"แพทมึงคุยอะไรกับพี่แอลเขาวะมึงด่าอะไรเขาปะเนี่ย"
พอเดินกลับมาตรงที่เพื่อนๆฉันนั่งรอฟังอาการเอลินจากหมออยู่นั้นบีน่าก็ถามฉันขึ้นมาทันทีที่เห็นฉันลากตัวผู้ชายคนนั้นไปคุย
"กูไม่ได้ด่าแค่คุยเรื่องที่เขาต่อยนิกกี้ยับขนาดนี้เท่านั้นเอง"
ฉันบอกมันพลางทำหน้าปกติเหมือนไม่ได้มีอะไรมากมาย
"แต่กูว่ามึงด่าพี่เขาแน่ๆ"
เคนจิพูดขึ้นมาอีกคน
"มึงนี่ก็อีกคนกูบอกว่าแค่คุย ๆ เฉยๆมึงเข้าใจปะ"
"กูว่ามึงกับพี่ชายเอลินดูแปลกๆนะ"
ด่าเคนจิไม่ทันจบไอ้ธามคุณชายน้ำแข็งก็มาพูดจับผิดขึ้นมาอีก
"นี่ก็อีกคนมึงเป็นโคนันรึไงจับผิดกูจังเลยเนี่ย! กูว่าพวกมึงเลิกสนใจกูแล้วไปฟังหมอบอกกอาการเอลินดีกว่าไหมหมอออกจากห้องมาแล้วน่ะ"
หลังจากนั้นพวกฉันก็วิ่งไปฟังอาการเอลินที่หน้าห้องกับครอบครัวเอลินตอนนี้เอลินปลอดภัยแล้วคงจะฟื้นพรุ่งนี้เช้าพวกฉันทุกคนเลยตกลงที่จะอยู่เป็นเพื่อนนิกกี้เฝ้าเอลินที่นี่เพราะไม่มีเรียน อีกอย่างก็คอยกันหมาบ้าที่จ้องจะหาเรื่องนิกกี้อย่างพี่ชายเอลินด้วย
แต่สุดท้ายผลกรรมกลับตกมาที่ฉันเมื่อทุกคนแยกย้ายพากันไปเอาเสื้อผ้าที่คอนโดมันเลยทำให้ตอนนี้เหลือแค่ฉันกับนิกกี้และผู้ชายคนที่ฉันไม่อยากเจอที่สุด
"นิกกี้กูจะลงไปหาอะไรกินมึงเอาไรไหมเดี๋ยวกูซื้อมาให้"
ด้วยความอึดอัดที่หมอนั้นนั่งร่วมแย่งอากาศหายใจกับฉันในห้องพักคนป่วยแถมยังมานั่งมองหน้าฉันอีกฉันเลยต้องหาทางออกไปสูดอากาศข้างนอกเลยว่าจะหาอะไรกินและซื้อมาให้นิกกี้มันด้วยแต่ของหมอนั้นหากินเองก็แล้วกันฉันไม่ถามหรอก
"กูไม่หิวแล้วมึงจะลงไปเองเหรอมันดึกแล้วนะไม่รอพวกนั้นมาก่อนวะ"
"กูหิวตอนนี้นี่มันโรงบาลไม่มีใครทำไรกูหรอกน่า! งั้นกูไปนะเดี๋ยวซื้อไรมาให้"
ฉันบอกมันก่อนที่จะลุกจากโซฟาแล้วหยิบกระเป๋าเตรียมจะออกไป
"แพทตี้!! มึงไม่ชวนพี่แอลไปด้วยละพี่เขาคงยังไม่ได้กินอะไร"
ไอ้เชี้ยนิกมึงไม่ต้องจุดประเด็นก็ได้ป่ะกูจะหนีเขาเนี้ยให้ตายเถอะเพื่อนฉัน
"นั่นสิ!! พี่ก็หิวเหมือนกันงั้นพี่ไปด้วยนะคะ"
นั่นไงฉันยังไม่ทันจะพูดอะไรสาระแหนขึ้นมาเชียวแถมมาพูดคะขาอีก...อี้!!ขนลุก
หมับ!!
"ไปค่ะพี่หิวแล้ว"
"นี่นาย.."
ลื้นกว่าปลาไหลมือไวกว่าปลาหมึกก็หมอนี้แหละอยู่ดีๆมาคว้ามือฉันไปจับแล้วลากออกมาเฉยเลย
"นี่!! ปล่อยฉันได้แล้ว"
ฉันสะบัดมือออกจากเขาแล้วยืนกอดอกทำหน้าไม่พอใจซึ่งตอนนี้เขาลากฉันเข้ามาในลิฟต์เรียบร้อยแล้วด้วย
"คุยกันดีๆได้ไหม"
พอฉันสะบัดมืออกจากเขาได้เขาก็ทำหน้าสลดลงแล้วพูดกับฉัน
"เฮ้อ"
ฉันถอนหายใจทำหน้าเซ็งๆใส่เขาเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้นกับฉันจะมาขอให้ฉันพูดดีๆกับคนที่ใจร้ายกับฉันเนี้ยนะฝันไปเถอะ
"สำหรับคุณอย่าว่าแต่คุยกันเลยแค่ฉันต้องมายืนสูดเอาอากาศหายใจรวมกับคุณฉันก็อยากจะกัดลิ้นตายแล้ว"
พอฉันบอกเขากลับไปแบบนั้นลิฟต์ก็ถึงชั้นล่างพอดีประตูลิฟต์เปิดฉันก็เดินก้าวขาออกมาเลยโดยที่ไม่มองหน้าเขาด้วยซ้ำว่าหน้าเขาจะเป็นยังไงเมื่อโดนฉันตอกกลับแบบนั้น
ตึก ตึก ตึก
เสียงคนก้าวเดินตามหลังฉันมาติดๆคงเป็นใครไปไม่ได้หรอกนอกจากเขานั่นแหละ
"อย่าเดินตามฉันมานะคุณจะไปกินอะไรก็ไปขออย่ามากินที่เดียวกับฉันก็พอถือว่าฉันขอร้องนะอย่าตามมาเพราะฉันจะกินอะไรไม่ลง เข้าใจนะ"
ฉันหยุดเดินแล้วหันไปบอกกับเขาด้วยท่าทางที่จริงจังและแสดงออกถึงความไม่พอใจอีกครั้งเพื่อที่ให้เขาหยุดเดินตามพอเขาได้ยินที่ฉันบอกสายตาเขาก็มองฉันอย่างกับว่าเขารู้สึกอะไรสักอย่าง..หึ!!แต่ช่างเถอะมันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน
1อาทิตย์ผ่านไป
ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ละครับหลังจากวันที่ผมโดนแพทตี้ตอกหน้าวันนั้นวันที่ผมตามเธอลงไปหาอะไรกินที่โรงพยาบาลตอนนี้ยัยเอลิน ออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว
ผมนั่งคิดนอนคิดอยู่หลายวันว่าจะหาทางเข้าใกล้แพทตี้ได้ยังไงโดยที่ไม่ให้ยัยเอลินรู้แต่สุดท้ายผมก็คิดไม่ออกเลยต้องบากหน้ามาให้เอลินช่วยแล้วตอนนี้ผมก็นั่งทำหน้าเครียดอยู่ข้างๆเอลินที่นั่งดูซีรีย์เกาหลีอย่างสบายใจ
"เฮีย!! เป็นไรมากปะเนี่ยเห็นนั่งทำหน้าเครียดอยู่นานละแล้ววันนี้ไม่ไปทำงาน"
ระหว่างที่ผมนั่งคิดหาทางว่าจะเริ่มคุยกับเอลินยังไงมันก็ทักผมขึ้นมาซะก่อน เอาวะเนียนๆเอาเรื่องงานนี่แหละมาอ้าง
"เครียดเรื่องงานอ่ะดิ"
"มีไรหรอ"
"ก็สตูดิโอถ่ายรายการของสถานีเราที่กำลังปรับปรุงอยู่นะสิมีปัญหานิดหน่อยเฮียกลัวมันเสร็จไม่ทันถ่ายรายการที่จะออนแอร์เดือนหน้าสตูดิโอข้างนอกที่เฮียรู้จักก็รับงานไปหมดแล้วไม่มีที่ไหนให้ใช้เลย"
ผมตีหน้าเครียดคุยกับเอลินทำไมผมเอาเรื่องสตูดิโอมาอ้างนะเหรอก็ผมสืบรู้มาว่าแพทตี้มีสตูดิโอของตัวเองที่ใหญ่พอสมควรนะสิผมภาวนาขอให้ยัยเอลินมันจะฉลาดพอที่จะคิดได้ว่าเพื่อนรักมันสามารถช่วยงานของช่องได้ทีเถอะจะได้เข้าล็อกเข้าแผนที่ผมวางไว้
"สตูดิโอเหรอ"
ยัยเอลินพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าคิดผมก็มองมันแบบลุ้นๆว่ามันจะคิดเหมือนผมคิดไหม น้องผมนี่ก็นะของเพื่อนรักตัวเองมีทำไมมันคิดนานจังวะ
"ทำไมเรามีใครที่รู้จักทำสตูดิโอรึไง"
เห็นเอลินคิดนานผมหงุดหงิดเลยช่วยกระตุ้นนิดหน่อย
"รอแปปนะเฮีย"
น้องมันบอกผมแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครสักคน
"มึง! ช่วงนี้สตูดิโอมึงรับงานอะไรไว้ปะพอจะว่างไหม"
"เหรอ! ดีเลยเดี๋ยวกูให้ทีมงานเข้าไปหาที่สตูนะช่องกูมีปัญหาเรื่องสตูดิโอถ่ายทำนิดหน่อยเลยต้องหาสตูข้างนอกมาถ่ายแทนก่อนนะดีนะที่มึงว่างเดี๋ยวกูให้เขาเข้าไปคุยรายละเอียดกับมึงนะโอเคบายๆ"
ผมนั่งฟังยัยเอลินคุยโทรศัพท์ผมขอให้คนปลายสายเป็นคนที่ผมคิดทีเถอะ
"สตูเพื่อนหนูว่างพอดีเฮียให้คนเข้าไปคุยรายละเอียดกับมันเลย"
"เพื่อนคนไหน"
ผมถามเอลินทันทีที่น้องมันบอกแอบลุ้นอยู่ในใจขอให้ใช่ทีเถอะ
"แพทตี้น่ะสตูดิโอมันโอเคเลยเคยรับงานใหญ่มาหลายงานหนูรับประกัน"
ผมเผลอยิ้มออกมาเมื่อได้ยินชื่อของคนที่เอลินบอก
"แล้วเฮียจะติดต่อเพื่อนแกได้ไงแกไม่ให้ข้อมูลอะไรมาสักอย่าง"
"เออเนอะ!! หนูลืมรอแปป"
ยัยเอลินกดยุกๆยิกๆที่โทรศัพท์
ติ้ง!! แล้วเสียงแจ้งเตือนไลน์ของผมก็ดังขึ้น
"หนูส่งเองแหละเบอร์โทรไอดีไลน์แล้วก่อชื่อIGแพทตี้มันน่ะแต่เฮียอย่าแอบจีบเพื่อนหนูนะเพื่อนหนูคนดีเฮียเจ้าชู้ไม่คู่ควรกับมันคุยเรื่องงานก็พอ"
ผมยังไม่ทันกดเข้าไปดูว่าใครส่งอะไรมายัยเอลินก็พูดขึ้นมาซะก่อนแถมยังมาสั่งในเรื่องที่ผมทำไม่ได้อีกห้ามจีบงั้นหรอผมไม่จีบหรอกผมจะง้อต่างหาก
"เยอะละเราเฮียไปทำงานละ"
ผมลุกขึ้นผลักหัวแล้วพูดกับเอลินก่อนที่จะเดินออกไปมุ่งหน้าขับรถไปยังบริษัททันที
"คุณนุดีช่วยจัดการให้ทีมงานติดต่อสตูดิโอนี้ถ่ายรายการGossipแทนสตูดิโอเราทีครับต้องสตูนี้เท่านั้นนะครับแล้วกำชับทีมงานด้วยว่าวันถ่ายวันแรกที่ผมจะเข้าไปดูงานอย่าบอกให้ใครรู้โดยเฉพาะเจ้าของสตูดิโอ"
The Memory Studio
“ทุกอย่างเรียบร้อยค่ะพี่แพททีมงานเขาเริ่มถ่ายแล้วค่ะ”
