"แพท"
"พี่แอล"
เสียงผมกับแพทตี้ที่เรียกแต่ละฝ่ายด้วยความตกใจอย่าว่าแต่เธอเลยที่ตกใจเมื่อเห็นผมออกจากห้องนั้นมาตัวผมเองก็ตกใจและช็อคไม่แพ้กันกับเธอบางทีตัวผมอาจตกใจมากกว่าเธอด้วยซ้ำเพราะคนที่มีความผิดติดตัวอยู่แล้วอย่างผมต้องมาเจอความผิดอีกหนึ่งข้อหาให้ตายเถอะว่ะยังไม่ทันได้ง้อก็ทำให้แพทตี้เกลียดผมเพิ่มขึ้นไปอีก
"มีอะไรเหรอคะแอล"
เสียงเอวาคู่ขาคนล่าสุดของผมที่กำลังจะได้เป็นนางเอกใหม่ของช่องผมถามขึ้นมาเมื่อเห็นผมกับแพทตี้ที่เอาแต่จ้องหน้ากันแต่สายตาที่จ้องต่างกันลิบลับผมมองเธอด้วยความรู้สึกผิดแต่เธอมองผมอย่างกับผมเป็นตัวอะไรสักอย่างที่น่าขยะแขยงอย่างงั้นแหละ
"ไม่มีอะไรคุณไปทำงานต่อเถอะเอวา"
ผมบอกเอวาออกไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้มันดูเป็นทางการที่สุด
"โอเคค่ะเดี๋ยวเสร็จงานเอวาโทรหานะคะ"
ให้ตายเถอะจะไปแล้วเอวายังทิ้งระเบิดไว้ให้ผมอีกแล้วผมจะคุยกับแพทตี้ยังไงละทีนี้
"ไปเถอะน้ำอิงอยู่ตรงนี้นานๆพี่ขยะแขยง"
นั่นไง! จากที่ผมแค่คิดว่าน้องมันมองผมด้วยสายตาแบบนั้นตอนนี้ท่าจะจริงวเพราะแพทพูดแบบนี้ออกมาแล้ว
"เดี๋ยวก่อนแพทพี่ขอคุยด้วยหน่อย"
ผมตัดสินใจพูดรั้งเธอไว้เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินไปยังไงๆวันนี้ผมต้องคุยกับเธอให้ได้สักนิดก็ยังดี
"ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ"
ถ้ายอมง่ายๆก็ไม่ใช่แพทตี้หรอกครับแสดงออกว่าเกลียดผมอย่างกับขี้ขนาดนั้น
"พี่จะขอคุยเรื่องงานแปบเดียว"
เรื่องอื่นไม่คุยผมก็เอาเรื่องงานนี่แหละมาอ้าง
"ฉันมีเรียนบ่ายโมงตอนนี้เที่ยงแล้วฉันมีเวลาให้คุณ10นาที"
เอาว่ะสิบนาทีก็เอาดีกว่าไม่ได้คุยอะไรกันเลย
"ได้ๆแค่สิบนาทีก็ได้"
ผมตอบตกลงเธอทันทีที่เธอยอมคุยกับผม
"น้ำอิงไปรอพี่ที่รถก่อนเดี๋ยวพี่ตามไป คุณมีมีอะไรก็ว่ามา"
แพทตี้บอกกับน้องผู้หญิงที่เดินมาด้วยก่อนที่จะหันมาคุยกับผมเอาว่ะไหนๆเธอก็ยอมหยุดคุยกับผมแล้วรุกเลยก็แล้วกันชักช้าเดี๋ยวหนีหน้าผมอีก คิดได้แบบนี้ผมก็คว้าแขนแพทตี้ไว้แล้วดึงเธอเข้ามาในห้องแต่งตัว
"อ๊ะ!! นี่คุณ"
พอดึงแพทตี้เข้ามาในห้องแล้วผมก็จัดกันปิดประตูแล้วล็อคทันที
"คุยกันดีๆได้ไหมนั่งคุยกันก่อนนะ..นะครับ"
ผมนั่งลงที่โซฟาแล้วบอกน้องมันด้วยสายตาที่อ้อนวอนมือก็กระตุกแขนเธอข้างที่ผมจับไว้เชิงบอกให้นั่งลง
"ฉันจะคุยเรื่องงานเท่านั้นถ้าไม่ใช่เรื่องงานฉันไม่คุย"
แพทตี้มองเคืองใส่ผมพร้อมกับสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของผมแต่ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยเธอไปหรอกรุกขนาดนี้แล้วต้องรุกต่อให้สุด
"นี่!! ปล่อยฉันนะคุณเอามือสกปรกออกไปจากตัวฉันเลยนะอย่าเอามือที่พึ่งกอดผู้หญิงเมื่อกี้แล้วมากอดฉันนะ"
ตอนที่น้องกำลังจะสะบัดแขนออกจากผม ๆ ไม่รอช้าผมดึงเธอจนเสียหลักลงมานั่งทับบนตักผมแล้วผมก็จัดการกอดรัดเธอไว้ไม่ให้เธอลุกไปไหนได้แพทตี้ดิ้นยุกๆยิกๆในอ้อมกอดผมแล้วก็บ่นใส่ผมอย่างหงุดหงิดแต่คำพูดของเธอทำให้ผมต้องยกยิ้มขึ้นมาเมื่อได้ยินเธอบอกไม่อยากให้ผมกอดเธอเพราะผมไปกอดผู้หญิงคนอื่นมาก่อนพูดแบบนี้ผมชักอยากเข้าข้างตัวเองแล้วสิว่าแพทตี้หึงผมกับเอวา
"เมื่อกี้ไม่ได้กอด"
"เหอะ!!"
"ไม่ได้กอดจริงๆครับ"
ผมบอกเธอไปว่าเมื่อกี้ผมไม่ได้กอดกับเอวาแต่เธอก็ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อจนผมต้องบอกเธอซ้ำอีกรอบเป็นการยืนยันว่าผมไม่ได้กอดกับเอวาจริงๆ
"กอดไม่กอดก็ช่างคุณเถอะจะมาอธิบายให้ฉันฟังทำไมไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน"
พอผมอธิบายให้ฟังแพทตี้ก็ทำท่าทางแถมยังพูดเหมือนไม่สนใจอะไร
“ก็ไม่อยากให้เข้าใจผิดก็ต้องอธิบายโดยเฉพาะกับหนูพี่ต้องการอธิบายทุกเรื่องขอแค่หนูยอมรับฟังพี่"
ในเมื่อแพทตี้ใจแข็งกับผมผมเลยต้องใช้ลูกอ้อนเข้าใส่ผมพูดกับเธอพลางเชื่อมไปเข้าเรื่องที่ผมอยากพูดอยากบอกเธอมาตลอดแพทตี้พอได้ฟังที่ผมพูดก็นิ่งไปไม่ดิ้นยุกยิกเหมือนตอนแรกเธอนั่งนิ่งๆบนตักผมปล่อยผมกอดเอวบางเธอไวอย่างนั้นหรือว่าเธอพร้อมที่จะรับฟังผมแล้ว
อธิบายทุกเรื่องงั้นเหรอ! อยู่ๆพี่แอลก็พูดประโยคนี้ออกมาอยากอธิบายอะไรของเขากันทุกเรื่องหมายถึงเรื่องในอดีตที่เขาทำกับฉันด้วยงั้นเหรอทำไมต้องอธิบายอะไรอีกในเมื่อทุกอย่างทุกเรื่องราวมันก็ชัดเจนแล้วตั้งแต่วันนั้นแต่ทำไมความรู้สึกลึกๆของฉันยังอยากฟังเขาพูดก็ไม่รู้ไม่ได้นะแพทตี้อย่าใจอ่อนอย่าให้ความรู้สึกมาทลายกับแพงของเธอสิฉันสลัดความคิดนั้นออกไปแล้วเปลี่ยนจากนั่งนิ่งๆบนตักเขาทำเป็นฟึดฟัดแล้วเปลี่ยนเรื่องพูดกับเขา
"ไม่ได้กอดแต่รอยลิปสติกนี้ชัดมากปากอมชมพูซะขนาดนี้"
ฉันเปลี่ยนเรื่องมาพูดเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้กับเขาด้วยท่าทางเอือมๆ
"หึงหรอ ถ้าหึงก็ลบรอยสิ"
สาบานได้ว่าเขาไม่รู้ตัวเลยรึไงว่าที่ฉันพูดเนี้ยฉันพูดกระแหนะกระแหนเพราะความหมั่นไส้ไม่ใช่หึงแถมยังเอาหน้ามาเกยบนไหล่ฉันแล้วยื่นหน้ามาพูดซะใกล้หูฉันขนาดนี้
"มะโนละฉันจะหึงคุณเพื่อไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยแล้วมาบอกให้ฉันลบรอยบ้าบออะไรของคุณไม่เห็นเข้าใจเลยประสาทจริงๆเ"
"ก็ลบแบบนี้ไง"
"อ๊ะ!!!อื้อ"
ฉันยังไม่ทันคิดออกว่าที่พี่แอลพูดหมายความว่าไงเรื่องลบลงลบรอยจู่ๆพี่แอลก็ยื่นหน้าเข้ามาประกบปากฉันแบบไม่ทันตั้งตัวเขาค่อยๆจูบปากบนปากล่างสลับกันไปมาอย่างแผ่วเบาแล้วค่อยๆเพิ่มจังหวะการจูบให้หนักและแรงขึ้น
ปึก ปึก ปึก
"อ่อย อั้น อ่อย (ปล่อยฉันปล่อย)"
ฉันทุบลงไปที่อกแกร่งของเขาหลายครั้งพร้อมกับพูดบอกเขาอย่างอู้อี้ฟังไม่ชัดเพราะเขาไม่ปล่อยให้ปากฉันได้ทำอย่างอื่นเลยจูบเอาจูบเอา
"ทำบ้าอะไรของคุณ อี้ แหวะ"
ฉันโวยวายใส่เขาทันทีที่ปากฉันเป็นอิสระและเอามือขึ้นมาเช็ดๆถูๆปากของตัวเองไปมาอย่างรังเกียจ
"ก็ลบรอยไงไม่มีรอยจูบของคนอื่นแล้วบนปากพี่ตอนนี้มีแต่รอยจูบของหนูคนเดียว"
ทำไมเขาถึงได้เป็นคนแบบนี้กันนะพูดออกมาหน้าตาเฉยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรแต่สิ่งที่เขาทำกับฉันมันมากเกินไปสำหรับคนที่ไม่ได้เป็นอะไรกันแบบนี้
"ปล่อยฉันได้แล้วจะไปเรียนแล้วอย่ามาทำอะไรลุ่มล่ามแบบนี้กับฉันอีก"
"ปล่อยก็ได้แต่ก่อนไปขอ.."
"ขออะไร.."
จุ๊บ
กรี๊ดดดฉันอยากจะบ้าตายเขาถ่ายรูปตอนที่ฉันเผลอให้เขาจุ๊บปากฉันทำไมเขาถึงได้ร้ายกาจแบบนี้
"ถ่ายรูปฉันทำไมลบเดียวนี้เลยนะ"
ฉันดีดตัวลุกขึ้นจากตักเขาที่ตอนนี้เขายอมปล่อยมือออกตัวฉันแล้วฉันยืนท้าวเอวด่าเขาแบบเอาเรื่องทันทีที่เขาทำแบบนั้น
"ไม่ลบถ้าหนูไม่อยากให้รูปนี้หลุดออกไปหนูต้องรับแอดไลน์พี่ แล้วต้อง Follow IG พี่ด้วยเพราะพี่แอดไลน์หนูไปแล้วและก็ Follow IG หนูแล้วด้วยแล้วเวลาคุยกับพี่หนูต้องแทนตัวเองว่าหนูแล้วเรียกแทนตัวพี่ว่าเฮียเข้าใจไหมคะเลิกเรียนแล้วเฮียจะโทรหารับสายด้วยนะคะ"
เขาบอกฉันแถมยังขยิบตาให้ฉันอย่างเจ้าเล่ห์หลังจากที่พูดจบก่อนที่เขาจะเดินออกไปให้ตายเถอะทำไมต้องมาทำอะไรกับฉันแบบนี้ด้วยแล้วนี่ฉันต้องทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการเหรอฉันอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆแต่ทำไม่ได้ทำได้แต่กรี๊ดอยู่ในใจแล้วมองเขาเดินออกจากห้องไปทิ้งฉันให้ยืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่แบบนี้