มพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในกระโจมอีกหลังหนึ่งซึ่งอยู่ถัดออกมาจากกระโจมหลังแรกไม่มากนัก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD