บทนำ (1)

1282 Words
“ยัยขวัญ ยัยขวัญ อยู่ไหนเนี่ย ยัยขวัญ!” เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นในบ้านหลังใหญ่ เมื่อนุชรี คุณหญิงของบ้านนำเสื้อที่เพิ่งจะซื้อมาเมื่อวานลงมาหาตัวต้นเหตุที่เป็นคนทำให้เสื้อผ้ามันมีรอยเลอะ “หายหัวไปไหนเนี่ย ยัยขวัญ!” “ค่ะคุณป้า มาแล้วค่ะ” หลังจากเอ่ยเรียกอยู่นาน ในที่สุดเจ้าของร่างบอบบางก็วิ่งออกมาจากในครัวในสภาพที่เหงื่อไหลชุ่มเพราะยังทำงานบ้านไม่เสร็จ ถึงจะสวมเสื้อผ้าตัวใหญ่โคร่งมอมแมม ทว่าเสื้อผ้าและใบหน้าที่ไร้ซึ่งเครื่องสำอางนั้น กลับปกปิดความสวยของเธอไม่ได้เลยสักนิด “กว่าจะเสด็จมาได้ ฉันเรียกจนปากจะฉีกถึงหูอยู่แล้ว หายหัวไปไหนมาย๊ะ” “เอ่อ...หนูช่วยป้าบุปผาทำครัวอยู่ค่ะ คุณป้าเรียกหนูมีอะไรหรือเปล่าคะ” “แหกตาดูนี่สิ เมื่อวานแกเป็นคนเอาเสื้อผ้าฉันไปซักใช่ไหม แล้วทำไมมันถึงมีรอยเปื้อนแบบนี้” นุชรีตวาดกร้าว ปาเสื้อที่ถืออยู่ในมือใส่ใบหน้านั้นด้วยความโกรธเกรี้ยว “หนูขอโทษค่ะ เมื่อวานฝนตก สงสัยจะเลอะตอนที่หนูเก็บ หนูขอโทษ...” “แกรู้ไหมว่าเสื้อผ้าพวกนี้ราคาเท่าไหร่ แกจะรับผิดชอบยังไง” คนสูงวัยกว่าสวนกลับทั้งที่อีกฝ่ายยังพูดไม่ทันจบ “ราคามันคงจะแพงมาก หนูไม่มีปัญญารับผิดชอบหรอกค่ะ” “ไม่มีปัญญารับผิดชอบทีหลังแกก็หัดระวังบ้างสิ” นิ้วเรียวจรดลงบนหน้าผากกลมกลึงก่อนจะออกแรงดันศีรษะจนคนตัวเล็กล้มลงหงายหลัง ทำให้เธอต้องรีบกระพุ่มมือไหว้ด้วยความรู้สึกผิด “หนูขอโทษจริง ๆ ค่ะคุณป้า หนูไม่ได้ตั้งใจ...” “ฉันล่ะเกลียดขี้หน้าแกจริง ๆ เลย” นุชรีอดไม่ได้ที่จะจิกเรือนผมสีดำขลับของหญิงสาวขึ้นมาแล้วฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้านั้นเต็มแรงอย่างสาแก่ใจ แต่ถึงกระนั้น มือเรียวก็ยังไม่ยอมปล่อยจากเรือนผมของเธอ “ทำไมนะ ทำไมแกถึงไม่ตายตามแม่แกไปสักที จะอยู่เป็นเสี้ยนหนามตำใจฉันไปถึงไหน” “อะไรกันคุณ เสียงดังเอะอะโวยวาย ไม่อายชาวบ้านชาวช่องเขาบ้างหรือไง” เสียงทรงอำนาจตวาดกร้าวพร้อมกับเจ้าตัวที่เข้ามาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าของคนตัวเล็ก ทำให้นุชรีต้องปล่อยมือจากเรือนผมของอีกฝ่าย “นี่ใช้กำลังกันอีกแล้วสินะ” ภูริต นักธุรกิจหนุ่มวัยห้าสิบต้น ๆ ตำหนิภรรยาแต่ถึงกระนั้นเขากลับไม่สนใจจะหันไปมองหน้าคนถูกกระทำเลยแม้แต่น้อย “ปกป้องมันจังเลยนะคะ ยังคิดถึงอีนังเมียน้อยอยู่สิท่า” “ผมก็ต้องปกป้องอยู่แล้ว ถึงเพลงขวัญจะเป็นลูกเมียน้อยอย่างที่คุณตราหน้า แต่เธอก็ยังเป็นลูกสาวของผมอยู่นะ” คำว่าลูกสาวที่ได้ยินจากปากผู้เป็นพ่อ ทำให้เพลงขวัญ สาวน้อยที่อาศัยอยู่ในบ้านเยี่ยงคนใช้แอบคลี่ยิ้มออกมาจาง ๆ จ้องมองเท้าของภูริตด้วยความรู้สึกปริ่มเล็ก ๆ ในหัวใจ “ลูกที่คุณไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดมางั้นเหรอคะ ถามจริง ๆ เถอะ ตอนนี้คุณแม่ก็ไม่อยู่แล้ว คุณจะรับเลี้ยงดูมันอีกทำไม” “ผมก็บอกคุณแล้วไงว่าที่ผมส่งเสียให้เพลงขวัญเขาเรียนจนจบปริญญาตรีเพราะว่าผมต้องการให้เธอมาช่วยดูแลงานที่บริษัทน่ะ” เขาให้เหตุผล “เหอะ อยากให้อยู่ก็อยู่ไป แต่บอกเอาไว้เลยว่าฉันไม่มีทางยอมรับมันแน่ แล้วอีกอย่าง อย่าให้มันมาล้ำเส้นยัยพิมพ์ก็แล้วกัน” “เรื่องนั้นผมรู้อยู่แล้ว คุณไม่ต้องย้ำหรอก” พอพูดจบภูริตก็ก้มลงหยิบเสื้อผ้าที่ภรรยาปาทิ้งลงพื้นส่งคืนมาให้เจ้าของก่อนจะหันไปบอกคนตัวเล็กที่ยังก้มหน้านิ่ง “ขวัญมีอะไรทำก็ไปทำเถอะ” “ค่ะ...” หญิงสาวรีบรับคำแล้วเดินจากไป อันที่จริงเธออยากจะเรียกเขาว่าพ่อลงท้ายด้วยแต่ก็ทำไม่ได้เพราะภูริตเน้นย้ำเอาไว้ว่าเธออยู่ที่นี่ได้ในฐานะคนใช้เท่านั้น แม้แต่นามสกุลเขาก็ไม่อาจจะให้เธอใช้ได้ “ตายแล้วขวัญ นี่โดนตบอีกแล้วเหรอ” บุปผา แม่บ้านวัยกลางคนเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นคนตัวเล็กกลับเข้ามาในครัวพร้อมกับรอยช้ำบนใบหน้าทำให้เธอต้องรีบยกมือขึ้นปิดไว้ทันที “นิดหน่อยเองค่ะป้า” “ใช่ นิดหน่อย ปัญหาน่ะแค่นิดหน่อยถึงกับลงไม้ลงมือกันเลยเหรอเนี่ย” คนสูงวัยกว่าส่ายหน้าอย่างเอือมระอาเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพลงขวัญถูกทำร้ายร่างกาย “เจ็บมากไหม ไปพักก่อนเถอะ เดี๋ยวป้าทำเอง” “ไม่เป็นไรค่ะป้า หนูทำได้” “อะไรกัน โดนตบแค่นิดเดียวถึงกับต้องให้พักเลยเหรอ นี่ป้าทำตัวเป็นเจ้านายตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่าลืมสิว่าคนจ่ายเงินเดือนคือฉัน” เสียงแหลมเล็กดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้เพลงขวัญต้องรีบหยิบตะกร้าผักที่หั่นทิ้งไว้เดินอ้อมไปนั่งหลบที่หลังบ้าน ส่วนบุปผาเองก็ต้องก้มหน้าทำอาหารต่อไป ไม่กล้าที่จะตอบโต้อะไรเหมือนกัน ดวงตาคู่สวยมีน้ำหยดใสไหลรื้นออกมาอีกครั้งในขณะที่กำลังนั่งหั่นผักเพื่อเตรียมอาหาร เพราะเธอเกิดมาอาภัพมีแม่เป็นคนรับใช้ที่แอบมีความสัมพันธ์กับภูริตจนตั้งท้อง หลังจากคลอดเธอออกมาลืมตาดูโลก ผู้เป็นแม่ก็ตายจากไปเพราะอาการตกเลือดอย่างหนัก เนื่องจากนุชรีไม่ยอมพาส่งโรงพยาบาลในตอนที่เจ็บท้องจะคลอดปล่อยให้ผู้เป็นแม่ต้องคลอดเธออย่างน่าอนาถในบ้านหลังใหญ่เพียงลำพัง กว่าภูริตจะกลับมาเห็นมันก็สายไปเสียแล้ว ถึงนุชรีจะไม่ยอมรับแต่ก็นับว่าโชคยังดีที่คุณหญิงสมฤทัย ผู้เป็นย่าเกิดเมตตาและสงสารเลยรับเลี้ยงเธอไว้ ให้บุปผาเป็นคนช่วยดูแล เมื่อเติบโตมาเธอจึงรู้ว่าภูริตคือพ่อแท้ ๆ แต่ก็ไม่อาจจะเอ่ยปากเรียกได้เพราะสมฤทัยไม่อยากให้ใครรู้ว่าลูกชายมีความสัมพันธ์กับคนรับใช้จนท้อง เพลงขวัญ จึงต้องโตมาอย่างโดดเดี่ยวจนอายุยี่สิบสองปี ผู้เป็นย่าก็ตายจากไปอีกคน เธอจึงต้องเผชิญหน้ากับนุชรีและพี่สาวต่างแม่อย่างพิมพ์พลอยที่เกลียดเธอเข้าไส้แต่เพียงลำพัง อีกไม่กี่วัน พิมพ์พลอยที่ถูกส่งไปเรียนต่อต่างประเทศก็กำลังจะกลับมาแล้ว ถึงตอนนั้นเธอเองก็รู้ดีว่าชีวิตของเธอคงไม่มีทางเป็นสุขเพราะถูกพี่สาวกับแม่เลี้ยงรังแกมาตั้งแต่เด็ก โดยที่ผู้เป็นพ่อเองก็ไม่เคยช่วยอะไรได้เลย บ่อยครั้งที่เธออยากจะหนีออกไปจากบ้านหลังนี้ แต่ก็นึกเห็นใจภูริตที่อุตส่าห์ส่งเสียเลี้ยงดูจนจบปริญญาตรี เธอจึงก้มหน้ารับชะตากรรมเพื่อรอวันที่จะเข้าไปช่วยงานในโรงแรมที่เป็นธุรกิจหลักของครอบครัวเป็นการตอบแทนพระคุณโดยที่เธอเองก็ไม่รู้เลยว่ามันจะไปสิ้นสุดตอนไหน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD