03
คิดไปเอง
“อร่อยไหมคะ?” เอ่ยถามพร้อมทำหน้าอย่างรอคำตอบเมื่อขนมในจานชิ้นแรกเข้าไปในปากของชายหนุ่มรุ่นพี่แต่สีหน้าของเขาที่แสดงออกมาทำให้เธอหน้าจ๋อยทันทีเพราะมันบ่งบอกชัดเจนว่าขนมของเธอรสชาติไม่ได้เรื่อง
“จะเอาไปไหน?” เสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อคนตัวเล็กหยิบจานขนมตรงหน้าขึ้นทำท่าจะเอาไปทิ้ง
“ก็มันไม่อร่อยเอยก็จะเอาไปทิ้งสิคะ”
“พี่บอกเหรอว่ามันไม่อร่อย”
“ก็พี่ทำหน้านิ่งแบบนั้นเอยก็...”
“หึ ขี้งอนจังเลยนะ มันอร่อยมากต่างหาก” มุมปากหนายกยิ้มให้กับท่าทางขี้น้อยใจของเด็กสาวไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีเธอก็ยังคงเป็นเด็กตัวน้อย ๆ ในสายตาเขาอยู่ดี
“พี่แกล้งเอยเหรอ” เอิงเอยทำหน้ามุ่ยเมื่อรู้ว่าถูกคนตรงหน้าแกล้งอีกแล้ว
“ทำหน้ามุ่ยเหมือนเจ้าแตงกวาอีกแล้วนะ”
“นี่พี่ว่าเอย...”
“ใช่ไหมเจ้าแตงกวา” ร่างสูงไม่รอให้เด็กดื้อตรงหน้าเถียง เขาหันไปพูดกับแมวขนปุยสีขาวตัวใหญ่ที่นอนมองอยู่บนโต๊ะ ซึ่งแมวตัวนี้เขาเป็นคนซื้อมาให้เธอเลี้ยงเอาไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาเวลาที่เขาไม่อยู่
“ฮึ่ย!” เอิงเอยสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นด้วยท่าทางงอนเง้ามือหนาจึงดึงแขนเรียวทำให้ร่างเล็กนั่งลงบนหน้าตักก่อนจะกอดเอวเธอไว้หลวม ๆ การกระทำของเขาทำให้หญิงสาวชะงักตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจหัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อได้ชิดใกล้กับคนที่แอบรักมานานหลายปี
“ใจเต้นแรงจังเลยนะ”
“อ๊ะ!” ร่างเล็กสะดุ้งเบา ๆ เมื่อเสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหูลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดที่ใบหูจนเธอขนลุกซู่เพราะไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนแบบนี้มาก่อนและยิ่งเป็นเขาคนที่เธอรักมันยิ่งทำให้เธอตื่นเต้นและทำตัวไม่ถูก
“แมวน้อยของพี่” ตึกตัก! หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งกับประโยคที่หลุดออกมาจากริมฝีปากหนา ยิ่งนับวันความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาไม่เคยที่จะลดน้อยลงเลยมีแต่เพิ่มมากขึ้นจนอยากจะสารภาพให้เขาได้รู้ว่าเธอหลงรักเขามาตั้งแต่เด็ก หลงรักความอ่อนโยนความเอาใจใส่ของเขาที่มีให้เธอเสมอมา
“ถ้าวันหนึ่งเอยบอกอะไรบางอย่างกับพี่ พี่จะรู้สึกเหมือนกันกับเอยไหมคะ?” คำพูดของเธอทำให้คิ้วหนาขมวดชนกันด้วยความงุนงง
“บอกอะไรล่ะ”
“เอาไว้ถึงเวลาที่เอยมั่นใจแล้วเอยจะบอกพี่นะคะ แต่ตอนนี้เอยมีบางอย่างอยากจะถามพี่”
“...”
“พี่มังกรรักเอยไหมคะ?” เอิงเอยตัดสินใจถามออกไปแม้จะรู้สึกกลัวถึงคำตอบที่จะได้กลับมาก็ตาม
“ทำไมถึงถามพี่แบบนี้ มีอะไรหรือเปล่า?”
“เปล่าค่ะ เอยแค่อยากรู้”
“รักสิ พี่ก็รักเราเหมือนกับที่รักเมลบีนั่นแหละก็เราเป็นน้องสาวของพี่ไง”
“...” คำตอบที่ได้กลับมาทำให้ร่างเล็กนิ่งไปหัวใจดวงน้อยที่เคยเต้นตึกตักหยุดลงราวกับหัวใจหยุดเต้นเมื่อเขาเห็นเธอเป็นเพียงแค่น้องสาว ที่ผ่านมาที่ทำดีกับเธออ่อนโยนเอาใจเธอเพียงเพราะเห็นเธอเป็นแค่น้องสาวเท่านั้นเหรอ
ครืด~ ครืด~
ยังไม่ทันมีใครเอ่ยใด ๆ ออกมาเสียงสั่นของโทรศัพท์เครื่องหรูของร่างสูงก็ดังขึ้น
“เดี๋ยวพี่ไปรับโทรศัพท์ก่อนนะ” มือหนาจับร่างน้อยของหญิงสาวลงจากหน้าตักก่อนจะเดินห่างออกไปเพื่อรับโทรศัพท์ทันทีโดยไม่ได้สนใจท่าทีที่เงียบไปของเธอเลย
ดวงตากลมโตมองตามร่างสูงที่เดินออกไปรับโทรศัพท์ใบหน้าคมคายยกยิ้มเมื่อคุยกับปลายสายโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร อาจจะเป็นเพื่อนสนิทหรืออะไรสักอย่างเธอก็ไม่รู้ได้ อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกเหมือนอกหักทั้งที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกับอีกคน ร่างเล็กรีบหันหน้ากลับมาเมื่อมังกรกำลังเดินเข้ามาหลังจากที่ออกไปคุยได้ไม่นาน
“เดี๋ยวพี่กลับก่อนนะ พรุ่งนี้มีเรียนใช่ไหมเดี๋ยวไปมหา'ลัยพร้อมพี่นะ”
“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนที่มือหนาจะยื่นเข้ามายีหัวเบา ๆ แล้วเดินกลับออกไปโดยมีสายตาของเธอมองตามไปจนลับสายตา
วันต่อมา...
“ขอบคุณนะคะที่สละเวลามาส่ง” เอ่ยขอบคุณหลังจากรถเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าคณะที่เธอกำลังศึกษาอยู่ซึ่งคณะเรียนของเธอกับอีกคนอยู่ไกลกันพอควรจึงไม่แปลกมากนักหากทั้งคู่จะไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเวลามาเรียน
“พูดอะไรแบบนั้นล่ะ เราก็น้องสาวพี่นะพี่ไม่ปล่อยให้น้องสาวของพี่ลำบากอยู่แล้ว”
“...” เอิงเอยไม่ตอบอะไรเพียงแค่ส่งยิ้มบาง ๆ ให้กับเขาเท่านั้น
“วันนี้มีเรียนถึงกี่โมง”
“ประมาณสี่โมงเย็นค่ะ”
“ถ้างั้นเดี๋ยวพี่มารับนะ เดี๋ยวกลับพร้อมกัน”
“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะเปิดประตูลงจากรถแล้วมองรถคันหรูที่ขับออกไปจนลับสายตาก่อนจะเดินเข้าไปในตึกเรียน
“พี่มังกรมาส่งเหรอ?” ทันทีที่เดินเข้ามาใต้ตึกเสียงของใบพริกเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอก็ดังขึ้น
“อื้ม” เธอพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปนั่งตรงข้ามกับเพื่อนสาว
“อิจฉาจังมีรุ่นพี่สุดฮอตมารับส่งทุกวันเลยอะ นี่ถ้าพี่มังกรยังไม่มีแฟนนะฉันคิดว่าพี่เขาเป็นแฟนกับเธอแน่” คำพูดของใบพริกทำให้เธอชะงักไปในทันที
“แฟนเหรอ?”
“อ่า...อาจจะยังไม่ใช่แฟนอันนี้ฉันก็ไม่แน่ใจ แต่เธอไม่เห็นข่าวในเพจมหา'ลัยเหรอว่าตอนนี้พี่มังกรกำลังคุย ๆ กันกับพี่น้ำขิงดาวนิเทศอยู่นะ” ใบพริกว่าพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้เอิงเอยดู ดวงตากลมโตอ่านข้อความทางด้านบนพร้อมกับภาพที่ทั้งคู่นั่งทานอาหารด้วยกันด้วยความรู้สึกที่จุกหน่วงก่อนจะปลอบใจตัวเองว่ามันอาจจะไม่ใช่แบบนั้น เพราะมังกรเองก็ไม่เห็นจะเคยพูดถึงแฟนสาวให้เธอฟังถ้าเขามีแฟนแล้วจริง ๆ
“เอย”
“เอิงเอย!” ใบพริกเอ่ยดังขึ้นเมื่อเพื่อนสาวนั่งเหม่อไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเรียกของเธอ
“ฮะ...ว่าไง?”
“เป็นอะไรไปฉันเรียกก็ไม่ขานรับ”
“อ๋อ เปล่า พอดีฉันคิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ”
“ไปเถอะได้เวลาเรียนแล้ว” ทั้งคู่เดินขึ้นไปบนตึกเมื่อได้เวลาเรียนทั้ง ๆ ที่ในตอนนี้ร่างเล็กไม่มีกะจิตกะใจอยากจะเรียนเลยเพราะใจเธอเอาแต่คิดถึงเรื่องของอีกคน
เธอได้แต่ภาวนาให้มันไม่ใช่อย่างที่คิด...