วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ฉันมีนัดถ่ายแบบให้เจ้แบมซึ่งสถานที่ถ่ายทำของพวกเราคือสตูดิโอขนาดใหญ่แห่งหนึ่งใจกลางเมืองฉันมองดูทีมงานและพวกรุ่นพี่ในกลุ่มเดียวกันกับเจ้แบมกำลังวุ่นวายกับการเตรียมงาน
ส่วนนางแบบอย่างฉันก็โดนทีมงานพาไปแต่งตัวและแต่งหน้าเพราะรู้อยู่แล้วฉันเลยไม่ได้แต่งหน้ามาเพราะยังไงก็ต้องลบและแต่งใหม่อยู่ดี
“ผิวหน้าดีมากเลยคุณน้อง”
“ชมขนาดนี้ ตัวลอยแล้วค่ะ”
“ลอยไปเลยค่ะลูกเรามันนางฟ้า”
“โอ๊ย ชมกันไม่หยุดเมื่อไหร่จะแต่งเสร็จคะ”เจ้ลี่เพื่อนในกลุ่มเดียวกับเจ้แบมเดินแซวเข้ามาในห้องแต่งตัว
“พึ่งเริ่มยะ!”พี่ช่างแต่งหน้าจีบปากจีบคอตอบเจ้ลี่
“รีบแต่งเลยนายแบบกำลังจะมา”
“มาแล้วยังไงก็ต้องรอก่อน แต่ถ้าหล่อก็แซงคิวได้”
“อ้าวทำไมสองมาตรฐานแบบนี้ละคะ”
“คุณน้องผู้ชายหล่อมาก่อนเสมอค่ะ” พี่ช่างแต่งหน้าหัวเราะกรุ้มกริ่ม ส่วนเจ้ลี่ก็เดินเข้าไปหาชุดออกมาเตรียมให้ฉัน
การถ่ายแบบแนวโรแมนติกฉากส่วนใหญ่จะอยู่บนเตียงตอนแรกก็เตรียมใจมาแล้วว่าต้องใส่ชุดนอนแต่เปล่าเลยชุดที่เจ้ลี่เตรียมไว้คือ เดรสเกาะอกสีแดงสดดูสวยและเซ็กซี่ดีฉันเอื้อมมือขึ้นไปขย้ำผมลอนแน่นของตัวเองให้ดูยุ่งและดูธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
ร่างบางหมุนตัวไปมาหน้ากระจกเพื่อสำรวจความเรียบร้อยถึงจะเป็นแค่งานโปรเจคของรุ่นพี่แต่ฉันก็ตั้งมั่นว่าจะทำให้เต็มที่เพื่อค่าเหล้าบาร์โฮสยังไงล่ะ
ล้อเล่นนนนน เพื่อเกรดเอเจ้แบมต่างหาก!
ฉันกำลังจะเดินออกจากห้องแต่งตัวไม่วายหยิบต่างหูเล็กๆ ขึ้นมาใส่ทำให้ดูมีอะไรมากขึ้นฉันมองดูฉากที่ถูกจัดขึ้นมาให้ดูเหมือนห้องนอนและตรงกลางมีเตียงนอนขนาดใหญ่พร้อมดอกกุหลาบบนเตียงดูแล้วคล้ายห้องนอนงานแต่งงานยังไงก็ไม่รู้
“สวยจังเลยลูกสาว”
“สวยเหมือนคุณแม่” เดินออกมาห้องแต่งตัวไม่ทันไรพี่รหัสสาวสวยของฉันก็เดินยิ้มจีบปากจีบคอเข้ามาหาปกติเจ้แบมจะแต่งตัวแต่งหน้าจัดเต็มเหมือนไปเที่ยวผับ แต่ดูจากวันนี้เชื่อแล้วว่างานหนักจริง
“ปากหวานนะย่ะ แต่สภาพฉันวันนี้มันไม่ได้เลย”
“โอ๊ยไม่เป็นไรหรอกให้ฉันสวยกว่าเจ้สักวัน”
“วันอื่นค่อยสวยวันนี้ฉันเซ็งงานยุ่งจนไม่ได้แต่งหน้าแต่งตัวแล้วได้ข่าวว่าอีนะมันหานายแบบมาหล่อมาก”
“ใครหรอเจ้นายแบบ”
เธอถามพี่รหัสด้วยความสงสัย ถ้าจะพูดถึงความหล่อมหาลัยเธอคนหล่อคนสวยเยอะดังนั้นจะหาคนหล่อมาถ่ายแบบคงไม่แปลกแต่ถ้าหล่อมาก
อยู่ดีๆ ก็นึกถึงหนุ่มฮอตของมหาลัยขึ้นมาแต่ฉันก็ต้องตัดออกไปหนุ่มฮอตของมหาลัยเขาไม่มาทำอะไรแบบนี้หรอกโดยเฉพาะแก๊งหนุ่มฮอตวิศวะน่ะพวกเขาหาตัวจับยากจะตาย
“กรี๊ดดดด”
“ฮือ หล่อมากจะวูบ”
“แกฉันฝันรึเปล่า ตบหน้าปลุกที”
“เขามาทำอะไรที่นี่”
เสียงกรี๊ดดังขึ้นแถวหน้าสตูดิโอทำให้ฉันหยุดบทสนทนาเอาไว้พวกเราหันไปมองทางหน้าสตูดิโอโดยพร้อมเพรียงกันถ้าให้เดาฉันว่าคงจะเป็นนายแบบที่เพื่อนเจ้แกหามาแน่เลย
“อ๊ะ นั่นมัน..” น้ำเสียงดีใจปนตกใจของเจ้แบมเรียกสายตาให้ฉันหันไปมองจากตอนแรกจะเลิกสนใจแล้ว
การปรากฏตัวของเขาทำให้ทั้งกองแตกตื่นมากเพราะทีมงานในวันนี้ก็เป็นนักศึกษาของมหาลัยแอลทั้งนั้นเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาทำให้หลายคนเบิกตากว้างด้วยความตกใจและดีใจ
“เจ้แบม หมายความว่ายังไง”
“ฉันก็ไม่รู้”
เจ้แบมตอบเสียงเบาหวิวฉันจ้องมองเพทายที่กำลังเดินตรงมาทางนี้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มนัยน์ตาทรงเสน่ห์ของเขามองตรงมาที่ฉันไม่ละสายตาจนใครหลายคนเริ่มสังเกตและซุบซิบกันคิ้วของฉันกระตุกทันทีเหมือนมีลางสังหรณ์
ไอ้บ้าเพทาย..กำลังหางานให้ฉัน
“พี่เพทายมาแล้วหรอคะ”
แต่เสียงหวานของใครบางคนก็ดังขึ้นด้านหลังเขาทำให้ทุกคนหันไปมองเธอคนนั้นรวมทั้งฉันด้วย เด็กสาวคนนั้นใส่เสื้อแบบทีมงานคงจะเป็นเด็กในคณะของฉัน
“อืม” เสียงทุ้มตอบรับแต่สายตายังมองตรงมาที่ร่างบางในชุดเดรสสีแดงสด
“เจ้นะ นี่ไงนายแบบมาแล้วค่ะ”
“ห๊า” ทุกคนเบิกตากว้าง
“พี่เพทายจะมาเป็นนายแบบให้เราค่ะ” พราวมุกฉีกยิ้มอย่างดีใจทำให้ใบหน้าธรรมดาดูน่ารักมากยิ่งขึ้น
“ต๊าย แกทำยังไงถึงได้หนุ่มฮอตมาถ่ายแบบให้เนี่ยแล้วฉันจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายเขา” นะรุ่นพี่หนึ่งในกลุ่มเพื่อนเดียวกันกับแบมบี้พูดอย่างวิตกจริงๆ ก็เตรียมค่าเสียเวลาให้นายแบบไว้แล้วแต่เหมือนมีการเปลี่ยนตัวกะทันหันเธอที่กำลังหาคนอยู่ได้แต่กลุ้มใจพราวมุกเด็กปีหนึ่งสายรหัสของเธอก็เสนอว่าจะช่วยส่วนเธอเมื่อน้องในสายรหัสรับปากเลยไม่ได้ใส่ใจถามเลยว่านายแบบคือใคร
“ไม่เป็นไรหรอกฉันเสนอตัวมาเองไม่ต้องจ่ายค่าเสียเวลานี่จะเริ่มกันเลยไหม”
เพทายยกยิ้มทำให้หลายคนตาพร่ามัวไปกับเสน่ห์ของคนตรงหน้า ก็ไม่ใช่ว่าใครจะมีเสน่ห์เหลือร้ายได้แบบเขาเมษายืนมองสถานการณ์ตรงหน้าก่อนจะกลอกตาอย่างเหนื่อยหน่ายทำไมทุกคนต้องเว่อร์ด้วยก็แค่คนเจ้าชู้ที่กำลังโปรยเสน่ห์เรี่ยราดเท่านั้น
“จะเริ่มกันได้รึยังคะ!!” ร่างบางสุดเซ็กซี่ในชุดเดรสสีแดงสดยืนกอดอกพลางหันไปมองตากล้องคนสำคัญซึ่งเธอจำได้ว่าเป็นหนึ่งในรุ่นพี่คณะเดียวกัน
“เอ่อ เริ่มเลยๆ นายแบบต้องเปลี่ยนชุดก่อนไหม”ตากล้องหันไปถามทีมงานก่อนที่หลายคนจะพยักหน้า
“ไม่ต้องหรอก” ร่างสูงเอ่ยเสียงทุ้ม
“เอ๋ ไม่ต้องงั้นหรอ..” แซมตากล้องไม่มั่นใจและกลัวสายตากดดันจากหนุ่มฮอตวิศวะถึงจะรุ่นเดียวกันแต่ใครก็รู้กิตติศัพของพวกนี้ดีว่าไม่ควรจะยุ่งด้วย
“ไม่ใช่ว่าถ่ายแนวโรแมนติกบนเตียงหรอกหรอ”
“อ๊ะ ใช่ค่ะ” พราวมุกรีบตอบอย่างรวดเร็ว
“งั้นก็ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรให้ยุ่งยาก”
เมษาขมวดคิ้วมองเพทายที่พูดเสียงทุ้มแหบใบหน้าหล่อเหลาเผยรอยยิ้มอันตรายจนหลายคนในสตูดิโอเขินอาย..ยกเว้นเธอ!!
เขาจะทำอะไรของเขา
ร่างสูงปรายตามองมาที่เมษาก่อนจะกระตุกยิ้มร้ายเพียงชั่ววูบ ดวงตากลมโตสวยเฉี่ยวของเมษาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเขาปลดกระดุมและกระชากเสื้อเชิ้ตของตัวเองโยนทิ้งลงกับพื้นท่ามกลางสายตาทุกคน
กล้ามเนื้อแน่นเป็นลอนภายใต้เสื้อเชิ้ตปรากฏแก่สายตาจนหลายคนลมหายใจติดขัด ผิวของเขาขาวเนียนละเอียดจนยากจะละสายตาไปได้ เธอไล้สายตามองลำคอแกร่งที่สวมสร้อยไม้กางเขนไว้และเลื่อนต่ำลงมาตรงหน้าอกมีรอยสักรูปหมาป่าดูแปลกตาและน่าหวาดกลัว
ว่ากันว่ารอยสักรูปหมาป่า หมายถึง นักรบผู้รักอิสระไม่ขึ้นตรงกับใครและมันคือนักล่าที่เป็นภัยคุกคามต่อจิตใจ
แต่สำหรับเธอ หมาก็คือหมา จะหมาบ้านหรือหมาป่าก็หอนเหมือนกัน..หึ!
“โอ๊ย ตายๆ ขาวมาก” เจ้แบมก้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างหูของฉัน
“แทนที่จะด่าว่าทำอะไรตามอำเภอใจยังจะมัวแต่อ่านกินผู้ชายอยู่ได้”
“เอ้า!!ลูกสาวแม่เผลอแป๊บเดียวเองอย่าพึ่งวีน”
“นายจะถอดทำไมไม่ทราบ!”ฉันเดินเข้าไปหาร่างสูงก่อนจะปรายตามองเขาไอ้ดูดีมันก็ดูดีแหละแต่เขาจะทำเพื่ออะไร!
“ก็ตามที่ทีมงานต้องการไม่ใช่หรอถอดแบบนี้ดูเข้าถึง..อารมณ์เป็นไหนๆ” เมษาคิ้วกระตุกทันทีเมื่อได้ยินในสิ่งที่เขาตอบ
“หรือเธอเห็นร่างกายของฉันแล้วเกิดอารมณ์ล่ะ”
เพทายเดินเข้ามาใกล้จนเธอแทบกลั้นหายใจ ทั่วทั้งสตูดิโอเงียบกริบเมื่อเห็นปฏิกิริยาของหนุ่มฮอตที่พุ่งเข้าหาสาวสวยของคณะอย่างรวดเร็วแต่เธอกลับไม่มีท่าทางอะไรเลยนอกจากอาการนิ่งสงบ
“ถึงนายจะแก้ผ้าอยู่ตรงหน้า..ฉันก็ไม่ชายตาแลหรอกเลิกเล่นแล้วไปทำงานได้แล้ว!” ร่างบางกระซิบเสียงเบาให้ได้ยินกันสองคนก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีเข้าไปในฉากที่ทางทีมงานเตรียมไว้
“เอ่อ เริ่มเลยนะทุกคน” เจ้แบมได้สติรีบตะโกนบอกทีมงานเพราะสังเกตว่าใบหน้าสวยเฉี่ยวของรุ่นน้องสาวเริ่มไม่สบอารมณ์แล้ว
“ครับ นายแบบเข้าฉากได้เลยครับ…ทั้งสองลงไปบนเตียงนอนเลยนะขอโรแมนติกทางสายตาและท่าทางเล็กน้อยก็พอนะไม่ต้องให้ดูอีโรติก”
ร่างบางกลอกตาเมื่อได้ยินเสียงสั่งการจากผู้กำกับจะมาอีโรติกอะไรล่ะ!!!
เธอเดินมานั่งลงบนเตียงด้วยใจที่ประหม่าแต่ภายนอกยังรักษาสีหน้าและท่าทางได้ดี เมษาหลับตาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อทำสมาธิและเรียกความมั่นใจ
เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นก่อนจะเห็นนัยน์ตาคมกริบทรงเสน่ห์อยู่ตรงหน้าชนิดที่ตาสบตากันเลยทีเดียว
“เฮ้ย!”