แผนทำลูก 1.3

1267 Words
เสียงของพามิลาเหนื่อยอ่อน เธอรู้สึกอ่อนล้าในจิตใจ ไม่อยากคิดอะไรทั้งสิ้น เงินเดือนที่ได้รับจากธราธรเดือนละสามหมื่นบาท เธอก็ให้บิดามารดาไว้ใช้จ่ายภายในบ้าน ส่วนตัวเธอก็ใช้เงินเดือนจากงานประจำที่ทำอยู่ไว้ใช้ส่วนตัว เงินเก็บที่มีอยู่หนึ่งแสนกว่าบาทก็เพิ่งนำไปดาวน์รถกระบะให้พจนาถพี่ชายไว้ทำมาหากิน ซึ่งพี่ชายก็คงไม่มีเงินมาช่วยเหลือเรื่องนี้ พามิลาจึงกลัดกลุ้มไม่น้อย “ผ่อนได้ไหมคะ แพมจะผ่อนให้เดือนละหนึ่งหมื่นบาท ถือว่าช่วยๆ กัน” “ไม่ได้ ฉันจะเอาเงินก้อน” ฉันทนาปฏิเสธเสียงแข็ง “ก็ถือว่าช่วยๆ กันไง เดือนละหมื่นสิบเดือนก็แสนนึงพอดี แล้วมันก็เป็นค่าใช่จ่ายได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ ไม่เห็นต้องเรื่องมากเลย” สมสมรที่ไม่ชอบหน้าครอบครัวของศันสนีย์พูดเสริม นึกไม่ชอบใจความเรื่องมากของฝ่ายหญิง เพราะถ้าหากรับข้อเสนอเดือนละหนึ่งหมื่นบาทก็หมดเรื่อง เพราะอย่างไรเสียก็ได้ครบตามที่ร้องขอ  “คุณนี่พูดง่ายจังนะ ลองมาโดนอย่างฉันบ้างสิแล้วจะรู้สึก ลูกชายของตัวเองทำเรื่องเลวระยำกับลูกสาวของฉันแล้วยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่สนใจว่าทางครอบครัวของฉันจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ใช่สิ ลูกของคุณไม่เสียหายอะไรนี่ ทำเรื่องชั่วก็ยังลอยหน้าลอยตาอย่างคนไร้สำนึกได้ ผู้ชายแบบนี้เป็นพ่อคนไม่ได้หรอก เป็นได้อย่างเดียวคือแมงดา” ฉันทนาตอกกลับจนครอบครัวของพามิลาถึงกับอึ้ง “พูดอย่างนี้ก็ไม่ถูก มาว่าลูกของฉันฝ่ายเดียวได้ยังไง ถ้าลูกสาวของคุณไม่ใจง่ายนอนแบให้ลูกชายของฉัน เรื่องนี้มันก็ไม่เกิดขึ้น ลูกสาวของคุณใจง่ายเอง ช่วยไม่ได้ ตบมือข้างเดียวไม่ดังนะ” สมสมรไม่ยอมแพ้ สวนกลับอีกฝ่ายด้วยวาจาเผ็ดร้อน ธาดาได้ยินคำพูดของภรรยาแล้วรีบมากระตุกแขนคล้ายกับจะเตือน “ถ้าคุณพูดอย่างนี้ เห็นทีเราคงไม่มีอะไรจะพูดกัน” แม่ฝ่ายหญิงเอ่ยเสียงเรียบ หน้าตาบึ้งตึง “ไปคุยกันที่โรงพักก็แล้วกัน ถ้ายังคุยกันไม่รู้เรื่องก็ไปคุยกันที่ศาล ไปคุณ ไปแจ้งความกับตำรวจให้มาจับคนดีในบ้านหลังนี้ไปเข้าคุกเสียให้เข็ด” พูดจบ ฉันทนาที่มาพร้อมกับครอบครัวก็หมุนตัวเดินไปยังประตูรั้วบ้าน พามิลาเห็นความแข็งของฝ่ายหญิงก็รีบเดินตามไป “เดี๋ยวค่ะน้า” พูดพลางเดินมาดักหน้า “ขอเวลาแพมสักสองวันนะคะ แพมจะหาเงินมาให้น้าค่ะ”  พามิลาเห็นท่าทีของฉันทนาแล้วรู้ทันทีว่า เรื่องมันจะไม่จบง่ายๆ หากอีกฝ่ายไม่ได้ตามที่ต้องการ แล้วถ้าหากไม่ได้ พิชญะก็จะต้องถูกดำเนินคดีข้อหาพรากผู้เยาว์ถึงแม้ว่าฝ่ายหญิงจะสมยอมก็ตามที เธอจำเป็นต้องรับผิดชอบแทนน้องชายที่ผิดเต็มประตู “ได้ ฉันให้เวลาสองวัน ถ้าไม่ได้ตามที่ฉันขอ ก็เชิญไปคุยกันที่โรงพัก”  “ค่ะน้า ขอบคุณมากนะคะ” พามิลากล่าวขอบคุณคนที่พูดจบก็เดินออกไปจากรั้วบ้านพร้อมครอบครัวทันที “แกไปพูดอย่างนั้นกับเขาได้ยังไง แทนที่จะด่าว่าไอ้พิชที่ไปทำลูกสาวของเขาท้อง กลับพูดจาอย่างกับว่าไอ้พิชมันถูก แกหัวหงอกแล้วนะหมอน คิดก่อนพูดสิวะ” ธาดาต่อว่าสมสมรทันที “ฉันก็รู้ว่าพิชมันผิด แต่ฉันหมั่นไส้ท่าทางของมันนี่นาก็เลยสวนไปแบบนั้น” สมสมรเถียงหน้าเจื่อนๆ “ดีนะที่มันไม่บอกให้พิชแต่งงานกับลูกสาวของมัน ไม่อย่างนั้นฉันคงต้องพะอืดพะอมแน่ๆ” “ถึงให้ผมแต่ง ผมก็ไม่แต่งหรอก ผมเบื่อจีอยู่พอดี ตั้งใจจะทิ้งอยู่แล้วแต่ดันมาเกิดเรื่องซะก่อน” ต้นเหตุของเรื่องยักไหล่และทำหน้าทำตาประกอบคำพูด  ท่าทางไม่ใส่ใจ ไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องที่ตนเป็นผู้ก่อ “ไอ้พิช ไอ้ลูกชั่ว มึงหุบปากไปเลยก่อนที่จะเสวยบาทากูอีกสักยก ยิ่งมึงพูดกูยิ่งเดือด แทนที่จะสำนึกผิดกลับมาพูดจาอย่างนี้ สมแล้วล่ะที่แม่ของผู้หญิงไม่อยากให้ลูกเขาเกี่ยวข้องกับมึงอีกต่อไป เขาคงรู้สันดานเลวๆของมึงจากลูกสาวเขา” “โธ่พ่อก็ จะด่าจะว่าอะไรผมนักหนาเนี่ย ผมเป็นลูกพ่อนะ” พิชญะพูดเสียงหงุดหงิด “ไปดีกว่า อยู่บ้านแล้วเซ็ง” คนเซ็งเดินลิ่วออกไปจากบ้านทันที ไม่สนใจเสียงของบิดาที่ก่นด่าคำหยาบไล่หลัง “ไม่เอาน่าพี่ เรื่องมันก็กำลังจบแล้ว อย่าไปด่าไปว่าพิชเลย แค่นี้ลูกก็เสียใจจะแย่แล้วนะ” สมสมรที่รักลูกในทางที่ผิดรีบห้ามสามี “เสียใจกะผีอะไรล่ะ หน้าตามันไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกตามที่แกพูดเลย” “พอเถอะค่ะ อย่าเถียง อย่าทะเลาะกันเลย เรื่องนี้เดี๋ยวแพมจัดการเองค่ะ” พามิลาสงบศึกบิดามารดา เพราะไม่ต้องการให้ครอบครัวร้อนรุ่มไปกว่านี้ แม้ใจจะเห็นด้วยกับผู้เป็นบิดาก็ตาม “เรื่องนี้แกก็ต้องจัดการอยู่แล้ว มีผัวรวยซะอย่างสบายไปร้อยแปด” “แกนี่มันเหลือเกินจริงๆนะหมอน ฉันไม่รู้จะพูดว่าแกยังไงดี” “พี่ก็ไม่ต้องพูดสิ พูดทำไมให้เหนื่อยถ้ารู้ว่าฉันไม่ฟัง” สมสมรสวนกลับสามี “ฉันไปเล่นไพ่ดีกว่า” “นังหมอน แกกลับมานี่เลยนะ นังหมอน” ธาดาเรียกภรรยาเสียงขรมแต่นางไม่มีทีท่าว่าจะหันมาฟังแต่กลับเดินออกจากบ้านตามลูกชายคนเล็กไปอีกคน “พอเถอะค่ะพ่อ แม่คงไม่กลับมาให้พ่อว่าหรอก พ่อจะเหนื่อยเปล่าๆ” พามิลาห้ามด้วยความหวังดี “พ่อขอโทษนะแพมที่ทำให้แพมเดือดร้อน” คนเป็นพ่อพูดจากใจจริง “ไม่เป็นไรค่ะพ่อ พิชก็เป็นน้องของแพม ถ้าแพมไม่ช่วยน้องแล้วจะไปช่วยใครล่ะคะ” พามิลากล้ำกลืนฝืนทน ฝืนยิ้มให้บิดาทั้งที่ในใจเป็นทุกข์ ทั้งบ้านมีแต่พ่อเท่านั้นที่เข้าใจเธอ “แล้วแพมจะไปขอเงินคุณธรจริงๆ เหรอ” “แพมคงต้องขอยืมเงินคุณธรค่ะ แล้วผ่อนให้คุณธรเป็นรายเดือน แพมไม่กล้าขอฟรีๆ เกรงใจเขาน่ะค่ะ” พามิลาไม่ต้องการขอเงินธราธรฟรีๆ เพราะที่ผ่านมาเขาก็ให้ครอบครัวของเธอมากเกินพอแล้ว “หักจากเงินที่ให้พ่อกับแม่ทุกเดือนก็ได้นะ แพมจะได้ไม่ต้องแบกภาระไว้คนเดียว” “ไม่เป็นไรค่ะพ่อ แพมยังไหว” เธอฝืนพูด ฝืนยิ้มอีกครั้ง “แพมกลับก่อนนะคะพ่อ สวัสดีค่ะ” พามิลาไหว้ลาบิดา ก่อนจะก้าวเดินออกไปจากบ้านที่อยู่มานานหลายปี  หญิงสาวไม่คิดเลยว่า การกลับมาเยี่ยมบุพการีในครั้งนี้ จะพกพาความหนักอึ้งในหัวใจกลับไปด้วย    
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD