EP.3 Future husband

1476 Words
EP.3 Future husband ขนมบัวลอยถูกเสิร์ฟบนโต๊ะอาหารทั้งสามถ้วย แม่ของฉันเองก็เดินเข้ามารอฟังคำตอบเช่นเดียวกัน... และนี่คือข้อตกลงระหว่างน้าแหม่มและสามีของเธอกับคุณปู่ของฉัน ก่อนที่คุณปู่จะเสียชีวิตไปด้วยโรคชราภาพ... และแน่นอนว่า อะไรที่เป็นคำสั่งเสียของคุณปู่ พ่อกับแม่จึงยินยอมให้ฉันหมั้นหมายกับทางครอบครัวของจีซัสเอาไว้ เราจัดพิธีหมั้นกันตั้งแต่วัยเด็ก ในตอนนั้นฉันอายุเพียงสิบขวบ ส่วนเขาก็สิบห้า และปู่ได้สั่งเอาไว้ว่าเราควรจะจัดงานแต่งขึ้นก่อนที่ตัวจีซัสจะอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์ เพื่อนำดวงชะตาของฉันที่แข็งแกร่งไปค้ำจุนกับดวงชะตาที่ถึงฆาตของจีซัส ในฐานะภรรยา ซึ่งงานแต่งจะถูกจัดขึ้นตามฤกษ์ที่เร็วที่สุด และเมื่อเขาพ้นจากภยันอันตรายแล้วจริง ๆ เราสองคนถึงจะสามารถหย่าขาดกันได้ "งั้นเดี๋ยวหนูขอไปสวดมนต์และก็ลาเจ้าที่เจ้าทางก่อนที่บ้านก่อนนะคะ" ฉันพยักหน้าอย่างยิ้ม ๆ และมองหน้าของน้าแหม่มกับแม่สลับไป ก่อนจะเดินขึ้นไปที่ห้องพระ และเริ่มสวดมนต์ตามกิจวัตรประจำวันของฉัน... ซึ่งแน่นอนว่า ทางบ้านของฉันยินดีอย่างยิ่งที่จะช่วยเหลือครอบครัวของเขาอย่างเต็มที่และฉันก็เต็มใจเช่นกัน ฉันมองที่รูปของคุณปู่ที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ "หนูเชื่อคำพูดของปู่นะคะ" ฉันพูดขึ้นเบา ๆ ก่อนจะยกมือไหว้ท่านอีกครั้ง... "ปู่เคยบอกหนูว่า ปู่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับหนูเสมอ" ฉันก้มลงกราบลารูปของปู่อย่างคิดถึงท่านเหลือเกิน เรื่องงานแต่ง เรื่องการสมรสฉันกับเขาต่างก็รับรู้กันมานานตั้งแต่วัยเด็ก ยังไงซะไม่ช้าก็เร็วมันก็ต้องเกิดขึ้น ฉันจึงรู้สึกปกติไม่ได้ตระหนกตกใจใด ๆ เมื่อมันมาถึง และนี่แหละคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวสุดพิศวงของฉันกับ...เขา @บ้านจีซัส หลังจากที่ฉันเดินทางมาถึงบ้านหลังใหญ่ของนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย ที่ในบ้านเต็มไปด้วยโล่รางวัลจากหนังสือต่าง ๆ ที่ยกย่องในเรื่องบริษัทของตระกูลจีซัส บ้านของจีซัสมีธุรกิจเยอะ แต่เน้นไปทางการนำเข้าและส่งออกระหว่างไทยกับรัสเซีย รวมไปถึงประเทศยุโรปอื่น ๆ ด้วย "คุณนายแหม่มสวัสดีค่ะ" เสียงของเหล่าแม่บ้านที่เดินเข้ามาต้อนรับเรา "เอากระเป๋าขึ้นไปจัดให้คุณต้องมนต์สิ" น้าแหม่มเอ่ยบอกกับแม่บ้านทันที "มัมเตรียมห้องไว้แล้วนะลูก เดี๋ยวต้องมนต์ขึ้นพักก่อนนะ" น้าแหม่มแตะที่ไหล่ของฉันเบา ๆ "คิดซะว่าเป็นบ้านของหนูนะลูก" เธอพูดย้ำอย่างยิ้มแย้ม "คงคิดไม่ได้หรอกค่ะ หลังใหญ่กว่าบ้านหนูตั้งเยอะ" ฉันส่ายหน้าและยิ้มรับเธอไป "ตอนนี้หนูก็เป็นเจ้าของบ้านนี้แล้วเช่นกันจ๊ะ" น้าแหม่มยังคงใจดีไม่มีเปลี่ยนจริง ๆ "ไป ๆ พักก่อนลูก เดี๋ยวตอนเย็นมัมให้คนไปตามมาทานข้าวเย็นร่วมกัน" เธอพูดด้วยความดีอกดีใจ ซึ่งพอฉันเห็นรอยยิ้มของเธอ ฉันก็อดจะดีใจไม่ได้ที่ฉันเป็นสาเหตุทำให้น้าแหม่มยิ้มได้ "เชิญทางนี้ค่ะ ว่าที่คุณนาย" แม่บ้านเองก็ยังเอ่ยแซวฉันไปด้วย ไม่นานฉันก็เริ่มจัดแจงข้าวของต่าง ๆ ในห้องร่วมถึงสิ่งแรกที่ทำก็คือไหว้ขออนุญาตต่อเจ้าที่เจ้าทาง "ก่อนแต่งอยู่ห้องนี้ไปก่อนนะคะ เดี๋ยวหลังแต่งป้ามาช่วยย้ายอีกที" ป้าแม่บ้านช่วยฉันจัดผ้าห่มและเตรียมผ้าเช็ดตัวสำหรับอาบน้ำไว้ให้ "ขอบคุณนะคะ แต่เรื่องแค่นี้ต้องมนต์ทำได้คะ ป้าไปพักเถอะ" ฉันนวดต้นแขนของคุณป้าอย่างเกรงใจแกเบา ๆ "ป้าไม่เหนื่อยหรอกค่ะ ป้านะแข็งแรงค่ะคุณ..." ป้าตอบอย่างเสียงสูงและจับมือของฉันอย่างเอ็นดูฉันไม่น้อยทั้งที่เราเพิ่งเจอกัน ทันทีป้าสัมผัสเข้าที่มือของฉัน...ฉันก็เย็นวูบเข้ามาที่มือและหลับตาลงทันที... "เงิน กับตัวเลข" ฉันพูดขึ้นอย่างมองเห็นได้... "อะไรนะคะ" ป้าแกงุนงงเล็กน้อย... "64 ไม่ต้องกลับนะคะ" ฉันกระซิบกับป้าไปเบา ๆ ป้าแกนิ่งไปชั่วขณะ นิ่งฉันคิดว่าเธอคงไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูดแน่ ๆ หรืออาจจะหาว่าฉันบ้า "ขออีกครั้งสิ ว่าที่คุณนายพูดเลขอะไรนะ" ป้าแกหยิบโทรศัพท์ของแกขึ้นมาทันที "หกกับสี่ค่ะ" ฉันย้ำอีกครั้งและยิ้มอย่างมั่นใจ ป้าแกก็กดจดลงโทรศัพท์ทันที "ป้าขี้ลืมนะ เมื่อคืนก็ฝันเลขนี้เลยแต่ลืม" ป้าแกยิ้ม ๆ ก่อนจะยกนิ้วโป้งให้ฉัน "ว่าแต่...ว่าที่คุณนายรู้ได้ไง ? ทำนายฝันป้าได้แม่นมาก ๆ" ป้าแกก็รีบถามอย่างสงสัย แต่แล้วป้าแกก็ตาโตขึ้นมาและมองมาทางฉัน...แต่ฉันไม่เปิดโอกาสให้แกได้ถาม ฉันก็ตัดบทด้วย... "ถ้าถูกแล้วอย่าลืมแบ่งทำบุญด้วยนะคะ" ฉันยิ้มไปแต่เลี่ยง ๆ ที่จะตอบ ก่อนจะเดินกลับไปจัดข้าวของต่อ ซึ่งแน่นนอนว่าเธอก็ไม่กล้าจะถามอะไรต่ออีก... "งั้นป้าไม่กวนละจ๊ะ แค่ให้เลขป้าก็ดีใจสุดแล้ว" ป้าแม่บ้านก็เดินออกไปจากห้องก่อนจะปิดประตูให้ฉันได้อยู่ตามลำพัง... "ยินดีค่ะ" ฉันพูดอย่างอารมณ์ดี "เสร็จซะที" ฉันถอนหายใจเมื่อจัดเสื้อผ้า และวางของใช้ส่วนตัวไว้อย่างเป็นระเบียบ อยู่บ้านคนอื่นจะมาโชว์ความขี้เกียจมากไปก็คงไม่ได้ ก๊อก ๆ ๆ ไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น คงจะเป็นป้าแม่บ้านมาตามฉันลงไปกินข้าวแน่ ๆ ก๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ แอ๊ดด... ฉันรีบเดินเปิดประตูทันเมื่อเสียงเคาะเริ่มหนักและดังขึ้น "มาแล้วค่ะ" ฉันพูดทันทีที่บิดลูกบิดประตูและค่อย ๆ เปิดออกไป "ไม่เจอกันนานเลยนะ มายฟิอานเซ (Fiancee)" เสียงสำเนียงอังกฤษนั้นดังขึ้น ก่อนที่ฉันจะเห็นหน้าของเขา...คู่หมั้น ? งั้นหรอ... "จีซัส ?" ฉันแง้มประตูออกเพียงครั้งเดียวเท่านั้นและตั้งท่าจะปิดแต่... ฟุ๊บบบ เขาก็ผลักประตูเปิดออกจนสุดบาน "Hi ยัยตอ มอ ตอ" ไอ้ฝรั่งหน้ากวนนั่นเริ่มทักทายฉันด้วยใบหน้ายียวน เหมือนกับสมัยเด็ก ๆ ไม่มีผิด "อะไร ?" ฉันพยายามจะผลักประตูปิด แต่อีกคนก็ดันจะเปิด "เฮ้ยย ฉันคิดได้ว่ะเนี่ย ตอ มอ ตอ...ภาษาไทยฉันแข็งแรงมากเลยอ่ะ" เขาพูดอย่างภาคภูมิใจกับการเรียกชื่อฉันแบบย่อ ๆ "ฉันชื่อต้องมนต์ตรา เรียกให้ถูกด้วยค่ะ" ฉันเอ่ยตอบไปเสียงแข็ง ๆ จีซัสกอดอกและเอียงคอมองฉันเล็กน้อย "ตอนเด็กเธอขี้เหร่มากเลยอ่ะ" "ไม่น่าเชื่อโตมาจะสวย" เขาพูดเหมือนกับกำลังหลอกด่าวัยเด็กของฉันว่าฉันขี้เหร่เนี่ยนะ ? ในขณะที่ฉันกำลังจ้องหน้าเขาอย่างงุนงง จีซัสก็คลายมือที่กอดอกลง และเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับอ้าแขนและ... "ทำไรอ่ะ ?" ฉันนิ่งไปทันทีที่ถูกเขากอด... ใช่...กอด... เขากำลังกอดฉันและมันแน่นขึ้นเรื่อย ๆ... "ว้าว...อย่างอื่นก็โตขึ้นและตูม ๆ ดีนะ" เขากระซิบที่ข้างใบหูของฉัน และสมองที่เชื่องช้าของฉันก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า ฟุ๊บบบ "กรี๊ดดด ไอ้บ้า" ฉันผลักเขาออกอย่างสุดแรงและชี้หน้าเตรียมจะด่า... "ทุเรศ!!" ฉันยกมือปิดหน้าอกของตัวเองจากคนหื่นกามอย่างไอ้บ้าจีซัสทันที "มัมให้ตามเธอลงไปดินเนอร์" จีซัสแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์และพูดขึ้น "รู้แล้ว ไปให้พ้น ๆ ไป" ฉันผลักแขกไม่ได้รับเชิญออกไปจากห้อง และปิดประตูใส่หน้าของเขาทันที "รีบตามนะ ถ้าช้าฉันจะมาตามอีกรอบ" เขาพูดผ่านประตูห้องเข้ามาด้วยเสียงที่ขู่แบบแกล้ง ๆ "ชิ ไอ้...วิตถาร" ฉันหมดคำจะด่าคนอย่างเขาแล้วจริง ๆ "พูดกับว่าที่สามีดี ๆ หน่อยสิ" เขาพูดอย่างยียวนและกวน... "แค่ในนาม!" ฉันทวนไปอย่างหัวเสีย "ก็อย่าหลงรักจริงแล้วกัน...ไม่งั้นเธอจะเสียใจ" ก๊อก ๆ ๆ "ได้ยินชัดนะ ยัยแม่มด"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD