ธราธรเดินออกมาจากห้องของบิดาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เนื่องจากสิ่งที่บิดาเอ่ยบอกเป็นเรื่องที่สร้างความกลัดกลุ้มให้ตนไม่น้อย และไม่รู้จะหาทางออกได้อย่างไร เขาเดินถอนหายใจไปตลอดทาง
“พี่ธรเป็นอะไร ทำไมถอนหายใจแรงอย่างนั้นคะ” พามิลาเอ่ยถามสามีที่เดินเข้ามาในห้องนอน
“ก็เรื่องเดิมนั่นแหละ” ธราธรตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายใจ
“ทำไมพี่ธรไม่บอกคุณพ่อตรงๆ ล่ะคะว่าพี่ธรเป็นหมัน ไม่บอกท่าน ท่านก็ต้องพูดเรื่องนี้กับพี่ธรอยู่ร่ำไป ถ้าบอก ท่านก็จะได้ไม่ต้องพูดซ้ำพูดซากอีก อีกอย่างท่านจะได้ไม่ต้องรออย่างมีความหวังด้วย” พามิลาที่รู้ปัญหาใหญ่ของธราธรเอ่ยแนะนำ
“พี่ก็อยากบอกนะ แต่กลัวคุณพ่อจะผิดหวังและเสียใจจนล้มป่วยน่ะสิ ที่ไม่มีทายาทสืบสกุล ท่านยิ่งอยากได้หลานมากอยู่ด้วย…เฮ้อ”
ธราธรถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่รู้จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรดี ครั้นจะบอกความจริงว่าเขาเป็นหมันก็ไม่อยากให้บิดาผิดหวัง แต่ถ้าไม่บอกบิดาก็ต้องพูดเรื่องนี้ไปจนกว่าจะได้หลานสมใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัดกลุ้มและปวดหัว หาทางออกไม่ได้
“มันก็จริงนะ คุณพ่อยิ่งไม่ค่อยแข็งแรงอยู่ด้วย” พามิลาในฐานะภรรยาของธราธรก็พลอยกลุ้มไปด้วย แม้ว่าเขาจะเป็นภรรยาเพียงในนามก็ตาม “ถ้าพี่ธรไม่เป็นหมัน เราก็ยังทำกิฟต์ได้”
“เอาน่า พี่เชื่อว่ามันต้องมีทางออก วันนี้อาจจะคิดไม่ออกแต่วันหน้ามันก็ไม่แน่” ธราธรพูดอย่างมีความหวัง แม้ว่าความหวังจะน้อยนิดก็ตาม
“ค่ะพี่ธร แพมก็หวังว่าอย่างนั้นค่ะ” พามิลาให้กำลังใจสามี “ลืมไปเลย เมื่อกี่พี่เอกโทรมา บอกว่าจะไปถึงผับช้าหน่อยค่ะ”
“อืม ขอบใจมากนะแพม ขอบใจสำหรับทุกเรื่อง”
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ธรช่วยแพมไว้ไม่ใช่น้อย มากกว่าที่แพมช่วยพี่ธรเสียอีก แพมต่างหากค่ะที่ต้องขอบคุณพี่ธร”
เธอยังจำทุกเรื่องที่ธราธรช่วยเหลือ เรื่องหนี้สินที่พจนาถพี่ชายไปสร้างไว้ เรื่องค่ารักษาพยาบาลของมารดา รวมทั้งเขายังช่วยชำระหนี้ค่าบ้านที่ติดค้างไว้กับทางธนาคารสามเดือน แถมยังจ่ายส่วนที่เหลือให้ทั้งหมด เท่านั้นยังไม่พอ เขายังส่งเสียพิชญะน้องชายของเธอเข้าเรียนหนังสือในโรงเรียนเอกชนชื่อดัง แม้ว่าพามิลาจะค้านว่า ค่าเล่าเรียนในสถานศึกษาแห่งนี้แพงเกินไป เรียนในสถาบันของรัฐบาลก็ได้ ทว่าธราธรก็ไม่สนคำค้านของเธอ นอกจากนี้ธราธรยังให้เงินเดือนเธออีกเดือนละสามหมื่นบาท ถือว่ามากกว่าเงินเดือนที่ได้รับจากที่ทำงานเสียอีก
ถึงแม้ว่าข้อแลกเปลี่ยนที่ธราธรเอ่ยบอก จะทำให้เธอต้องเลิกกับคนรักที่เพิ่งคบกันเพียงแค่สี่เดือนก็ตาม พามิลาก็ถือว่ามันคุ้ม นอกจากครอบครัวจะได้รับความสุขสบาย มารดาที่ป่วยด้วยโรคหัวใจยังได้รักษาจนหายขาด อีกทั้งการแต่งงานระหว่างเธอกับธราธร เป็นการแต่งงานในนาม แต่งเพื่อให้สราวุฒิ บิดาของธราธรสบายใจที่เห็นลูกชายเป็นฝั่งเป็นฝา ข้อสำคัญแต่งเพื่อปกปิดความจริงเรื่องที่ ธราธรมีรสนิยมชายรักชาย เขามีคนรักชื่อไกรศรหรือเอก งานวิวาห์ครั้งนี้จึงเท่ากับวิน-วินกันทั้งสองฝ่าย
“เราต่างคนต่างช่วยกันก็แล้วกันนะ” เขาพูดสรุป ขยี้ศีรษะพามิลาที่เขารักไม่ต่างกับน้องสาวอย่างเอ็นดู “พี่ไปก่อนนะ วันนี้คงไม่กลับนะแพม”
“ค่ะพี่ธร ขอให้มีความสุขนะคะ”
“จ้า” ธราธรเดินออกไปจากห้องนอนทันทีที่พูดจบ พามิลาจึงหันไปสนใจงานของตนบนหน้าจอโน้ตบุ๊กต่อไป
ธราธรมาถึงผับ ในอีกสี่สิบห้านาทีต่อมา พอมาถึงเขาก็แบกสีหน้าอันบอกถึงความหนักอกหนักใจเข้าไปในผับแห่งนั้น เดินตรงไปยังโต๊ะประจำของเขาและคนรัก ระหว่างที่รอไกรศร เขาก็สั่งเครื่องดื่มมึนเมามาดับความกลุ้มคับอกของตน และขบคิดหาทางออกที่ดูเหมือนว่าเขาจะหามันไม่ได้ ธราธรนั่งดื่ม นั่งฟังเพลงอยู่คนเดียวราวสี่สิบนาที คนรักก็เดินทางมาถึง
“พี่ธรเป็นอะไรครับ หน้าตาเครียดเชียว มีอะไรหนักใจหรือเปล่าครับ” ไกรศรทักธราธรเมื่อเห็นสีหน้าของคนรัก ที่บอกเขาได้ในทันทีว่า ธราธรกำลังทุกข์ใจ
“ก็เรื่องเดิมนั่นแหละ” คำตอบของธราธรทำให้ไกรศรรู้ว่าคือเรื่องอะไร ส่งผลให้เขาทุกข์ใจตามคนรักไปด้วย
“พี่ธรค่อยๆ คิดนะครับ ผมเชื่อว่ามันต้องมีทางออกให้พี่แน่ ผมจะเป็นกำลังใจให้พี่ธรแล้วจะอยู่ข้างพี่ธรเสมอครับ” ไกรศรทำได้แค่เพียงปลอบใจและให้กำลังใจ
ธราธรยิ้มกับคำพูดของคนรักที่เสมือนมีพลังขึ้นมาทันใด ตลอดระยะเวลาห้าปีที่เขาคบหากับไกรศร ที่มีฐานะด้อยกว่าเขามาก แต่ไม่เคยขอเงินเขาเลยสักครั้ง เป็นเขาเองที่หยิบยื่นเงินให้ ทว่าไกรศรมักปฏิเสธเพราะไม่ต้องการให้ธราธรคิดว่า ตนคบหาเป็นคนรักด้วยก็เพราะเงิน อยากให้รับรู้ว่า คบกันด้วยหัวใจมากกว่า ซึ่งเขาก็รับรู้ความรู้สึกนั้นได้ ยามธราธรเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ ไกรศรจะคอยปลุกปลอบให้เขาคลายความรู้สึกเหล่านั้น รวมทั้งวันนี้ด้วย
“ขอบใจมากนะ แค่นี้พี่ก็มีกำลังใจขึ้นเยอะเลย” ธราธรยิ้มได้ พลอยให้คู่สนทนายิ้มตาม
“ผมดีใจที่เห็นพี่ธรยิ้มครับ”
“สงสัยคืนนี้พี่ต้องให้รางวัลเอกที่ทำให้ยิ้มได้ซะแล้ว” ไกรศรยิ้มเขินเมื่อทราบดีว่า รางวัลที่เขาจะมอบให้นั้นคืออะไร “ว่าแต่วันนี้ทำไมถึงมาช้าล่ะ”
“พอดีว่าพี่นาให้ผมไปเอาหนังสือนิยายที่บ้านเพื่อนพี่นาน่ะครับ รถมันติดผมก็เลยโทรมาบอกพี่ธรว่าอาจจะมาช้า แต่แพมรับสายผมเลยฝากข้อความไว้กับแพมครับ”
“นาเก่งนะ อ่านหนังสือได้ไม่มีง่วง ไม่เหมือนพี่ อ่านหนังสือทีไรตาจะปิดทุกที”
“คนว่างงาน ผัวเลี้ยงก็อย่างนี้ล่ะพี่ธร ถ้าไม่ชอปปิงหรือไปเม้าท์มอยกับเพื่อนก็อ่านหนังสือ แต่พี่นาบ้าอ่านมากไปหน่อย ที่เก็บหนังสือจะไม่มีอยู่แล้ว นี่ก็ไปซื้อแท็บเล็ตมาใหม่เพื่อมาโหลดนิยายรูปแบบอีบุ๊กอ่านเพราะไม่เปลืองพื้นที่เก็บครับ”
“แล้วนาอ่านนิยายประเภทไหนล่ะ” ธราธรถาม
“ก็นิยายทั่วไปน่ะครับ พี่นาอ่านได้ทุกแนว รักหวานแหวว รักโรแมนติก รักเศร้าเคล้าน้ำตา รักตบจูบ ยิ่งประเภทสลับตัวแต่งงาน หรือว่าจับตัวมาแก้แค้นผิดคนล่ะก็ ยิ่งชอบหนักเข้าไปใหญ่ เห็นว่าตอนนี้กำลังกรี๊ดพระเอกเรื่องนึงอยู่ ประมาณว่านางเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับน้องชายฝาแฝดของพระเอก น้องชายมีแฟนอยู่แล้วก็เลยขอให้พระเอกสลับตัวแต่งงาน อ้างนู่นนี่นั่นสารพัดจนพระเอกใจอ่อน ยอมแต่งงานกับนางเอก ผมเห็นพี่นาอ่านไปยิ้มไปตลอดเลย สงสัยคงจะอินหนัก”
ไกรศรร่ายยาวเรื่องของพี่สาวที่ติดนิยายรักงอมแงม บางเล่มก็อ่านไปยิ้มไป ทำท่าเขินก็มี เขาเห็นแล้วบางครั้งก็อดที่จะขำไม่ได้ แต่ก็เข้าใจว่ามันเป็นความสุขสำหรับคนอ่านหนังสือ
ธราธรที่ได้ฟังคนรักคุย มีสีหน้าและแววตาสดใสขึ้นฉับพลัน การพูดถึงพี่สาวของไกรศรในครั้งนี้ เสมือนจุดประกายบางอย่างให้เจิดจรัสในสมองของธราธร เป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่เขาอยากจะค้นพบเต็มประดา ธราธรเริ่มมองเห็นแสงนั้นรำไร