เสียงเล็กๆน่ารักของน้ำอิงผู้ช่วยคนสวยลูกพี่ลูกน้องของฉันเดินเข้ามารายงานความเรียบร้อยของสถานที่ๆเตรียมไว้ให้ทีมงานของสถานีของเอลินมาถ่ายรายการ ก็อย่างที่บอกฉันทำธุรกิจนี้ตั้งแต่ตอนที่ดรอปเรียนมีสตูดิโอนี้ก่อนที่จะเจอพวกเอลินซะอีก
“โอเคเดี๋ยวพี่จะลงไปดูสักหน่อยก่อนไปเรียน นานๆจะมีช่องยักษ์ใหญ่มาใช้บริการถ่ายรายการGossipดาราซะด้วยแล้วใครเป็นแขกรับเชิญเหรอรู้ป่ะ”
“เห็นว่าวันนี้ดาราที่มาสัมภาษณ์เป็นนางเอกใหม่ของช่องเขานะค่ะเห็นว่ากะจะเปิดตัวนางที่รายการนี้ค่ะ”
ฉันพยักหน้ารับกับคำตอบของน้ำอิงแล้วเดินลงมาดูเขาถ่ายงานกันด้านล่างก่อนที่จะออกไปมหาวิทยาลัยพร้อมกับน้ำอิงเพราะน้ำอิงเรียนที่เดียวกับฉันอยู่ปี1
[เอวาคิดถึงคุณจังค่ะไม่เจอคุณตั้งหลายวัน]
[คุณหายไปไหนมาไม่คิดถึงเอวาเลยหรอคะ]
ฉันกับน้ำอิงเดินผ่านหน้าห้องแต่งตัวชั้นล่างก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากในห้องฉันกับน้ำอิงหันมามองหน้ากันยิ้มๆ
“สงสัยคงโทรศัพท์คุยกับแฟนมั้งคะ”
น้ำอิงกระซิบบอกฉันคงเพราะได้ยินแต่เสียงผู้หญิงฉันเลยยักคิ้วให้น้ำอิงแล้วเดินต่อ
[คิดถึงสิคะแต่ช่วงนี้งานผมยุ่งมากไม่มีเวลาเลยไว้ว่างๆผมจะพาเอวาไปเที่ยวนะคะไม่งอนนะ]
“อุ้ย!! มีเสียงผู้ชายด้วยค่ะเสียงหล่อเชียว”
น้ำอิงกระตุกแขนฉันแล้วกระซิบบอกฉันอีกรอบเมื่อได้ยินเสียงผู้ชายดังออกมาจากห้องนั้นฉันยิ้มแล้วส่ายหัวให้กับความอยากรู้อยากเห็นนี้ของน้ำอิงแต่ว่าเสียงผู้ชายที่ได้ยินมันก็คุ้นๆอยู่นะ
[งั้นเอวาขอมัดจำไว้ก่อนได้ไหมคะ]
เสียงผู้หญิงในห้องพูดขึ้นมาแล้วก็ไร้การตอบโต้จากเสียงผู้ชาย
“เสียงเงียบไปแล้วค่ะเขามัดจำอะไรกันคะพี่แพทหรือว่า.....”
อีกละยัยน้ำอิงนี่นะจุ้นจริงๆแถมทำหน้าทะลึ่งอีกคิดอะไรอยู่ยัยเด็กคนนี้เจ้าหนูจำไมเหลือเกินเชียว
“พอๆเดินไปได้แล้วเป็นเด็กเป็นเล็กคิดทะลึ่งนะเรา”
แกร็ก
“แพท”
“นะ.....นาย”
ยังไม่ทันที่ฉันกับยัยน้ำอิงจะเดินออกจากบริเวณนั้นเสียงประตูห้องแต่งตัวก็เปิดออกมาพร้อมกับร่างสูงที่ฉันคุ้นตาแต่ไม่อยากเจอเท่าไหร่ เหอะให้ตายเถอะตามมาหลอกหลอนฉันไม่พอแถมยังมาทำอะไรบัดสีในสตูดิโอฉันอีก
จะไม่ให้ฉันคิดแบบนี้ได้ไงเมื่อคนที่ออกมาคือพี่แอลออกมาพร้อมรอยลิปสติกสีแดงบางๆที่แก้มแล้วปากเขาก็มีลิปสติกติดมาด้วยปากอมชมพูออกมาเลยและก็มีผู้หญิงสวยเซ็กเอ็กซ์แตกเดินจัดทรงผมตามออกมาด้วยคงไม่ต้องเดาให้เสียเวลาว่าข้างในเกิดอะไรขึ้น